

World
‘STAN LEE’ จากครอบครัวผู้อพยพสู่ผู้สร้างจักรวาล MARVEL ที่มอบความบันเทิงและแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก
By: unlockmen November 13, 2018 127689
Marvel Cinematic Universe หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า MCU คือหนึ่งในเฟรนไชส์ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อวงการภาพยนตร์มาอย่างยาวนานนับ 10 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่ Iron Man เข้าฉาย ต่อจากนั้นคือตำนาน MCU ขยายจักรวาลภาพยนตร์ของพวกเขาให้ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เปลี่ยนซูเปอร์ฮีโร่และวายร้ายจากรูปแบบ 2 มิติในฉบับคอมมิคสู่ตัวละครที่มีชีวิตจิตใจจริง ๆ ในจอเงิน กวาดเงินจากผู้ชมทั่วทั้งโลกหลายพันล้านเหรียญ
แต่นี่เป็นเพียงแค่ตอนท้าย ๆ ของเรื่องราวทั้งหมดเท่านั้น เพราะถ้าจะพูดถึงจุดเริ่มต้นของจักรวาลที่ยิ่งใหญ่นี้เราต้องย้อนไปกว่า 70 ปีที่แล้ว และหนึ่งในชายผู้มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างจักรวาล Marvel ให้ประสบความสำเร็จมีชื่อว่า ‘Stan Lee’ ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องราวชีวิตของเขากัน
เช่นเดียวกับผู้ยิ่งใหญ่คนอื่น ๆ Stan Lee หรือชื่อเต็ม Stanley Martin Lieber เกิดในครอบครัวผู้อพยพชาวโรมาเนียเชื้อสายยิวที่ย้ายมาตั้งรกรากถิ่นฐานในมหานครนิวยอร์กเมื่อปี 1922 ซึ่งทุกคนก็น่าจะพอรู้กันว่าคุณภาพชีวิตของผู้อพยพนั้นไม่ได้ดีเท่าไรนักถึงแม้จะเป็นยุคปัจจุบันก็ตาม และยิ่งถ้าเป็นเมื่อ 90 กว่าปีที่แล้วการจะได้กินดี อยู่ดี มีสุขนั้นแทบจะลืมไปได้เลย
เด็กชาย Stan Lee อาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็ก ๆ ร่วมกับพ่อซึ่งมีอาชีพเป็นช่างเย็บผ้าในโรงงาน แม่ และน้องชาย รวมทั้งหมด 4 ชีวิตในพื้นที่ไม่กี่ตารางเมตร
ความยากลำบากของชีวิตและฐานะการเงินที่ขัดสนบังคับให้ Stan Lee ต้องรับจ้างทำงานต่าง ๆ ตั้งแต่เด็กเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ไม่ได้มีชีวิตแตกต่างจากเด็กในครอบครัวยากจนคนอื่น ๆ สิ่งเดียวที่ Stan Lee พิเศษกว่าคนอื่นคือเขาเป็นคนรักการอ่านเข้าเส้น เรียกได้ว่าอ่านทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า และปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือกุญแจดอกสำคัญสู่ความสำเร็จในอนาคตของเขา
การจะประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น บางครั้งสิ่งที่จำเป็นต้องมีไม่น้อยกว่าฝีมือหรือพรสรวรรค์เลยก็คือโชคชะตาที่เป็นใจ ซึ่งสิ่งนี้ Stan Lee มีอยู่เต็มเปี่ยม
หลังจากเรียนจบระดับมัธยมปลายด้วยผลการเรียนดีเยี่ยม โชคชะตาก็นำพา Stan Lee ให้ได้เข้าทำงานที่ Timely Comics ซึ่งเป็นชื่อแรกเริ่มของ Marvel Comics ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั่นเอง
ถึงแม้ Stan Lee จะใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่รักการอ่านอย่างเขา แต่ตำแหน่งแรกของเขาใน Timely Comics ไม่ได้ใกล้เคียงกับการเป็นนักเขียนเลยแม้แต่น้อย ออกแนวเป็นเสมียนที่ทำตามคำสั่งทุกอย่างตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ จนกระทั่งวันหนึ่งด้วยอะไรบางอย่างทำให้ Stan Lee จับพลัดจับผลูได้จับปากกาเขียนคอมมิคครั้งแรกในซีรีส์ที่ชื่อว่า ‘Captain America Foils the Traitor’s Revenge’
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะได้จับงานเขียนแล้วบ้าง แต่ Stan Lee ก็ยังไม่ได้เป็นนักเขียนเต็มตัว จนกระทั่งในปี 1941 หลังจากทำงานกับ Timely Comics มา 2 ปีเต็ม Joe Simon และ Jack Kirby นักเขียนคนสำคัญเกิดไม่ลงรอยกับ Martin Goodman ผู้บริหารในขณะนั้น ทั้งคู่จึงตัดสินใจเก็บกระเป๋าเดินออกจาก Timely Comics ปัญหาที่ตามมาคือการขาดแคลนนักเขียนอย่างหนัก ด้วยสถานการณ์บีบบังคับ Martin Goodman ไม่มีทางเลือก เขาเลื่อนขั้น Stan Lee ซึ่งในขณะนั้นมีอายุเพียงแค่ 19 ปี ขึ้นมาเป็นนักเขียนเต็มตัว
ถึงแม้จะได้เป็นนักเขียนอย่างที่หวัง แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่น เพราะ Timely Comics ในขณะนั้นยังตีกรอบให้คอมมิคของตัวเองว่าเขียนขึ้นเพื่อให้เด็กเล็กอ่านเท่านั้น ซึ่งนี่เป็นแนวคิดที่ Martin Goodman ยืนกรานมาโดยตลอด จึงทำให้เนื้อหาคอมมิคของ Timely Comics ค่อนข้างซ้ำซากจำเจ ไม่สามารถนำเสนออะไรที่ซับซ้อนหรือลึกซึ้งได้ ไฟในตัวของ Stan Lee จึงค่อย ๆ มอดดับลงไป
จนกระทั่งในช่วงยุค 50 Stan Lee รู้สึกทนไม่ได้อีกต่อไปกับการต้องทำงานภายใต้ข้อจำกัดดังกล่าว จึงคิดจะลาออกจาก Timely Comics แต่ยังไม่ทันจะได้บอกเรื่องนี้กับ Martin Goodman ก็เกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้นกับจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่คู่แข่งอย่าง DC Comics เสียก่อน
Justice League โปรเจ็กต์การนำซูเปอร์ฮีโร่ที่มีอยู่แล้วมาปัดฝุ่นรวมทีมใหม่ของฝั่ง DC ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม Martin Goodman เล็งเห็นดังนั้นจึงคิดจะนำแนวคิดนี้มาใช้กับ Timely Comics ของตัวเอง เขาไม่รอช้าที่จะนำเรื่องนี้มาบอกกับ Stan Lee ซึ่งตัว Stan Lee นั้นกระอักกระอ่วนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากในตอนนั้นเขาตัดสินใจเด็ดขาดไปแล้วว่าจะลาออก
แต่คำพูดหนึ่งของ Joan Boocock Lee ผู้เป็นภรรยาที่ว่า “ไหน ๆ ก็จะลาออกอยู่แล้ว ก็ทำอะไรอย่างที่ตัวเองอยากทำไปเลย” เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
คิดได้ดังนั้น Stan Lee จึงทุ่มเทเต็มที่ให้กับโปรเจ็กต์นี้ กลั่นกรองไอเดียจนได้ออกมาเป็นทีมซูเปอร์ฮีโร่ ‘Fantastic Four’ ที่ทุกคนน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี และแน่นอนว่ามันประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม นี่จึงเป็นเหมือนข้อพิสูจน์ให้ Martin Goodman ได้เห็นว่าคอมมิคนั้นไม่ใช่แค่สำหรับเด็ก
หลังการถือกำเนิดของ Fantastic Four ชีวิตของ Stan Lee ก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลย เขากลายเป็นนักเขียนคอมมิคมือทองที่มีสุดยอดไอเดียเป็นอาวุธ Stan Lee สร้างสรรค์ตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ชื่อก้องโลกตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Hulk ที่ถือว่าเป็นขบถแห่งวงการซูเปอร์ฮีโร่ เจ้ายักษ์ใหญ่สีเขียวตัวนี้แฝงมากับแนวคิดที่ว่าซูเปอร์ฮีโร่ไม่จำเป็นต้องดูดีเสมอไป กลุ่ม X-Men ที่เกิดจากแรงบันดาลใจชีวิตการเป็นผู้อพยพในวัยเด็กของตัวเอง นอกจากนั้นยังมี Iron Man, Spider-Man, Thor และอีกมากมายนับร้อยตัวละคร เรียกได้ว่าไม่มีอะไรหยุดยั้งจินตนาการของ Stan Lee ได้อีกแล้ว
ถึงแม้ในตอนนี้คุณปู่ Stan Lee จะลาจากโลกนี้ไปแล้วด้วยวัย 94 ปี แต่เชื่อเหลือเกินว่าชื่อและสิ่งที่เขาได้สร้างไว้จะเป็นแรงบันดาลใจและความบันเทิงไปอีกนานแสนนาน
สำหรับเราที่เป็นหนึ่งในแฟนบอย Marvel คนหนึ่ง สิ่งสำคัญที่สุดที่เราได้รับจากการศึกษาชีวิตของ Stan Lee คือคุณต้องมี Passion ในสิ่งที่คุณทำ ไม่จำเป็นต้องสนใจใครจะว่ายังไง เช่นเดียวกับ Stan Lee ที่ไม่เคยสนใจว่าใครคือแฟนคอมมิคของเขา กลุ่มลูกค้าอยู่ในช่วงอายุเท่าไร เขียนแนวไหนถึงจะขายดี เขาสนแค่ว่าถ้าเป็นตัวเขาเองจะอยากอ่านคอมมิคแบบไหน จากนั้นก็ลงมือเขียนมัน ก็เท่านั้นเอง