มีเวลาอีกแค่ไม่ถึง 10 วันนะครับพี่น้อง กับโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของความซนระดับตำนาน อย่าง MONKEY Z125R SPECIAL EDITION รับประกันความแสบเกินต้าน เมื่อลิงซ่าส์กลับมาซน พร้อมโทนสีจี๊ดจ๊าดสะท้อนตัวตนความซนซ่าส์สุดคลาสสิกจากยุค 80s สู่ปรากฎการณ์ความสนุกครั้งใหม่ ที่บอกเลยว่าสาวก MONKEY ยากจะหักห้ามใจ กับงานดีไซน์จัดจ้าน พร้อมสร้างตำนานบทใหม่ ให้ได้ปล่อยจอย ปล่อยใจ ไปกับความมันส์บนรอยยาง และทางฝุ่น ฟีล Enduro เท่พร้อมลุยกับ LEGACY WIND SHIELD ดีไซน์เก๋า เร้าใจยิ่งกว่าด้วย CLASSIC GOLD WING TANK ตัวถังสีแดงสด ประทับโลโก้ Honda Classic Wing สุดโดดเด่น Limited เกินใคร และ LEGACY SIDE COVER จัดเต็มดีไซน์กราฟิกพิเศษเฉพาะ Z125R พร้อมตอกย้ำความมันส์ยิ่งกว่าด้วย LEGACY BLUE SEAT เบาะนั่งนุ่มสบาย สดใสไปกับสีน้ำเงินกระแทกใจ ขี่ไปไหนใครก็เหลียว
“เมื่อพูดถึง Honda Monkey สิ่งแรกเราที่นึกถึงคือ ความสนุก ความซน ความน่ารัก แล้วก็นึกถึงดีไซน์ที่มีความ Iconic เป็นมินิไบค์ที่มาพร้อมงานออกแบบสุดคลาสสิก ซึ่งสร้างภาพจำได้อย่างชัดเจนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน” นี่คือคำตอบแรกจากปากของ ‘ปิ๊น–อนุพงศ์ คุตติกุล’ หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ ‘ปิ๊น Carnival’ หลังจากที่เรามีโอกาสได้นั่งเสวนาถึงเรื่องราวของ Honda Monkey มินิไบค์ระดับ Iconic ลิงน้อยจิ๋วแต่จี๊ด ที่ครองใจผู้คนมาอย่างยาวนานร่วม 60 ปี ซึ่งหัวเรือใหญ่แบรนด์ Carnival ได้เล่าให้ฟังถึง Monkey รุ่นเด่นในดวงใจว่า จาก Monkey มากมายหลายรุ่นที่เคยสัมผัสและผ่านตามาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก เขาขอยกตำแหน่งหนึ่งเดียวคันนี้ให้กับ Monkey Baja Africa กับงานออกแบบที่แสบซ่าแตกต่าง และมันช่างตราตรึงใจมาจนถึงทุกวันนี้ “จริง ๆ แล้ว Monkey ที่เราชอบนี่มีหลายรุ่นมาก ๆ เพราะแต่ละรุ่น แต่ละปี เค้าจะมีรุ่นใหม่ ๆ ดีไซน์ใหม่ ๆ รวมถึงรุ่นพิเศษ Limited Editon
“อดีตอันหอมหวาน คือภาพจำที่ทำให้เราต่างถวิลหาอยู่เสมอ” ประโยคนี้ถูกยืนยันความจริงแท้ในตัวของมันเองได้จากกระแสย้อนยุคที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ซึ่งจะว่าไปแล้วเทรนด์การโหยหาอดีตนั้นแทบจะไม่ได้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์แต่อย่างใด จะต่างไปก็เพียงแค่ยุคสมัยที่ถูกยกตำแหน่งให้เป็น ‘ยุคที่คิดถึง’ สำหรับคนในเจเนอเรชันนั้น ๆ อย่างในปัจจุบันคงต้องยอมรับว่าคนในเจเนอเรชันเรากำลังยกให้ยุค 80 – 90 เป็นยุคที่เราต่างก็คิดถึง ทำให้ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ วิถีชีวิต แฟชั่น ดนตรี อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้จากยุคนั้น ๆ ล้วนถูกนำมาฉายซ้ำในรูปแบบของสินค้า กิจกรรม รวมถึงซับ-คัลเจอร์บางอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าเราพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งแทนอดีตเหล่านั้นเข้ามาด้วยความเต็มใจ และสำหรับผู้ชายอย่างเรา ๆ สองล้อคันเก๋าระดับตำนาน คือหนึ่งในไอเทมตัวแทนอดีตที่ยากจะหมางเมิน แค่ได้เห็นยังใจเต้น ยิ่งถ้าได้ครอบครองเป็นเจ้าของเอาไว้ขับเล่นมันยิ่งเป็นอะไรที่เติมเต็มความฝันได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าจะให้พูดถึงตำนานมอเตอร์ไซค์จากยุคนั้น เชื่อได้เลยว่าชื่อของ Honda Monkey จะต้องปรากฎชัดเจนขึ้นมาจากกล่องความทรงจำของใครอีกหลายต่อหลายคนอย่างแน่นอน The First Monkey หากสืบไปถึงต้นตระกูลของเจ้าลิงน้อย Monkey คงต้องนับย้อนไปถึงปี 1961 กับจุดเริ่มต้นจากความซนของวิศวกร Honda ที่นึกสนุกเอาเครื่องยนต์ 100cc มาติดตั้งบนโครงรถขนาดจิ๋ว หวังใจให้เป็นมินิไบค์ขับเล่นสนุก ๆ ในโรงงาน และเนื่องจากหน้าตาท่าขับขี่ที่มีเอกลักษณ์เหมือนลิงขี่มอเตอร์ไซค์ ทำให้มันถูกขนานนามเล่น ๆ ว่า Monkey
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการกลับมาของ Monkey และ Super Cub ตำนานมอเตอร์ไซค์รุ่นเล็กสุดเก๋าจากค่าย Honda นั้นทำให้วงการสองล้อสายคลาสสิกมีความคึกคักไม่ใช่เล่น ซึ่งสาเหตุที่ Monkey และ Super Cub นั้นครองใจเหล่าสาวกมาอย่างยาวนานเป็นเวลากว่า 50 – 60 ปี แน่นอนว่าจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากรูปทรงที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ของทั้ง 2 รุ่น แม้ว่าจะมีบางช่วงที่สายการผลิตถูกหยุดไป แต่ด้วยความนิยมและกระแสเรียกร้องทำให้ตำนานทั้งสอง หวนกลับคืนมาสร้างสีสันในยุคปัจจุบันอีกครั้งด้วยแรงตอบรับที่ดีทั้งจากสาวกหน้าเก่า และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในความเท่คลาสสิกแบบไม่ง้อกาลเวลา นอกจากรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตา อีกสิ่งหนึ่งที่แฟน ๆ ของ Monkey และ Super Cub ต่างเห็นพ้องต้องกันนั่นก็คือ ทั้ง 2 รุ่นนี้จัดได้ว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่แต่งสนุกเหลือเกิน ด้วยหน้าตารูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ภายใต้ไซส์กะทัดรัดดูน่ารักทะมัดทะแมง คือศูนย์รวมของความเรียบเท่ หล่อเหลา คลาสสิก สามารถเอาไปใส่พาร์ทตกแต่งเพิ่มเติมได้โคตรหลากหลาย จะแต่งสายดุก็ดูโหดกำลังดี หรือจะแต่งสายหวานเอาไว้ดูดหญิงก็จัดให้ดูมุ้งมิ้งแบบไม่เกรงใจหน้าเจ้าของได้เหมือนกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หากใครได้ลองก้าวเข้าสู่วงการแล้วมันยากเหลือเกินที่จะจบ แม้จะบอกตัวเองให้พอไม่รู้กี่รอบ แต่ถึงยังไงก็ไม่วายที่จะงอกของแต่งมาเสริมหล่อให้ลูกรักโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้เสียที และไม่รู้จะเรียกว่าเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายที่อาจส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพทางการเงินของเหล่าสาวก เพราะเราได้ยินมาว่าทาง A.P. Honda เขาเล่นใหญ่ ไปชักชวนพันธมิตรสำนักแต่งชั้นเซียนจากญี่ปุ่นอย่าง KITACO,
การสะสมกับผู้ชายก็เป็นเหมือนของคู่กัน เราทุกคนต่างเคยมีช่วงเวลาแห่งความหลงใหลในเรื่องราวหรือสิ่งของบางอย่างและเมื่อเวลาผ่านไปความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ก็กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากครอบครอง ซึ่งเป็นสาเหตุให้ใครหลายคนสะสมสิ่งของต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ความชอบของตัวเองเอาไว้มากมาย เช่นเดียวกันกับคุณเพชรจ้า-วิเชียร กุศลมโนมัย ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนรู้จักเขาดีในฐานะดีเจและพิธีกรมากฝีมือ แต่ขณะเดียวกันหลายท่านอาจยังไม่ทราบว่า ผู้ชายคนนี้ยังมีชีวิตในอีกมุมที่ตัวเขาให้ความสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือการสะสมสิ่งของต่าง ๆ ตั้งแต่ชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปจนถึงชิ้นใหญ่จนต้องสร้างที่เก็บสำหรับของสะสมแต่ละไอเทมโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเป็นคอลเล็กเตอร์แถวหน้าตัวจริงอีกคนในประเทศไทยก็ว่าได้ ด้วยไลฟ์สไตล์ในฝันกับการถูกห้อมล้อมด้วยเสื้อผ้า, รองเท้าและซุปเปอร์คาร์คันงาม แต่จะมีสักกี่คนเข้าใจถึงเหตุผลที่ชายคนนี้เลือกสะสมของต่าง ๆ ให้เข้ามาอยู่ในคอลเลกชัน ซึ่งวันนี้ก็เป็นโอกาสดีที่ตัวเขาให้เกียรติเปิดบ้านหลังใหม่ เพื่อเล่าถึงจุดเริ่มต้นการสะสมของทั้งหมด ให้เราได้รู้ ได้เห็นเกี่ยวกับแรร์ไอเทมทุกชิ้นที่เก็บซ่อนเอาไว้ จุดเริ่มต้นการสะสม หลังออกมาต้อนรับอย่างอารมณ์ดีพร้อมถ้วยกาแฟในมือ ก่อนจะขอตัวไปเปลี่ยนชุดให้พร้อมต่อการพูดคุย ทำให้เรามีเวลาได้สำรวจส่วนต่าง ๆ ภายในบ้าน ซึ่งมักจะมีมุมหรือห้องพิเศษไว้สำหรับของสะสมต่าง ๆ ซึ่งบอกได้เลยว่าเยอะโคตร ไล่มาตั้งแต่ทางเข้ากับคอลเลกชันรถคันพิเศษในการาจสุดเอ็กซ์คลูซีพ หรือโซนตู้เก็บรองเท้าซึ่งไม่ต่ำกว่าร้อยคู่และเมื่อทุกอย่างพร้อม การเปิดกรุของสะสมของเขาก็เริ่มขึ้น คุณเพชรจ้าเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นการสะสมของชิ้นแรกในชีวิตซึ่งฟังดูไม่น่าเชื่อ เพราะมันคือสมุดสะสมแสตมป์เล่มหนา 4 เล่มที่ตัวเขาหยิบมาให้ดู พร้อมกับโน้ตที่มีลายมือของเด็กเขียนกำกับเวลาเริ่มสะสมเอาไว้เป็นวันที่ 4 เมษายน ปี 2534 หรือ 27 ปีที่แล้ว โดยเด็กชายเพชรจ้าเริ่มสะสมแสตมป์ครั้งแรกเพราะได้รับอิทธิพลจากคุณพ่อของเพื่อนที่มีความรู้เกี่ยวกับการสะสมแสตมป์ บวกกับความที่ยังเด็กเมื่อได้รู้ว่าการสะสมทำให้ของที่เคยซื้อมาในราคา 1 บาท ต่อมาอาจขายได้ในราคา 20
ว่ากันว่าความรักความชอบมันเกิดจากทั้งความรู้สึกและเหตุผลควบคู่กัน มันเป็นความรู้สึกพิเศษอะไรสักอย่างที่โดนใจ ไม่จำเป็นต้องมีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ยิ่งอะไรที่ทำให้ผู้คนหลงรักได้มาเป็นเวลานาน ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าของสิ่งนั้นต้องมีอะไรดีในตัวและเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่ไม่มีวันตาย และถ้าถามว่าเบื้องลึกของผู้ชายอย่างเราที่ฝังรากลึกลงไปใน DNA คืออะไร ? คำตอบแรก ๆ ก็คงจะเป็นความซนที่ผู้ชายทุกคน มีในสายเลือด ซึ่งไอ้ความซนของผู้ชายอย่างเรา ๆ ในที่นี้ไม่ได้ความถึงความเจ้าสำราญ ไม่ใช่ความเจ้าชู้ และไม่ใช่ความซนที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่เราต้องปฏิวัติความซนแบบเดิม ๆ ให้กลายเป็นความสร้างสรรค์ สร้างคุณค่าในแบบของตัวเองจากพื้นฐานความสนุก และสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ สู่สังคมยุคใหม่ ที่จริงแล้วผู้ชายทุกคนมี DNA ความซนแบบที่กล่าวไปในตัว เพียงแต่ว่าอะไรที่จะช่วยปลดล็อกความรู้สึกสนุกซนแบบนี้ออกมาได้ สิ่งหนึ่งที่ UNLOCKMEN เชื่อว่าพวกเราน่าจะคิดเหมือนกัน คือการได้ครอบครองรถในระดับตำนานสักคัน กว่า 50 ปีแล้วที่มอเตอร์ไซค์ขนาดกะทัดรัด หรือ มินิไบค์ อย่าง Honda Monkey ได้เข้าไปอยู่ในใจของใครหลายคนที่ได้สัมผัสมัน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ สัมผัส หรือแค่มองก็ดี รวมถึงนักสะสมรถ 2 ล้อที่หลงใหลในความน่ารักและบุคลิกซนๆ ของ Honda Monkey ซึ่งไม่ได้มีดีแค่คาแรคเตอร์อันแตกต่างเท่านั้น แต่ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Honda Monkey กลายเป็นมินิไบค์ที่ใคร