The Watchmaker – Gerald Genta : Patek Philippe Nautilus REF. 3700/1 Stainless Steel

โลกของ Patek Philippe เคยสงบ เรียบหรู และอยู่สูงเกินเอื้อม เป็นโลกของทองคำ ความบางเฉียบ และความซับซ้อนในเชิงช่างที่ไร้ที่ติ จนกระทั่งปี 1976 — พวกเขารู้ตัวว่าถ้าไม่เปลี่ยนอะไรซักอย่าง อาจจะโดนแบรนด์ที่เคลื่อนไหวไวกว่าอย่าง Audemars Piguet ทิ้งห่างไปแบบถาวร Nautilus จึงถือกำเนิดขึ้นในปี 1976 ด้วยรหัส Ref. 3700/1 โดย Genta คนเดิม ชายผู้เปลี่ยนทั้งโลกของนาฬิกาหรูด้วยปลายปากกาชั่วข้ามคืน และครั้งนี้ ภายใน 5 นาที

Nautilus จึงถือกำเนิดขึ้นในปี 1976 ด้วยรหัส Ref. 3700/1 ชายผู้เปลี่ยนทั้งสองแบรนด์ด้วยปลายปากกาภายในเวลาไม่กี่ปี Genta ให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า ดีไซน์ไอเดียของ Nautilus เกิดขึ้นระหว่างที่เขานั่งอยู่ในร้านอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่ง เขาหันไปเห็นผู้บริหาร Patek Philippe กำลังทานข้าวอยู่ในอีกมุม ว่าแล้วก็เกิดไอเดีย บรรเลงแบบร่างลงในกระดาษเช็ดปากตรงนั้นจนเสร็จภายใน 5 นาที

ไอเดียของ Nautilus คือการผสมความ sport เข้ากับความสง่างามในแบบ “ชายผู้เดินเรือผู้มั่งคั่ง” ตัวเรือนขนาด 42 มม. ซึ่งใหญ่จนโดนเรียกว่า “Jumbo” ในยุคนั้น  ถูกออกแบบให้เหมือนหน้าต่างเรือ (porthole) ของเรือเดินสมุทรหรูที่ยึดด้วยบานพับข้างสองฝั่ง สร้าง silhouette ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร Bezel ไม่ได้แบนตรง แต่โค้งมนอย่างมีมิติ พร้อมหูสายที่ค่อย ๆ ลื่นไหลจากตัวเรือนไปถึงสายแบบ integrated steel bracelet อย่างแนบเนียน

3700/1 ใช้กลไกอัตโนมัติ ultra-thin ที่ชื่อว่า Caliber 28-255 C — ซึ่งพัฒนาบนพื้นฐานของ JLC Caliber 920 กลไกเดียวกันกับที่ใช้ใน Royal Oak Ref. 5402 รุ่นแรกเช่นกัน ทำให้ทั้งสองเรือนมีความเชื่อมโยงกันในเชิงกลไก แต่แตกต่างกันสุดขั้วในเชิงอารมณ์ หน้าปัดของ Nautilus 3700/1 มาในสีเทาน้ำเงิน ลาย horizontal grooves ที่กลายเป็น DNA ของ Nautilus จนถึงทุกวันนี้

ช่วงแรกที่เปิดตัว Nautilus 3700/1 ยังไม่ได้รับความนิยมแบบ Royal Oak เพราะแบรนด์ Patek Philippe ถูกมองว่า “too classic to go sporty” แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้ 3700/1 หายากยิ่งขึ้น เพราะถูกผลิตเพียงราว 3,300 เรือน ระหว่างปี 1976 ถึง 1990 และไม่มีเวอร์ชันทองคำหรือตัวเลือกหลากหลายเหมือนรุ่นหลัง ๆ

สิ่งที่น่าสนใจคือ Patek ไม่ได้พยายามเปลี่ยนจิตวิญญาณของแบรนด์ แต่กลับเติม “ความเงียบขรึม” แบบ Patek เข้าไปในโลกของนาฬิกาสปอร์ต ทำให้ Nautilus ไม่ใช่นาฬิกาที่จะดึงดูดสายแฟชั่นหรือกลุ่ม rebellious แบบเดียวกับ Royal Oak แต่มันเหมาะกับคนที่เข้าใจว่า “ความหรูคือการไม่พยายามโชว์” — understated luxury ที่พูดน้อยแต่ลึก

ทุกวันนี้ Nautilus 3700/1 ได้กลายเป็นอีกหนึ่ง Grail Watch ที่มีมูลค่าแตะ $200,000+ ในตลาดสะสม โดยเฉพาะเรือนที่ยังอยู่ในสภาพเดิมจากโรงงาน พร้อมกล่องและใบ certificate ถือเป็นของล้ำค่าระดับ museum piece ไปแล้ว