โฮจิมินห์ซิตี้ (Ho Chi MInh City) หรือชื่อเดิมว่า ไซ่ง่อน (Saigon) หนึ่งในปลายทางบ้านใกล้เรือนเคียงเราที่เป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักเดินทางและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ที่ล้วนอยากจะมาสัมผัสเมืองแห่งประวัติศาสตร์สไตล์ยุโรป แต่มีกลิ่นอายของความเป็นเอเชียที่นี้สักหนหนึ่ง ตอนฟ้าออกแดดโฮจิมินห์จะเป็นเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกเข้ากันได้อย่างลงตัว สามารถเดินเที่ยวสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่สวยงามได้แทบจะทั้งเมือง แต่เมื่อเวลาฟ้าเปลี่ยนสี มืดค่ำ ปลายทางแห่งนี้ก็มีเส้นทาง Unexpected มากมาย ที่ท้าให้ทุกคนลองไปสัมผัส จะเป็นแบบไหน UNLOCKMEN ได้รวบรวมสถานที่เปิดหูเปิดตา เปิดโลก ให้ทุกคนเห็นได้อีกมุมหนึ่งของโฮจิมินห์กัน Sax n’ Art Jazz Club กลิ่นอายตะวันตกยามค่ำคืนสไตล์ Jazz ที่ใครหลายคนไม่คาดคิดว่าจะซ่อนตัวอยู่ในนครโฮจิมินห์ ที่นี่เป็น Club Jazz เพียงแห่งเดียวของโฮจิมินห์ เจ้าของคือ Tran Manh Tuuan นักดนตรีชาวเวียดนามคนแรกที่ได้รับทุนการศึกษาจาก Berklee College of Music ในบอสตันและยังเป็นนักเป่าแซ็กโซโฟนที่รู้จักมากที่สุดในเวียดนาม ที่แห่งนี้ได้สร้างมาตรฐานความสุนทรีให้กับผู้ฟังทุกค่ำคืน จึงเป็นอีกสถานที่น่าประทับใจของหลากหลายนักเดินทางที่มาโฮจิมินห์ต้องไม่พลาดมาที่นี่สักหน สถานที่ที่ให้ชาวต่างชาติได้มีบทบาทเข้าร่วมบนเวที สร้างอรรถรสแก่ผู้มาฟังอีกด้วย Location : Level 23, Centec
กลับมาอีกครั้งกับโกลบอลแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ โมเอ็ท ปาร์ตี้ เดย์ 2017 (MOËT PARTY DAY 2017) จัดโดย โมเอ็ท แอนด์ ชองดอง (MOËT & CHANDON) แชมเปญสุดหรูจากประเทศฝรั่งเศส นับเป็นปีที่สองของโลก และเป็นครั้งแรกในประเทศไทย นำโดย คุณชยานนท์ จุลดุสิตพรชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โมเอ็ท แอนด์ ชองดอง และ คุณธชิวา ทิพย์มโนวร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ โมเอ็ท ชองดอง บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโมเอ็ทโมเมนต์พร้อมกันกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ในวันที่ 17 มิถุนายน ตั้งแต่เที่ยงวันที่ประเทศนิวซีแลนด์เรื่อยไปจนถึงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ประเทศเม็กซิโก ในงานนี้มีเซเลบริตี้แถวหน้าของเมืองไทยเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล, กรณ์ ณรงค์เดช, ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก, กุญช์ณิชา
ครั้งแรกในประเทศไทยที่ได้เลือกสุดยอดแห่งนาฬิกา แบรนด์สวิสฯ รุ่นล่าสุดส่งตรงจากงาน Baselworld 2017 มาเสนอ บอกเลยว่าสาวกที่ชื่นชอบนาฬิกา ไม่ควรพลาด
หลังจากซบเซามานานสำหรับการนำวงดนตรีระดับโลกมาทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศไทยเพื่อให้แฟน ๆ ได้สัมผัสกับการแสดงโชว์ระดับสากล ซึ่งปัจจัยน่าจะเป็นเพราะความไม่สงบต่าง ๆ ภายในประเทศทำให้ผู้จัดร่วมถึงตัวศิลปินเองยังไม่ค่อยไว้เนื้อเชื่อใจที่จะเดินทางมาบ้านเราในช่วงที่ผ่านมา แต่แล้วตั้งแต่ต้นปีมานี้เรียกได้ว่าปีทองของคนรักเพลงอย่างแท้จริง เพราะไล่เรียงดูไม่ว่าจะเป็น Gun N’ Rose , Coldplay , Nelly ต่างทยอยตบเท้าเดินทางมาทัวร์คอนเสิร์ตยังประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรก ที่ต้องบอกว่านั่นเป็นเพียงน้ำจิ้ม เพราะว่าครึ่งปีหลังจะมีศิลปินต่อคิวเดินทางมาไทยแบบไม่ขาดสายชนิดหัวกระไดไม่ทันแห้ง และไม่เปิดโอกาสให้มนุษย์เงินเดือนได้หายใจหายคอกันเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อเป็นการยืนยันวันนี้ทีมงานจึงได้รวมตารางทัวร์ของศิลปินที่คอมเฟิร์มแล้วว่ามาไทยแน่นอน มาแนะนำให้ชาว UNLOCKMEN เตรียมเสียสตางค์ไปโดดหน้าเวทีกับศิลปินระดับโลกกัน LANY 2/8/2017 ปีนี้ทีมงาน VIJI CORP เรียกว่าใส่เต็มข้อจริง ๆ ตั้งแต่เปิดหัวด้วย Gun N’ Rose ที่ระเบิดความมันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ดูเหมือนปีนี้พวกเขาจะหันมาจับกระแสวงอินดี้ป๊อปเป็นส่วนใหญ่ ทำให้แฟนชาวไทยพลอยโชคดีได้ดูผลงานวงดนตรีที่แม้แต่ในต่างประเทศเองยังหาดูไม่ได้ง่าย ๆ วง LANY ก็เป็นอีกวงอิเล็กทรอนิคป๊อปอินดี้คลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามองอย่างมาก พวกเขามีซิงเกิ้ลฮิตอย่าง ILYSB , Pink Skies และ Where the Hell Are My Friends ที่กำลังโด่งดัง และกำลังจะมาเปิดคอนเสิร์ตในวันที่
งาน Event ต่าง ๆ ที่จัดขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จนั้น ส่วนใหญ่เป็นงานที่ทำให้ผู้ชมที่เข้ามาในงานได้อะไรกลับไป บางงานอาจจะเป็นความรู้ บางงานอาจจะเป็นความสุข รวมไปถึงการได้รางวัลจากการแข่งขันในงาน Event นั้น ๆ ไปครอบครอง วันนี้ UNLOCKMEN ได้ไปเจอเข้ากับ Event งานหนึ่งซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญมันยังเป็น Event การแข่งขัน Rap Freestyle เช่นเดียวกับที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในประเทศไทยของเราอีกด้วย แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า งานนี้ไม่ธรรมดา เพราะทั้งสถานที่ ทั้ง Theme งาน รวมไปถึงวัตถุประสงค์ในการจัดการแข่งขันนั้น มีประโยชน์ต่อประชากรในประเทศของเค้ามากเลยทีเดียว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปทำความรู้จักกับงานที่มีชื่อว่า “2nd Oneh-Style Dungeon” กันเลยดีกว่า ระหว่างช่วงปลายของสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงปี 1945 – 1956 ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกกฎหมายต่อต้านการค้าประเวณีในบริเวณ Shinjuku Ni-Chome ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งทำมาหากินของเหล่าโสเภณีทั้งหลาย หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อว่า “ย่านโคมแดง” หลังจากการประกาศดังกล่าว ทำให้สถานบริการในย่านโคมแดง รวมถึงหญิงสาวหากินในแถบนั้น ค่อย ๆ
‘แรงบันดาลใจ’ คือสิ่งที่เราทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการเพื่อนำไปใ้ช้ผลักดันให้เกิดพลังในการเดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง รวมถึงผู้คนรอบข้าง ยิ่งเป็นใครที่คลุกคลีอยู่ในสายงานครีเอทีฟ หรือศิลปะ ซึ่งจำเป็นต้องเค้นความคิดสร้างสรรค์ สกัดไอเดียโดน ๆ ออกมาจากแทบทุกรอยหยักของสมอง คงปฏิเสธไม่ได้ว่า นอกเหนือจาก พรสวรรค์ ประสบการณ์ และการฝึกฝน ในส่วนของ ‘แรงบันดาลใจ’ ก็ถือเป็นอีกตัวแปรสำคัญในการกลั่นไอเดียจี๊ด ๆ เพื่อถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานที่น่าภูมิใจ ซึ่งแรงบันดาลใจที่ว่านี้สามารถก่อกำเนิดขึ้นมาได้หลายรูปแบบ แต่ส่วนใหญ่สิ่งที่ทีมงาน UNLOCKMEN เลือกทำเมื่อไอเดียเริ่มตัน และต้องการสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง คงหนีไม่พ้นการออกไปข้างนอก พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้คน หรือไม่ก็ไปร่วมงานนิทรรศการจัดแสดงผลงานต่าง ๆ ในแนวทางที่เราสนใจ เป็นการเปิดหู เปิดตา เปิดใจรับสิ่งใหม่จากคนอื่น ๆ เพื่อตกผลึกเป็นมุมมองที่แตกต่าง ต่อยอดเป็นพลังในการคิดงานใหม่ ๆ ออกมา และจะเรียกว่าเป็นข้อได้เปรียบก็คงได้ เพราะ UNLOCKMEN มักจะมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งแต่ละงานก็สามารถปลุกแรงบันดาลใจให้กับเราได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างงานล่าสุดที่เราค่อนข้างประทับใจกับแนวคิดการจัดงานเทศกาลดนตรีที่ผสานการเป็นแหล่งพบปะของผู้ชื่นชอบในงานศิลปะเอาไว้อย่างลงตัว กับงาน SangSom Presents Deksaisilp หรือเรียกกันง่าย ๆ
ปาร์ตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ “MINI MOËT ROSÉ MASQUERADE LAUNCH PARTY” เปิดตัว “มินิ โมเอ็ท โรเซ่” (Mini Moët Rose) แชมเปญสีชมพู
เมื่อไม่นานมานี้ UNLOCKMEN ได้นำผู้อ่านทุกท่านย้อนอดีตไปดื่มด่ำกับเรื่องราวความเป็นมา เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่หลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของเบียร์ Heineken® แบรนด์ดังที่ครองใจผู้คนทั่วโลกด้วยคุณภาพ ความเอาใจใส่ รวมไปถึงการสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างมีเสน่ห์ กับอารมณ์ขัน และความเท่ ที่มีอยู่เต็มเปี่ยม ถือเป็นข่าวดีที่เรื่องราวประวัติศาสตร์ตลอดระยะเวลา 144 ปีแห่งความยิ่งใหญ่ภายใต้สัญลักษณ์ดาวแดงของ Heineken® เหล่านั้น ได้ถูกนำเสนอให้ชัดเจนยิ่งขึ้นในรูปแบบของนิทรรศการสุดล้ำ ให้พวกเราชาวไทยได้สัมผัสกันแบบฟรี ๆ เป็นที่แรกก่อนใครในเอเชีย กับงาน “Behind the Star Experience” (Multisensorial Exhibition) ซึ่งจัดขึ้นที่ลานหน้าสยามดิสคัพเวอรี่ พลาซ่า ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน ยาวไปจนถึงวันที่ 18 พฤษภาคม นี้ เวลา 10.00 – 22.00 น. เป็นต้นไป แน่นอนว่า UNLOCKMEN ย่อมไม่พลาดโอกาสในการเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์ภายในงาน “Behind the Star Experience” (Multisensorial Exhibition) ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จของ Heineken® ย้อนไปตั้งแต่จุดเริ่มต้นเมื่อ 144
ด้วยจำนวนงานเทศกาลดนตรีเจ๋งๆ และปาร์ตี้สุดตื๊ดที่ถูกจัดขึ้นอย่างมากมาย ทำให้ช่วงนี้ UNLOCKMEN มีโอกาสได้รับเชิญไปปลดปล่อยอารมณ์กับหลากหลาย Event ที่ถูกจัดขึ้น ซึ่งงานไหนโดนใจเราก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพบรรยากาศเด็ดๆ ของงานมาฝากกัน อย่างล่าสุดกับ BLEN FES ที่ Mega Bangna ถือเป็นอีกงานที่มีดีกรีความมันส์ขั้นร้อนระอุ เข้ากับช่วงซัมเมอร์แบบนี้เหลือเกิน สำหรับโชว์ภายในงาน เราบอกได้เพียงว่ามันคือส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความมันส์กระแทกอารมณ์ด้วยดนตรีสดจากศิลปินชื่อดัง และความสนุกสนานของบีทดนตรีอิเลคทรอนิกส์สุดเร้าใจจากดีเจระดับโลก ตามแนวคิด ‘สุดไปอีกขั้นกับส่วนผสมความมันส์ทางดนตรี’ และไม่ได้มีเพียงแค่ความมันส์ขั้นสุดจากบนเวทีเท่านั้น เพราะพื้นด้านล่างเวทีได้ถูกเนรมิตขึ้นมาให้เราสัมผัสได้ถึงความสนุกที่กระจายตัวไปทั่วงาน ด้วยการแบ่งเป็นโซนต่างๆ เริ่มจาก Gate Entrance: ปลุกอารมณ์ความสนุกตั้งแต่ทางเข้างาน ด้วย Illumination Tunnel ยาวกว่า 14 เมตร ที่ใช้เทคนิคไฟ และกระจก infinity mirror สร้างมิติใหม่ที่แตกต่าง เป็นจุดที่หลายคน (รวมทั้งเรา) แวะถ่ายรูปเท่ๆ เช็คอินบน IG ก่อนเข้างาน Landmark: ดึงดูดทุกสายตากับ Dynamic Space พีระมิดกระจกขนาดใหญ่ รวมร่างกับไฟ LED ที่มีจังหวะการกระพริบหรือเปลี่ยนสีไปตามบีทของดนตรีบนเวที คอยสร้างสีสัน
เมื่อพูดถึงประเทศเยอรมนี พวกเราอาจจะนึกถึงอยู่ไม่กี่อย่าง เช่นรถยนต์คุณภาพสูงอย่าง Porsche สาวผมบลอนด์สุดเซ็กซี่อย่าง Diane Kruger ความยิ่งใหญ่ด้านทีมฟุตบอลระดับโลก รวมถึงนักฟุตบอลชื่อดังอย่าง Miroslav Klose, Jurgen Klinsmann, Oliver Kahn และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “เบียร์” ประเทศเยอรมนีนับว่าขึ้นชื่อทางด้านคุณภาพที่เข้มงวดในการผลิตเบียร์ เป็นประเทศที่มีระดับการดื่มเยอะติด 1 ใน 3 ของโลกเสมอ และเทศกาลที่คนชอบเบียร์ทั่วโลกต่างต้องจองตั๋วไปเที่ยวเยอรมนี คือช่วงเทศกาล Oktoberfest ที่มีระยะเวลาลิ้มรสชาติเบียร์รสเยี่ยมยาวนานประมาณ 16 – 18 วัน จัดเป็นประจำทุกช่วงเดือนตุลาคม โดยมีตัวเลขสถิติการดื่มในช่วงเทศกาล Oktoberfest เบา ๆ อยู่ที่ 7.3 ล้านลิตรเท่านั้นเอง แต่ก็ใช่ว่าจะต้องเหินฟ้าไปหาเบียร์ดี ๆ เฉพาะที่ประเทศเยอรมนีเท่านั้น เพราะในประเทศไทยเราก็สามารถสัมผัสประสบการณ์เบียร์ระดับพรีเมี่ยมสไตล์เยอรมัน แบบ German Quality ได้ อย่างล่าสุดที่เราได้ไปสัมผัสลิ้มรสชาติ ก็คือ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) นั่นเอง *เฟเดอร์บรอย (Federbräu) มาจากคำในภาษาเยอรมัน