Seoul vs Tokyo ช้อปสไตล์ไหนที่ใช่สำหรับคุณ

นับเป็นความโชคดีของเหล่าหนุ่ม ๆ ขาช้อปในปัจจุบันที่ศูนย์กลางแฟชั่นของโลกได้ขยับเข้ามาอยู่ใกล้ตัวเรามากยิ่งขึ้น ประเทศ เกาหลี และญี่ปุ่น แทบจะกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญสำหรับผู้ที่หลงใหลในแฟชั่นต่างพาเหรดกันมาจับจ่ายใช้สอยอย่างเมามันส์ ด้วยสินค้าที่หลากหลาย และความเป็นปัจเจคแตกต่างกันด้วยเอกลักษณ์อันชัดเจน จึงไม่น่าแปลกใจหาก โซล และโตเกียว จะเป็นเป้าหมายสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นต้องการเดินทางไปช้อปปิ้งสักครั้งให้จงได้

การเดินทางไปยังสองประเทศนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับชาวไทยอีกต่อ แต่หลายคนมักจะมีคำถามว่าหากเราตั้งเป้าจะเดินไปช้อปปิ้งซื้อเสื้อผ้ารองเท้าเพียงอย่างเดียวระหว่างไป เกาหลี และญี่ปุ่น แบบไหนถึงจะคุ้มค่า และเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของเรามากกว่ากัน?  ซึ่งเราเองก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่าแบบไหนที่ดีกว่า เพราะทั้งคู่ต่างมีจุดเด่น จุดด้อยที่ต่างกันออกไป  ดังนั้นในวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN จึงขอมาอธิบายลักษณะความแตกต่างของแฟชั่น และย่านช้อปปิ้งระหว่างทั้งสองประเทศมหาอำนาจทางแฟชั่นของเอเชียว่าแบบไหนถึงจะเหมาะ แบบไหนถึงจะโดนใจคุณมากกว่ากัน

Seoul

เราขอเริ่มต้นที่ประเทศเกาหลีใต้ก่อน จากช่วงหลายขวบปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าพวกเขาเจริญก้าวหน้าทางศิลปะ แขนงต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงแฟชั่นสไตล์การแต่งตัวของหนุ่ม ๆ บ้านเขา จนเราเองไม่สามารถล้อเลียนเหมือนที่ผ่านมาได้อีกแล้ว แฟชั่นของผู้ชายเกาหลีนับว่ามีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น หนุ่ม ๆ เริ่มมีการพลิกแพลงเพิ่มลูกเล่นการแต่งตัว อีกทั้งดีไซน์เนอร์ชื่อดังของพวกเขาเริ่มมีการนำ sub-culture ต่าง ๆ เข้ามาประยุกต์ แม้ส่วนใหญ่จะติดกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นมาพอสมควร แต่ภาพรวมของผู้ชายประเทศเขาจัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากจนควรเอาเยี่ยงอย่าง

สำหรับจุดเด่นของการไปช้อปปิ้งที่โซลจากประสบการณ์ที่เราได้สัมผัสมาคือ สินค้าที่นั้นจะมีราคาค่อนข้างถูก แทบจะไม่ต่างกับราคาเสื้อผ้าในไทยเลย แถมที่สำคัญดีไซน์ยังมีความสวยงามทันสมัย  แต่จะค่อนข้างอิงกับกระแสโลก อีกทั้งมีแบรนด์จำนวนไม่น้อยที่มีไลน์สินค้าเฉพาะในประเทศเกาหลี ดังนั้นเราจะพบกับไอเทมที่มีความ Exclusive และหาซื้อได้ที่นี่เท่านั้น  นอกเหนือจากนี้หากหนุ่ม ๆ เดินไปยังย่านมหาวิทยาลัยฮงอิก หรือ ฮงแด ก็จะพบกับสินค้าแบรนด์ Local ที่บรรดาวัยรุ่นเกาหลี นำดีไซน์จากไฮ-แฟชั่นมาปรับเปลี่ยนดีเทลเล็กน้อย และจำหน่ายในราคาย่อมเยาคล้าย ๆ กับคอนเซ็ปต์  Fast-Fasion จึงเหมาะกับคนชอบตามแฟชั่น แต่ไม่ได้กระเป๋าสตางค์หนักขนาดไปใช้ซื้อเสื้อผ้าราคาหลักหมื่น หลักแสนได้ ที่สำคัญร้านค้าส่วนใหญ่ยังสามารถขอภาษีคืนได้เต็มจำนวนอีกด้วย

Tokyo

สำหรับประเทศญี่ปุ่นกับแฟชั่นเป็นสิ่งที่เราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากมายอีกแล้ว เนื่องจากโตเกียวเป็นตัวแปรสำคัญต่ออุตสาหกรรมแฟชั่นโลก ที่รวมเอาวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ เจ๋ง ๆ ทั้งหมดไว้อย่างครบครัน โตเกียวจึงจัดได้ว่าเป็นเมืองที่มีความสนุกในเรื่องของการแต่งตัวมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ข้อดีของการช้อปปิ้งในประเทศญี่ปุ่น คือคุณจะเจอเสื้อผ้าที่หลากหลายมาก ๆ มีให้เลือกทุกแนวไม่ว่าคุณจะเป็นคนสไตล์ไหน ที่สำคัญเสื้อผ้าของพวกเขาจะมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน และคุณภาพตามแบบฉบับ Made in Japan สำหรับย่านช้อปปิ้งต้องบอกเลยว่ามีให้เลือกมากมายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น ชินจูกุ ซึ่งถ้าหากจะเดินให้หมดคงต้องใช้เวลามากกว่า 2 วัน หรือจะเป็นชิบูย่าเองก็มีของเจ๋ง ๆ ไม่แพ้กัน แต่ที่เด็ดสุดคงหนีไม่พ้นย่าน ฮาราจูกุ และโอโมเตะซาโดะ ที่รวมแบรนด์สตรีทจากทั่วโลกมาไว้ที่แห่งนี้ แม้กระทั่ง SUPREME ก็เป็นสาขาเดียวในเอเชียเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ถ้าเกิดคุณสามารถไปเจอแหล่งของมือสองก็จะได้ของดีราคาถูกอีกด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้นแม้จะมีสินค้า และแบรนด์ Local มากมาย แต่สินค้า Made  in Japan ก็ไม่ได้มีราคาถูก ส่วนใหญ่ล้วนเป็นสินค้าราคาแพงเอาการ บวกกับกฎหมายใหม่ของประเทศญี่ปุ่น ทำให้การขอคืนภาษีต่าง ๆ ยากลำบากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากชาว UNLOCKMEN คิดจะไปช้อปปิ้งที่โตเกียวคงต้องเตรียมสตางค์ไปด้วยพอสมควร

SUMMARIZE 

• เกาหลีจะมีสินค้าที่ราคาถูกกว่าญี่ปุ่นอยู่พอสมควร จึงเหมาะแก่นักช้อปที่ไม่อยากกระเป๋าฉีกมากนัก
• เกาหลีจะมี Fast-Fashion ที่เป็นแบรนด์ Local เหมาะสำหรับคนงบน้อยแต่อยากได้เสื้อผ้าดีไซน์ระดับไฮ-เอนด์
• เกาหลีสามารถขอคืนภาษีได้ง่ายกว่าญี่ปุ่นในปัจจุบัน
• ญี่ปุ่นมีย่านช้อปปิ้งให้เลือกสินค้ามากกว่า และมีแบรนด์ Local คุณภาพสูง อาทิ Bape , UNDERCOVER , Mastermind , Beams , Uniqlo , Momotaro , Asics และอีกมากมาย
• Sub-Culture ของประเทศญี่ปุ่นมีมากกว่าเกาหลี ส่งผลให้ความหลากหลายของสไตล์นั่นมีมากกว่า จนทำให้มีตัวเลือกในการจับจ่ายใช้สอยแบบ unlimited
• เกาหลีมีย่านของถูกมาก ๆ อย่าง ทงแดมุน และนัมแดมุน ซึ่งราคาแทบจะไม่ต่างจากบ้านเราเลย
• ร้าน Sneakers ที่ญี่ปุ่นมีเยอะกว่าแต่ในเกาหลีเองก็จะมีสินค้าที่ผลิตเฉพาะในเกาหลีเท่านั้น และไม่สามารถหาซื้อที่ไหนได้ในบางรุ่น