ทุกวันนี้เรื่องการเขียนด้วยปากกาดินสอ ถ้าไม่นับการเซ็นบัตรเครดิตก็แทบไม่ค่อยได้ใช้งานกันเท่าไหร่ เนื่องจากนวัตกรรมส่วนใหญ่มันอำนวยความสะดวกให้เราเหลือเกิน ทั้งการเขียนผ่านเสียง หรือการขยับนิ้วพิมพ์แล้วมีโปรแกรมช่วยสะกดเดาข้อความให้ก่อนที่เราจะพิมพ์เสร็จ ประกอบกับการรณรงค์ paperless เพื่อช่วยเรื่องภาวะโลกร้อนด้วย สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลให้นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนอยากเข้ามาพัฒนานวัตกรรมกระดาษมหัศจรรย์ขึ้น ล่าสุดวารสาร ACS Applied Materials and Interfaces ได้ตีพิมพ์เรื่องนวัตกรรมกระดาษมหัศจรรย์ รีเฟรชตัวเองให้เขียนได้ไม่หยุดและไม่ต้องขยำลงถัง โดยเป็นผลงานการวิจัยของทีมนักวิจัยชาวจีน นำโดย Luzhuo Chen หนึ่งในผู้นำทีมวิจัยจาก Fujian Normal University ใช้หลักการที่เราคล้ายกับหมึกลบได้ โดยเอาเรื่องอุณหภูมิมาเป็นกุญแจสำคัญในการประดิษฐ์ ด้วยการนำกระดาษธรรมดามาเคลือบด้านหนึ่งด้วยสาร thermochromic (สารที่เปลี่ยนสีเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยน) ย้อมสีน้ำเงิน นำมาเคลือบกระดาษด้านหนึ่ง และเคลือบผิวด้านอื่น ๆ ด้วยผงหมึกสีดำจากเทคนิค Photothermal ที่ใช้วิธีซับแสงเป็นพลังงานความร้อน หลักการใช้งานจะเป็นการใช้กระดาษใบนี้ร่วมกับ heat-emitting pen (ปากกาความร้อนหรือปากกาแสง) จากนั้นเมื่อหมึกได้รับความร้อนจะเปลี่ยนสีบริเวณที่ถูกย้อมให้สว่างขึ้น เผยให้เห็นผิวกระดาษสีขาวด้านล่าง ซึ่งในอนาคตมันจะสามารถใช้งานได้กับเครื่องปรินต์แสง ทำให้เราประหยัดหมึกไปในคราวเดียว ทีเด็ดที่มันทำได้เหนือกว่านวัตกรรมในอดีตก็อยู่ที่การจัดการให้อยู่ได้นานและจำนวนครั้งที่ใช้งานได้ซึ่งพอเห็นแล้วออฟฟิศเราก็อยากอุดหนุนเหมือนกัน เพราะนักวิจัยเขาประดิษฐ์ให้มันสามารถเก็บไว้ระยะเวลานานสุด ๆ โดยกว่าข้อความหรือภาพจะลบเลือนกลับไปเป็นสีฟ้าทั้งแผ่นจะต้องเจอกับอุณหภูมิที่เย็นถึง 14 องศาฟาเรนไฮน์ หรือ 10 องศาเซลเซียส ซึ่งแน่นอนว่าเราเก็บไว้ในออฟฟิศได้สบาย ๆ
ในปัจจุบันเทรนด์เรื่องรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ Electric Vehicles กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง และสร้างความตื่นตัวให้แก่วงการรถยนต์อย่างต่อเนื่อง ทำให้แบรนด์ดังหลายค่ายต่างก็เปิดตัวโมเดลรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า พากันตบเท้าเข้าแข่งขันในตลาดยานยนต์กันอย่างคึกคัก ค่ายรถสี่ห่วงที่รู้จักกันดีอย่าง Audi คืออีกหนึ่งแบรนด์ที่กระโจนเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ส่งรถรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Audi e-tron GT รถยนต์กึ่ง Crossover รุ่นที่สามจากตระกูล e-tron พร้อมเผชิญหน้ากับคู่แข่งในตลาดรถพลังไฟฟ้าเจ้าดังอย่าง Tesla Model S แต่มุ่งไปในตลาดสปอร์ตซีดานมากกว่า รถ Passenger และ SUV แบบเทสล่า Audi e-tron GT เกิดจากความร่วมมือของสองยักษ์ใหญ่อย่าง Audi Sport และเจ้าชายกบแห่งวงการสปอร์ตคาร์อย่าง Porsche ที่เป็นบริษัทเครือเดียวกันทั้งที จึงได้เปรียบจากการแชร์ความรู้และเทคโนโลยีร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มแบตเตอร์รี่ให้มีรูปแบบเดียวกับ Porsche Taycan สามารถขับเคลื่อนระยะทางไกลได้กว่า 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง และรองรับการชาร์จไฟแบบเร่งด่วนได้ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 20 นาที รวมไปถึงตัวถังแบบไฟฟ้า (EV) ที่เรียกว่า J1 ซึ่งทางออดี้ยังไม่เปิดเผยข้อมูลมากนัก และลือกันว่าตัวถังดังกล่าวจะช่วยเซฟงบประมาณในการพัฒนาไปได้กว่าร้อยล้านยูโร หรือว่าสามพันล้านบาทเลยทีเดียว ด้านสมรรถนะในการขับขี่เรียกได้ว่ามันส์สะใจสไตล์ audi แน่นอน ใส่มาอย่างเต็มที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขุมกำลังแรงเทียบเท่า 590
เป็นเวลาราว 2 ปีเห็นจะได้ นับตั้งแต่วันที่ DJI เริ่มนำเทคโนโลยีกันสั่นมาใส่ใน Gimbal และเรียกมันว่า ‘Osmo’ เป็นเหมือนไม้กายสิทธิ์คู่ใจคนถ่ายวีดีโอ ด้วยความสามารถในการกันสั่นที่นิ่งราวกับจับวางแม้คนถ่ายจะมือสั่นเป็นเจ้าเข้า ทำให้ Osmo ได้การตอบรับอย่างกว้างขวาง นำไปสู่การพัฒนา Gimbal กันสั่นรุ่นใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เทคโนโลยีของ Osmo พัฒนาจากกันสั่นสำหรับกล้อง DSLR สู่ Smartphone และวันนี้ DJI ได้พัฒนาไปอีกขั้นกับ Osmo ขนาดเล็กเท่าฝ่ามือที่เหมาะสำหรับตากล้อง Online, Blogger และ YouTuber ยุคนี้สุด ๆ กับ DJI Osmo Pocket กล้องที่มีจุดเด่นด้วย 3-axis stabilized handheld camera มากับกันสั่นสามแกนในขนาดเล็กที่สุดเท่าที่ DJI เคยสร้างสรรค์มา ด้วยความสูงเพียง 4 นิ้ว หนักเพียง 116 กรัม พร้อมเก็บใส่กระเป๋าได้สมชื่อ Osmo
หลายแนวคิดและธรรมเนียมของญี่ปุ่นคือสิ่งที่เราชื่นชอบ เพราะส่วนใหญ่เน้นความเรียบง่ายแต่ให้ลายละเอียดลงลึก จึงไม่แปลกที่คอนเซ็ปต์นี้จะถูกส่งต่อมาเป็นเรื่องราวของโปรดักส์แทบทุกชิ้น เช่นเดียวกับตัวนี้ที่เราเพิ่งไปเจอมาคืออุปกรณ์อัจฉริยะหน้าตาเรียบ ๆ ทำจากแผงไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ใช้ชื่อว่า “Mui” Mui คืออุปกรณ์อัจฉริยะลูกผสมระหว่าง ความเชื่อและความไฮเทคมารวมกันอย่างลงตัว ซึ่งความเชื่อมาในรูปแบบของวัสดุที่ใช้แผ่นไม้ เชื่อมโยงกับวลีในภาษาญี่ปุ่นที่ว่า “Kuwabara kuwabara” (桑原桑原) หรือเคาะไม้แล้วจะกันโชคร้ายได้ นำมารวมกับความทันสมัยด้วยการออกแบบให้ไม้นั้นแสดงไฟ Led ขึ้นเป็นอักษรหรือภาพในระบบ interactive ที่สามารถตอบสนองความต้องการได้ MUI ทำอะไรได้บ้าง? เปลี่ยนบ้านให้เป็นสมาร์ตโฮมที่จะทำให้คุณใกล้ชิดกับคนในครอบครัวมากขึ้น ควบคุมได้ทั้งแสงไฟและอุณหภูมิของฮีทเตอร์ในห้อง เป็นอุปกรณ์สื่อสารสำหรับคนในครอบครัว เพื่อใช้ติดต่อกัน ให้ข้อมูลสภาพอากาศ ปฏิทิน หรือนาฬิกา โดยไม่ต้องจับมือถือบ่อย ๆ ทำหน้าที่เป็นสมาร์ตโฟนสำหรับ Google Home และ Alexa ตอนแรกเราเองก็สงสัยว่าแค่เป็นไม้แล้วอย่างไร มันต่างจากการใช้กระจกหรือจอ Led ปกติ Google home หรือ Alexa ตรงไหน คำตอบมันอยู่ที่คอนเซ็ปต์การผลิตที่ผู้ผลิตเขาต้องการให้มันเป็นอุปกรณ์แห่งอนาคตไว้ลดความว้าวุ่นใจเวลาใช้งานโลกออนไลน์หันมาใช้เวลาร่วมกัน ด้วยรูปลักษณ์เรียบ ๆ เป็นเพียงแผ่นไม้ของมัน ที่พอเราไม่ไปสัมผัสมันก็กลับเป็นแผงไม้ปกติเหมือนเก่าจึงทำให้เราหันกลับไปโฟกัสกับคนด้วยกันมากกว่า ชนิดที่ว่าเราจะไม่ไปนั่งพะวงกับการใช้งานมันบ่อย ๆ เหมือนตอนใช้อุปกรณ์ตัวอื่นเพราะส่วนใหญ่พอเรากดมือถือไปเพื่อใช้งานฟังก์ชันเหล่านี้
ผลงานสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอดีตของ Apple ชิ้นนึงซึ่งหลายคนเสียดายที่มันต้องหายไปจากตลาด แต่ด้วยฟังก์ชันที่ทดแทนกันได้ง่าย ๆ ด้วยการรวมเข้ากับ iPhone ทำให้ iPod เครื่องเล่น MP3 Music Player ไม่มีที่ยืนในแผงสินค้าของ Apple Store อีกต่อไป แต่ด้วยความผูกพันที่โตมาพร้อมกันตั้งแต่ Classic iPod รุ่นแรก จึงทำให้ Designer ชาวเกาหลีเกิดปิ้งไอเดียออกแบบ Apple Watch case ที่ทำให้มันกลายเป็น iPod ได้ แม้จะแค่คล้าย ๆ ก็ยังดี Yeonsoo Kang นักออกแบบชาวเกาหลีได้ปล่อยโปรเจคที่ทำงานร่วมกับ Caseology บริษัทผู้ผลิตเคสสำหรับ Apple Product มากมายหลายชนิด รวมถึง Apple Watch ที่น่าสนใจชิ้นนี้ด้วย ซึ่งลักษณะเป็นซิลิโคนสีขาวที่มาพร้อม Click Wheel แบบใน iPod ซึ่งแม้เวอร์ชันปัจจุบันจะใช้งานปุ่มเหล่านี้ไม่ได้ ยังคงต้องสั่งงานด้วยการกดหน้าปัดนาฬิกา เป็นเพียงดีไซน์ที่สร้างสีสันให้ Apple Watch
ก่อนหน้านี้ Hublot (อูโบลท์) เคยสร้างมาตรฐานนาฬิกาที่ทั้งโดดเด่นสวยงามและป้องกันรอยขีดข่วนได้ยอดเยี่ยมระดับโลก กับ Hublot Magic Gold ที่ใช้ทอง 24K ในการผลิตตัวเรือนมาแล้ว วันนี้ Hublot เปิดตัวนาฬิกาที่น่าประทับใจและน่าเก็บสะสมใน Collection อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้มีทั้งความหรูหรา และความโดดเด่นที่ชาว Streetwears สามารถสวมใส่เข้าได้กับหลายสไตล์แน่นอน โดยเฉพาะคนที่ชอบแต่งตัวโทนแดงของ Supreme เพราะ Hublot Big Bang Unico “Red Magic” สีแดงเรือนนี้เป็น Limited Edition ที่เท่สุด ๆ ไปเลย Hublot Big Bang Unico 45mm. เรือนนี้ผลิตด้วยวัตถุดิบ Ceramic ที่ไม่ธรรมดา เพราะเป็น Vivid-Red Ceramic Structure หรือเซรามิกสีแดงสดตัดโทนดำบริเวณหน้าปัด ปุ่มกด และเม็ดมะยม ซึ่งเป็นขั้นตอนการผลิตครั้งแรกของโลก ไม่ว่าใครเห็นนาฬิกาเรือนนี้จากมุมไหน คงต้องหันมามองให้ความสนใจระดับ Big Bang สมชื่อ ตัวเรือนน้ำหนักเบาจากเซรามิกที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนกว่าวัตถุดิบชนิดอื่น
APPLE® ได้ประกาศเปิดตัว MacBook Air 2018 ในงาน Apple Special Event ในกรุงนิวยอร์กพร้อมกับ iPad Pro และ Mac mini แต่แน่นอนว่าไฮไลท์คือ RE-Design ใหม่ของซีรีส์ MacBook Air ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ในกับวงการ Laptop ได้ทุกครั้งในการเปิดตัวแต่รอบนี้จะพัฒนาชิ้นส่วนไหนบ้างตามไปดูกัน DESIGN MacBook Air 2018 มาพร้อมหน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว จอภาพขยายใกล้ขอบมากขึ้น ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมที่ผ่านการรีไซเคิลมาใช้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นแนวคิดเพื่อสิ่งแวดล้อม และเป็นรุ่นแรกที่มีการใช้ในสายการผลิต นอกจากนี้ยังถูกออกแบบให้รูปทรงบางขึ้นกว่ารุ่นเดิมอีกด้วย ด้านข้างตัวเครื่องมีช่อง USB-C Thunderbolt 3 ที่ถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้นจำนวน 2 พอร์ต พร้อมกับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร โดยทั้งหมดมีน้ำหนักรวมกัน 2.75 ปอนด์ (1.24 กิโลกรัม) ลดลงจากรุ่นเดิม 10 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีการอัพเกรดคีย์บอร์ดให้เป็นรุ่น Butterfly Keyboard Gen 3 เหมือนใน MacBook
ถ้ามนุษย์สามารถจินตนาการได้ สิ่งนั้นก็สามารถเป็นจริงได้ คำพูดที่น่าจะเป็นเรื่องดีถ้าในอนาคตอันใกล้จะได้เห็น DX-12 Snubnose Double-Barreled Shotgun สุดล้ำกระบอกนี้ถูกผลิตออกมาวางขาย เพราะดูยังไงมันก็เท่ล้ำเหมือนพุ่งออกมาจากหนัง The Punisher ยังไงยังงั้น และนี่ก็เป็นเหตุผลที่มันมีชื่อเล่นว่า ‘The Punisher’ DX-12 ผลงานการออกแบบของ Ivan Santic เป็นปืน Shotgun ที่เห็นได้ชัดว่ารับแรงบันดาลใจมาจาก Glock pistol แบบเต็ม ๆ ด้วยลายเส้น สันเหลี่ยมคมทั่วทั้งกระบอกที่คมชัดกว่า Shotgun ทั่วไป รวมถึงการออกแบบกลไก Snubnose ซึ่งหมายถึงส่วนครอบนกสับ อาจจะมีนกที่สั้นหรือไม่มีนกเลยก็ได้ (มีแต่ซ่อนอยู่ด้านใน หรือเรียกว่า นกใน) เพื่อป้องกันปัญหานกสับเกี่ยวกับเสื้อผ้าสิ่งของ เหมาะสำหรับพกพาติดตัวในเสื้อผ้าแบบ EDC (Everyday Carry) พบเห็นได้มากในกลุ่มปืนลูกโม่หลากหลายยี่ห้อ เช่น Smith & Wesson, Colt, Ruger, Taurus, แต่มีข้อเสียคือปืนสะบัดแรง และระยะหวังผลจำกัด แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะ Snubnose บางรุ่นก็แรงจนน่าใจหาย อย่างเช่นตระกูล .357 Magnum หรือ .44 Magnum
Leica มักจะมีกล้อง Limited Edition ออกมาเสมอ ๆ ในโอกาสสำคัญ ๆ เช่นเดียวกับการเตรียมเปิด Leica Store สาขาใหม่ใน Vienna ประเทศ Austria และเพื่อเป็นการฉลองให้กับโอกาสพิเศษครั้งนี้ Leica จึงได้นำเสนอกล้องตัวใหม่ล่าสุดในโทนสีพิเศษที่หรูหราน่าสะสมเข้าไปในตู้เก็บกล้องอีกตัว Leica M10-P Vienna Bold Grey Limited Edition กล้องตระกูล M เสียงเงียบกริบโมเดลล่าสุดจากค่ายจุดแดง ที่มากับสเปค Full-frame 24-megapixel sensor พร้อม Maestro II image processor, Shutter Speed สูงสุด 1/4000, ISO range 100 – 50,000 ซึ่งชาว Leica หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่ที่พิเศษคือบอดี้ทองเหลืองอันแข็งแกร่งภายใต้สีเทา Bold Grey สุดหรูหราไม่ซ้ำใคร จับคู่กับเลนส์ Summicron 35mm f2
เดินเข้าสู่ปีที่ 50 สำหรับอัลบั้มในตำนานของสี่เต่าทองที่รู้จักกันในชื่อ The White Album เพราะนอกจากต้นสังกัดอย่าง Apple Records จะมีแผนในการ Re-master อัลบั้มออกมาวางขายอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้แล้ว พวกเขายังมีโปรเจกต์ปล่อยของที่ระลึกสุดเท่เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่สร้างเพื่อฉลองครบรอบครึ่งศตวรรษของ Iconic Album ในชื่อ 2Xperience SB Turntable : The Beatles White Album Edition อีกด้วย The White Album คือสตูดิโออัลบั้มที่ 9 ของ The Beatles ถูกปล่อยออกมาครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน ปี 1968 จริง ๆ แล้วชื่อของอัลบั้มคือ The Beatles (เดอะบีเทิลส์) เหมือนชื่อวงแต่เพราะการเปิดตัวพร้อมปกอัลบั้มสีขาวล้วนไร้ลวดลาย แฟนเพลงเลยติดปากเรียกกันว่า The White Album แทน หน้าปกสไตล์ Minimalist ชิ้นนี้ถูกออกแบบโดย Richard Hamilton ศิลปินแนว Modern Art