“A gentleman’s choice of timepiece says as much about him as does his Saville Row suit.” – Ian Fleming เสน่ห์ของนาฬิกาข้อมือ นอกจากจะเป็นเครื่องบอกเวลาแล้ว ยังเป็นเครื่องประดับสุดหรูที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ สะท้อนถึงรสนิยม ภาพลักษณ์ รวมถึงตัวตนของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งนาฬิกาแต่ละเรือนก็มีเสน่ห์และเหมาะสมกับโอกาสการสวมใส่ที่แตกต่างกันออกไป ในอีกแง่หนึ่งสำหรับคนที่ชื่นชอบหรือสนใจนาฬิกาอยู่แล้ว การลงทุนในสิ่งที่รักและหลงใหลอย่างนาฬิกาก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้การลงทุนในด้านอื่น ๆ นี่คือโอกาสดีสำหรับผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ของเรือนเวลา เพราะ Luxetime “Luxury Watch Consignment แห่งแรกในไทย” ได้จัดอีเวนต์เพื่อแบ่งปันประสบการณ์สุด Exclusive ครั้งแรกภายใต้คอนเซ็ปต์ “Luxetime Beyond the Time” “คุณตั้ม- ชนกพล ไชยศุภรากูล”ผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง Luxetime กล่าวว่าอีเวนต์แรกของ Luxetime ครั้งนี้จัดขึ้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Timepiece จากแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ มาร่วมสัมผัสความสวยงามหรูหราเหนือกาลเวลา และยังเป็นการรวมตัวของสาวกนักสะสมที่ต่างนำนาฬิกาเรือนคู่ใจของตัวเองมาอวดโฉม พร้อมร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ภายในงานประกอบไปด้วยนาฬิกาแบรนด์หรูระดับโลกที่ยกขบวนกันมาแบบจัดเต็ม
งานศิลปะทางการเมือง Political Art ในนาม “Headache Stencil” ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่ชอบเปิดเผยหน้าสักเท่าไร แต่หลาย ๆ คนก็รู้จักเขาผ่านทางผลงานที่เล่าเรื่องคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับ ประเด็นทางการเมือง หรือประเด็นที่บางคนไม่กล้าพูดถึง รับรองว่าใครที่เขาได้ mention ถึงในผลงานได้มีอาการ “ปวดหัว” เป็นแน่แท้ ก่อนหน้านี้หลังจากที่เขาปล่อยผลงานที่แสดงถึงการต่อต้านเผด็จการ จึงถูกคุกคามจากกลุ่มคนนิรนาม ถึงบ้านพัก บางครั้งก็ถูกขับรถตาม เรียกได้ว่า “บ้าน” ก็ยังไม่ปลอดภัยสำหรับเขา ยิ่งถูกคุกคามมากเท่าไร เขายิ่ง “พร้อมจะตีแผ่ความจริงของประเทศให้โลกได้รับรู้มากเท่านั้น” การพูดความจริงไม่สามารถพูดได้ในที่สาธารณะ แต่เขายังคงยืนหยัดที่จะสร้างผลงาน เพื่อต่อต้านเผด็จการ หรือประชาธิปไตยจอมปลอมต่อไป โดยผลงานของเขาได้ถูกสื่อต่างประเทศอย่าง reuters ตีแผ่เพื่อให้โลกได้รับรู้ และถูกขนานนามว่าเป็น Banksy (ศิลปินชาวอังกฤษ) แห่งเมืองไทย และล่าสุด การตีแผ่ความจริงทางการเมืองในเชิงศิลปะ ของเขาถูกจัดแสดงขึ้นที่ สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ซึ่งคิดว่าเป็นเพราะ เพื่อไม่ให้ถูกแทรกแซงจากกลุ่มบุคคลอื่น และเป็นที่สนใจของสื่อต่างประเทศเป็นอย่างมาก ภายใต้ชื่องานที่ว่า ดู-ดาย (Do or Die) : HEADACHE STENCIL SOLO
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบไปทั่วโลกและทำให้ผู้คนในหลายประเทศต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อความปลอดภัยของตัวเองในขณะเดียวกันวิถีชีวิตแบบปกติใหม่หรือ New Normal ก็ได้สร้างช่องทางการเชื่อมต่อระหว่างผู้คนกับโลกภายนอกที่เรียกว่า Virtual Event ขึ้นมาพร้อมกัน Virtual Experience หรือการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงเริ่มเข้ามามีบทบาทกับชีวิตคนเราเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกับชีวิตยุค New Normal หลังการแพร่ของไวรัสโควิด-19 เมื่อมนุษย์ต่างหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน เพราะยังคงกลัวความเสี่ยงจากโรคติดต่อส่งผลให้งานอีเวนต์และการรวมตัวกันของผู้คนต้องหยุดชะงักไปด้วย Virtual Event จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญแถมยังทำหน้าที่ได้ดีอีกด้วย วันนี้เรามาแนะนำ Virtual Event ดี ๆ ที่ผ่านมารวมไปถึงอีเวนต์ที่ไม่ควรพลาดซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ จะมีอีเวนต์เจ๋ง ๆ แบบไหนรออยู่บ้างมาชมไปพร้อมกันเลย นอนชมภาพเขียนระดับโลกอยู่บ้านผ่าน “Virtual Tour” ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ช่วงกักตัวอยู่บ้านหลายเดือนที่ผ่านมาผู้ที่ชื่นชอบการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และผลงานศิลปะสามารถเข้าไปเดินชมพิพิธภัณฑ์ระดับโลกอย่างพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ผ่านหน้าจอได้อย่างใกล้ชิด พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) พิพิธภัณฑ์ที่เป็นเหมือนจุดหมายสำคัญของคนที่หลงใหลผลงานศิลปะได้เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์แบบ “Virtual Tour” ผ่านกล้องมุมมอง 360 องศาที่เผยให้เห็นรายละเอียดทุกส่วนภายในตัวอาคารที่รวบรวมผลงานศิลปะเอาไว้มากกว่า 30,000 ชิ้น การทัวร์พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ช่วยให้เราได้ชมผลงานระดับ Masterpiece จำนวนมากแต่ที่พลาดไม่ได้คงจะเป็นภาพเขียน Mona Lisa ของศิลปิน เลโอนาร์โอ
ผ่านไปแล้วสำหรับงานรวมตัวประจำปีครั้งใหญ่ของคนรักบีเอ็มดับเบิลยูอย่าง BIMMERMEET ครั้งที่ 4 โดยงานในปีนี้ยังคงจัดอย่างยิ่งใหญ่และมาพร้อมการเปิดตัวโปรเจกต์ “BMW Unbound World of Art Series” เพื่อมอบประสบการณ์งานศิลปะระดับโลกให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด เนื่องในโอกาสพิเศษฉลองครบรอบ 45 ปี “ BMW Art Cars” โปรเจกต์สุดติสท์ที่มีศิลปินชื่อก้องโลกเคยรังสรรค์ผลงานเอาไว้ถึง 19 คัน งานนี้บีเอ็มดับเบิลยูจับมือกับ 9 ศิลปินชั้นนำจากหลากหลายแขนงทั้งในและต่างประเทศมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานลงบนรถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูและเปิดตัวสู่สายตาผู้คนเป็นครั้งแรกภายในงาน รวมถึงความพิเศษอีกมากมายภายในงานที่ UNLOCKMEN เก็บมาฝากทุกคน พร้อมบทสัมภาษณ์พิเศษจากเหล่าศิลปินที่ฝากผลงานไว้ในโปรเจกต์นี้ เมื่อเริ่มเข้าสู่งานซึ่งจัดขึ้นที่อิมแพค สปีด ปาร์คบอกเลยว่าเราสัมผัสได้ถึงความน่าสนใจและความยิ่งใหญ่ที่เพิ่มขึ้นทุกปีสำหรับงานรวมพลคนรักบีเอ็มดับเบิลยู BIMMERMEET#4 ที่ปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ “Tribute to BMW Art Cars” ฉลองครบรอบ 45 ปี BMW Art Cars ซึ่งขนเอาโมเดลเจ้าฃองงานศิลปะระดับตำนานของอาร์ตคาร์ทั้ง 19 คันมาให้ชมกันอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนั้นบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยยังได้จัดโปรเจกต์ “BMW Unbound World of Art Series” ขึ้นเพื่อชวนคนไทยมาสัมผัสประสบการณ์งานศิลป์ของ
ตึกเก่าบางหลังที่เคยเดินผ่าน ชั่วชีวิตนี้เราอาจไม่มีโอกาสได้เห็นข้างในของมัน เรื่องเล่าที่สูงศักดิ์ที่อ่านจากตำรา พงศาวดาร ฟัง ๆ ไปก็เหมือนมีฝ้าบางมากั้นไว้เสมอ “บางทียิ่งเป็นเรื่องพระองค์ เป็นเจ้า บางทีคนจะยิ่งรู้สึกห่าง เป็นสิ่งที่คนจะกระเถิบ แต่อยากจะให้คนเห็นว่าจริง ๆ มันมีความเป็น Humanity ในเรื่องนี้พอสมควร อยากให้ทุกคนเห็นว่าท่านแม้ว่าจะเป็นบุคคลเชิงประวัติศาสตร์ เป็นกษัตริย์ไทย ท่านก็โชว์ความรู้สึกส่วนพระองค์แล้วท่านก็มีความเป็นมนุษย์อยู่เหมือนทุกคน อยากให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้ คิดว่าทุกคนพอจะเข้าใจเพราะทุกคนเคยมีญาติ” คำอธิบายในฐานะภัณฑรักษ์และเจ้าของผลงานของท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน เจ้าของนิทรรศการภาพถ่าย “Hundred Years Between” เล่าเรื่องราวหลังตามรอยเส้นทางเสด็จฯ ประพาสรัชกาลที่ 5 ณ ประเทศนอร์เวย์ ที่จัดขึ้นเพื่อฉลองวาระครบรอบ 115 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย–นอร์เวย์ในปี 2563 ซึ่งกำลังจัดแสดงอยู่ในงาน Bangkok Design Week 2020 ตรึงเราไว้ทันทีที่ได้ยิน ทำไมงานนี้ถึงเป็นงานที่มีผู้คนพูดถึงมากที่สุดในบรรดางานกว่า 500 ชิ้นที่กำลังจัดอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน ทำไมคนถึงต้องแห่กันจองเพื่อเข้าชมงาน เหตุผลเพราะอีกแค่ 2 วันกับไม่กี่ชั่วโมง พวกคุณจะไม่ได้สัมผัส 3 สิ่งนี้ตลอดกาล ไม่ได้เห็นมุมมองของรัชกาลที่ 5
เมื่อโลกเริ่มเจริญก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ก็พัฒนาไปตามระดับความชาญฉลาดของมนุษย์ แม้ในอดีตใครหลายคนจะคิดว่าเทคโนโลยีเป็นเรื่องไกลตัว และคงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้หรือปรับตัวให้ตามเท่าทัน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบัน ‘เทคโนโลยี’ ที่นำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาพัฒนาต่อยอด เริ่มแทรกตัวเข้ามาในชีวิตประจำวันของเรา และการใช้งานเทคโนโลยีก็กลายเป็นอีกกิจวัตรของผู้ชายหลายคนไปเสียแล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีไม่เคยเป็นเรื่องไกลตัว แถมเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับชีวิตเราจนไม่อาจเลี่ยงได้ วันนี้ UNLOCKMEN เลยอยากนำไฮไลต์ของงานเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง ‘CES 2020’ มาฝากหนุ่ม ๆ ทุกคน งาน CES (Consumer Electronics Show) หรือ CES 2020 เป็นงานจัดแสดงนิทรรศการผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก ที่เพิ่งจัดไปเมื่อวันที่ 7-10 มกราคม 2020 ณ เมืองเนวาดาของรัฐลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งปีนี้นับเป็นปีที่ 53 ตั้งแต่จัดงาน CES ครั้งแรกเมื่อปี 1957 ในงาน CES 2020 มีบริษัทชั้นนำระดับโลกกว่า 4,500 บริษัท นำเทรนด์เทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัยที่พวกเขาพัฒนามาจัดแสดงให้ปรากฏต่อทุกสายตาของคนทั่วโลก เพื่อบอกถึงทิศทางของเทคโนโลยีที่กำลังจะเปลี่ยนโลกและเปลี่ยนอนาคตของคุณให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป Samsung Ballie หุ่นยนต์ผู้ช่วยสุดเจ๋งในบ้าน
หากกล่าวถึง MAYA MUSIC FESTIVAL หลายคนคงจะคิดถึงงานดนตรีแนว EDM ระดับบิ๊กที่จัดเป็นประจำทุกปี ณ เมืองพัทยา งานเดียวที่จะทำให้เราได้แดนซ์แบบข้ามวันข้ามคืนไปกับบรรดาดีเจชั้นนำระดับโลก สุดเหวี่ยงไปกับแสงสีเสียงและบรรยากาศ จนหลายคนก็พูดปากต่อปากว่าหากปีหน้าจัดต้องมาซ้ำอีกแน่นอน สำหรับปี 2020 นี้ MAYA เขาก็จะครบรอบ 5 ปีเต็มพอดี ครั้งนี้เลยจัดใหญ่ใส่เต็มกว่าเดิม ด้วยการขยับขยาย LIVE STAGE ให้อินเตอร์กว่าที่เคย พวกเขาได้รวบรวมศิลปินแถวหน้าหลากหลายแนวมาไว้ให้คุณได้เต็มอิ่มในเวทีเดียว แถมบางวงยังเป็นวงรุ่นใหญ่ที่ไม่ได้หาดูกันง่าย ๆ งานนี้ใครซื้อบัตรแล้วบอกได้คำเดียวว่ามีแต่คุ้มกับคุ้ม มาทบทวนกันอีกครั้งว่าใน 6 วงนี้จะมีวงอะไรบ้าง เผื่อคนที่ยังลังเลอยู่ว่าจะไปหรือไม่ไปดีจะได้ทราบข้อมูลไว้ประกอบการตัดสินใจครับ H 3 F H3F คือวงคนไทยที่ทำเพลงสากล มีสมาชิก 3 คน ได้แก่ ก้อง แม็ก และหม่อม (ชื่อวงของเขาก็ย่อมาจากคำว่า Happy 3 Friends ครับ) แนวเพลงฟังสบายที่ผสมผสานดนตรีหลากหลายแนวเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็น บลูส์ ฟังก์ โซล หรือร็อก กลมกล่อมลงตัว
“โปรดเห็นใจฉันหน่อย ปล่อยให้ตัวฉันไป” ประโยคเชือดเฉือนใจบนทำนองเศร้าซึมจาก Moving and Cut ได้เข้าไปครอบครองหัวใจใครหลายคน จนเหล่าสมาชิกศาลาคนเศร้าต่างสถาปนาตัวเองเป็นแฟนเพลงของเขา ตั้งแต่ยังมีสมาชิกวงเพียงคนเดียว และไม่ได้ทำเพลงกันเป็นอาชีพ บ้างก็พบเจอพวกเขาจาก Youtube ได้ยินผ่านคลื่นวิทยุเพลงอินดี้ หรือรู้จักผ่านเพลย์ลิสต์เพลงเศร้าในช่องทางสตรีมมิงต่าง ๆ เรื่องมันเริ่มจาก มีน (นักร้องนำ) เริ่มปล่อยเพลงที่เขาทำเองลงบน Youtube โดยตั้งใจให้สิ่งนี้เป็นเพียงงานอดิเรก จนกระทั่งเพลงที่ปล่อยไว้เริ่มมีผู้คนให้ความสนใจ ยอดวิวพิ่มพูนขึ้นและเกิดการติดต่อจ้างงาน Moving and Cut ให้ไปเล่นสด ๆ ต่อหน้าผู้ชม ทำให้มีนตัดสินใจชวนสมาชิกที่เหลือมารวมตัวกัน ได้แก่ การ์ตูน เพื่อนสมัยเรียนลาดกระบังมาเป็นมือซินธิไซเซอร์ บุ๊ค มาเป็นมือกีตาร์ ต้น มาเป็นมือกลอง และ ต้นหยาง อดีตสมาชิกวง SomeMary มาเป็นมือเบส ก็เป็นอันสมบูรณ์ครบในที่สุด จากจุดเริ่มต้นที่สวยงามสู่คอนเสิร์ตสุดประทับใจที่เพิ่งผ่านมาในอีเวนต์คอนเสิร์ตต่อเนื่องตลอด 5 วันในเชียงใหม่งาน “Independence Day” (สัปดาห์แห่งการปลดปล่อย) ที่จัดขึ้นโดย LEO หลายคนยังคงประทับใจการขึ้นเวทีแสดงสดวันสุดท้ายของพวกเขาและยังกระหายเรื่องราวเพิ่มขึ้น วันนี้ UNLOCKMEN จึงมาเยือนเขาถึงบ้านพักย่านพระโขนง สถานที่รวมตัวของสมาชิกวง
มินิ (MINI) ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ครองใจผู้คนทั่วโลก เพราะยนตรกรรมของมินิไม่เคยมีคำว่าธรรมดา และรถยนต์ทุกคันที่ผลิตขึ้นก็ล้วนเกิดจาก Passion ที่จะสร้างรถยนต์เพื่อผู้คนทั่วโลก ตั้งแต่วันแรกจนถึงปีนี้ที่มินิเดินทางมาครบรอบ 60 ปี ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1959 มินิเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกสู่ตลาด ก่อนจะสร้างตำนานรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์ โดยไม่มีรถค่ายไหนสามารถเลียนแบบได้ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์การขับขี่แบบ Go-Krat Feeling และยังคงเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาเรียกเสียงฮือฮาจนถึงปัจจุบัน ในโอกาสที่มินิมีอายุครบรอบ 60 ปี มินิ ประเทศไทย จัดกิจกรรมเป็นของขวัญตลอดทั้งปี พร้อมส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการมอบของขวัญชิ้นพิเศษให้แฟน ๆ มินิชาวไทยในงาน Motor Expo 2019 ด้วยการเปิดตัวโมเดลรถยนต์ใหม่ออกมาถึง 3 รุ่นด้วยกัน วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปชมความพิเศษของบูธ MINI ในงาน Motor Expo 2019 มาดูกันว่าภายในบูธปีนี้จะสวยงามแค่ไหน และถือโอกาสทำความรู้จักกับรถคันใหม่ทั้ง 3 รุ่นที่ มินิ ประเทศไทย ขนมาอวดโฉมให้ทุกคนได้ชม พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับ MINIster ชาวไทยเท่านั้น เมื่อมาบูธของ MINI
จบไปแล้วกับงาน Coca-Cola Presents Siam Music Festival 2019 กลางสยามสแควร์เมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อชวนวัยมันส์ วัยซ่ามาสร้างประสบการณ์ทางดนตรีและเป็นส่วนหนึ่งของการทำลายสถิติโลกจาก Guinness World Records: Longest Toast Relay หรือการต่อโต๊ะกินอาหารร่วมกันที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งแน่นอนว่างานนี้ UNLOCKMEN ไม่พลาด ตามติดไปเก็บบรรยากาศมาฝากกันด้วย แค่เริ่มต้นเดินเข้าสยามฯ มาช่วงกลางวันก็เจอไฮไลต์ของงานแล้ว คือการเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญทุบสถิติโลกที่โค้กเขาจัดให้ ตอนแรกเราก็ยังตื่นเต้นว่า Longest Toast Relay จะออกมาเป็นแบบไหน มันจะยากเกินกว่าจะเข้าร่วมไหม แต่พอรับฟังที่มาแคมเปญเข้าไปจริง ๆ ก็ใจชื้น เพราะสกิลที่เราต้องมีคือแค่ Enjoy กับมื้ออาหารสตรีตฟู้ดบนโต๊ะและจิบโค้ก ต่อโต๊ะกินข้าวให้ยาวเพื่อเข้าคอนเซ็ปต์ ‘เปลี่ยนมื้อธรรมดา เป็นช่วงเวลาพิเศษ’ ซึ่งไม่ได้ต่างจากปกติที่เราทำเป็นประจำ กิจกรรมเริ่มต้นเมื่อผู้เข้าร่วมงานในเสื้อโค้กสีแดงทยอยเข้ามาในบริเวณพื้นที่จัดงานสร้างสถิติใหม่ เริ่มขยับจัดโต๊ะ ต่อโต๊ะกินอาหารด้วยกันเป็นแนวยาว มองแล้วงานนี้ร่วม ๆ พันกว่าคน (เช็กจำนวนตามหลังระบุว่า 1,300 คน) หลายคนพาเพื่อน พี่น้อง ครอบครัวมา ส่วนเราที่มาลำพังได้เจอเพื่อนใหม่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะและทำความรู้จักกัน