หากจะให้พูดถึง Moto Music Festival สุดตราตรึงแห่งปี 2024 สำหรับเราต้องขอยกให้งานเทศกาลมอเตอร์ไซค์และดนตรีครั้งยิ่งใหญ่ระดับภาคพื้นเอเชียอย่าง ASIA HARLEY DAYS 2024 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ในไทย ณ สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ร่วมกับงาน Singha Soda Music Concert ขึ้นแท่นติดโผอันดับต้น ๆ ของความประทับใจ ชนิดที่งานจบแล้ว แต่นึกถึงทีไรความมันส์สุดซ่าก็ยังคงคุกรุ่นในใจอยู่อย่างไม่จางหาย กับความทรงจำในเรื่องความสวยงามลงตัวของสถานที่, กิจกรรมดี ๆ จัดเต็ม พร้อมไลน์อัพศิลปินเดือด ๆ รวมไปถึงบรรยากาศแห่งมิตรภาพไร้พรมแดนของชาว Harley-Davidson ที่พร้อมใจยกขบวนกันมากว่า 13 ประเทศ ได้แก่ ไทย เกาหลีใต้ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น
การคอลแลบระดับตำนานที่ทุกคนรอคอยได้เริ่มขึ้นแล้ว เมื่อแบรนด์รถมอเตอร์ไซต์ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งท้องถนนของโลกอย่าง Harley-Davidson โคจรมาพบกับ โซดาสิงห์ เครื่องดื่มดีเอ็นเอแห่งความซ่าเบอร์ 1 ในใจคนไทย กับแคมเปญ “RIDE YOUR WAY” ซ่า…ให้สุดทาง ด้วยจุดประสงค์เพื่อผลักดันวัฒนธรรม 2 ล้อของฮาร์ลีย์ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจและซัพพอร์ตทุกเส้นทางของทุกคนให้มั่นใจทำสิ่งที่รักให้สุดทาง ! วันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา UNLOCKMEN ได้ไปพรีวิวความมันส์ในโปรเจกต์ระหว่าง Singha Soda กับ Harley-Davidson ในครั้งนี้ เราเลยขอเอามาเล่าต่อ และจะบอกว่าทำไมคนรักฮาร์ลีย์และแฟนโซดาสิงห์ทุกคนไม่ควรพลาดทั้งงาน และ Merchandise ในครั้งนี้กัน “หนึ่งในความยิ่งใหญ่ของโปรเจกต์ครั้งนี้คือการที่โซดาสิงห์เป็นแบรนด์เครื่องดื่มแรกในเอเชียที่ได้ทำงานกับ Harley-Davidson” ในฐานะที่ UNLOCKMEN เป็นแฟนคลับของทั้ง 2 แบรนด์อยู่แล้ว เราไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นได้ เพราะไม่ว่าจะด้วย Heritage Story / Brand Character หรือจะ Goal Of Brand ที่นิยามออกมาได้ด้วคำว่า ‘มันส์’ และ
ครูเบิร์ท เป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชาศิลปะในระดับประถมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนสรรพาวุธวิทยา ครูเบิร์ทเป็นนักร้องที่เล่นกีตาร์และเขียนเพลงอยู่ในวงชื่อ Stage Clear ครูเบิร์ทรักการคัสตอมรถมาทั้งชีวิต และเขาก็มีฮาร์เลย์รุ่น Chopper Harley Davidson Softail Springer 1340cc ความเป็นพังก์ในตัวของครูเบิร์ทสะท้อนภาพตัวละคร ‘โอนิซึกะ เอคิจิ’ ในเรื่อง GTO คุณครูพันธุ์หายากแบบแทบจะแยกกันไม่ออก เขามีความมุ่งมั่นต่อการใช้ชีวิต เป็นวิธีการสุดโต่งที่ขากระโดดข้ามไปข้ามมาระหว่างกฎเกณฑ์ตลอดเวลา และสำหรับเราเขานิยามคำว่า ‘วัยรุ่นตลอดไป’ ได้ชัดเจนมาก ถ้าชีวิตม.ปลายได้เจออาจารย์แบบเขาก็คงมีสีสันฉูดฉาดไม่น้อยทีเดียว ครูเบิร์ทเป็นคนรู้จักของรุ่นน้องกราฟิกคนใหม่ที่ UNLOCKMEN เรานัดเขาคุยที่ทำงานประจำของครูเบิร์ท โดยไม่ได้วางแผนอะไรสักอย่าง ให้หัวข้อบทสนทนาไหล ๆ ไปเรื่อย ๆ แล้วแต่จังหวะและความรู้สึกของตอนนั้น ก่อนที่จะพบในตอนบอกลากกันว่า เออ ชีวิตมันก็ไม่ต้องเตรียมตัวตลอดเวลานี่หว่า ** ขออภัยในภาษาที่รุนแรงไปบ้างในบทสัมภาษณ์ แต่การจะรู้จักชายคนนี้ผ่านตัวอักษรให้ได้มากที่สุด จำเป็นที่จะต้องไม่เซ็นเซอร์ใด ๆ ** UNLOCKMEN : พี่ว่าคนขี่มอเตอร์ไซต์ฮาร์เลย์เชื่อเรื่อง ‘แม่ย่านาง’ มั้ย ? ครูเบิร์ท : บางคนก็เชื่อว่าห้ามเอาตีนไปเหยียบล้อหน้า แต่ผมไม่ได้สนใจนะ ไม่เคยรู้เลยอะ ผมไหว้พระที่คอผม
ความเดิมจาก Part 1 (ใครยังไม่ได้อ่านกดตรงนี้) : เราคุยกับพี่ ‘ต้อย ก็มาดิคร้าบ’ ย้อนกลับไปในวันที่เขาเป็นเพียง ‘ธงชัย คะใจ’ ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เอาตัวเองกระโจนไปในเรื่องราวมากมายอย่างสนุกสนาน เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และสู้กับทุกอุปสรรคในชีวิตจนสามารถเคลียร์ได้ทุกสเตจ ซึ่งเรียงไทม์ไลน์ไว ๆ ได้ตามนี้ โดนเศรษฐกิจฟองสบู่แตกปี 2540 – ขายอาหารตามสั่งติดกับตึก Workpoint – ได้เป็นคนคุมกองเชียร์ของ Workpoint – ลาออกไปอยู่ Triple Two – ตามเมียไปอยู่อเมริกา – ตัดสินใจทำรายการออนไลน์กับ ‘ตั๊ก-บริบูรณ์’ – กลายเป็นผู้กำกับรายการตลกที่ดังที่สุดรายการหนึ่งของไทยตอนนี้ ก็มาดิคร้าบ ใน Part 2 อย่างที่เคยเกริ่นเอาไว้ (คนที่ยังไม่ได้อ่านต้องกดตรงนี้แล้วนะ) เราอยากพาชาว UNLOCKMEN ไปรู้จักกับพี่ต้อยให้มากขึ้น เพราะในบทสัมภาษณ์ก่อนหน้าเป็นเพียงบทหนึ่งของชีวิตเขา ถ้าตัดชีวิตการทำงานพาร์ท ‘ผู้กำกับ’ ออกไป พี่ต้อยคือผู้ชายที่หลงใหลในมอเตอร์ไซต์ฮาร์เลย์ เพราะว่าชีวิตผูกพันธ์กับฮาร์เลย์ตั้งแต่จำความได้ และจะขอมีฮาร์เลย์อยู่ในชีวิตตลอดไป ! ลูกชายคนโตพี่เอง ชื่อ
“เพชรพายกล้อก็คือผม ทำ Youtube เกี่ยวกับสิ่งที่ผมชอบ รถอเมริกัน ฮาร์เลย์รถซิ่ง เกี่ยวกับอะไรที่เป็นล้อ” คำพูดข้างบนเป็นของผู้ชายที่ชื่อ ‘เพชร มรรคผล’ , ‘เพชรร้อยปี’ หรือที่ปัจจุบันในวงการคัสตอมช็อปเปอร์ต่างเรียกเขาด้วยชื่อ เพชรพายกล้อ ซึ่งก่อนเริ่มบทสนทนากัน เราขอให้เขาช่วยนิยามตัวเองให้ฟังหน่อย ด้วยความที่ว่าชีวิตนี้เคยทำอะไรหลายอย่างมาก ๆ แต่ทว่าเพชรกลับนิยามง่ายไปแบบนั้น ในคอลัมน์ The Real ตอนล่าสุด UNLOCKMEN พาทุกคนเข้าอู่ AMP CUSTOM สถานที่ซึ่งเก็บเรื่องราวมากมายเอาไว้ท่ามกลางกองอะไหล่ซึ่งรอวันประกอบ ซากปรักหักพังของวัสดุที่ถูกทิ้งร้างจนช่างอาจจะลืมไปแล้วว่ามีอยู่จริง เคล้ากลิ่นของน้ำมันข้นคลั่กที่ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ อู่ทำรถช็อปเปอร์ที่เพชรไม่ขอเรียกว่าอู่ เพื่อเข้าใจว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงบอกกับเราว่าไม่มีฝันไหนจะดีได้เท่ากับการตื่นขึ้นมาอยู่ที่ AMP CUSTOM อีกแล้ว AMP LEGACY : จุดเริ่มต้นแบรนด์ของตระกูลที่ประกอบเป็นเครื่องยนต์ชีวิต ย้อนเวลากลับไปประมาณปี 2546 ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยยังไม่มีแบรนด์ Street Clothing เป็นของตัวเองมากนัก การถือกำเนิดของ A.M.P. Clothing ได้ทิ่มหมุดหมายสำคัญของแฟชั่นสตรีทแวร์ให้กับเหล่าวัยรุ่นบ้านเรา ทำไมเราถึงต้องพูดถึงในวันที่แบรนด์นี้กลายเป็นตำนานและติดตลาดไปแล้ว ก็เพราะว่าผู้ก่อตั้ง A.M.P. Clothing คือพี่น้อง ‘ไผ่-Alongkorn Makphop’
เชื่อว่าผู้ชายส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบในรถจักรยานยนต์คงจะสะดุดตาสะกิดใจทุกครั้งที่ได้เห็นรถจักรยานยนต์อย่าง Harley-Davidson แล่นผ่าน ด้วยทรวดทรงที่อวบอิ่ม และเสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่น่าเกรงขาม แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นทุกคนที่ชื่นชอบมันไปซะทีเดียว เพราะถ้าหากใครที่ชอบรถจักรยานยนต์สไตล์ Sport จ๋า ๆ รูปทรงปราดเปรียวโฉบเฉี่ยวก็อาจจะมองว่า Harley-Davidson ออกแนวมีอายุไปสักนิด ทำให้ระยะหลัง Harley-Davidson ต้องปรับตัวด้วยการออก Model ใหม่ ๆ ที่รับอิทธิพลความ Sport เพิ่มเข้าไปขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Street 750 รวมไปถึง Pan American หรือแม้กระทั่ง Livewire ซึ่งเป็น Harley-Davidson ระบบไฟฟ้า รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ ครั้งหนึ่งเคยมีรถจักรยานยนต์ Harley-Davidson รูปทรง Sport มานานแล้ว แม้ปัจจุบันจะไม่มีการผลิตไปแล้วก็ตาม วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ “Buell Motorcycle” กัน เพราะนี่คือหนึ่งในแบรนด์ที่นำเอา Harley-Davidson แบบทั้งดุ้น มาปรับโฉมเพิ่มความ Sport ให้ถึงขีดสุด จนสะดุดตาคนรัก Harley-Davidson ทั่วโลกมาแล้ว What
สมองสั่งการให้สายตาของเราจับจ้องไปที่มันทุกครั้ง ประสาทสัมผัสของเรารับรู้และบอกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นคือ Harley-Davidson เสียงที่กระหึ่ม ดุดัน เร้าใจของเครื่องยนต์ V-Twin ข้อเหวี่ยงวางที่ตำแหน่ง 45 องศา กับรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม โดดเด่นและท่านั่งขับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson คือรถในฝันของผู้ชายหลายคนที่ต้องการครอบครองสักครั้งในชีวิต เชื่อว่าหลายคนประทับใจภาพยนตร์ซีรีส์ในตำนานที่ว่าด้วยเรื่องราวแก๊งอาชญากรนักบิดนอกกฎหมายที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson เป็นพาหนะคู่ใจ อย่างเรื่อง “Sons Of Anarchy” แม้ว่าตัวหนังจะจบลงไปแล้วในซีซันที่ 7 แต่นอกจากเรื่องราวของหนังที่สนุกเข้มข้นแล้ว สิ่งที่โดดเด่นและอาจจะผิดมากหากเราไม่กล่าวถึงมันก็คือรถมอเตอร์ไซค์ของตัวละครหลักในเรื่อง โอกาสนี้ UNLOCKMEN จะพาไปดูรถมอเตอร์ไซค์ที่ตัวละครหลักในเรื่องแต่ละคนใช้เป็นยานพาหนะคู่ใจ Clay Morrow หัวหน้าแก๊งหรือประธานของคลับ Sons of Anarchy Motorcycle Club, Redwood Original (เรียกอย่างย่อให้เข้าใจได้ว่า SAMCRO) Clay เป็น 1 ใน 9 สมาชิกดั้งเดิมของคลับ ก่อนตำแหน่งประธานคลับจะถูกแทนที่ด้วยลูกเลี้ยงเขาในภายหลัง สิ่งที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนคือสิงห์นักบิดระดับหัวหน้าแก๊งในเรื่องคนนี้คือมือสมัครเล่นในชีวิตจริง เพราะ Ron Perlman เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์มาก่อนในชีวิตจนกระทั่งมาแสดงในหนังเรื่องนี้ Clay’s Bike
ถ้าพูดถึง ‘ไบค์เกอร์’ หลายคนก็จะนึกถึงกลุ่มชายชาตรีหนวดเคราเฟิ้ม ใส่เสื้อหนัง สวมรองเท้าบู๊ท ขี่รถคันใหญ่ไปด้วยกันเป็นคาราวาน บางคนจะนึกถึงผู้คนที่ไม่อยู่ในกรอบและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ส่วนในต่างประเทศผู้คนมักพูดถึงแก๊ง Hell Angels, Outlaws, 69’rs หรือ Black Sabbath แต่ยังไม่ค่อยรู้จักแก๊งนักบิดชื่อว่า Motor Maids เท่าไหร่นัก UNLOCKMEN เคยเล่าเรื่องราวของชาวแก๊งนักบิดอยู่บ่อยครั้งทั้งแก๊ง Hell Angels หรือแก๊งนักซิ่งของฝรั่งเศส แต่เรายังไม่เคยเล่าเรื่องของสุภาพสตรีขี่บิ๊กไบค์จากยุค 40 ทั้งที่พวกเธอนั้นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา แต่งตัวจัดจ้านได้เท่ไม่แพ้ผู้ชาย และจะไม่ยอมอยู่ในกรอบที่ถูกเขียนไว้ว่า ‘ผู้หญิงต้องแต่งงาน เป็นเมียที่ดี เป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบ’ เพราะพวกเธอจะเป็นคนเลือกเส้นทางการใช้ชีวิตของตัวเอง ‘DOT ROBINSON’ สตรีหมายเลขหนึ่งแห่งวงการมอเตอร์ไซค์ ย้อนกลับไปช่วงปี 40 ห้วงเวลาแห่งสงครามโลก มีหญิงสาวชาวออสเตรเลียคนหนึ่งชื่อว่า Dot Robinson เกิดปี 1912 เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการมอเตอร์ไซค์ของสหรัฐอเมริกา เธอมีความชอบแตกต่างจากหญิงสาวในยุคเดียวกัน เธอคลั่งไคล้มอเตอร์ไซค์มากและหลาย ๆ คนคาดว่าเธอได้รับอิทธิพลมาจากพ่อตัวเองที่เป็นนักออกแบบรถแถมยังเป็นนักแข่งมอเตอร์ไซค์อีก เธอชื่นชอบทุกอย่างเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ พออายุ 16 ปี ก็แวะเวียนไปยังร้าน Harley-Davidson
ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยของเล่นตัวต่อและรถมอเตอร์ไซค์คันงามก็เป็นไอเทมที่ไม่มีวันหายไป โดยเฉพาะกับ Lego และรถมอเตอร์ไซค์คันโตสัญชาติอเมริกาอย่าง Harley-Davidson® แต่จะเป็นอย่างไรถ้าทั้งแบรนด์ของเล่นและแบรนด์รถจักรยานยนต์หันมาจับมือกันปล่อยคอลเลกชันตัวต่อสุดพิเศษที่ถอดแบบ Fat Boy รถรุ่นดังออกมาได้เหมือนเปี๊ยบ? ตัวต่อจำลองที่ถอดแบบรถรุ่น Fat Boy เป็นผลงานการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ของเล่นชื่อดังกับแบรนด์มอเตอร์ไซค์สุดคลาสสิกสัญชาติอเมริกาอย่าง Harley-Davidson® ประณีตบรรจงทุกอณูจากการเก็บรายละเอียดครบถ้วนตั้งแต่งานออกแบบ สีแดงสดที่แต่งแต้มลงบนตัวถัง สีดำตรงตัวรถ ล้อแม็กแบบตัน ถังน้ำมันเทียร์ดรอป เซ็ตมาตรวัดความเร็ว ท่อไอเสียแบบคู่ ไปจนถึงการเคลือบผิวให้เงาวับ นอกจากนี้ล้อ ลูกสูบ ก้านเบรก แฮนด์มอเตอร์ไซค์ของตัวโมเดลยังสามารถขยับได้ แถมขาตั้งที่ให้มาก็สามารถพับตั้งโชว์ได้เพื่อให้ Lego รุ่นพิเศษนี้เหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์ต้นแบบทุกประการ รูปทรงของ Lego Harley-Davidson® Fat boy™ มีขนาดความสูง 7 นิ้ว (20 เซนติเมตร) กว้าง 18 เซนติเมตร ยาว 12 นิ้ว (33 เซนติเมตร) และมีตัวต่อทั้งหมด 1,023 ชิ้น นอกจากความเหมือนระดับเคาะพิมพ์ออกมา Fat Boy ที่ไม่ได้ซิ่งลงถนนคันนี้ยังน่าสนใจกว่าจาก Option ที่เราสามารถดัดแปลงเพิ่มเติมให้มีดีไซน์เฉพาะเป็นของตัวเองได้ ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน สำหรับหนุ่มผู้ชื่นชอบและหลงใหลรถมอเตอร์ไซค์
Harley-Davidson คือแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอเมริกันอายุกว่า 116 ปี ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการสร้างสรรค์รถให้เต็มไปด้วยเอกลักษณ์โดดเด่น และตอนนี้ทางแบรนด์กำลังเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ อีกครั้งด้วยการหันมาทำรถจักรยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะเป็นแบรนด์ชื่อดังระดับโลก แต่ด้วยยอดขายที่ลดลงในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องดำเนินแผนการฟื้นฟูและกระตุ้นยอดขายเพื่อให้แบรนด์สามารถไปต่อได้ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังซบเซา การที่ Harley-Davidson มียอดขายลดลงนั้นหลัก ๆ เกิดจากเรื่องกำแพงภาษีที่สูงขึ้นซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำให้ไตรมาสสุดท้ายในปี 2018 อยู่ในจุดที่เกือบจะขาดทุน ทำให้แบรนด์ต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อกระตุ้นการเติบโตของยอดขายทั้งในและต่างประเทศ และคำตอบที่ได้คือพลังงานไฟฟ้า ในที่สุด Harley-Davidson ได้จัดแสดงนวัตกรรมมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ภายใต้ชื่อ LiveWire ในงาน Consumer Electronics Show (CES 2019) เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา พร้อมกับเผยรายละเอียดฟังก์ชันการทำงานของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและทิศทางของ Harley-Davidson ในยุคใหม่ หลังจากที่รถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์เคยปรากฏอยู่ในหนังซูเปอร์ฮีโร่ค่าย Marvel มาแล้วใน Avengers: Age of Ultron มอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของ Harley-Davidson จะเป็นรถแบบไม่มีคลัตช์เพื่อการควบคุมที่ง่ายขึ้น และดึงดูดนักขับรุ่นใหม่ ส่วนของฟีเจอร์นั้นเรียกได้ว่าจัดเต็มด้วยอัตราเร่งจาก 0 – 60 ไมล์ต่อชั่วโมง