เช่นเดียวกับ Porsche จะเล่น Carrera อย่างน้อยต้องมี S และหากจะเล่น BMW M ก็ต้องไปให้สุดทาง นี่คือโมเดลที่เหล่า M Lover เฝ้ารอ all-new BMW M4 CS รุ่นย่อยที่เหนือกว่า M4 Competition เป็นรองเพียงแค่ CSL ซึ่งทีม BMW เน้นว่า M4 CS รุ่นนี้ถูกพัฒนาให้มี driving experience ที่แตกต่างจาก M4 และ M4 Competition เน้นความรู้สึกและอารมณ์สปอร์ตที่เข้มข้นจัดจ้านแบบเต็มพิกัด และดีไซน์ที่ยกมาจาก CSL ในหลาย ๆ จุด หากใครจำรายละเอียดของ M3 CS ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ได้ อาจจะไม่ตื่นเต้นกับ M4 CS มากนัก ใต้ฝากระโปรงของ M4 CS ใช้เครื่องยนต์ S58
ชื่อของ Lambretta กว่าจะถูกแปะอยู่ในวัฒนธรรมหลัก Pop Culture เป็น Scooter สัญชาติ Italian จากเมือง Milan สไตล์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครได้อย่างทุกวันนี้ต้องบอกว่าเป็นการเดินทางที่ยาวไกลมาก และย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1947 นู่นเลย แล้วเป็นการเดินทางที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพียง Subculture ทางเลือกนอกกระแสคนขี่มาก่อนด้วยซ้ำ บทความนี้จะพาชาวเลือดกรุ๊ปแลมทุกคนไปรีแคปเส้นทางการเดินทางส่วนหนึ่งของ Lambretta ให้เห็นว่ารถจากอิตาลีคันนี้วิ่งผ่านเส้นวัฒนธรรมย่อยเข้าสู่วัฒนธรรมหลักได้อย่างไร เพื่อให้เข้าใจความสัมพันธ์ของแลมกับชีวิตของผู้คนอย่างจริงจัง ไปด้วยกัน หมุดหมายแรกของ Lambretta ในเรื่องเล่าของเรา มาเริ่มต้นเล่าเรื่องนี้กันตรงที่มาทบทวนคำศัพท์กันก่อนดีกว่า และคำเดียวที่คุณจะต้องรู้ก็คือคำว่า ‘ม็อด (Mods)’ ที่หมายถึง ‘สมัยใหม่นิยม (Modernism)’ เป็นคำซึ่งใช้นิยามคนกลุ่มหนึ่งจากเมืองผู้ดีกรุงลอนดอน (London) ในยุค 1950s ที่แน่นอนว่ามี Lambretta เป็นพาหนะเดินทาง เป็นสัญลักษณ์ และเป็นแพชชั่นของชีวิต Mods คือกลุ่มวัยรุ่นที่ฐานะอยู่ในระดับชนชั้นกลาง มีความคิดเห็นต่างต่อบรรทัดฐานของสังคมเพื่อที่จะแสดงถึงความอิสระของตัวเอง และสิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นหนุ่มสาวชาว Mods ได้ดีที่สุดคือการคัสตอม Lambretta ที่มีกระจกข้างยุบยับเต็มรอบส่วนหน้าของรถ คำถามที่ว่า “ทำไม?” คำตอบก็คือพวกเขาทำเพื่อประชดรัฐบาลอังกฤษ ณ ช่วงเวลานั้น
เอ็มบี แอนด์ เอฟ (MB&F) เชื่อมโยงความหลงใหลในโลกแห่งยานยนต์ นับตั้งแต่ปี 2012 ด้วยผลงาน HM5 ตามมาด้วย HMX ในปี 2015 และ HM8 ในปี 2016 ผลงานแต่ละรุ่นด้านข้างตัวเรือนสะท้อนความเท่ผ่านมาตรวัดความเร็วที่สามารถจดจำได้ตั้งแต่แรกเห็น ชวนให้นึกถึงการออกแบบที่ท้าทายและล้ำสมัยของปี 1970 หนึ่งทศวรรษหลังจากเครื่องบอกเวลา MB&F ได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์ ทางแบรนด์ได้ต่อยอดด้วยการเปิดตัว HM8 Mark 2 ในปี 2023 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซุปเปอร์คาร์ หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวสองรุ่นในปี 2023 – ด้วยเคสตัวเรือนสีขาวหรือสีเขียว โดยรุ่นหลังผลิตจำนวนจำกัดเพียง 33 เรือน – ผลงาน HM8 Mark 2 กลับมาพร้อมกับรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นอีกครั้งในปี 2024 มาพร้อมตัวเรือนสีน้ำเงินเงาวาว ผลิตเพียง 33 เรือน เม็ดสีเมทัลลิกที่มีลักษณะเป็นวัสดุโปร่งแสง ตัวเรือนสีน้ำเงินชวนให้นึกถึงสีรถสุดหรูทั้งทางด้านเทคนิคและความสวยงาม นาฬิกา HM8 Mark 2 มีให้เลือกระหว่าง
Ferrari 12Cilindri ชื่อรุ่นใหม่มาจากภาษา Italian แปลว่า “12 cylinders” เป็นการตอกย้ำถึงเครื่องยนต์ 6.5 ลิตร NA V12 ที่ถูกเลือกมาอัพเกรดวางใต้ฝากระโปรงหน้าของ Super Grand Tourer โมเดลล่าสุดที่มาแทน 812 Superfast ให้พละกำลังแรงสะใจถึง 819 แรงม้า แรงบิด 678 นิวตันเมตร รอบจัดลากได้ถึง 9,500 rpm เครื่องยนต์ 6.5 ลิตร NA V12 ซึ่งเป็น flagship engine ของ Ferrari ผ่านการเปลี่ยนไส้ในด้วยวัสดุ titanium และ aliminum alloy เคลือบด้วยสาร Diamond-Like-Carbon coating ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่นมากขึ้น ลดน้ำหนักพร้อมเสริมความทนทานในระดับเดียวกับรถแข่ง Formula 1 นอกจากนี้ยังมีการเขียน software เรียก max torque
จบการแข่งขันกันไปเรียบร้อยสำหรับแคมเปญคนคลั่งบอลประจำฤดูกาล 2024 ของ Chivas The Blend ในสโมสรฟุตบอลที่ใช้ชื่อว่า REGAL F.C. ที่มาในปีที่ 3 และยังคงแน่วแน่ในโกลด์ของตัวเอง ซึ่งต้องการให้วัฒนธรรมฟุตบอลถูกขับเคลื่อนด้วยความหลากหลายให้ได้ ไม่ว่าจะสไตล์ไหน มีความชอบอะไร หากมีใจรักให้กับ Football เราทุกคนก็คือทีม “I RISE, WE RISE!” อย่างไม่มีแบ่งแยก ! เพราะว่าวงการฟุตบอลมีตำนานและความเป็นไปได้รอให้ค้นหาในทุกวัน REGAL F.C จึงขอวิ่งลงสนามตามทันทุกเทรนด์ฟุตบอลโลกโดยมีคำประจำใจใช้เฉลิมฉลองของตัวเองว่า “Modern Football Culture” โดยที่ตั้งแต่เริ่มต้นสโมสรใน Day 1 ก็คิดแคมเปญนี้ขึ้นมาเพื่อสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถจากทุกแขนงทั่วโลกที่ต้องการฉีกกฎเดิม ๆ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ โดยเฉพาะกับดนตรี ศิลปะ และแฟชั่น เป็นการขับเคลื่อนชุมชนวัฒนธรรมคนรักฟุตบอลแบบรอบด้านก็ว่าได้ และสำหรับแคมเปญ REGAL F.C 2024 ของไทยประจำปีนี้แมทช์ Football Game สุดดุเดือดจาก 3 Headliner คุ้นหน้าคุ้นตาคุ้นฝีแข้งนำทีมโดย #StreetIcon ‘บ๊อบ–วรากฤช วิวัฒนาเกษม
Oh, my baby, sweet like bubble gum Bouncin’ like playin’ ball จะร้องไห้ นี่สินะที่เขาเรียกว่าวางรากฐานมาดีซะจนจะฉีกไปทำอะไรที่ออกจากวงกลมของ Comfort Zone มาก ๆ ก็ได้แล้ว ใครจะนึกว่าจะได้ฟังเพลงที่มีความเป็น City Pop จาก NewJeans กันนะ แล้วพอไล่อ่านเครดิตก็ไม่ผิดคาด 250 ในตำแหน่ง Producer เหมือนอย่างที่แล้วมา ตั้งแต่วงเดบิวต์กับ ADOR ในปี 2022 ที่ผ่านมา ย้อนกลับไปในงาน Korean Music Awards ครั้งที่ 19 (KMA 2022) เป็นปีที่ Lee Ho-hyeong สามารถคว้ารางวัลทั้งฝั่งเบื้องหน้าในการเป็นศิลปินและเบื้องหลังของการเป็นโปรดิวเซอร์เองก็ตาม ชื่อที่ถูกส่งเข้าชิงรางวัลไม่ใช่ชื่อที่คุณเพิ่งอ่านไปในบรรทัดก่อน แต่สำหรับวงการเพลง K-pop เขาถูกเรียกด้วยรหัส 250 (이오공) เหตุผลไม่ซับซ้อน ชื่อจริงของเขาออกเสียงคล้ายกับตัวเลข 2
– นี่คือคำสารภาพของเด็กหนุ่มวัย 30 ที่หลงไหลในเพลงเศร้าผู้อยากขลุกตัวอยู่ในหลุมดำของตัวเองตลอดเวลา – ทุกครั้งที่ฟังเพลงของ AYLA’s มันเหมือนเราพาตัวเองเดินเข้าสู่คลาสบำบัดความรู้สึกเลวร้ายตลอดทั้งวันด้วยสิ่งที่เศร้ายิ่งกว่า ภายในห้วงนั้น มีเตียง 1 ตัวให้ทิ้งทุกอย่างก่อนปล่อยร่างลงนอน เมื่อโน้ตแรกจากเสียงเพลงแว่วเข้ามา การบำบัดก็ได้เริ่มต้นขึ้น เด็กหนุ่มทั้ง 5 ใช้ความเศร้าหมองเป็นยาดี ทำเพลงไวบ์หม่นเศร้าเพื่อที่จะคอยปรบบ่าเราเบา ๆ ให้ก้าวสู่วันใหม่ได้ด้วยแรงของของตัวเองอีกครั้ง อัลบั้ม I’M KEEP GOING RUN AWAY มีความหมายอย่างนั้นกับเรา และตัวเพลงก็ได้ทำให้ซีนจากมังงะ ภาพยนตร์ หรือซีรีส์หลาย ๆ เรื่องที่เคยอยู่ในความทรงจำของเราให้มีความหมายยิ่งกว่าเดิม Next Cover, Same Mood ตอนที่ 10 จึงเป็นการจับหลากซีนที่ทั้งใจสลาย หรือบางครั้งก็ทำให้ทำให้หลั่งน้ำตาแห่งความสุขออกมาโดยไม่รู้ตัวเหล่านั้น เข้ากับทั้ง 12 เพลงในอัลบั้มนี้ ** คอลัมน์นี้มีสปอยล์ซีนสำคัญของมังงะ ภาพยนตร์ และซีรีส์หลายเรื่อง ** Song : เปลี่ยนไปแต่เหมือนเดิม (Changed) Anime : Ocean
โมเดลที่ขายดีที่สุดของ Lamborghini Urus เปิดตัวขุมพลัง Plug-in Hybrid ที่ทั้งแรงและเร็วยิ่งขึ้นโดยไม่ลดไซส์เครื่องเล็กลง ยังคงเป็นเครื่องขนาด 4.0-liter V8 ทำงานร่วมกับ e-motor ให้กำลังรวมมากถึง 789 hp แรงบิด 701 lb-ft มาตั้งแต่ 1,750 rpm ทำเวลา 0-100 km/h ได้ 3.4 วินาที เร็วกว่า Urus S อยู่ 1 วินาที แต่ยังเป็นรอง Performante อยู่ 1 วินาทีเช่นกัน ความเร็วสูงสุดล็อคไว้ที่ 310 km/h Lamborghini Urus SE ใช้แบตเตอรี่ความจุ 25.7 kWh ซ่อนอยู่ใต้ที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ขับด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 60 km ใน EV Mode ขับความเร็วสูงสุดได้
New Mercedes-Benz Electric G-Class ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ The Geländewagen ที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ แทนที่ด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แต่ก็ยังคงความแกร่งพร้อมลุยเส้นทาง off-road ได้เหมือนเดิม ใช้ชื่อโมเดลว่า G580 with EQ Technology แทนที่ EQG ขุมพลัง quad-moto มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวครั้งแรกของ Mercedes-Benz ประกบสร้างพลังงานให้แต่ละล้อ ให้พละกำลังรวม 579 แรงม้า แรงบิดมากถึง 1,165 นิวตันเมตร แรงบิดมากกว่าตัว AMG G63 ถึง 315 นิวตันเมตร ทำเวลา 0-100 ใน 4.4 วินาที แบตเตอรี่ความจุ 116.0-kWh เก็บอยู่ในเคสซึ่งรวมอยู่กับเฟรมของรถเสริมความแข็งแกร่งเป็นพิเศษด้วยแผ่นปิดใต้รถผลิตจาก carbon-reinforced plastic ปกป้องจากเศษฝุ่นและน้ำ ช่องชาร์จอยู่ด้านหลังมาแทนที่ตำแหน่งล้ออะไหล่ของรุ่นปกติ ขับได้ระยะทางสูงสุด 384 กิโลเมตร ค่อนข้างน้อยไปหน่อยในยุคนี้ การชาร์จ