

Business
แกะรอย “WEALTH PERSONAL BANKER” อาชีพแห่งอนาคต
By: unlockmen August 3, 2018 109686
ปัจจุบันกระแสการลงทุนการบริหารความมั่งคั่ง เป็นเรื่องที่คนรุ่นใหม่ต่างให้ความสนใจ ทว่าด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ ที่มีความซับซ้อน ความรู้ความเข้าใจในการลงทุนที่เรายังมีไม่เพียงพอ และคำว่า “ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน” จึงมาแตะเบรก ทำให้แม้เราจะอยากลงทุน แต่ก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยง เพื่อตอบโจทย์กระแสการลงทุนนี้ จึงเกิดเป็นเทรนช่องทางการบริการทางการเงินแบบใหม่ที่เรียกว่า Wealth Management หรือการบริหารความมั่งคั่งขึ้น โดยมี “Wealth Personal Banker” หรือผู้แนะนำการลงทุนที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านการบริหารเงิน รับหน้าที่ดูแล ปกป้อง และเพิ่มพูนของมั่งคั่งให้กับเรา
เพื่อเจาะลึกเบื้องหลังของอาชีพสุดท้าทายนี้ ทีมงาน UNLOCKMEN จึงมุ่งหน้าไปเสาะหาข้อมูลจากคนที่ทำอาชีพนี้และอยู่ในวงการนี้จริงโดยแวะเวียนมาที่ SCB Investment Center โดยได้รับความอนุเคราะห์ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ คุณก้อย – กาญจนา คล่องอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส SCB FIRST: SA, Executive and Professional Segment และผู้บริหารศูนย์ SCB Investment Center กรุงเทพฯ คุณปอย -สุดคนึง หงส์ลดา Personal Banker ศูนย์ Investment Center สาขา Central พระราม 3 และคุณธง – คุณธงชัย ศิริพิน Personal Banker จากศูนย์ Investment Center สาขา Central World
คุณปอย -สุดคนึง หงส์ลดา (ด้านซ้าย) คุณก้อย – กาญจนา คล่องอนันต์ (กลาง) และคุณธง – คุณธงชัย ศิริพิน (ด้านขวา)
“Wealth Personal Banker ถ้าให้พูดเข้าใจอย่างง่าย ๆ คือเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว หรือเพื่อนคู่คิดในเรื่องการวางแผนทางการเงินในทุกด้าน สำหรับลูกค้ากลุ่ม Wealth (กลุ่มลูกค้า FIRST ที่มีสินทรัพย์กับธนาคารมากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป หรือ PRIME ที่มีสินทรัพย์กับธนาคารมากกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไป) เช่น เรื่องการลงทุน การขยายธุรกิจ การวางแผนภาษี วางแผนเกษียณ แม้กระทั่งเรื่องของการทำธุรกรรมต่าง ๆ กับธนาคาร”
นิยามของการเป็นทุกอย่างทางการเงินนี้ ค่อนข้างน่าสนใจ แต่นอกจากผู้เชี่ยวชาญวัยภูมิฐานที่คุ้นเคย เรายังพบภาพแปลกตาเป็น Personal Banker หน้าตาอ่อนวัยที่พูดจาฉะฉานมั่นใจหลายท่านในศูนย์ Investment Center แห่งนี้ เมื่อธนาคารคือสถาบันการเงินที่เข้าใจเรื่องความเสี่ยงเป็นอย่างดี จึงเป็นเรื่องน่าสนใจว่าทำไมจึงคัดเลือกคนรุ่นใหม่ที่ยังมีประสบการณ์ไม่มากนักมารับหน้าที่อันสำคัญนี้
คุณก้อย : ยุคปัจจุบันคนไทยยังลงทุนน้อย เราต้องการคนรุ่นใหม่ที่เรียนรู้และรับสิ่งใหม่ได้เร็ว สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้หาข้อมูล เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราบริหารเงินได้ถูกต้องมากขึ้น โดยเราได้สร้างหลักสูตรแนวทางการบริหารความมั่งคั่งที่เข้มข้น เพื่อเพิ่มพูนความรู้ทางด้านการเงินการลงทุน และเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับพนักงานให้แนะนำลูกค้าอย่างเพื่อนคู่คิด เป็นที่ปรึกษาเพื่อตอบโจทย์ทางด้านการเงินให้กับลูกค้า
ไม่เพียงแค่สู้กับเศรษฐกิจโลก แต่คนที่ทำอาชีพนี้ต้องสู้กับความเชื่อมั่นระหว่างคนด้วยกัน นักลงทุนบางคนอาจขาดความมั่นใจเมื่อพบว่าคนที่ต้องนำเงินในบัญชีมาให้บริหารอายุน้อยกว่า PB ทุกคนจึงต้องผ่านการฝึกอบรมด้วยคอร์สที่เข้มข้นจากเทรนเนอร์ที่เป็นกูรูมืออาชีพฝึกฝนจนมั่นใจว่ามีความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง มีการรับรอง License ถึงจะได้ลงสนามจริงเจอลูกค้า
นอกจากการฝึกอบรมเรื่องความรู้ทางด้านการเงินการลงทุนแล้ว การฝึกด้านบุคลิกภาพ การสนทนากับลูกค้า การนำเสนอก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
คุณก้อย : น้อง ๆ Personal Banker หรือ PB ทุกคนที่เข้ามาทำงานต้องผ่านการเทรนความรู้เจาะลึกด้านการลงทุนและการวางแผนด้านการเงินที่เข้มข้น โดยเราเน้นสร้างความเข้าใจควบคู่กันทั้งในตำราและนอกตำรา ความเข้าใจตลาด เข้าใจผลิตภัณฑ์ที่ต้องแนะนำ และที่สำคัญที่สุดคือเข้าใจความต้องการทางการเงินของลูกค้าเพื่อให้คำปรึกษาและนำเสนอการลงทุนอย่างเหมาะสมตามเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งทั้งหมดต้องเป็นไปด้วยความละเอียดอ่อน จริงใจ ซื่อสัตย์ และมีจรรยาบรรณมุ่งหวังว่าลูกค้าที่ดูแลจะต้องได้รับผลตอบแทนเป็นความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น ถัดมาเป็นการพัฒนาปรับภาพลักษณ์หรือ Soft skill ให้น่าเชื่อถือ จัดเป็นคอร์สทีละขั้นตอนให้เรียนรู้ตามลำดับ ทุกคนต้องฝึกฝนสม่ำเสมอก่อนจะทดสอบด้วย Roleplay
แต่การเรียนรู้จะไม่จบภายในคลาสเท่านั้น เพราะ PB จะได้รับการจัดกลุ่มเป็นทีม มี SAM (Sub Area Manager) ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงใกล้ชิดคอยติดตามสิ่งที่เรียน และประเมินอย่างสม่ำเสมอว่าเรื่องที่เรียนมาได้นำมาใช้อย่างถูกต้องจริง
Wealth to know – รู้หรือยังการดูแลลูกค้า Wealth มีเบื้องหลังมากกว่าที่คิด
ไม่เพียงทักษะทางความรู้และความสามารถทางสังคมที่ต้องฝึกฝนอย่างเข้มข้น ส่วนสำคัญของวางแผนการลงทุนคือการสัมผัสความเสี่ยงด้วยตนเอง Wealth Academy จึงสนับสนุนให้ PB ทุกคน รู้จักลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับความเสี่ยงของตนเอง และลงทุนในผลิตภัณฑ์เดียวกันกับลูกค้าเพื่อเป็นกุศโลบายปลูกฝังความใส่ใจให้กับ PB ทุกคน เมื่อเกิดความผันผวนขึ้นทุกคนจะทราบที่มาเพื่ออธิบายลูกค้าได้อย่างครบถ้วน รวมทั้งเป็นหนทางสร้างความรู้สึกเข้าอกเข้าใจลูกค้าได้เป็นอย่างดีทั้งยามขาดทุนและยามกำไร
ด้วยความสงสัยเราถามได้ถึงแนวทางการจัดการเมื่อ PB ต้องพบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันทางเศรษฐกิจว่าทางทีมมีมาตรการในการจัดการอย่างไร คำตอบที่ได้รับกลับมาฟังแล้วน่าชื่นใจในแนวทางการบริหารทีม เมื่อพบว่า PB คนไหนเริ่มมีความเครียด หัวหน้าทีมจะรีบซัพพอร์ตดูแลด้วยการให้กำลังใจ กล่าวชมเชยในสิ่งดีที่เคยทำ หรือให้หยุดพักตามความเหมาะสม เราคิดว่าส่วนนี้คล้ายการช้อนหุ้นในวันที่หน่วยการลงทุนตกเพื่อรอวันที่พอร์ตกลับมาเขียวสดใสอีกครั้ง ฟ้าหลังฝน เขียวหลังแดง ย่อมเกิดขึ้นเสมอ
ล้วงลึกระดับนโยบายกันไปแล้ว ถึงเวลาพูดคุยกับ Personal Banker หน้าใหม่ ทั้ง 2 ท่านนี้บ้าง บอกเลยว่าแม้พวกเขาทั้งคู่จะมีประสบการณ์ด้านการเงินมาก่อน แต่สำหรับการเป็น Personal Banker นี่คือเรื่องใหม่ของพวกเขา
ก่อนหน้านี้ทำงานอะไรอยู่ ทำไมถึงมาเป็น Personal Banker
คุณปอย : เดิมปอยเคยเป็นผู้จัดการสาขามาก่อนค่ะ ลักษณะงานคล้ายกันคือดูแลูกค้ารายใหญ่ แต่เหตุผลที่คิดจะเปลี่ยนแนวมาทำงานนี้ เพราะคิดว่าเทรนด์ของ Personal Banker กำลังมาเป็นงานหลักในสายการเงินการธนาคาร จะทำให้เรามีความรู้ความเข้าใจเรื่องการเงินการลงทุนอย่างเจาะลึกกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ และคิดจะอยู่ไปอีกนานในสายงานนี้ค่ะ
คุณธง : ก่อนหน้านี้ผมทำงานเป็น Wealth Officer ที่ดูแลลูกค้าทุกคนในสาขา แต่พอมาเป็น Personal Banker เราจะได้ดูแลลูกค้าระดับ High Net Worth ทำให้มีโอกาสทำงานที่ท้าทายมากขึ้น เราต้องเตรียมตัวดีมาก ๆ เพื่อนำข้อมูลไปนำเสนอลูกค้ากลุ่มนี้ซึ่งเป็นกลุ่มที่ส่วนใหญ่มีความรู้เรื่องการลงทุนดีอยู่แล้ว มันทำให้เรามีโอกาสพัฒนาตัวเองมากขึ้น เพื่อเติบโตต่อไปในวิชาชีพนี้ ซึ่งอาชีพนี้ในประเทศไทยถือว่ามีค่อนข้างน้อยถ้าเปรียบเทียบกับสิงคโปร์หรือประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ
การเป็น Personal Banker ต้องผ่านการเรียนรู้และประเมินอะไรบ้าง
คุณปอยและคุณธง : นอกจากเรื่องการฝึกฝนความรู้ด้านการเงินการลงทุน และการดูแลภาพลักษณ์ตนเองแล้ว เราต้องเรียนรู้พื้นฐานการเป็น PB ให้คำแนะนำให้ตรงจุด ตรงความต้องการของลูกค้า เน้น Benefit ของลูกค้าเป็นหลัก คำนึงถึงช่วงเวลาที่เหมาะกับการลงทุนในแบบต่างๆ และเข้ามาดูแลพอร์ตของลูกค้าให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น นอกจากนี้สำหรับ PB ก่อนที่จะมาลงสนามจริง เราต้องมี License ให้ครบทั้งหมด 3 Licenses ก่อนคือ LIB NIB และ IC ค่ะ
นอกจากเงิน อะไรคือผลตอบแทนอื่นจากการประกอบอาชีพนี้ และต่างจากอาชีพอื่นอย่างไร
คุณธง : อาชีพนี้ทำให้เราได้รับความรู้ความเข้าใจด้านการเงินการลงทุนมากขึ้น สามารถนำมาใช้วางแผนการเงินให้กับตนเอง ครอบครัว และคนรอบข้างได้อย่างเหมาะสมครับ ระหว่างที่เราลงทุนด้วยตัวเอง เห็นผลลัพธ์ด้วยตัวเอง รู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดีอย่างไร เรานำข้อมูลนั้นกลับมาแนะนำลูกค้าได้ ซึ่งถ้ามองในแง่ของการบริหารจัดการการเป็น PB ทำให้เราได้บริหารพร้อมกันถึง 3 ส่วน
ส่วนแรกคือ การบริหารการเงินให้ตัวเอง ส่วนที่สองคือการบริหารการเงินให้ลูกค้า และสิ่งสุดท้ายคือการได้บริหารเวลาการใช้ชีวิตด้วยตัวเอง เพราะเราได้รับอิสระในการจัดตารางการทำงานของตัวเองเพื่อนัดหมายให้คำแนะนำลูกค้า ไม่จำเป็นต้องเข้าศูนย์ฯ เสมอครับ ที่สำคัญนอกเหนือรายได้ที่ได้รับแล้ว การพูดคุยกับลูกค้าช่วยให้ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ได้แนวคิด ได้ความรู้ และ Connection สำหรับต่อยอดให้ตัวเองได้ด้วย
คุณปอย : มันทำให้เราได้ก้าวออกมาจาก Comfort Zone ค่ะ จากเดิมงานสาขาเราอาจจะมีประสบการณ์เยอะมากแต่พอเปลี่ยนเราได้ Challenge กับหน้าที่ใหม่ และได้ความรู้ด้านการเงินการลงทุนแบบ 1 step forward เสมอเพราะทุกเช้าเราจะมีการแชร์ข่าวกันภายในทีม รวมทั้งท้าทายกับการเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนตามสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะเมื่อข่าวเปลี่ยนเราเองก็ต้องปรับแนวทางการลงทุนตาม อาจจะเรียกได้ว่ามีความท้าทายใหม่ ๆ ให้เราฝึกฝีมืออยู่เสมอ
ที่สำคัญยังมีเครื่องมือเทคโนโลยีต่าง ๆ สนับสนุนการทำงานให้ง่ายขึ้น ทั้งสมาร์ททีวีที่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลจากอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อแนะนำการลงทุนได้แบบ Real time เป็นส่วนตัว ห้องแนะนำการลงทุนแบบ multiple-screen ช่วยเปิดดูพอร์ตและข้อมูลพร้อมกันได้อย่างทั่วถึง รวมถึงห้องนิรภัยสำหรับเก็บทรัพย์สินมีค่าของลูกค้า แล้วการเป็น Personal Banker ทำให้เรามีโอกาสดูแล รู้จักลูกค้ามากกว่าที่ AI หรือหุ่นยนต์ทำได้ เพราะการบริการลูกค้าด้วยความผูกพัน มุ่งมั่น เข้าใจความต้องการของแต่ละคน ตามไลฟ์สไตล์ สามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้มากกว่า
อาชีพ Personal Banker นับเป็นหนึ่งสัญลักษณ์แสดงภาพความเอาใจใส่ของธนาคารที่ต้องการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้ลูกค้าธนาคารเกิดความพึงพอใจ ความเชื่อมั่นและไว้วางใจเสมือนเพื่อนคู่คิดที่ขาดกันไม่ได้ นอกจากนี้ Personal banker ยังเป็นตัวแทนของงานรูปแบบใหม่ที่ปลดล็อกความเชื่อเดิม ๆ เกี่ยวกับงานธนาคารว่าเป็นงานที่ทำอะไรเดิม ๆ เป็นกิจวัตร อยู่ในกรอบของเวลา โอกาสการเติบโตมีเพดานมาจำกัด พลิกมาเป็นงานที่มีความท้าทาย ให้ความรู้พัฒนาตนเอง พร้อมโอกาสความก้าวหน้าทางอาชีพ และความอิสระในการบริหารเวลาของตนเอง
ปลดล็อกเรื่องราวคลายความสงสัยในอาชีพนี้แล้ว วันนี้ถ้าใครอยากปลดล็อกศักยภาพทั้งชีวิตเพื่อไปค้นพบกับเส้นทางความมั่งคั่งแบบ Personal Banker ตอนนี้ทาง SCB ก็เปิดรับอยู่ สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ทาง https://careers.scb.co.th/ เพราะ “งาน” คืออนาคตที่เราลงทุนได้อีกทางเช่นเดียวกัน