“I want to make a timepiece that will not break, even if dropped.” จากประโยคที่แฝงความมุ่งมั่นของ Kikuo Ibe วิศวกรนาฬิกา G-SHOCK ที่ลั่นวาจาไว้เมื่อปี 1981 สู่การคืนชีพความคลาสสิกของเรือนเวลารุ่นดั้งเดิม DW5000C ที่นำเรื่องราวในอดีตมาแต่งเติมและสานต่อให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นผ่านโมเดลตัวใหม่ ‘G-SHOCK GMWB5000D-1’ ครั้งนี้หยิบยกนาฬิการุ่นเก๋ามาแปลงโฉมให้ทันสมัย แต่คงความงามแบบโบราณและโดดเด่นด้วยพื้นผิวสแตนเลสสตีลที่แวววับตั้งแต่สายนาฬิกาไปจนถึงตัวเรือน G-SHOCK GMWB5000D-1 ดีไซน์หน้าปัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพิ่มกรอบสไตล์วินเทจใช้ลายอิฐเป็นตัวเดินเรื่อง สร้างผิวสัมผัสแปลกใหม่ท่ามกลางความมันวาวระยิบระยับ ปรับกลไกและฟันเฟืองให้มีโครงสร้างแบบลอยตัว พร้อมใช้ชุดเรซินเชื่อมระหว่างรอยต่อของตัวเรือนและขอบสเตนเลส เพื่อให้ดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น แถมทนทานและกันน้ำได้ถึง 200 เมตร มีน้ำหนักเพียง 167 กรัม แต่คงซึ่งประสิทธิภาพวัสดุแข็งแกร่งและยากต่อการทำลาย ราวกับเป็นเรือนเวลาที่ถอดแบบมาจากฅนเหล็กในภาพยนตร์ The Terminator ยังไงยังงั้น บริเวณหน้าปัดยังเพิ่มไฟ super illuminator LED ที่ส่องสว่างเป็นพิเศษและผู้ใช้ยังเลือกระยะการเรืองแสงได้แบบ 2 และ 4 วินาที มาพร้อมไทม์โซน
Casio ถือว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมาตั้งแต่ต้นปี ไม่ว่าจะเป็น G-Shock คอลเลกชัน Gundam หรือนาฬิกาที่รับแรงบันดาลใจจากสายรุ้ง และครั้งนี้ในงานนาฬิการะดับโลก Baselworld 2019 ที่ผ่านมา Casio ก็ยังเรียกเสียงฮือฮาอย่างต่อเนื่องด้วยนาฬิการุ่นพิเศษที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของซามูไร คล้ายกับว่าเป็นธรรมเนียมไปแล้วสำหรับ Casio กับงาน Baseworld เพราะในปี 2017 และ 2018 เปิดตัวนาฬิกา G-Shock ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีให้เข้ากับวัฒนธรรมสไตล์ญี่ปุ่นรหัส MRG G2000HA-1A ที่นำขั้นตอนการผลิตดาบของ Biho Asano ช่างตีดาบรุ่นที่สามของตระกูลผู้ผลิตดาบซามูไรมาปรับใช้สำหรับผลิตนาฬิกาข้อมือ ทำให้ราคาพุ่งสูงเกือบสามแสนบาท สำหรับ G-Shock MR-G ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของซามูไรในปี 2019 ก็เรียกความสนใจของเหล่าผู้ชื่นชอบนาฬิกาได้เป็นอย่างดี โดยรุ่นรหัส MRG G2000G-1A จะใช้สีหลักคือสีม่วง ผสมผสานเป็นเนื้อเดียวกับไทเทเนียมและทำให้พื้นผิวของโลหะเป็นลายเฉพาะตัว จากนั้นชุบด้วย AIP (Arc lon Plating) ซึ่งเป็นการเคลือบผิวแบบเดียวกับเครื่องบินเจ็ต ตัวเรือนทำจากสเตนเลสสตีล หน้าปัดนาฬิกาจะใช้โทนสีเข้มเป็นหลัก จากนั้นใช้สีแดง-ขาว แบบเดียวกับที่อยู่บนธงชาติญี่ปุ่นแต้มตรงขอบ ขีดบอกเวลา และเข็มวินาที โดดเด่นด้วยสีแดงสดให้ง่ายต่อการดูเวลา กระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทนทานต่อรอยขีดข่วน
Casio สร้างปรากฎการณ์ของแวดวงนาฬิกาในประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวนาฬิกาข้อมือรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Edifice สองคอลเลกชันด้วยกันทั้ง Edifice Scuderia Toro Rosso รุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน 2019 และ Edifice Countdown Bezel Series พร้อมกับแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ Alexander Albon นักแข่งรถ Formula 1 สัญชาติไทยจากทีม Scuderia Toro Rosso Edifice ตระกูลนาฬิกาสปอร์ตโครโนกราฟสำหรับผู้ชายรุ่นใหม่ ในคอลเลกชันล่าสุดอย่าง Edifice Scuderia Toro Rosso Limited Edition 2019 และ Edifice Countdown Bezel Series ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ดีไซน์ที่เน้นความโฉบเฉี่ยว ความเร็วของรถแข่ง และความชาญฉลาดที่เที่ยงตรงแม่นยำ ร่วมกับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อให้นาฬิกาในตระกูล Edifine แข็งแกร่งตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยดีไซน์ทันสมัยและบอกเวลาได้อย่างแม่นยำที่สุด นอกจากความพิเศษเหนือระดับกับนาฬิกา Edifine ทาง Casio ได้เพิ่มความพิเศษยิ่งกว่าด้วยการดึงนักแข่งรถสายเลือดไทยของสนามแข่ง Formula 1
Casio สร้างความตื่นเต้นให้วงการนาฬิกาอีกครั้งในงาน Baselworld ปี 2019 งานจัดแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดของตระกูล G-Shock ที่ได้แรงบันดาลใจจากกาแลคซี่ สายรุ้ง และแสงแดดมาสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือที่ไม่ธรรมดา นาฬิกาต้นแบบที่ Casio เลือกหยิบมาแต่งแต้มสีสันคือโมเดล MT-G จากตระกูล G-Shock ที่สร้างชื่อให้แบรนด์ การดีไซน์สีสันของนาฬิกาข้อมือจะใช้แถบสีของรุ้งกินน้ำทั้ง 7 ที่เกิดจากการหักเหของแสงผ่านหยดน้ำที่ล่องลอยอยู่ในอากาศมาตกแต่งบริเวณของนาฬิกา รวมถึงแต่งบนเครื่องหมายและตัวเลขบนหน้าปัด เส้นบอกตำแหน่งเวลาสีทอง สลับกับตัวเลขสีชมพูและสีฟ้าแตกต่างกันไปแต่ละช่องแสดงผล เพิ่มสีสันความสนุกสนานให้กับนาฬิกาสายสปอร์ต ไม่ใช่เพียงแค่สีสันโดดเด่นเท่านั้นที่ผู้คนตอบรับ แต่เทคโนโลยีของนาฬิกาก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะนาฬิกาในตระกูล G-Shock โมเดล MT-G จะผสานโลหะและเรซินทำให้เกิดสีสันสะดุดตา โครงสร้างกันแรงกระแทกด้วย Triple G Resist แข็งแรงแต่ยังคงรูปลักษณ์เพรียวบางเอาไว้ พร้อมสายนาฬิกาน้ำหนักเบาและทนทาน ชิ้นส่วนเรซินคุณภาพเยี่ยมมีคุณสมบัตินำความร้อนต่ำกว่าสเตนเลสสตีล ดังนั้นความเย็นจะส่งผ่านไปถึงข้อมือน้อยกว่าแม้ในฤดูหนาว กระจกนาฬิกาทำจากคริสตัลแซฟไฟร์ทำให้เกิดรอยขีดข่วนยาก รวมถึงการเคลือบแบบไม่สะท้อนแสงจะช่วยให้สามารถมองเห็นหน้าปัดชัดขึ้นแม้จะอยู่บนพื้นที่กลางแจ้ง และสามารถลงน้ำลึกได้ 200 เมตร การซิงค์ปรับแก้เวลาเมื่อเดินทางข้ามทวีปสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีบลูทูธเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านแอปพลิเคชั่น G-SHOCK Connected เพื่อรับข้อมูลเวลาที่แม่นยำจากเซิร์ฟเวอร์เวลาออนไลน์ และระบบ MULTIBAND 6 ปรับเวลาอัตโนมัติตามการรับสัญญาณเทียบเวลาจากสถานี 6
แบรนด์นาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่น Casio ออกคอลเลกชันพิเศษกันมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จครบรอบ 35 ปี ของนาฬิกาตระกูล G-Shock และล่าสุดสร้างเสียงฮือฮาให้กับเหล่าคนรักนาฬิกาด้วยการออกรุ่นลิมิเตดทำจากทองคำ 18K เมื่อปี 2018 แบรนด์นาฬิกาญี่ปุ่น Casio ออกคอลเลกชันพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 35 ปี ของ G-Shock หลายรุ่นด้วยกัน เช่น 35th Anniversary GLACIER GOLD กับคอนเซ็ปต์ตัวเรือนแบบใสผสมผสานกับสีทองที่ได้แรงบันดาลใจจากภูเขาน้ำแข็ง หรือคอลเลกชัน MAGMA OCEAN ตัวเรือนสีดำแต้มสีแดงตามแบบลาวาในภูเขาไฟ ความตื่นเต้นของเหล่าแฟนคลับอาจน้อยลงจากการออกคอลเลกชันมากว่า 10 รุ่น แต่ครั้งล่าสุดนี้ Casio สร้างความตื่นเต้นครั้งใหม่ด้วยการนำนาฬิกา DW-5000 เรือนแรกของตระกูล G-Shock รูปทรงสี่เหลี่ยมคุ้นตาจากปี 1983 ที่เห็นแล้วรู้ทันทีว่านี่คือนาฬิกาของแบรนด์ Casio มาใช้เป็นแรงบันดาลใจสร้างสรรค์นาฬิการุ่นพิเศษทำจากทองคำอย่าง G-D5000-9JR การนำโมเดลเก่ากลับมาทำใหม่ครั้งนี้ Casio ใช้วัสดุพรีเมียมอย่างทองคำ 18K ทั้งตัวเรือน ปรับโครงสร้างบางส่วนเพื่อให้นาฬิกาทนต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนมากขึ้น ประกอบตัวเรือนเข้าด้วยกันโดยการขันสกรูยึดฝาหลังกับตัวเรือน พร้อมประทับโลโก้ฉลองครบรอบ 35 ปี ไว้ด้านหลัง
นอกจากปัจจัยที่ 6 อย่างโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบันแล้ว การมีกล้องตัวเก่งไว้สักตัวเพื่อเก็บบันทึกภาพความทรงจำแบบละเอียดและคมชัด ก็ดูเป็นอีกสิ่งที่อยู่ในเทรนด์สังคมปัจจุบัน พวกเราเลยหันไปทางไหนก็จะเห็นแต่คนหิ้วกล้อง พกกล้องเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็น Mirrorless, Action Camera, Instant Camera ที่ส่วนใหญ่ก็มีอัพเดทวางขายรุ่นใหม่ ๆ บุกตลาดออกมาอยู่เนื่อง ๆ เสมอ ล่าสุด UNLOCKMEN ได้ข่าวการเปิดตัวของแบรนด์ตลาดสุดคุ้นเคยอย่าง Casio ที่กำลังเริ่มขยายไลน์การผลิตใหม่ไปสู่การเปิดตลาด Action Camera เต็มตัวแล้วตอนนี้! Casio GZE-1 กล้อง Action Camera ที่ดูผิวเผินแล้วหน้าตาเหมือนนาฬิการุ่น G-Shock ยังไงอย่างงั้น ซึ่งมาจากความตั้งใจเดิมของทาง Casio ที่นำเอารูปร่างหน้าตาของรุ่นนี้ออกมาผลิตเป็น Aciton Camera ตัวแรกของค่ายเพราะขึ้นชื่อด้านความแข็งแกร่งคงทน ให้ใช้ได้ทุกสถานการณ์โดยไม่มีห่วง Casio GZE-1 ไม่ได้มีเพียงรูปร่างหน้าที่แข็งแกร่งเท่านั้น ด้านคุณสมบัติก็เข้าขั้น Action Camera ตัวดังอื่น ๆ ในตลาด ด้วยมาตรฐานการป้องกันน้ำฝุ่นระดับ IP68 ที่สามารถลงน้ำลึกได้ถึง 50 เมตร และทนทานต่อการต่อกระแทกในระดับ