บ่งบอกเอกลักษณ์ให้ชัดเจนไปอีกขั้น พร้อมฉลองครบรอบ 40 ปี G-Shock ด้วยโมเดลที่เหมาะสำหรับการสะสมที่สุดแห่งปี “Full Metal Polychromatic Accent Series” ดีไซน์ไล่ระดับสีที่ออกแบบอย่างประณีตทุกขั้นตอน ตั้งแต่กรอบโครงสร้างภายนอก ผ่านขั้นตอนการขัดเงาด้วยเทคนิคพิเศษแบบ Hairline สุดพิถีพิถันบน GMW-B5000 และ GM-B2100 FULL METAL ที่ใช้วัสดุโลหะทั้งตัวเรือน G-Shock FULL METAL Series ขึ้นชื่อเรื่องการเลือกใช้วัสดุที่ทันสมัยและทนทาน โครงสร้าง shock-resistant structure และ water resistance กันฝุ่นกันน้ำ ผ่านกระบวนการออกแบบเฉพาะที่เรียกว่า CMF (Color, Material, and Finish) เสริม Resin กันสะเทือนระหว่างตัวเครื่องกับขอบ bezel อีกชั้น ข้อต่อ joint เชื่อมสายกับเคสด้วยระบบ tripod structure เสริมประสิทธิภาพกันกระแทกได้ทั่วทั้งเรือน กันน้ำได้ลึกถึง 20 ATM (200
Rolex Submariner หนึ่งในเบญจภาคีของ Rolex ที่นักสะสมทุกคนต้องมี แต่ย้อนไปในปี 1953 ปีที่ Rolex Submariner Reference 6204 วางขายเป็นครั้งแรกในฐานะนาฬิกา Dive watches ธรรมดาที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Rolex Datejust Turn-O-Graph 6202 ปีนั้นมี Rolex Submariner ออกมาทั้งหมด 3 Reference ในเวลาไล่เลี่ยกัน คือ Reference 6200, Reference 6204, Reference 6205 ซึ่งแม้จะไม่เป็นทางการ แต่มีการฟันธงว่า Ref 6204 น่าจะเป็นรุ่นแรกสุดที่วางขายแบบ commercial release เพราะมี serial number บนเคสระบุช่วงเวลา “II.53” แต่จะไม่มีการระบุความสามารถในการกันน้ำ เพราะเข้าใจว่ายุคนั้น Rolex ยังไม่สามารถพิสูจน์ depth rating ของ Ref 6204
อุปกรณ์ทำมาหากินที่สำคัญไม่แพ้อวัยวะในร่างกายของเราได้เดินทางมาพร้อมชิปตระกูล M3 แบบใหม่หมด นั่นคือ M3, M3 Pro และ M3 Max ซึ่งโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม GPU เจเนอเรชั่นถัดไปและ CPU ที่เร็วขึ้น จึงทำให้ชิปตระกูล M3 มีประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้นและนำความสามารถใหม่ๆ มาสู่ MacBook Pro MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว ใหม่ พร้อมชิป M3 นั้นไม่เพียงแค่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่ยังคงประสิทธิภาพที่เหนือชั้นได้ต่อเนื่องขณะใช้งานแอปและเล่นเกมระดับโปร จึงเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับครีเอทีฟไฟแรง นักเรียนนักศึกษา และเจ้าของธุรกิจด้วยราคาเริ่มต้น 59,900 บาท MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว พร้อมชิป M3 Pro มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและรองรับหน่วยความจำแบบรวมเพิ่มมากขึ้น จึงสามารถรับมือกับเวิร์กโฟลว์ที่หนักขึ้นสำหรับผู้ใช้ในกลุ่มนักเขียนโค้ด ครีเอทีฟ และนักวิจัย ในขณะที่ MacBook Pro รุ่น
คอมพิวเตอร์แบบออลอินวันที่ดีที่สุดในโลกรุ่นนี้น่าใช้มากขึ้นไปอีกด้วยชิป M3 และมีประสิทธิภาพดีขึ้นสูงสุด 2 เท่า มาพร้อมกับดีไซน์บางเฉียบและจอภาพ Retina 4.5K ที่ใหญ่เต็มตา เปิดตัวสักที ข่าวดีสำหรับคนที่เฝ้ารอเตรียมถอย iMac 24 นิ้วรุ่นใหม่หลังจากใช้ชิป M1 มานานหลายปี วันนี้เรามีชิป M3 อันน่าทึ่ง และทำให้คอมพิวเตอร์แบบออลอินวันที่ดีที่สุดในโลกรุ่นนี้ทรงประสิทธิภาพและทำอะไรได้มากขึ้นไปอีก ด้วยความสามารถของ Apple silicon ในด้านการประหยัดพลังงาน iMac รุ่นใหม่จึงมีประสิทธิภาพเหนือกว่าเดิมแบบก้าวกระโดด ดีไซน์บางเฉียบสะดุดตาใน 7 สีสันสดใสที่ผู้ใช้ทุกคนชื่นชอบ iMac ที่มี M3 ทำงานได้เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นเดิมที่มี M1 และสำหรับผู้ที่อัปเกรดมาจาก iMac ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel เครื่อง iMac รุ่นใหม่นี้ทำงานได้เร็วขึ้นสูงสุด 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่น 27 นิ้วที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และเร็วขึ้น 4 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นที่ทรงพลังที่สุดของขนาด 21.5 นิ้ว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับจอภาพ Retina 4.5K
หลายคนน่าจะได้ครอบครอง iPhone 15 อยู่ในมือกันเรียบร้อยแล้วตอนนี้ แต่หลายคนอาจยังลังเลว่าจะไปต่อหรือรอก่อนดี วันนี้เราขอมาแชร์ประสบการณ์ที่ได้รับจากการใช้งาน iPhone 15 Pro Max หลังจากผ่านไป 72 ชั่วโมงให้ดูกันแบบไว ๆ จากการใช้ทำงานเน้นถ่ายรูป แต่งรูป และอัพโหลดขึ้น Social Media เท่านั้น ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับหลายคนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ถือใช้งานรู้สึกได้ว่าน้ำหนักเบาลง ขอบทนต่อการขูดขีดกว่าวัสดุเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน สมแล้วที่ใช้ไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ และใช้โลหะผสมแบบเดียวกับที่ใช้ในยานอวกาศสำหรับภารกิจดาวอังคาร แต่รู้สึกว่าจะร้อนกว่า 14 Pro Max หลังจากใช้ไปนาน ๆ กล้องและเลนส์พัฒนาดีขึ้นมาก กล้องหลัก 48MP บวกกับ sensor ที่ใหญ่ขึ้น (ใหญ่กว่า 15 Plus และ 14 Pro Max) ให้ resolution สูงขึ้น รายละเอียดของรูปที่ครบและคมชัด สามารถ crop ใช้งานได้ลึกสุดใจโดยภาพไม่แตก ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นด้วย (ดูได้จากรูปงาน Negroni Week
Apple เปิดตัว iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ที่ได้รับการออกแบบมาด้วยไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศที่ทั้งแข็งแกร่งและเบา จนได้เป็นรุ่น Pro ของ Apple ที่เบาที่สุดเท่าที่เคยมีมา ดีไซน์ใหม่ดังกล่าวยังมาพร้อมขอบมนและปุ่มแอ็คชั่นที่ปรับแต่งได้ ผู้ใช้จึงปรับแต่งประสบการณ์ iPhone ได้ตรงความต้องการ การอัปเกรดกล้องที่ทรงพลังมอบคุณสมบัติเทียบเท่าเลนส์ระดับโปร 7 ตัว ที่ให้คุณภาพของภาพอันน่าทึ่ง รวมทั้งระบบกล้องหลัก 48MP ที่ล้ำยิ่งขึ้นไปอีกที่ตอนนี้รองรับค่าเริ่มต้นความละเอียดสูงเป็นพิเศษแบบใหม่ที่ 24MP และยังรองรับการถ่ายภาพบุคคลเจเนอเรชั่นถัดไปที่มีคุณสมบัติการควบคุมโฟกัสและระยะชัดลึก มีการปรับปรุงโหมดกลางคืนและ HDR อัจฉริยะ และยังมีกล้องเทเลโฟโต้ 5 เท่าแบบใหม่หมด พิเศษเฉพาะใน iPhone 15 Pro Max นอกจากนี้ชิป A17 Pro ยังปลดล็อคประสบการณ์การเล่นเกมและประสิทธิภาพระดับโปรให้เหนือไปอีกขั้น เช่นเดียวกับขั้วต่อ USB‑C ใหม่ที่เร็วสุดแรงด้วยความเร็วของ USB 3 ที่เร็วกว่า USB 2 สูงสุด 20 เท่า
AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ที่มาพร้อมการชาร์จด้วย MagSafe (USB-C) ซึ่งทำให้หูฟังที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกดียิ่งขึ้นไปอีก AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ยังคงพัฒนาระบบการฟังเสียงส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง โดยถ่ายทอดคุณภาพเสียงที่น่าทึ่ง พร้อมการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึงสองเท่า โหมดฟังเสียงภายนอกสุดล้ำ ประสบการณ์ระบบเสียงตามตำแหน่งที่เต็มอิ่มสมจริงยิ่งขึ้น และจุกหูฟังหลายขนาดเพื่อให้สวมใส่ได้พอดียิ่งขึ้น AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ได้รับการอัปเกรดให้มีความสามารถในการชาร์จด้วย USB-C การทนฝุ่นเพิ่มเติม และเสียงแบบ Lossless บน Apple Vision Pro iOS 17 ยังช่วยยกระดับ AirPods Pro (รุ่นที่ 2) ทั้งหมด ให้คุณสัมผัสประสบการณ์การฟังเสียงแบบใหม่ด้วยคุณสมบัติเสียงที่ปรับตามสภาพแวดล้อม และ Conversation Awareness1 ความสะดวกสบายและความทนทานที่เพิ่มขึ้น AirPods Pro รุ่นใหม่ได้รับการอัปเดตให้มีขั้วต่อ USB-C จึงสามารถชาร์จกลุ่มผลิตภัณฑ์ Mac, iPad, AirPods และ iPhone 15 ได้อย่างง่ายดายโดยใช้สายเดียว
Apple Watch Ultra 2 พัฒนาไปอีกขั้นสำหรับสายลุย นำคุณสมบัติใหม่ๆ มาสู่สมาร์ทวอตช์ที่มากความสามารถและสมบุกสมบันที่สุดของ Apple อีกทั้งยังรุดหน้าในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม Apple Watch Ultra 2 มาพร้อมกับคุณสมบัติต่างๆ ที่ผู้ใช้จะชื่นชอบในรุ่น Ultra รวมถึง SiP รุ่น S9 อันทรงพลังใหม่, คำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง” อันน่าทึ่ง, จอภาพสว่างที่สุดของ Apple, ช่วงระดับความสูงที่เพิ่มขึ้น, Siri ในตัว, คุณสมบัติค้นหาตำแหน่งที่ตั้งจริงสำหรับ iPhone และความสามารถล้ำหน้าสำหรับการผจญภัยทางน้ำ Apple Watch Ultra 2 ใช้ watchOS 10 ที่มีแอปซึ่งได้รับการออกแบบใหม่, Smart Stack แบบใหม่ ประสบการณ์การปั่นจักรยานรูปแบบใหม่และคุณสมบัติที่จะช่วยในการสำรวจที่ต่างๆ และหน้าปัด Modular Ultra ใหม่ นอกเหนือจากคุณสมบัติล้ำหน้าต่างๆ แล้ว Apple Watch Ultra 2 ยังมีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
หลายคนชอบในความคลาสสิคและอารมณ์ของรูปที่ได้จาก Polaroid แต่ของเดิมอาจจะใช้งานและดูแลรักษายาก ล่าสุด Polaroid ได้เพิ่มความทันสมัยให้กล้อง Analog Instant Camera ในรุ่น I-2 ใหม่ ที่ยังใส่ฟีเจอร์ทันสมัยให้ปรับตั้งค่าต่าง ๆ รวมถึง filter หลากหลายเพิ่มเข้ามาให้ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับคนรุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้น Polaroid I-2 ใหม่มาพร้อม shooting mode ให้เลือกถึง 6 รูปแบบ (Manual, Automatic, Aperture Priority, Shutter Priority, Self-timer, Multiple Exposure) สามารถปรับค่า Shutter speed, Aperture และระบบ AutoFocus ที่ใช้ LIDAR ranging system ทั้งล้ำและแม่นยำเทียบเท่ากล้อง digital รุ่นใหม่ในปัจจุบัน ด้านบนมีจอ OLED display แสดงค่า setting และค่าแสงจาก built-in light
นาฬิกา แอร์เมส เอช08 ถูกรังสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ. 2021 ถ่ายทอดถึงการผสมผสานระหว่างหลักการอันเข้มแข็งเข้ากับมาตรฐานระดับสูง ที่เต็มไปด้วยความหนักแน่นและลื่นไหลผ่านสัญลักษณ์แห่งผลงานออกแบบอันร่วมสมัย พร้อมด้วยสไตล์อันทรงพลังนี้ได้สร้างรูปเป็นดั่งวัตถุที่ถ่ายทอดไว้ทั้งหมดระหว่างความสมดุลและความตรงข้ามกัน ธรรมชาติอันมีมิติที่หลากหลายจึงได้ถูกสะท้อนผ่านการนำกับรูปทรงและวัสดุมาสร้างสรรค์ ด้วยความเอาใจใส่อย่างพิถีพิถันในรายละเอียดและทักษะอันแม่นยำซึ่งผนึกรวมกันสู่เอกลักษณ์หนึ่งเดียวของความสปอร์ตและความสง่างาม พร้อมทั้งยังมอบพลังอันมีชีวิตชีวาและสัมผัสแห่งอารมณ์ความรู้สึกของเส้นสาย เผยให้เห็นถึงสุนทรียะความสวยงามเฉพาะหนึ่งเดียว โดยถ่ายทอดบนหน้าปัดวงกลมพร้อมทั้งฟอนต์สไตล์ดั้งเดิม และหลอมรวมภายในตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมกับขอบมนอันแสนนุ่มนวล ออกแบบโดย ฟิลิปป์ เดโลตัล (Philippe Delhotal) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่ง แอร์เมส ออร์โลเฌอร์ (Hermès Horloger) นาฬิกา แอร์เมส เอช08 คือผลลัพธ์ของการผสมผสานระหว่างพื้นผิวและแร่ กับเฉดสีเข้มและสัมผัสที่เต็มไปด้วยสีสัน ผสานโดยเส้นสายเรขาคณิตที่ไม่ซับซ้อนจนเกินไป ร่วมกับสไตล์การตกแต่งทั้งแบบด้านและเงาวาว เอกลักษณ์อันโดดเด่นของผลงานล่าสุดนี้ยังได้ต้อนรับความหลากมิติแห่งเสน่ห์ของเฉดสีอันเรืองรอง ทั้งในโทนสีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน หรือสีส้ม ตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมมน หรือคุชชัน (cushion-shaped) ร่วมถ่ายทอดความทันสมัยที่ได้มาจากบล็อกของคอมโพสิต วัสดุที่มีน้ำหนักเบา แต่ยังคงความแข็งแกร่งทนทานสูง พร้อมทั้งภาพลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว โดยประกอบด้วยกลาสไฟเบอร์อะลูมิไนซ์ถักและผงชนวน ซึ่งให้เม็ดสีธรรมชาติ มอบแสงสะท้อนสีเงินอันลุ่มลึก ตัดกับขอบตัวเรือนและเม็ดมะยมเซรามิกสีดำโดดเด่น สร้างสรรค์เป็นมิติของแสงและเฉดสีที่ขับเน้นมิติอันลุ่มลึกของหน้าปัดสีคอนกรีต พร้อมทั้งตกแต่งแบบเกรนอย่างประณีตละเอียดอ่อน รวมถึงยังมอบการอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนแม่นยำโดยเข็มชี้และตัวเลขอารบิกแบบนำมาติดสีดำเรืองแสง สัมผัสของเฉดสีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน หรือสีส้มบนขอบผนึกของกระจกหน้าปัดนาฬิกา