เรียกได้ว่าเป็นที่น่าจับตาตั้งแต่เปิดตัว สำหรับนาฬิกาอัจฉริยะอย่าง HUAWEI WATCH FIT 3 ซึ่งลบภาพจำเดิม ๆ ของ Smart Watch ทั่วไป ที่หลายคนมักคิดว่ามันคือไอเทมเหมาะกับผู้ใช้งานที่เน้นด้านออกกำลังกายเป็นหลัก เพราะ HUAWEI WATCH FIT 3 เรือนนี้ได้วาง Position ตัวเองเป็น Fashion Smart Watch ที่โดดเด่นทั้งงานดีไซน์ซึ่งพร้อมให้สวมใส่ในชีวิตประจำวัน ผสานด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ลงตัวกับไลฟ์สไตล์รอบด้าน แต่จะลงตัวแค่ไหน วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปทำความรู้จักความเจ๋งของ HUAWEI WATCH FIT 3 ให้มากขึ้น เริ่มต้นที่ประเด็นแรก บอกเลยว่าสะดุดตากับงานดีไซน์ตัวเรือนแบบใหม่ของ HUAWEI WATCH FIT 3 ที่เน้นรูปทรงสี่เหลี่ยมขอบโค้งมน เรียบหรูดูดี เข้ากันได้กับการแต่งตัวหลากสไตล์ พร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ AMOLED ขนาด 1.82 นิ้ว สีสันสดใสคมชัด ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย ๆ ด้วยความสว่างหน้าจอสูงสุด 1,500
บอกเลยว่าใครถูกใจในงานดีไซน์ และ UI สไตล์ Minimal จากแบรนด์ Nothing น่าจะหลงรัก Smart Watch เรือนนี้ได้ไม่ยาก โดย Watch Pro เป็นผลงานล่าสุดจาก CMF แบรนด์ย่อยของ Nothing มาพร้อมเฟรมตัวเรือน aluminum-alloy ทรงสี่เหลี่ยมขอบมน ใช้จอสัมผัสแบบ AMOLED ขนาด 1.96 นิ้ว ติดตั้งลำโพง และไมโครโฟนมาให้ในตัวเรียบร้อย รองรับการคุยโทรศัพท์แบบคล่อง ๆ นอกจากนี้ยังจัดเต็มฟังก์ชันสุขภาพ ติดตามการออกกำลังได้ 110 ชนิดกีฬา ทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP68 มี GPS มาให้ครบ พร้อมเซ็นเซอร์วัด Heart Rate แบบออโต้ 24 ชั่วโมง, เซ็นเซอร์วัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด, ระบบตรวจสอบความเครียด, เช็คคุณภาพการนอนหลับ, รวมถึงวิดเจ็ตและความสามารถด้านการแจ้งเตือนอื่น ๆ อีกมากมาย ตามมาตรฐานที่ Smart Watch ยุคนี้พึงมี
ปัจจุบันนาฬิกาได้ก้าวข้ามมาสู่ในยุค Smartwatch กันอย่างเต็มตัวเพื่อตอบโจทย์ Lifestyle ที่ต้องการความรวดเร็วและความสะดวกสบายเป็นหลัก อีกทั้งยังมอบความบันเทิงด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมาย แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่หลงใหลในความคลาสสิคแบบอนาล็อก แต่สำหรับใครที่มอบใจให้ทั้งแบบดิจิตัลและอนาล็อกหรือเรียกง่าย ๆ ว่าไฮบริด แถมยังชอบดูแลสุขภาพของตัวเองเป็นพิเศษ ลองมาทำความรู้จักกับ Garmin Vivomove Sport กันครับ รูปลักษณ์ภายนอกของ Garmin ถูกดีไซน์มาเพื่อให้เข้ากับทุกลุคทุกสไตล์ ภายใต้คอนเซปต์ “More Than Stylish, It’s Traditional Watch” รูปลักษณ์ดูเรียบ ภูมิฐาน ให้ความรู้สึกเท่แบบสุขุม มีความสปอร์ตตรงกับชื่อรุ่นทุกตารางนิ้ว มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ ดำ, ขาว, น้ำตาล และเขียวอ่อน มาพร้อมกับตัวเรือนทรงกลมขนาด 40 มม. และเมื่อเรามองผ่านเรือนกระจกเข้าไปจะพบกับเข็มนาฬิกา 2 เข็มที่ทำหน้าที่บอกชั่วโมงและนาที ส่วนตัวเลขกำกับเวลาจะมีเพียงเลขคู่เท่านั้นพร้อมกับชื่อของ Garmin ที่เด่นสง่ากลางตัวเรือน มาถึงตรงนี้มันก็ดูไม่ต่างจากนาฬิกาอนาล็อกที่เราคุ้นเคยทั่วไป แต่อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่สายตาเห็น คุณต้องลองใช้ปลายนิ้วของคุณสัมผัสลงไปบริเวณกระจกเบา ๆ เพียง 2