ในปัจจุบันนี้ไม่ว่าใครก็พกกล้องติดตัวกันทั้งนั้น เพราะเพียงแค่หยิบ Smartphone ออกมาก็สามารถถ่ายรูปได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญคือกล้องเหล่านี้มันใช้ง่าย และถูกพัฒนาไปไกล แต่สำหรับคนที่หลงใหลการถ่ายภาพบางคน อาจมองว่าเสน่ห์ในการถ่ายรูปแบบเดิม ๆ มันค่อย ๆ จางหายไป เมื่อเทียบกับการใช้กล้องฟิล์ม ไม่ใช่เพียงแค่กล้องจาก Smartphone แต่กล้องดิจิตอลตัวท็อป ๆ ราคาแพง ๆ ก็ไม่อาจจะให้ความรู้สึก และรักษาขั้นตอนการถ่ายที่เป็นเอกลักษณ์แบบที่กล้องฟิล์มเคยให้เอาไว้ได้ ทำให้หลายคนอยากจะกลับมาใช้กล้องฟิล์มกันอีกครั้ง วันนี้เราจึงเอากล้องฟิล์มหลายรุ่นที่น่าสนใจมาแนะนำ Leica MP Leica MP แค่ชื่อแบรนด์ก็รับประกันความพรีเมี่ยมได้เป็นอย่างดีสำหรับผู้ที่คลั่งไคล้การถ่ายภาพ Leica MP ตัวนี้เป็นกล้องฟิล์มแมนนวลแบบมีมิเตอร์ในตัว และถึงแม้จะเป็นกล้องทีมีอายุค่อนข้างมาก แต่มันจะช่วยเรียกอารมณ์การถ่ายภาพในวันเก่า ๆ กลับคืนมาได้อย่างแน่นอน กล้อง Leica MP ยังขึ้นชื่อเรื่องของความเนี้ยบรวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงในการผลิต ความสวยงามของของบอดี้ที่เป็นอมตะเปรียบเสมือนงานศิลปะที่ใช้ถ่ายรูปได้ ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือ กลไกชัตเตอร์ที่นุ่มนวลทำให้กล้องนิ่ง เมื่อเราถือถ่ายด้วยความไวชัตเตอร์ต่ำ และที่สำคัญคือมันไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ในการทำงานแต่อย่างใด Polaroid Originals OneStep+ Polaroid Originals OneStep+ ถือเป็นกล้องอีกตัวนึงที่น่าใช้สำหรับคนที่หลงใหลในกล้องฟิล์มที่ต้องการรายละเอียดครบถ้วน โดยเฉพาะตากล้องที่ต้องการเห็นผลงานอย่างฉับไว อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth กับสมาร์ทโฟนเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย
สำหรับ Car Enthusiast ทุกคน แค่เห็นชื่อ Pininfarina ก็สามารถนึกภาพรถดีไซน์ล้ำสวยงามตามออกมาได้ไม่รู้จบ และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่สำนักออกแบบจาก Italy ดีไซน์ Driving Simulator สำหรับนักขับที่อยากซ้อมฝีมือแบบ indoor และแน่นอนว่าดีไซน์สวยล้ำนำโลกเหมือนเดิม Leggenda eClassic Driving Simulator ออกแบบและสร้างขึ้นด้วยวิธี hand-built ทั้งคัน ผลิตในโรงงาน Cambiano, Italy ซึ่งเป็น headquarter ของ Pininfarina จึงการันตีได้เรื่องการควบคุมคุณภาพในระดับสูงสุดเช่นเดียวกับการผลิตรถยนต์ที่ประณีต สร้างขึ้นเพื่อจำลองความตื่นเต้นของอารมณ์การขับขี่ในสนามแข่งด้วยรถยนต์คลาสสิค ความสวยงามของ Leggenda eClassic Driving Simulator นั้นห่างไกลจาก driving sim อื่น ๆ ที่คุณเคยเห็นมาทั้งชีวิต ส่วนบอดี้รถได้แรงบันดาลใจมาจาก Cisitalia 202 รถสปอร์ต two-seat grand tourer ที่ Pinin Farina ออกแบบในปี 40s ซึ่งเป็นรถที่สวยงามจนถูกเก็บรักษาไว้ใน
Cake ค่ายผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก Sweden เปิดตัว Makka e-moped ยานพาหนะประเภทจักรยานยนต์เบาที่กึ่งกลางอยู่ระหว่างมอเตอร์ไซค์และจักรยาน ในดีไซน์เท่สุดล้ำแถมยังใช้พลังงานไฟฟ้า ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การเดินทางใกล้ ๆ ในเมืองใหญ่เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น หลายคนอาจจะรู้จัก Cake ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน motorbike นี่จึงเป็นผลงานชิ้นแรกที่ฉีกกรอบเดิม ๆ ของแบรนด์ไปอย่างสิ้นเชิง โครงสร้างของ Makka ออกแบบอย่างเรียบง่ายแต่มีสไตล์โดดเด่น พร้อมคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยที่คนเมืองต้องการ ตัวรถผลิตจาก aluminum แบบ naked พร้อมหน้าจอ touchscreen display แสดงข้อมูลความจุแบตเตอรี่ ความเร็ว และเลือกโหมดการขับขี่ระหว่าง Extended range และ Balanced Performance มีที่วางเท้าเพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ ด้านหลังมี cargo rack พื้นที่สำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น กล่องใส่สัมภาระ ที่นั่งผู้โดยสาร หรือแม้แต่ child seat ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ขนย้ายได้ง่ายด้วยน้ำหนักตัวรวมแบตเตอรี่เพียง 59 กิโลกรัม Makka
Audemars Piguet แบรนด์เครื่องบอกเวลาชั้นสูงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้นำเสนอนาฬิการอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ 3 โมเดลใหม่ที่พัฒนาจากรุ่นดั้งเดิมในปี 1993 รังสรรค์ด้วยวัสดุที่แตกต่างกัน ได้แก่ สเตนเลส สตีล (Stainless steel) ไทเทเนียม(Titanium) และพิ้งค์โกลด์ 18 กะรัต ถึงแม้จะคงไว้ซึ่งรายละเอียดสำคัญของนาฬิการุ่นดั้งเดิม ทว่าเรือนเวลาขนาดหน้าปัด 42 มิลลิเมตรทั้ง 3 เรือนนี้มาพร้อมกลไกเซลฟ์ไวนด์ดิ้ง ฟลายแบ็ก โครโนกราฟ (Selfwinding Flyback Chronograph) คาลิเบอร์ล่าสุดจากโอเดอมาร์ ปิเกต์ รวมถึงระบบถอดเปลี่ยนสายด้วยตนเองแบบใหม่ อีกทั้งยังมีการปรับดีไซน์หน้าปัดเล็กน้อย พร้อมยังนำฝาหลังแซฟไฟร์กลับมาใช้อีกครั้งเพื่อนำเสนอกลไกโครโนกราฟซึ่งรังสรรค์อย่างประณีต แม้รังสรรค์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากนาฬิการอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ รุ่นดั้งเดิมจากปี 1993 ทว่านาฬิกา 3 เรือนใหม่ในขนาดหน้าปัด 42 มิลลิเมตร มาพร้อมกลไกเซลฟ์ไวนด์ดิ้ง ฟลายแบ็ก โครโนกราฟใหม่ล่าสุด และระบบถอดเปลี่ยนสายด้วยตนเอง อีกทั้งยังมีการปรับดีไซน์บนหน้าปัดเล็กน้อย การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย นาฬิการุ่นรอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ใหม่ทั้ง
Audemars Piguet เปิดตัวนาฬิการอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ ไดเวอร์ ขนาดหน้าปัด 42 มิลลิเมตรรุ่นใหม่ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 300 เรือน เช่นเดียวกับนาฬิการอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ ไดเวอร์ 3 โมเดลที่เปิดตัวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา นาฬิการุ่นลิมิเต็ดเรือนนี้ขับเคลื่อนด้วยคาลิเบอร์ 4308 ซึ่งเป็นกลไกเซลฟ์ไวนด์ดิ้ง (Selfwinding) ล่าสุดของโอเดอมาร์ ปิเกต์ อีกทั้งยังใช้ระบบถอดเปลี่ยนสายนาฬิกาด้วยตนเอง พร้อมดีไซน์หน้าปัดที่ตอบโจทย์ทุกการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะบนบกหรือใต้น้ำ กลไกที่พร้อมสำหรับทุกการผจญภัย นาฬิการอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ ไดเวอร์ รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น มาพร้อมกลไกอัตโนมัติแบบล่าสุดของโอเดอมาร์ ปิเกต์ พร้อมการแสดงวินาทีและการแสดงวันที่แบบ Instant-Jump คาลิเบอร์ 4308 ถูกติดตั้งพร้อมกลไกที่ช่วยมอบเสถียรภาพและความแม่นยำเมื่อปรับฟังก์ชันของนาฬิกา สเกลเวลาการดำน้ำที่แสดงอยู่บนวงแหวนด้านในที่สามารถหมุนได้ของหน้าปัดสามารถเปิดใช้งานด้วยกลไกการคลิกแบบทิศทางเดียวที่ถูกติดตั้งให้เชื่อมกับเม็ดมะยมตรงที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกา ฝาหลังแซฟไฟร์เผยให้เห็นเทคนิคการตกแต่งสุดประณีตของคาลิเบอร์ 4308 ไม่ว่าจะเป็นลาย โกตส์ เดอ เฌอแนฟ (Côtes de Genève) เทคนิคเทรตส์ ทิเรส์
งานดีไซน์ที่ดีต้องช่วยส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนให้ดีขึ้นได้ด้วย นี่คือ “UNAwheel maxi” ตัวอย่างสุดยอดงานดีไซน์จาก SupremeMotors บริษัทสัญชาติ Russian ที่ถูกพูดถึงมากจาก iF Design Award 2021 ไอเดียที่ช่วยเปลี่ยนรถเข็นคนพิการให้สามารถเดินทางช่วยเหลือตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเปลี่ยนให้เป็นยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าด้วย design concept ที่เรียบง่ายและใช้ได้กับรถเข็นที่มีอยู่ทั่วไป ไอเดียของ UNAwheel maxi คือการออกแบบส่วนขับเคลื่อนด้านหน้า เป็นส่วน add-on ที่เชื่อมต่อกับรถเข็นคนพิการได้ทุกรูปแบบ ส่วน Hardware ประกอบไปด้วยแฮนด์สำหรับบังคับทิศทาง สามารถปรับระดับได้ตามรูปร่างของผู้ใช้งาน และส่วนขับเคลื่อนที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ดึงพลังงานจาก built-in battery สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยความเร็วสูงสุด 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้งานได้ระยะทาง 30 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง วัสดุผลิตจากการผสมผสานเหล็กและพลาสติก รวมน้ำหนักเพียง 12 กิโลกรัม ขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยีการตัดแต่งที่ทันสมัย บริเวณแฮนด์ผลิตจากยาง บอดี้ด้านหลังผลิตจากพลาสติกที่ปราศจากส่วนคมและดูดซับแรงกระแทกได้ดีในกรณีเกิดอุบัติเหตุ สามารถประกอบและถอดแยกออกจากรถเข็นได้อย่างง่ายดายภายใน 30 วินาที UNAwheel maxi มีหลากหลายดีไซน์ ซึ่งเวอร์ชันที่เราเห็นเป็นไอเดียการออกแบบล่าสุดของ SupremeMotors และไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ไหน
ช่วงนี้เรากำลังนิยมนาฬิกาดีไซน์ย้อนยุคที่ถูกปลุกขึ้นมาใหม่พร้อมใส่เทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป มันให้ฟีลลิ่งความสนุกสนานที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร หลังจากเปิดตัว Pac-man x A100WEPC ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด Casio ก็ตอกย้ำกระแสความ Vintage อีกครั้งด้วยการนำ “F-100” ที่โด่งดังในปี 1978 มานำเสนอใน collection ล่าสุด “A100” หน้าปัดทรงเหลี่ยมจอดิจิทัลที่หลายคนคุ้นตาตั้งแต่วัยเด็ก หากใครเกิดไม่ทันยุค ’70s นาฬิกา Casio F-100 ในยุคนั้นเปิดตัวมาอย่างอลังการ ได้รับความนิยมอย่างสูงด้วยความแตกต่างของ resin case น้ำหนักเบา เป็นนาฬิกา digital ที่ล้ำสุด ๆ ในยุคนั้นก็ว่าได้ มันเข้าถึงภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่อย่าง Alien (1979) ที่ Ridley Scott นำ F-100 2 เรือนมาเชื่อมต่อกันเพื่อให้ดูล้ำหน้าเหมาะกับยุคอวกาศในบทภาพยนตร์ ก็ยิ่งดันให้มันดังเปรี้ยงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว Casio Vintage A100 Series นำความคลาสสิคของ F-100 นาฬิกาหน้าจอดิจิทัลระดับ Iconic ให้กลับมาใหม่อีกครั้งในรูปแบบ
หลายคนเห็นตรงกันว่าแถบไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการใช้งาน Touch Bar มากนัก และหลายคนก็อยากจะให้ MacBook Pro รองรับการใช้งาน Apple Pencil เป็นที่มาของ concept ที่พัฒนาจากข่าวลือว่า Apple จะทิ้ง Touch Bar แล้วใส่ Apple Pencil case เข้ามาแทนที่ ซึ่งถ้าเป็นจริง ก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดีและมีเหตุผลในการเปลี่ยนเครื่องใหม่มากขึ้น Concept ที่ว่านี้ไม่ใช่การนั่งเทียนเขียนออกมา แต่อ้างอิงจาก US Patent & Trademark Office ที่พูดถึงสิทธิบัตรชิ้นใหม่ของ Apple ระบุว่านวัตกรรมใหม่ของ MacBook Pro มีการเพิ่มช่องใส่ Apple Pencil แบบ built-in ในตัวเครื่อง สามารถใช้แทน mouse เพื่อขยับ cursor และคลิกใช้งานได้ โดยจะมาแทนที่ตำแหน่งบนสุดของ keyboard และจะยังคงมี F-Key รวมอยู่ในช่องใส่ Apple Pencil
ที่เห็นอยู่นี้ไม่ใช่ Spot หุ่นยนต์ทรงสุนัขจาก Boston Dynamics แต่เป็นผลงาน made in China ของ Xiaomi กับการกระโดดสู่วงการ Robotic companion ด้วยนวัตกรรมที่เรียกว่า CyberDog เป็นเครื่องยืนยันว่าไม่มีอะไรในโลกที่ Xiaomi ทำไม่ได้ แม้จะไม่ใช่คนแรกที่คิดค้น แต่น่าจะเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดัน Robot ให้ไปเข้าถึงผู้คนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น CyberDog ของ Xiaomi ถูกออกแบบให้รองรับการพัฒนาต่อยอดด้วย open-source platform สามารถเขียนคำสั่งใหม่ ๆ สอนให้ CyberDog เรียนรู้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด รอบตัวมีการติดตั้ง sensors ถึง 11 จุดในตำแหน่งสำคัญเพื่อการตอบสนองที่ละเอียดอ่อน ภายในขับเคลื่อนด้วย servo motors ช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างมั่นคงและรวดเร็ว สมอง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Xiaomi CyberDog ขับเคลื่อนด้วย NVIDIA AI supercomputer สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลรอบตัวมันได้อย่างรวดเร็วในเสี้ยววินาทีแบบ real-time พร้อมการรวมเทคโนโลยีจับภาพสิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วยความคมชัดทำหน้าที่เหมือนลูกตามนุษย์ ซึ่งจะช่วยให้
ยานพาหนะรูปทรงคุ้นตาที่พวกเราเคยเห็นในการ์ตูนและภาพยนตร์ Sci-Fi หลายเรื่อง ถูกนำมาดีไซน์ให้เป็นรูปเป็นร่างแล้ว นี่คือ “Honda BAIKU” concept ใหม่ของการเดินทางแห่งโลกอนาคต Honda BAIKU ยานพาหนะแบบ One-wheeled พลังงานไฟฟ้า ออกแบบโดย Nacho Alfonso ได้แรงบันดาลใจมาจากความนิยม Scooter ไฟฟ้าและ Monowheel ของคนเมืองที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ถูกพัฒนาให้สามารถเดินทางได้อย่างจริงจังและปลอดภัยมากขึ้นด้วยรูปแบบของ Self-balancing electric scooter ควบคุมด้วยการนั่งบนตัวถังที่สร้างบนล้อขนาดเท่ารถมอเตอร์ไซค์ มีแฮนด์ควบคุม พักเท้าช่วยบังคับทิศทางเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน การเคลื่อนที่ทำได้อย่างง่ายดายด้วยเทคโนโลยี Gyroscope เซนเซอร์ตรวจจับการองศาการเคลื่อนไหวของตัวรถ ทำงานคู่กับ Accelerometers sensors สำหรับเร่งหรือลดความเร็วตามการเอียงของทิศทางนั้น สามารถทรงตัวปรับบาลานซ์ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ล้ม เบาะนั่งสามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งานเพื่อความกะทัดรัด Honda BAIKU มีรูปทรงเป็นกล่อง ด้านหน้ามีไฟ LED daytime running light ทรงสี่เหลี่ยมเพื่อส่องสว่างในเวลากลางคืน ส่วนด้านหลังมีแผงจอแสดงผล digital พาดยาวถึงด้านบน สำหรับดูค่าความเร็ว อุณหภูมิ แผนที่ และมีช่องสำหรับ connect