

Business
แจ่มหรือจอด? เมื่อเฟซบุ๊กสร้าง “LIBRA” สกุลเงินดิจิทัลตัวใหม่ขึ้นใช้เอง
By: unlockmen June 19, 2019 150836
เงียบมาสักระยะสำหรับเรื่องข่าวคราวของสายสกุลเงินดิจิทัล หลังจากหลายคนหมุนเข้า ๆ ออก ๆ กันไปมาด้วยหลายเหตุผล ทั้งไม่อยากลงทุนบ้าง หน้าใหม่ไม่เหลือช่องให้เข้าก็มี แต่เมื่อไม่นานนี้ จู่ ๆ เรื่องนี้ก็กลับมาสร้างกระแสฮือฮาอีกครั้งหลังจากที่ Facebook โดดเข้ามาสร้างสกุลเงินของตัวเองจริงจังและประกาศใช้ตั้งชื่อสกุลเงินดิจิทัลอย่างไม่เป็นทางการว่า “Libra”
แต่ทันทีที่ประกาศตัวกับเผยข้อมูลไม่นาน ทางสภาคองเกรสก็ออกมาเบรกหัวทิ่มให้ทางเฟซบุ๊กชะลอโครงการนี้ก่อน เพราะอะไรและเราจะมีโอกาสสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัลไหม ลองมาดูข้อมูลบางส่วนที่เราสรุปให้พร้อมกัน
องค์กรใหญ่ก็ต้องคิดการใหญ่ สำหรับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ที่มีคนใช้งานสูงถึง 2,000 ล้านคนทั่วโลกอย่างเฟซบุ๊กเองก็ไม่ได้เริ่มตั้งไข่ Libra ไว้เล่น ๆ แต่เขาตั้งเป้าว่าสกุลเงิน Libra นี้จะเป็นโครงสร้างทางการเงินระดับโลกเพื่อคนยุคนี้ เพราะทุกวันนี้หลายพื้นที่ของโลกยังเข้าไม่ถึงสถาบันการเงินหลัก เปิดบัญชีธนาคารไม่ได้ ฯลฯ แต่เรายังมีมือถือ ดังนั้น ถ้าเปิดให้ใช้ช่องทาง Cryptocurrency ของ Libra เข้าไปใช้งานได้เมื่อไหร่ ปัญหานี้จะหมดไปทันที แถมยังตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่หันไปใช้ไลฟ์สไตล์แบบ Unbanked หรือการทำธุรกรรมนอกธนาคารกันหมดแล้ว และยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่เชื่อมการใช้เงินต่างสกุลกัน เพราะใช้เงินสกุลกลางอย่าง Libra ได้
Calibra แอปพลิเคชันที่ทำหน้าที่เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลของLibra
รูปแบบการใช้งานที่ตั้งใจ Libra สามารถเป็นสกุลเงินที่สามารถใช้งานได้ครอบคลุมหลายประเทศ
แต่เพื่อความโปร่งใสกับการตั้งตัวเป็นสถาบันกลางของโลก ฝั่งเฟซบุ๊กเขาเลยจัดตั้งองค์กรแยกที่เข้ามาควบคุมดูแลเรื่องนี้ โดยจัดตั้งเป็น Libra Association องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ทำงานร่วมกับพันธมิตร จากหลายสถาบันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและได้รับการยอมรับ
นอกจากนี้ยังมีข้อดีเรื่องการนำเทคโนโลยีคอนเซ็ปต์เดียวกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นมาใช้อย่างเรื่องการใช้เงินข้ามประเทศหรือพื้นที่ด้วยหน่วยเดียวกันมาเป็นจุดขาย แปลว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเดินถือมือถือเครื่องเดียวไปประเทศที่ยอมรับ Libra เราก็ไม่ต้องมานั่งแลกเงินให้โดนตอดค่าธรรมเนียมอีกต่อไป อยากซื้ออะไรก็ซื้อได้ด้วยสกุลเดียวกัน
Maxine Waters หนึ่งในสมาชิกสภาคองเกรสที่ออกมากล่าวให้ชะลอการดำเนินการของ Libra
แนวร่วมมีแล้ว แนวต้านก็ต้องมา! เรื่องนี้เรามองว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทั้งระดับองค์กรและระดับส่วนตัวที่ทุกคนควรรู้ข้อมูลนี้แล้วนำไปตัดสินใจอีกที เพราะสำหรับประเทศเราที่นิยมใช้เฟซบุ๊กจนโดนขโมยข้อมูลพรุนไม่รู้ตัว เรื่องนี้อาจจะใหญ่กว่าที่คิดจากเหตุผลเหล่านี้
เรามองว่าการมานั่งงัดข้อกันครั้งนี้ นอกจากเหตุผลที่กล่าวมาแล้วส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวงกว้าง ถ้า Libra ได้รับการนำมาใช้ตลาดจริง ๆ กลุ่มแรกที่จะโดนคลื่นลูกนี้กระแทกเข้าเต็มก่อนใครเพื่อนน่าจะเป็นสถาบันการเงินหลักทั้งหลายอย่างธนาคาร หรือแพลตฟอร์มใด ๆ ที่เป็นตัวกลางของโครงสร้างการเงินเพราะขาดรายได้ ขณะเดียวกันอีกเรื่องที่ต้องมานั่งกังวลใจคือการหยิบยื่นข้อมูลส่วนตัวเฟซบุ๊กรู้ตั้งแต่เรื่องไลฟ์สไตล์ไปจนถึงเงินในกระเป๋าเรา ซึ่งเขาจะสามารถนำไปต่อยอดมันได้อีกหลายอย่าง
พวกเราล่ะคิดว่ามีหรือไม่มีดีกว่ากัน