

EVENT
WONDERFRUIT งานไลฟ์สไตล์สุดเจ๋ง ที่ต้องสัมผัสเอง ถึงจะรู้ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่จะไปลอง
By: unlockmen December 25, 2017 86652
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่มาเป็นอีกครั้งที่ทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสเดินทางไปร่วมงานเฉลิมฉลอง ศิลปะ ดนตรี อาหาร และความคิดสร้างสรรค์ อย่าง “WONDERFRUIT” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ปี 2014 โดยภายในงานเราก็จะได้พบกับกิจกรรมมากมายที่จุดประกายการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นกับตัวเรา อาทิ ศิลปะจากหลายหลากแขนงที่ทีมงานรวบรวมมาในรูปแบบโครงสร้างดีไซน์อินสตอลเลชั่น จนนำไปสู่อารมณ์ร่วมให้เกิดเป็นแฟชั่นการแต่งกายที่แปลกใหม่ภายในงาน
สำหรับความรื่นเริ่งในส่วนของการแสดงดนตรีก็เต็มไปด้วยศิลปินเจ๋ง ๆ ถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งคุณจะไม่สามารถหารับฟังได้ง่าย ๆ จากที่ไหนอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีความสนุกจากกิจกรรมครอบครัวมากมายที่ Camp Wonder ให้เด็กได้ร่วมสนุกสนาน ดังนั้นงาน Wonderfruit จึงเป็นงานที่เหมาะจะมาทั้งครอบครัว และเพื่อนฝูงในคราวเดียวกัน
ซึ่งงานในครั้งนี้ เป็นอีกครั้งที่เรารู้สึกประทับใจ และขอปักหมุดว่าถ้าไม่ติดขัดอะไร จะต้องเดินทางไปร่วมงานให้ได้ทุกปี เพราะคิดว่าเนี่ยหละคืองานเฟสติวัลแห่งเดียวในประเทศไทยอย่างแท้จริง โดยความสนุกเพลิดเพลินภายในงานยังคงมีอีกเพียบ ถ้าจะให้เล่าบรรยายสำหรับคนที่ไม่ได้ไปสัมผัสจริง อาจจะยังคงไม่เห็นภาพ และคิดว่าทำไมฉันจะต้องเชื่อและหลวมตัวไปด้วยละ? ราคาบัตรก็แพงกว่างานเทศกาลเฟสติวัลอื่น
ซึ่งเราก็ไม่ขอปฎิเสธว่าราคาบัตรเข้างานนั้นมีราคาสูงจริง แต่ถ้าเกิดเราลองดูในรายละเอียดจะรู้ว่ามันคุ้มค่าอยากมาก หากคุณต้องการจะหาแรงบันดาลใจใหม่จากศิลปะแขนง ต่าง ๆ ที่หารับชมได้ยาก ดังนั้นเพื่อประกอบการตัดสินถึงความคุ้มค่าว่าแท้จริงแล้วราคาค่าบัตร WONDERFRUIT แพงอย่างที่ทุกคนคิดหรือเปล่า ทีมงาน UNLOCKMEN จะลองมาตีแพร่ในแง่ของกิจกรรม workshop ภายในงานตลอด 4 วันว่า หากคุณไปร่วมทำกิจกรรมเหล่านี้ที่อื่นนอกงาน WONDERFRUIT จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
Clay Workshop (ราคาต่อคอร์สปกติ 3,xxx บาท)
เวิร์คช็อปสอนทำเครื่องปั้นด้วยเทคนิคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Screen-printing on clay, hand-building และ hand-throwing โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องมีพื้นฐานก็สามารถเข้าร่วมคลาสได้ เพราะจะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด พร้อมเปิดสอนตลอดทั้ง 3 วันตลอดงาน WONDERFRUIT
Indigo Mantra ( ราคาต่อคอรส์ปกติ 1,xxx – 3,xxx บาท )
เวิร์คช็อปย้อมครามจากธรรมชาติด้วยเทคนิคชิโบริ ซึ่งได้ทีมจาก Simply Organics มาช่วยคุณนำผ้าย้อมครามมาทำธงมนตราตามความเชื่อชาวพุทธวัชรยานแบบทิเบต เพื่อเสริมสิริมงคลและเป็นการอวยพรให้สุขภาพดี โดยเทคนิคเหล่านี้เป็นกรรมวิธีเก่าแก่ที่มีมากว่า 100 ปี
Floral Accessories ( ราคาต่อคอรส์ปกติ 2,xxx บาท )
สำหรับคนชอบ DIY ของสวย ๆ งาม ๆ จากดอกไม้ ก็ยังมีเป็นกิจกรมสอนทำเครื่องประดับต่าง ๆ จากดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็น Floral Crown (มงกุฎดอกไม้) และ Floral Box (ช่อบูเก้ในกล่องไม้) และอีกมากมาย ซึ่งหนุ่ม ๆ จะทำให้ตัวเองหรือจะนำกลับไปฝากคนพิเศษก็ยังได้
Calligraphy (ราคาต่อคอร์สปกติ 2,xxx บาท)
กิจกรรมการเขียนอักษรประดิษฐ์ หรือ Calligraphy ด้วยการทดลองใช้หัวปากกาประเภทต่าง ๆ เพื่อสร้างงานศิลปะตัวหนังสือของคุณเอง ไม่ว่าจะเป็นข้อความสร้างแรงบันดาลใจ โลโก้ประจำตัวคุณ หรือจะทำเป็นการ์ด พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ และช่วยเหลือคุณในทุกขั้นตอน
Wild Animal Mask Making (ราคาต่อคอร์สปกติ 1,xxx บาท)
เวิร์คช็อปฝึกทำศิลปะเพ้นท์หน้ากาก ซึ่งเราจะได้ตกแต่งหน้ากาด้วยสีสันสวยงาม ตามความต้องการของเราผ่านรูปลักษณ์สัตว์ประเภทต่าง ๆ โดยหลังจากเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้อีกหนึ่งไอเท็มเจ๋ง ๆ ไปใส่โชว์ในงานอย่างไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน
Leather Accessories (ราคาต่อคอร์สปกติ 1,xxx – 5,xxx บาท)
กิจกรรมทำเครื่องประดับจากหนังเส้นห้อยลูกปัดระย้าในสไตล์โบโฮ โดยคุณจะได้ลองสร้างสรรค์งานฝีมือด้วยตนเองทั้งสายคล้องแว่นตา สร้อยคอ เครื่องประดับศีรษะ ไปจนถึงดรีมแคทเชอร์ จากทีมงาน R Studio ที่โด่งดังในเรื่องการทำแฮนด์แมนด์
Crossword Smithy (ราคาต่อคอร์สปกติ xxx บาท)
“โครงการศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยและความร่วมมือ: บ้านนอก” ที่จะให้ทุกคนได้ร่วมกันทำเวิร์คช็อปแนว DIWO (Do It With Others) กับการตีเหล็กเป็นตัวอักษรคนละตัว จากนั้นก็นำตัวอักษรเหล็กที่ได้มาประกอบเป็นคำในเกมครอสเวิร์ด แล้วมาดูกันว่าสุดท้ายจะเรียงอักษรออกมาได้เป็นคำว่าอะไรบ้าง
Mini Cactus Garden (ราคาต่อคอร์สปกติ 1,xxx บาท)
กิจกรรมที่คุณจะได้สร้างโอเอซิสเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ด้วยการเลือกชนิดของต้นกระบอกเพชร และสีสันของกรวดหินดินทรายได้ตามความชอบ แล้วนำมาจัดเป็นสวนในดีไซน์ตามใจฉัน พร้อมรับคำแนะนำเรื่องการดูแลรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ
Learn to DJ (ราคาต่อคอร์สปกติ 3,xxx + บาท)
เวิร์คช็อปกิจกรรมเล็ก ๆ ที่จะสอนให้คุณรู้จักกับเครื่องเล่น CDJ พร้อมวิธีการเล่นให้สำหรับมือใหม่ ที่ต้องการจะเรียนรู้การเปิดเพลง และมิกซ์เพลงเข้าหากัน เพื่อไปสานต่อการเป็น DJ มืออาชีพในภายภาคหน้า
Music Production (ราคาต่อคอร์สปกติ 5,xxx + บาท)
มินิคอร์สสั้น ๆ สำหรับคนที่อยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับดนตรี เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดสำหรับการประพันธ์ หรือเรียบเรียงบทเพลงในอนาคต ซึ่งอาจจะไม่ได้เจาะลึกถึงขนาดเมื่อฟังจบ workshop แล้วสามารถเล่นดนตรีได้เลย แต่อาจจะเป็นเรื่องของแรงบันดาลใจ และการนำไปประยุกต์ต่อยอดเสียมากกว่า
Visual Story Telling (ราคาต่อคอร์สปกติ 6,xxx + บาท)
กิจกรรมเวิร์คช็อปเพื่อเรียนรู้ และทำความเข้าใจวิธีการสร้างเรื่องราวผ่านภาพงานโครงสร้างและอินสตอลเลชันต่าง ๆ ที่อยู่รอบงาน เพื่อให้คุณเข้าใจไอเดีย และเห็นภาพรวมของงานดีไซน์ทั้งหมดในวันเดอร์ฟรุ๊ต ผู้ร่วมเวิร์คช็อปจะได้รับคำแนะนำต่าง ๆ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน
Bottle Board (ราคาต่อคอร์สปกติ xxx บาท)
กิจกกรรมที่จะชวนคุณมาสร้างกระดานแพดเดิลบอร์ดจากขยะขวดพลาสติกสำหรับใช้เล่นที่บึงภายในงาน WONDERFRUIT ซึ่งจะเป็นการนำขวดมาอัดลมเข้าไปแล้วนำมาต่อกันเพื่อสร้างโครงของกระดานขึ้นมาก่อน จากนั้นก็เก็บรายละเอียดและขัดกระดาษทราย ส่วนในวันเสาร์เราก็จะมาช่วยกันประกอบชิ้นส่วนทั้งหมดเข้าด้วยกัน และนำเสื่อโยคะมาประกบก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย และในวันอาทิตย์ก็ได้เวลานำกระดานแพดเดิลบอร์ดที่ช่วยกันสร้างจากขยะมาเล่นด้วยกัน
Yoga (ราคาต่อคลาสปกติ 5xx + บาท)
นอกเหนือจากคลาสกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงาน WONDERFRUIT ยังมีโซนสำหรับฝึกโยคะ เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดี ซึ่งแบ่งเป็นคลาสต่าง ๆ ตามระดับความยากของแต่ละขั้นโดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะฝึกรวมกับคนอื่นที่ไม่ต้องเสียค่าจ่ายใด ๆ หรือจะอยากเปิดคลาสส่วนตัวแต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของตัวเราเอง
Wave of Plastic (ราคาต่อคอร์สปกติ xxx บาท)
ร่วมสร้างสรรค์ศิลปะอินสตอลเลชันเกลียวคลื่นขยะพลาสติกกับทีม Protect Blue และ Starboard มาช่วยกันติดขวดพลาสติกกับโครงสร้างไม้ไผ่และลวด เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถ่ายรูปคู่กับผลงานที่ร่วมกันสร้างขึ้นมาได้เลย นอกจากนี้คุณยังจะได้การแชร์ไอเดียเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วยกันในเวิร์คช้อปนี้
ทั้งหมดนี้ก็เป็นราคาต่อคอร์สที่เราได้ไปสำรวจมา อาจจะไม่ตรงเป๊ะ ๆ เพราะขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่จัดว่าจะคิดราคาค่าใช้จ่ายอย่างไร ซึ่งถ้าชาว UNLOCKMEN สังเกตดูก็จะพบว่าเพียงคุณเข้าร่วมกิจกรรม workshop เพียงสองถึงสามต่ออย่างต่อวันก็คุ้มค่าราคาบัตร 6,500 บาทที่เสียไปแล้ว นี้ยังไม่นับรวมกิจกรรมอื่น ๆ ภายในงานที่คุณจะได้พบอีกมากมาย ดังนั้นในปีถัด ๆ ไป ไม่ต้องลังเลคิดมากถึงเรื่องคุ้ม ไม่คุ้มค่าบัตรอีกแต่อย่างใด เคลียร์ตารางให้ว่าง และไปร่วมสนุกกับพวกเราได้ที่งานไลฟ์สไตล์เฟสติวัลแห่งเดียวในประเทศไทย อย่าง WONDERFRUIT แล้วคุณจะรู้สึกเหมือนโดนมนต์สะกดให้อยากอยู่เป็นชาววันเดอร์ตลอดไป