ROLEX DEEPSEA HISTORY ความหรูที่ผ่านการดำดิ่งทะเลลึกถึง 12,000 เมตร

ผมคิดว่าทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้คงต้องรู้จักนาฬิกาแบรน์ดังอย่าง ROLEX อยู่แล้วแต่ความพิเศษของ ROLEX กับการสร้างประวัติศาสตร์ที่ ROLEX สรรสร้างขึ้นมากับนาฬิกาในแต่ละรุ่นนั้น ผมรู้สึกถึงความมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก มันดึงดูดให้ผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาหลงไหลในความพิเศษของแบรน์นี้ได้อย่างชัดเจน แม้กระทั่งตัวผมเอง ครั้งนี้ผมจึงอยากหยิบความพิเศษของ ROLEX ที่สร้าง “การกันนํ้า” ที่เรียกได้ว่าเป็นที่ขึ้นชื่อลือชามาแนะนำให้รับรู้กันครับ

ในปีค.ศ. 1926 ROLEX ได้คิดค้น Oyster Case ซึ่งเป็นกรอบนาฬิกาแรกของโลกที่สามารถกันนํ้าได้เนื่องจากฝาหลังและเม็ดมะยมที่มีลักษณะเป็นเกลียว ซึ่งเราจะสังเกตุเห็นจะมีคำว่า Oyster ข้างหน้า Perpetual ปรากฏอยู่บนหน้าปัดนาฬิกาของทาง ROLEX โดย ROLEX ได้จดสิทธิบัตรระบบขันสกรูยึดขอบด้านหลังของตัวเรือนและเม็ดมะยมเข้ากับตัวเรือนตรงกลาง

แต่ความสุดยอดของการกันนํ้าของ ROLEX ไม่ได้จบเพียงเท่านี้ ในปี 1960, วันที่ 23 มกราคม ยานสำรวจนํ้าลึก TRIESTE ที่ร้อยโท Don Walsh ผู้ขับเรือและ Jacques Piccard ผู้ร่วมเดินทาง ได้ทดสอบการดำดิ่งลงไปที่ร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนาซึ่งเป็นบริเวณการยุบตัวลงไปลึกที่สุดบนผิวโลกและประสบความสำเร็จในการเดินทางสุดเหลือเชื่อจากความลึก 10,916 เมตร (35,814 ฟุต) ยานสำรวจนํ้าลึกทำงานได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับ ROLEX DEEP SEA SPECIAL นาฬิกาสำรวจรุ่นทดสอบที่ถูกติดไว้ด้านนอกยานสำรวจระหว่างการดำนํ้าครั้งประวัติศาสตร์นี้ ซึ่งนับเป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษที่ยังไม่มีแบรน์ใดทำลายสถิตินี้ได้

ROLEX DEEPSEA ยังสร้างประวัติศาสตร์ต่อไปอีก ซึ่งทาง ROLEX ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์อันสุดยอดร่วมกับผู้สร้างภาพยนตร์และนักสำรวจที่ชื่อดัง James Cameron (ผู้กำกับ Titanic, Avatar) ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2012 James Cameron ได้ร่วมมือกับทาง National Geographic ดำดิ่งไปกับยานสำรวจ DEEPSEA CHALLENGER ลงไปที่ความลึก 10,908 เมตร (35,787 ฟุต) เพื่อให้ถึงจุด CHALLENGER DEEP เป็นจุดที่ลึกที่สุดในมหาสมุทรโลก

จุด CHALLENGER DEEP เป็นร่องลึกก้นมหาสมุทรมาเรียนาซึ่งเหยียดตัวยาวเป็นแนวโค้งรอบหมู่เกาะมาเรียนาในมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ลึกลงไปถึง 11,000 เมตร จากผิวนํ้า ถ้านำยอดเขาเอเวอเรสต์ที่สูงที่สุดในโลก ไปตั้งที่ร่องลึกนี้ยอดเขาจะยังจมอยู่ใต้นํ้าลึกเฉลี่ยประมาน 2,000 เมตร

การสำรวจครั้งนี้ James Cameron ได้นำนาฬิกา ROLEX DEEPSEA CHALLENGE มาติดที่แขนกลของยานสำรวจ ซึ่งเมื่อดำดิ่งลงไปที่บริเวณความลึกนี้ปรากฏว่านาฬิกายังคงทำงานได้ปกติแม้ว่าเป็นการดำนํ้าลึกที่มีแรงดันสูง จึงกล่าวได้ว่า ROLEX นั้นเป็นแบรน์ชั้นนำด้านนวัตกรรมของการกันนํ้า

ส่วนการสรรสร้างผลงานนาฬิกาอันสุดยอดแบบนี้ ROLEX ได้ใส่ใจกับรายละเอียดเป็นอย่างสูง ซึ่งในปี 2004 ในช่วง ROLEX กำลังพัฒนา DEEPSEA ทาง ROLEX ได้จัดหาแทงค์นํ้าความดันบรรยากาศสูงเพื่อใช้ทดสอบกับนาฬิกาในความลึกกว่าก้นสมุทรที่ลึกที่สุด โดยสามารถทดสอบได้ในความดันบรรยากาศที่สูงสุดถึง 1,500 บาร์ (หรือเท่ากับความลึก 15,000 เมตร: 12,000 เมตร+ ส่วนเผื่อความปลอดภัย 25 เปอร์เซ็นต์) หลังจากการทดสอบในแทงค์นํ้าแล้ว นาฬิกา DEEPSEA จะได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งโดยผู้ชำนาญการด้านคุณภาพเพื่อตรวจจับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากแรงดัน

วัสดุของนาฬิกาที่ออกแบบขึ้นด้วยส่วนประกอบ คือ เหล็ก 904L ส่วนกรอบกลางและสายของนาฬิกาคือเหล็กพิเศษที่มีส่วนผสมของไนโตรเจนและอัลลอยคุณภาพสูง วงแหวนระบบ RINGLOCK (ระบบ RINGLOCK เป็นนวัตกรรมพิเศษทางเทคนิคจะช่วยให้ตัวเรือนทนต่อแรงดันนํ้าได้เทียบเท่ากับนํ้าหนักประมาณ 3 ตัน กระจกหน้าปัดสามารถลงลึกใต้นํ้าที่มนุษย์สามารถรอดชีวิตได้ทางกายภาพถึง 100 เท่า) ไทเทเนียมเกรด 5 สำหรับฝาหลัง เม็ดมะยมแบบขันเกลียวพร้อมการแกะสลักรูปมงกุฏและจุดสามจุดซึ่งแสดงว่ามีระบบกันนํ้าสามชั้นแบบ TRILOCK หน้าปัดแผ่นเหล็กมาตราฐานของ ROLEX DEEPSEA ประกอบด้วยขีดบอกเวลาทำจากทองคำเหลือบขาวผ่านการเคลือบ CHOROMALIGHT ซึ่งสามารถเรืองแสงได้เป็นเวลานาน ส่วนด้านล่างของหน้าปัดจามีเลขที่รับประกันความสามารถในการกันนํ้า (เปลี่ยนแปลงเพื่อแสดงความเป็นสถิติที่ 39,370ฟุต = 12,000 ม.) และขอบหน้าปัดเซรามิก CERACHROM แบบหมุนได้ และนี่ก็คือความสุดยอดของนาฬิกา ROLEX รุ่น DEEPSEA ครับ

ข้อมูลจำเพาะ ROLEX DEEPSEA CHALLENGE

ตัวเรือน : OYSTER + ระบบ RINGLOCK
วัสดุ : เหล็ก 904L (กรอบกลาง) เหล็กไนโตรเจนอัลลอยด์ไทเทเนียมเกรด 5
ความหนากระจก : แซฟไฟร์ 14.3มม.
เม็ดมะยม : TRIPLOCK (กันนํ้า 3 ชั้น)
กันนํ้า : 12,000 ม. (39,370 ฟุต)
การต้านทานนํ้าหนัก : 13.6 ตัน
เส้นผ่านศูนย์กลาง : 51.4 มม.
ความหนา : 28.5 มม.

เรียบเรียง :
สุพล บูรณะประเสริฐสุข,
Guest Contributor