CARS

Toyota Supra TRD 3000GT: “street-legal race cars” ที่หายากและน่าตื่นเต้นที่สุดของยุค 90s

By: Chaipohn April 7, 2025

ถ้าจะพูดถึงยุคทองของรถสปอร์ตญี่ปุ่น ไม่มีชื่อไหนโดดเด่นเท่า Toyota Supra โดยเฉพาะ gen 4 หรือรหัส A80 รถที่สามารถพัฒนาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ามี Supra รุ่นนึงที่ไม่ใช่แค่หายาก แต่มันคือตำนานที่แทบไม่มีใครได้สัมผัสของจริง นั่นคือ “Toyota Supra TRD 3000GT”

มันเกิดขึ้นในปี 1994 — ปีที่ Toyota หวังชัยชนะในรายการ Japan Grand Touring Car Championship (JGTC) ด้วยรถแข่งที่ใช้ Supra A80 เป็นพื้นฐาน แล้วสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งคันเพื่อลงแข่งในคลาส GT500

TRD ในฐานะฝ่ายพัฒนาแข่งของ Toyota เห็นโอกาสบางอย่างที่คนทั่วไปอาจมองไม่เห็น พวกเขาคิดว่า จะเป็นยังไงถ้านำสิ่งที่พัฒนา GT500 มาถ่ายทอดในรถ Supra ที่คนธรรมดาใช้ได้จริง ไม่ใช่แค่แต่งหล่อให้ดูคล้ายรถแข่ง แต่เปลี่ยนมันทั้งคันให้กลายเป็นรถแข่งที่ขับบนถนนได้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ TRD 3000GT รถที่ไม่ใช่แค่ติดชุดแต่ง TRD แต่มันถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างแท้จริง

TRD 3000GT เปิดตัวที่ Tokyo Auto Salon ปี 1994 พร้อมความตั้งใจเดียวคือ “Bring GT500 to the streets.” มันไม่ใช่แค่ Supra รุ่นพิเศษ แต่มันคือ “Complete Car” ที่ TRD นำมาทำใหม่ทั้งคัน ตั้งแต่เปลี่ยนแผงบอดี้ทั้งหมดเป็นวัสดุ CFRP และ FRP เสริมช่วงล่างสปอร์ต ติดตั้งระบบแอโร่เต็มรูปแบบ และที่สำคัญ รถแท้แต่ละคันจะถูกเปลี่ยน VIN ใหม่ พร้อมแผ่นเพลตประจำตัว เพื่อยืนยันว่ามันไม่ใช่แค่รถแต่ง แต่มันคือ TRD 3000GT “ของแท้”

คนทั่วไปอาจซื้อชุดแต่ง TRD 3000GT มาติดตั้งแยกได้ หลายคนอาจเข้าใจว่า TRD 3000GT เป็นเพียง “fiberglass widebody factory conversion kit” ของ Supra ที่ประกอบด้วย

– กันชนหน้าใหม่พร้อม Splitter คมกริบ ส่งอากาศไปยังพื้นเรียบใต้ท้องรถเพื่อสร้าง Downforce

– ช่องรับอากาศขนาดใหญ่ ส่งลมให้ Intercooler, Radiator และ Oil Cooler ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

– ฝากระโปรงสุดไอคอนิกแบบ 4-Vent ปล่อยแรงดันลมออกจากห้องเครื่อง ลดอุณหภูมิ และเพิ่มความเสถียร (อันเดียวกับใน Fast & Furious สีส้ม) มาพร้อมแผ่นปิดเพื่อปกป้องห้องเครื่องในวันที่ฝนตกหรือใช้งานในเมือง

– บอดี้กว้างขึ้น (หน้า +60mm / หลัง +50mm) ใส่ล้อกว้างขึ้น เพิ่ม grip ในโค้งได้แบบ supercar

– Skirt ด้านข้างทรงเหลี่ยม กันลมจากด้านบนไม่ให้รบกวน Airflow ใต้ท้องรถ

– สปอยเลอร์หลังสองแบบ Type-R: สไตล์ 3 ขา เน้นแรงกด และ Type-S: ปรับองศาได้ 6 ระดับที่ได้รับความนิยมมากกว่า

– Diffuser หลัง ทำงานร่วมกับ Splitter หน้าและ Flat Floor เพื่อสร้างแรงกดทุกตารางนิ้ว

จุดที่น่าสนใจคือ TRD ไม่ได้แตะเครื่องยนต์ 2JZ-GTE 276 แรงม้าจากโรงงาน เพราะมันดีพออยู่แล้ว พวกเขาเลือกปรับปรุงในจุดที่วิศวกรรมสนามแข่งให้ความสำคัญที่สุด น้ำหนัก สมดุล ช่วงล่าง และแอโร่ ระบบกันสะเทือนที่ปรับใหม่หมด, น้ำหนักตัวที่เบาลงจากการใช้วัสดุ Carbon-fiber, ระบบเบรกที่ออกแบบเพื่อการใช้งานจริงในสนาม และการเซ็ตแชสซีให้รองรับการเข้าโค้งระดับเดียวกับรถแข่ง สามารถเลือก TRD engine performance packages ได้สูงสุดถึง 600 แรงม้า แม้จะไม่ได้แรงสุดในเชิงตัวเลข แต่สมรรถนะโดยรวมคือรถถนนที่ได้ฟีลรถแข่งแบบครบเครื่อง

ทั้งหมดนี้ทำให้ TRD 3000GT ไม่ใช่แค่รถ Supra ที่หล่อกว่าชาวบ้าน แต่มันคือรถที่ขับแล้ว “รู้สึก” ได้ถึงแรงบันดาลใจจากสนามแข่ง ทุกครั้งที่เหยียบคันเร่ง เสียงเทอร์โบพ่นผ่านท่อไอเสียของ TRD มันไม่ใช่แค่เสียงเครื่องยนต์ แต่มันคือเสียงของจิตวิญญาณGT500 จากสนาม Japan Grand Touring Car Championship

ถ้าวันหนึ่งคุณเห็น Supra wideboy ฝากระโปรงมี 4 ช่อง สปอยเลอร์แปลกตา แอร์โร่เต็มคัน อย่าเพิ่งเดินผ่านไป ลองส่องเลขตัวถังให้ดี เพราะคุณอาจจะเจอกับ 1 ใน 35 คันของ TRD 3000GT รถที่เกิดจากสนามแข่งและหายากที่สุดคันหนึ่งของ Toyota ก็เป็นได้

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line