สำหรับแฟนพันธุ์แท้ G-SHOCK รวมถึงใครที่หลงใหลในนาฬิกาพันธุ์แกร่งดีไซน์เท่ พร้อมขึ้นข้อไปด้วยกันได้กับทุกไลฟ์สไตล์ น่าจะเคยประทับใจในโมเดล GA-2100 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นตระกูลแกร่งอย่าง G-SHOCK DW-5000 กับงานออกแบบที่ผสมผสานระหว่างระบบอะนาล็อก และดิจิตอลเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว และต้องบอกว่าความโดดเด่นของ GA-2100 ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์ G-SHOCK GM-2110D นาฬิกา G-STEEL ที่ถ่ายทอดทุก DNA มาแบบครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์ของกรอบทรงแปดเหลี่ยม และงานดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่แข็งแกร่ง ขาดไม่ได้กับเทคโนโลยีบอกเวลา 2 ระบบทั้งอะนาล็อก และดิจิตอล พร้อมแสดงข้อมูล World Time ได้มากถึง 31 เขตเวลา ซึ่งใจความสำคัญทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ได้ถูกนำเสนอใหม่ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูเรียบหรูล้ำสมัย ด้วยกรอบสเตนเลสสตีลทรงแปดเหลี่ยมที่ได้รับการหลอมและขัดเงาอย่างพิถีพิถัน เข้ากันได้ดีกับสายโลหะดีไซน์เท่ และแน่นอนว่าตัวเรือนภายใน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของความทนทานระดับตำนานนั้นผลิตขึ้นจากเรซินคุณภาพดีเสริมใยแก้วความแข็งแกร่งสูง พร้อมลุยทุกสถานการณ์ด้วยคุณสมบัติกันน้ำลึกที่ระดับ 20 บาร์ (200 เมตร) และถึงแม้จะทนทานขั้นสุด แต่ต้องบอกว่า G-SHOCK GM-2110D นั้นไม่ได้มีบอดี้ที่ใหญ่โตเทอะทะจนเกินไป เพราะนาฬิกาเรือนนี้คือเจ้าของตำแหน่งนาฬิการุ่นผสมของ G-SHOCK ที่บางที่สุด กับความบางเพียง 11.8 มม.
บ่งบอกเอกลักษณ์ให้ชัดเจนไปอีกขั้น พร้อมฉลองครบรอบ 40 ปี G-Shock ด้วยโมเดลที่เหมาะสำหรับการสะสมที่สุดแห่งปี “Full Metal Polychromatic Accent Series” ดีไซน์ไล่ระดับสีที่ออกแบบอย่างประณีตทุกขั้นตอน ตั้งแต่กรอบโครงสร้างภายนอก ผ่านขั้นตอนการขัดเงาด้วยเทคนิคพิเศษแบบ Hairline สุดพิถีพิถันบน GMW-B5000 และ GM-B2100 FULL METAL ที่ใช้วัสดุโลหะทั้งตัวเรือน G-Shock FULL METAL Series ขึ้นชื่อเรื่องการเลือกใช้วัสดุที่ทันสมัยและทนทาน โครงสร้าง shock-resistant structure และ water resistance กันฝุ่นกันน้ำ ผ่านกระบวนการออกแบบเฉพาะที่เรียกว่า CMF (Color, Material, and Finish) เสริม Resin กันสะเทือนระหว่างตัวเครื่องกับขอบ bezel อีกชั้น ข้อต่อ joint เชื่อมสายกับเคสด้วยระบบ tripod structure เสริมประสิทธิภาพกันกระแทกได้ทั่วทั้งเรือน กันน้ำได้ลึกถึง 20 ATM (200
เข้าสู่ปีที่ 40 แล้วสำหรับ G-SHOCK แบรนด์นาฬิกาจากญี่ปุ่น ที่ไม่ว่าใครหยิบขึ้นมาใส่บนข้อมือก็จะถูกตีตราด้วยความเท่และแข็งแกร่งทันที แต่จิตวิญญาณของสิ่งนี้สำหรับ G-SHOCK มันไม่ใช่แค่การออกแบบภายนอกเท่านั้น แต่รวมไปถึงกลไกภายในด้วยที่ทำให้ DNA ของแบรนด์เดินทางผ่านกาลเวลาอย่างยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน และเรือนเวลาซีรีส์ล่าสุด CLEAR REMIX ได้จับนาฬิการุ่นยอดนิยมของ G-SHOCK มาดีไซน์ให้เป็น skeleton เป็นครั้งแรก Skeleton หน้าปัดแบบมองเห็นกลไกด้านใน นำเสนอมุมมองที่โดดเด่นของการจัดวางส่วนประกอบต่าง ๆ มีการใช้วัสดุแบบมองผ่านได้สำหรับหน้าปัด ตัวบอกเวลา และวงแหวนบนหน้าปัด การออกแบบให้การมองเห็นที่ชัดเจนของการขึ้นรูปหน้าปัดที่โดดเด่น ไปจนถึงรูปแบบของส่วนประกอบแต่ละชิ้นในตัวเรือน การพิมพ์สีดำที่ด้านล่างของหน้าปัดช่วยป้องกันการทะลุผ่านของแสงจากภายนอก ซึ่งอาจทำให้เกิดการทำงานผิดปกติ และช่วยเสริมหน้าปัดดูสวยงามน่าประทับใจ See-Through Design คือคอนเซ็ปต์ของงานดีไซน์รุ่นนี้ ความโปร่งใสราวกับคริสตัลตั้งแต่หน้าปัดไปจนถึงสายนาฬิกา มาพร้อมกับการเลือกใช้วัสดุที่พิเศษยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ทั้งการเลือกใช้เรซินเสริมใยแก้วแบบใสจนมองทะลุผ่านได้บนตัวเรือน ซึ่งเป็นวัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศได้ดีเยี่ยม ส่วนประกอบหลักที่ประกอบกันเป็นโครงสร้างป้องกันการกระแทกได้เป็นอย่างดี และดีไซน์แบบโปร่งใสก็ยังสามารถถูกจับไปแมทช์กับลุคไหนก็ดูแพงไปหมด แสดงออกถึงความโมเดิร์นที่หมุนทันโลกตลอดเวลาของแบรนด์ ต้องบอกว่า G-SHOCK Clear Remix นั้นเป็นเรือนเวลาที่เล่าภาพของการเดินทางอันยาวนานของ G-SHOCK โดยการเคารพต้นกำเนิดของตัวเอง ผ่านแนวคิดในการสร้างสรรที่เรียกว่า Philosophy Reborn ซึ่งแตกออกเป็น 2 คำหลัก
ใครที่เป็นแฟนคลับซีรีส์การ์ตูน Sci-fi สุดฮาอย่าง ‘Rick and Morty’ และได้ติดตามการผจญภัยของตัวละครหลักบน Netflix ครบทุก Epiode ต้องเป็นปลื้มกับนาฬิกา DW5600 ลายใหม่จาก G-SHOCK ซึ่งเกิดขึ้นจากการคอลแลปกันระหว่าง G-SHOCK, Warner Bros., Consumer Products และ Adult Swim พร้อมส่งความเท่แบบไม่เหมือนใครมาถึงข้อมือของเราในเดือนนี้ โดย DW5600 สีใหม่จะมาพร้อมกับลวดลายและลายเส้นที่มีแรงบันดาลใจมาจากตัวละครหลักในการ์ตูน ได้แก่ Rick และ Morty และโชว์ความโดดเด่นของโลโก้ “Rick and Morty” บนหน้าปัดสีเหลืองเขียวอันเป็นลวดลายของประตูวาร์ปสีเขียว ซึ่งเป็น ICONIC ที่ปรากฎบ่อยครั้งในซีรีส์การ์ตูนเรื่องนี้จนหลายคนจดจำมันได้ ความพรีเมี่ยมของนาฬิกาเรือนนี้ยังแสดงออกมาให้เห็นผ่านฝาหลังนาฬิกา ซึ่งมีการสลักรูปตัวละครหลักเอาไว้เป็นกิมมิค พร้อมแสง EL backlight ที่โชว์ภาพหน้า Rick และ Morty บนหน้าปัด อีกทั้งยังมาในกระป๋องลวดลายสวยงามที่ได้แรงบันดาลใจมาจากประตูวาร์ปสีเขียว พร้อมกล่องเก็บนาฬิกาลวดลายพิเศษที่เหมาะแก่การสะสมอย่างมาก สำหรับ DW5600 รุ่นนี้จะมีฟีเจอร์เหมือนกับรุ่นดั่งเดิม ได้แก่
หากตำนานนักแสดงอย่าง Bruce Lee ยังมีชีวิตอยู่ในปีนี้เขาจะมีอายุครบ 80 ปี ซึ่งค่ายนาฬิกาอย่าง Casio ต้องการให้เกียรตินักแสดงผู้ล่วงลับที่มีส่วนสำคัญในการเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้และวัฒนธรรมตะวันออกให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยนาฬิการุ่นพิเศษของค่าย Casio Bruce Lee Edition มีพื้นฐานมาจากนาฬิการุ่น MRG-G2000 เรือนเวลารุ่นไฮเอนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องวัสดุและเทคโนโลยีที่ในการผลิตออกมาเป็น Casio MRG-G2000BL-9A โดยตัวอักษร BL ต่อท้ายรหัสย่อมาจาก Bruce Lee MRG-G2000BL-9A “Bruce Lee Edition” เต็มไปด้วยงานดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากยอดนักบู๊ ตั้งแต่สีที่ใช้สายเรซินสีเหลืองและตัวเรือนสีดำตามสีชุดวอร์มในตำนานของ Bruce Lee ตอนที่แสดงในภาพยนตร์เรื่อง Game Of Death ส่วนของหน้าปัดใช้เป็นสีเหลืองและแดง ตัวแทนของ Jeet Kune do ศิลปะการต่อสู้ที่คิดค้นขึ้นโดย Bruce Lee พื้นผิวขอบตัวเรือนเคลือบด้วย Diamond Like Carbon (DLC) รับรองความทนทานต่อการขีดข่วน แกะสลักเป็นตัวอักษรภาษาจีน 12 คำหมายถึงหลักการสำคัญ 12 อย่างของศิลปะการต่อสู้ Jeet
ตั้งแต่ปลายปี 2019 มาจนถึงต้นปี 2020 อย่างตอนนี้ นอกจากหลากแบรนด์นาฬิกาจะนิยมนำโมเดลรุ่นไอคอนิกมาต่อยอดและสร้างงานดีไซน์แบบร่วมสมัยแล้ว หลายแบรนด์ยังเริ่มหันมาสนใจการผลิตนาฬิกาทหารมากขึ้นด้วย ล่าสุดแบรนด์นาฬิกายอดนิยมตลอดกาล Casio จับมือกับกองทัพอังกฤษ หรือ กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร (The United Kingdom’s Ministry of Defence) เปิดตัว ‘G-SHOCK x The British Army Mudmaster’ นาฬิกาลายพรางที่มีรูปลักษณ์เท่ดุดันแบบทหาร และใช้วัสดุแข็งแรงทนทานเพื่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายหรือท้าทาย นาฬิกาเรือนนี้ถือเป็นนาฬิกาหนึ่งในสามรุ่นพิเศษของ Casio ที่เปิดตัวในปี 2020 ใช้เคสเรซินเสริมคาร์บอนสามชั้นและ Carbon Core Guard โครงสร้างต้านแรงสั่นสะเทือนที่พัฒนาขึ้นใหม่ นำวัสดุคาร์บอนที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงทนทานมาใช้ ช่วยให้นาฬิกาเรือนนี้ทนต่อแทบทุกสภาพอากาศได้ ขณะเดียวกันผู้สวมใส่ก็สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องตัว เพราะตัวเรือนมีขนาด 53 มิลลิเมตรและน้ำหนักอยู่ที่ 92 กรัมเท่านั้น เหตุที่หน้าปัดของ G-SHOCK x The British Army Mudmaster ดีไซน์มาเป็นสีดำ เนื่องจากกองทัพอังกฤษต้องการให้ผลิตนาฬิกาที่ไม่ดึงดูดความสนใจขณะสวมใส่มากเกินไป แถมสีดำยังช่วยพรางและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมมากกว่า ตัวหน้าปัดใช้กระจก
ถือว่าเป็นปีที่ร้อนแรงมาก ๆ ของแบรนด์ Kith แฟชั่นสตรีตจากอเมริกาก่อตั้งขึ้นโดย Ronnie Fieg ดีไซเนอร์ชาวผิวสีที่มองว่าการเดินเข้าช็อปแฟชั่นสตรีตสักร้านมันควรจะมีไอเทมทุกอย่างรองรับสุภาพบุรุษสายแฟชั่น ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจับมือปล่อยคอลเลกชันเครื่องแต่งกายสุดพิเศษกับภาพยนตร์มาเฟียในตำนานจากปี 1972 เรื่อง The Godgather และแบรนด์สนีกเกอร์ New Balance ไปหมาด ๆ ล่าสุดไม่รอช้าต่อยอดกระแส ตีเหล็กตอนกำลังร้อนด้วยการจับมือกับแบรนด์นาฬิการะดับตำนานของญี่ปุ่นอย่าง Casio เพื่อสร้างสรรค์เรือนเวลา G-Shock ที่โดดเด่นกว่าใคร มีใครสักคนเคยกล่าวไว้ว่า “นาฬิกา G-Shock อาจเป็นเรื่องไกลเกินตัวที่จะทะยานเข้าสู่วงการไฮเอนด์ฯ” คนที่เอ่ยประโยคนี้อาจมองว่า G-Shock เป็นนาฬิกามหาชน สามารถสวมใส่ได้แทบทุกวัยทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เลยทำให้ G-Shock ไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ความหรูหราได้เท่าไรนัก แต่ Kith มีมุมมองแตกต่างออกไป และเจ้าของแบรนด์อย่าง Ronnie Fieg ก็มองว่าความเป็นนาฬิกามหาชนจากแบรนด์ Casio สามารถเติบโตด้วยดีไซน์หรูหราแต่ราคาเอื้อมถึงได้เช่นกัน นาฬิกา G-Shock เรือนพิเศษเกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ของ Kith x G-Shock ได้ไอเดียจาก Ronnie Fieg ที่ตัดสินใจนำโลหะมาประกอบเข้ากับเรือนเวลารุ่น DW-6900
ต้องยอมรับว่า G-SHOCK ของ Casio เป็นอีกแบรนด์นาฬิกาที่โด่งดังไปทั่วโลก และเชื่อว่าหนุ่ม ๆ สายสตรีตหรือผู้ที่ชอบแต่งตัวแบบ casual style คงหลงรักนาฬิกาจากแดนอาทิตย์อุทัยแบรนด์นี้แน่นอน เพราะนอกจากคุณภาพตัวเรือนที่ได้มาตรฐาน ยังมาพร้อมงานดีไซน์เอกลักษณ์และมิกซ์แอนด์แมตช์เข้าได้กับแทบทุกชุดของผู้ชายเรา ในปี 1995 Casio เคยเปิดตัวนาฬิกา ‘G-SHOCK DW-6900’ ที่นิยมอย่างรวดเร็วและกลายเป็นรุ่นไอคอนิกของแบรนด์ไปโดยปริยาย แถมรุ่นนี้ยังได้รับฉายาว่า “Third Eye” บ่งบอกถึงประสิทธิภาพสามด้านพื้นฐานของการออกแบบนาฬิกา ปี 2020 นี้ Casio G-SHOCK จึงฉลองครบรอบ 25 ปีของนาฬิการุ่น G-SHOCK DW-6900 พร้อมนำโมเดลดังกล่าวมาปรับโฉมและเพิ่มกรอบโลหะสุดเท่แบบใหม่เข้า ภายใต้ชื่อ ‘G-SHOCK GM-6900 Metal Bezel’ ขณะที่แบรนด์นาฬิกาคลาสสิกจำนวนมากนำเสนอกลไกแอนะล็อก แต่ G-SHOCK GM-6900 Metal Bezel รุ่นนี้กลับใช้กลไกแบบดิจิทัล ที่ไม่เพียงช่วยให้อ่านเวลาได้ง่าย หากยังใช้งานหน้าปัดในรูปแบบอื่น ๆ ได้ ที่ไม่ใช่แค่แสดงวันที่หรือเวลาปัจจุบันเท่านั้น นอกจากนาฬิการุ่นนี้จะใช้หน้าปัดที่ทำจากกระจกเงาสุดแกร่ง ตัวกรอบโลหะยังดีไซน์พื้นผิวแบบด้านมาให้เลือกสามสี ทั้งรุ่น
เรื่องความเชื่อ ตำนาน และการเล่าต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นถือเป็นสิ่งที่มีอยู่ทุกสังคมในโลก ประเทศเล็ก ๆ ที่อยู่บนเกาะอย่างญี่ปุ่นเองก็เช่นกัน พวกเขามีความเชื่อเรื่องโชคลาภ เครื่องรางเสริมโชคที่เหนียวแน่นไม่ต่างจากคนไทย แถมพวกเขายังออกแบบเครื่องรางนำโชคได้หน้าตาน่ารัก จนหลายครอบครัวแม้ไม่ใช่ร้านค้าของญี่ปุ่นยังต้องมีมาเนกิ เนโกะ (Maneki Neko) หรือแมวกวักวางรับแขกอยู่แทบทุกบ้าน มาเนกิ เนโกะ หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อของ ‘แมวกวัก’ เป็นความเชื่อที่อยู่คู่กับชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน คาดว่ามีมาตั้งแต่สมัยเอโดะโดยถูกพบครั้งแรกในศาลเจ้าแห่งหนึ่งในจังหวัดโอซาก้า แต่บางคนก็ฟังมาอีกแบบว่าแมวกวักเริ่มมาจากคุณยายยากจนที่เลี้ยงแมว เธอไม่สามารถหาเงินมาเลี้ยงตัวเองและแมวได้จึงตัดสินใจนำแมวไปปล่อย สุดท้ายคิดถึงแมวมากจนต้องปั้นตุ๊กตาแมวขึ้นมาหนึ่งตัวจนมีคนมาซื้อไปเพราะหน้าตามันน่ารัก ทำให้คุณยายปั้นตุ๊กตาแมวขายอยู่เรื่อย ๆ จนร่ำรวยและสามารถตามหาแมวที่รักกลับบ้าน เรื่องราวของแมวกวักญี่ปุ่นมีหลากหลายที่มา ทว่าความแตกต่างนั้นไม่สำคัญเท่าพอรู้ตัวอีกทีเรื่องราวที่ดำเนินมาตั้งแต่ยุคเอโดะก็หยั่งรากลึกในสังคมญี่ปุ่นไปเสียแล้ว ถ้าใครมีโอกาสไปเยือนประเทศนี้จึงมักเห็นหุ่นหรือตุ๊กตาแมวยกแขนข้างหนึ่งตลอด มีหลากสี หลายขนาด มีทั้งแบบตั้งโต๊ะกำลังดี บางตัวก็เล็กจิ๋วเป็นพวงกุญแจ แถมยังพัฒนากลายเป็นของเล่นยอดฮิตอย่างกาชาปองไปอีก ส่วนครั้งนี้แมวกวักญี่ปุ่นแหวกแนวออกมาปรากฏอยู่บนนาฬิกาคอลเลกชันพิเศษของ G-Shock! เรือนเวลาคอลเลกชันลิมิเตดไม่น่าเชื่อว่าจะมาเจอกับแมวกวักได้ ใช้ชื่อว่า G-SHOCK Limited TOKYO MANEKINEKO ออกแบบโดย BLACKEYEPATCH แบรนด์แฟชั่นชั้นนำจากกรุงโตเกียว โดยในซีรีส์นี้ประกอบด้วยนาฬิกาทั้งหมด 3 เรือน ได้แก่ GA-100 และ DW-5600 สองเรือนที่มีสีสันต่างกัน เริ่มกันที่ GA-100 สีดำสนิทแต่งแต้มด้วยสีทองหรูหรากันก่อน
PLATFORM 66 งานสตรีตเฟสติวัลครั้งแรกของประเทศไทยเพิ่งผ่านพ้นไป อีเวนต์ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและผู้คนที่หลงใหลการสร้างสรรค์แฟชั่นสไตล์ใหม่ ๆ โดยงานนี้ CASIO G-SHOCK ขนทัพนาฬิการุ่นหายากและนาฬิกา LIMITED EDITION มาจัดแสดงในงานอย่างเนืองแน่น การเปิดตัวครั้งนี้เริ่มต้นด้วยการพูดคุยกับ คิคุโอะ อิเบ ชายผู้ก่อตั้ง G-SHOCK และนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกกาลเวลา โดยเขาเดินทางมาร่วมเปิดตัวและพูดถึงแรงบันดาลใจของนาฬิกา G-SHOCK Metal Face GM-5600 หน้าเหลี่ยม และเอกลักษณ์ความเป็น ORIGINS ของ G-SHOCK พร้อมเผยแรงบันดาลใจ FROM PASION TO INNOVATION ร่วมกับ ปิ๊น-อนุพงศ์ คุตติกุล ผู้ก่อตั้งแบรนด์สตรีตชั้นนำของประเทศไทยอย่าง CARNIVAL สำหรับความร่วมมือสุดพิเศษในการสร้างคอลเลกชัน G-SHOCK x CARNIVAL™ GM-5600 LIMITED EDITION ที่มีขายเพียง 150 เรือนทั่วโลก ในงาน PLATFORM 66 ที่แรกและที่เดียวอีกด้วย โดยนาฬิการุ่นลิมิเต็ดนี้ โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดเท่ ออกแบบใหม่ด้วยกรอบสเตนเลสสตีลสีเงินและสายเรซินสีดำด้าน