

Work
ซองขาวไม่ทำให้ถึงตาย! วิธีรับมือกับการโดนไล่ออกพร้อมหนทางเรียกฟอร์มในการทำงานกลับคืนมา
By: unlockmen March 7, 2018 95435
ชีวิตทำงานของผู้ชายอย่างเราคงไม่ได้ราบรื่นเสมอไป กว่าจะกลายเป็นสุดยอดคนทำงานก็คงต้องฝ่าฟันมหากาพย์อุปสรรคที่ถาโถมเข้ามา อย่างที่เขาว่ากันว่า “ยอดนักรบย่อมมีบาดแผล” และหนึ่งในบาดแผลฉกรรจ์ที่บางท่านเคยเจอมาก็คือการ “โดนไล่ออก” ที่สร้างดาเมจรุนแรงเหลือเกิน เพราะมันกระทบกับหลายแง่มุมในชีวิต ทั้งรายได้ โปรไฟล์ ความมั่นใจ รวมถึงอนาคต
ผลสำรวจจาก CareerBuilder และ SHRM บอกกับเราว่า นอกจากสาเหตุสุดคลาสสิคที่ทำให้มนุย์เงินเดือนโดนไล่ออกอย่าง ทำลายทรัพย์สินบริษัท, ใช้ยาเสพติดจนส่งผลกระทบกับงาน, ละเมิดกฎบริษัท, ทุจริต, ทำงานไร้ประสิทธิภาพ และความซวย ยังมีเหตุผลอื่น ๆ ที่ทำให้อาจโดนเด้งได้อีก เช่น โดนจับได้ว่าที่ลาป่วยไปไม่ได้ป่วยจริง, ใช้อินเตอร์เน็ตในออฟฟิศทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่เรื่องงาน, ไม่ตรงต่อเวลาเป็นประจำ, การโพสต์บนโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ไม่เหมาะสม ไม่ก็หายใจทิ้งบ่อย ๆ และสร้างความรำคาญขั้นสุดให้กับเพื่อนร่วมงาน
เอาเป็นว่าไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม การโดนไล่ออกมันก็คือความเจ็บปวด มันเป็นบาดแผลลึก แต่มันก็ไม่ถึงตาย ฮึดหน่อยพ่อหนุ่ม ทีมงาน UNLOCKMEN มีวิธีการรับมือกับการโดนซองขาวทุกขั้นตอนมาแนะนำ ตั้งแต่ได้ยินคำว่า “คุณโดนไล่ออก!” จนถึงช่วงแห่งการเยียวยา และฟื้นคืนชีพเข้าสู่โลกการทำงานอีกครั้ง เราเชื่อว่าไม่มีใครควรโชคร้ายแบบนี้ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ๆ จะได้มีทางลุยต่อ
นิ่งเข้าไว้ อย่าสติแตก
หลังจากโดนไล่ออกอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นจากปากของหัวหน้า(เก่า) หรือ HR ก็ตาม อย่าระเบิดอารมณ์ออกมาเด็ดขาด แม้ว่าจะแค้นโคตรและโคตรเคืองก็ตาม พยายามเก็บอารมณ์และกลืนมันลงท้องไปก่อน การแสดงความเดือดใส่หัวหน้าเก่าหรือ(อดีต)เพื่อนร่วมงานจะทำให้คุณดูน่าสมเพช ในเมื่อเรายังมีเกียรติ ก็ต้องให้เกียรติคนอื่น รับฟังแบบนิ่ง ๆ เท่ ๆ ดีกว่าแสดงความหัวร้อนออกมาในตอนนั้น
ค่อย ๆ หาสาเหตุที่เราโดนไล่ออก
พอตั้งสติได้แล้ว สูดหายใจลึก ๆ แล้วค่อยถามคนที่ปลดเราออกจากการเป็นมนุษย์เงินเดินว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ทำไมถึงไล่ผมออก เป็นเพราะทัศนคติของผมหรือเปล่า ? ผลงานไม่เข้าตาใช่มั้ย ? มีการปรับลดขนาดองค์กร หรือหั่นงบประมาณหรือเปล่า ?
แต่ที่สำคัญคือต้องพิจารณาตัวเองก่อนนะครับ บางอย่างที่เราบอกว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวอย่างโซเชียลเน็ตเวิร์กก็อาจทำให้เราตกงานได้หากโพสต์อะไรที่มันไปก้าวล่วงบริษัท เจ้านาย หรือผู้ร่วมงาน การโพสต์สเตตัสแย่ ๆ มันก็เหมือนกับการตด เพราะคุณไม่ได้เห็นและเหม็นเองคนเดียวนะครับ ทางที่ดีคือควรทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงเหตุผลที่โดนซองขาว จะได้นำมาพัฒนาศักยภาพตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อโอกาสทางการงานข้างหน้า
จากกันด้วยดี
เอาหละ ใจเย็นมาได้ขนาดนี้แล้วก็ต้องจบให้สวยหน่อย จำไว้ว่าอนาคตไม่แน่นอน โลกนี้อาจนำพาให้เรามาเจอกันอีก การพ้นสถานภาพเจ้านายกับลูกน้องอาจเป็นจุดเริ่มที่ดีของความเป็นพี่น้องก็ได้
บอกลาหัวหน้าของคุณแบบสุภาพและให้เกียรติ รวมถึงเซย์กู๊ดบายกับเพื่อนร่วมงานแบบแมน ๆ เก็บความรู้สึกแย่ ๆ เอาไว้ เพราะคนที่เขาไล่คุณออกก็คงรู้สึกแย่ที่ต้องทำเหมือนกัน
เดินออกไปแบบนิ่ง ๆ
หลังจากเสร็จสิ้นบทสนทนาแห่งซองขาวแล้ว คุณเดินออกจากห้อง boss สายตาทุกคนจับจ้อง อย่าไปหวั่นไหว ค่อย ๆ เดินไปที่โต๊ะทำงาน เก็บของส่วนตัว และของที่จำเป็นที่ไม่ใช่ทรัพย์สินของบริษัท ท่องไว้ว่าอย่าแวะบอกลาชาวบ้านเขาไปทั่ว ใช้ย่างก้าวที่สุขุม เก็บอารมณ์ นิ่งเข้าไว้ แล้วเดินออกทางประตูที่ใกล้ที่สุด
แต่ถ้าอยากจะส่งท้ายกับมิตรสหายร่วมงานที่ดี เราแนะนำให้นัดกันไปนอกรอบที่อื่น แล้วก็อย่ากังวลหากลืมของส่วนตัวไว้ โดยส่วนใหญ่แล้วทาง HR จะเป็นคนเก็บของของคุณไว้ให้ เดี๋ยวค่อยหาโอกาสมาเอาทีหลังได้
อย่าอายที่จะพูดความจริง
พอตกงานแล้วก็จะเจอคำถามมากมาย พวกนายก็ชอบถามตลอดเลย จะให้พูดออกมาเฉย ๆ ว่า “เห้ยเพื่อน กูโดนไล่ออกหวะ” แบบไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอไง อย่าเขินเลยครับ แมน ๆ อย่างเราต้องยอมรับความจริง การแชร์ประสบการณ์แย่ ๆ ให้คนรอบข้างฟังนอกจากจะเป็นการระบายที่ดีแล้ว ยังเป็นการหาทางออกอย่างสร้างสรรค์จากความเห็นของคนที่เข้าใจกันได้อีกด้วย
พอยอมรับความจริง เราจะเริ่มจริงจังกับการสร้างภูมิคุ้มกันความผิดพลาด เสริมสร้างความเป็นมืออาชีพให้กับตัวเอง เวลาที่มีโอกาสไปสัมภาษณ์งานที่ใหม่ก็ควรจะซื้อสัตย์กับผู้ที่สัมภาษณ์เรา บอกเขาไปตรง ๆ ว่าเราโดนไล่ออกเพราะอะไรอย่างจริงใจ เพื่อเป็นการแสดงออกว่าเราเรียนรู้จากความเฟล และนำมาพัฒนาตัวเองแล้ว
ให้เวลากับคนรอบข้าง
เมื่อชีวิตมันไม่เหมือนเดิม ตื่นมาก็ยังไม่มีที่หมายให้ลุกไปทำงาน เราแนะนำให้ใช้เวลานี้กับคนที่คุณรักและรักคุณ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว คนรัก และมิตรสหาย
อย่าปล่อยให้ตัวเองโดดเดี่ยว คุณเองก็รู้ว่ามีใครที่พร้อมรับฟัง ส่วนไอ้พวกจอมซ้ำเติมก็ปล่อยไปอย่าไปสุงสิง เดินเข้าหาพลังงานบวกแล้วคุณจะทรงพลังขึ้นมาใหม่พร้อมไปต่อ
ไม่ไหวก็ขอคำปรึกษาจากจิตแพทย์
ถ้าการใช้เวลากับคนรอบข้างยังไม่ทำให้คุณสึกหัวโล่งขึ้น เราแนะนำให้ปรึษาจิตแพทย์เลยก็ดี อย่าคิดว่าคุณบ้าด้วยค่านิยมผิด ๆ ที่ว่าการพบนักจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเป็นเรื่องเสียหาย ที่จริงวิธีนี้เป็นเรื่องปกติ แถมยังช่วยให้คุณเดินหน้าต่อด้วยสุขภาพจิตที่ดีและมั่นคง
เลิกตั้งคำถามกับตัวเอง
เลิกตั้งคำถาม “ถ้า…แล้ว” กับตัวเองให้เสียสุขภาพจิตเสียที เช่น “ถ้าวันนั้นกูไม่ไปสายนะ” “ถ้าตอนนั้นกูทุ่มเทมากกว่านี้นะ” การจมปลักอยู่กับอดีตไม่ช่วยให้คุณก้าวต่อไป ไอ้คำถาม “ถ้า…แล้ว” เนี่ยแหละตัวดี มันจะทำให้คุณมองข้ามสิ่งดี ๆ ที่มีในชีวิต
พัฒนาศักยภาพ
อย่าหายใจทิ้ง อะไรที่คุณอยากจะทำก็ทำให้มันเต็มที่ซะเลย หรืออยากปลดล็อกศักยภาพด้านไหนก็ใส่ให้เต็มเหนี่ยว ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมมันส์สุดท้าทายต่าง ๆ เข้ายิมฟิตร่างกาย ออกทริปสายแอดเวนเจอร์ให้เต็มเหนี่ยว จะเทกคอร์สที่มีประโยชน์กับชีวิตเพื่อเพิ่มทักษะและโอกาสในการหางานใหม่ก็เจ๋ง ไม่ก็เสพศิลป์ อ่านหนังสือดี ๆ ดูหนังเท่ ๆ ก็เป็นเวย์ที่เฉียบ หรือจะใช้เวลาเดินเล่นชิลล์ ๆ ในตอนเช้าก็ดี อย่าปล่อยให้ฟรีไทม์ของคุณไร้ค่าเด็ดขาด
เช็กกระเป๋าตัวเองให้ดี
อีกสิ่งหนึ่งที่ห้ามละเลยก็คือเงินในกระเป๋า ลองคำนวณดูว่าในอีก 3-4 เดือนข้างหน้าจะมีเงินพอใช้หรือไม่ พิจารณาให้ละเอียดทั้งเงินสด เงินเก็บ และเงินลงทุน อย่าเพลินกับการใช้จ่ายมากเกิน อย่าลืมแบ่งงบเอ็นเตอร์เทนมาใช้กับการพัฒนาตัวเองด้วย เพื่อความสบายใจนะ แหม่ ความช็อตมันน่ากลัวนะครับ
ค้นหาตัวตนในตอนนี้
เอาหละ พร้อมที่จะไปต่อแล้ว ก็ต้องหาว่าไปทางไหนดี ช่วงเวลานี้แหละโคตรหอมหวานที่จะค้นหาตัวเอง ลองคิดดูดี ๆ ว่าลักษณะงานล่าสุดที่ไม่ได้ไปต่อคืองานที่ใช่แล้วหรือยัง ? อยากลองความท้าทายใหม่ ๆ มั้ย ? และทางไหนเราน่าจะแฮปปี้มากกว่า
มองหาจุดแข็งที่จะนำไปประยุกต์ใช้กับงานใหม่
ถ้าคุณคิดดีแล้วว่าจะลองสมัครงานในตำแหน่งที่ไม่เคยทำ เราแนะนำให้คุณลองลิสต์ทักษะที่คุณได้จากงานเก่า แล้วมากางดูว่า skill ไหนที่เราจะสามารถนำไปใช้กับงานที่สนใจได้ เช่น ถ้าคุณเคยเป็นนักเขียน คุณอาจจะนำความสามารถทางภาษาในเชิงสร้างสรรค์มาเป็นจุดขายในการเป็น creative copywriter ได้ ไม่ก็ถ้าเกิดคุณเคยทำหน้าที่ประสานงาน หรืองานที่ต้องเจอคนเยอะ ๆ คุณก็นำทักษาะในการสื่อสารบวกกับมนุษยสัมพันธ์มาใช้กับงาน sales ก็ได้
กลับสู่เส้นทางการหางาน
จะกลับคืนฟอร์มการทำงานใหม่ทั้งทีก็ต้องอัพเดท resume, online profile และรวม portfolio ใหม่ให้พร้อมรบในสมรภูมิหางาน รวมถึงแสดงออกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้คุณกำลังมองหางานใหม่ มีเพื่อนมีคนรู้จักก็อย่าไปอาย ติดต่อไปถามดูก็ได้ว่ามีงานอะไรให้ทำบ้างไหม สนใจงานแบบไหนก็ลองวิ่งเข้าหา อย่ารอแต่จังหวะอย่างเดียว เดี๋ยวจะไม่ทันได้เฟี้ยวกับงานในฝัน
เตรียมพร้อมรอเรียกสัมภาษณ์
ส่งอีเมลสมัครงานไปหลายที่แล้ว ระหว่างนั่งรอลุ้นโทรศัพท์จาก HR ก็ต้องมีการเตรียมพร้อมฝ่าด่านสัมภาษณ์งาน เราเข้าใจว่าการเรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้งมันป็นสิ่งที่ท้าทายสุด ๆ แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว เชื่อว่าทุกคนน่าจะพร้อมลุยเพื่อโอกาสใหม่ ๆ
ถ้าคุณเจอคำถามทั่วไปแต่ตอบยากอย่าง “จุดอ่อนของคุณคืออะไร ?” เราแนะนำให้ตอบในเชิงเรื่องงาน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว อาจจะตอบไปว่า “ตอนนี้ผมรู้สึกว่ายังขายงานไม่คล่อง แต่ผมก็ไปเทกคอร์สการพูดในที่สาธารณะมาแล้วเพื่อพัฒนาในเรื่องนี้” แต่ต้องเป็นเรื่องจริงนะ อย่าโม้เด็ดขาด
หรือถ้าเจอถามว่า “เพราะอะไรผมถึงต้องจ้างคุณ ?” อย่าร่ายยาว ควรสรุปให้กระชับและคม ๆ เข้าไว้ เช่น “ด้วยประสบการณ์การทำงานขายมา 5 ปี และผลงานของผม ผมคิดว่าผมสามารถทำสิ่งดี ๆ ให้กับบริษัทนี้ได้”
ส่วนคำถามปลายเปิดอย่าง “คุณมีเป้าหมายอะไรในการทำงาน ?” พยายามอย่าตอบให้ไกลเกินไป ควรตอบในสิ่งที่พอจะมองเห็นได้ในปีสองปีนี้ เช่น “ผมตั้งเป้าที่จะเป็นส่วนสำคัญของทีมได้อย่างรวดเร็ว และจะพัฒนาตัวเองเพื่อรองรับความรับผิดชอบที่จะมีมากขึ้น รวมถึงการเป็นผู้นำที่ดีในอนาคต”
อย่าเกี่ยงงาน
ถ้ารู้สึกว่างานใหม่มันช่างหายาก ในสถานการณ์เช่นนี้คุณอาจต้องลดอีโก้ตัวเองลง มองดูงานพาร์ทไทม์บ้างก็ดีครับ อย่าโฟกัสแค่งานประจำอย่างเดียว คุณตกงานอยู่นะ และเงินก็เป็นสิ่งที่คุณต้องใช้ยามจำเป็น แต่ก็ต้องดูให้ดีว่างานพาร์ทไทม์ที่ประกาศรับสมัครอยู่นั้นสามารถช่วยพัฒนาทักษะของคุณไปทางไหนได้บ้าง บางทีอาจจะนำพาคุณไปสู่งานในฝัน ไม่ก็ทำให้คุณค้นพบทางที่ใช่ก็ได้
ตอบแทนคนที่ให้โอกาส
ในที่สุดวันนี้ก็เป็นของคุณ ได้เริ่มต้นงานใหม่สมใจ และถ้าเป็นงานในฝันของคุณเราก็จะยิ่งยินดีด้วย จงทุ่มเทกับมันเพื่อตัวเองและตอบแทนคนที่ให้โอกาส เดินหน้าต่อให้สุดทาง คุณควรจะภูมิใจที่สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่โคตรลุ้นในชีวิตมาได้ แต่อย่าลืมพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วยนะครับ
ทีมงาน UNLOCKMEN ขอให้กำลังใจทุกคนที่สูญเสียงานเก่าไป อย่าท้อแท้ครับ เงยหน้าขึ้นแล้วงัดศักยภาพตัวเองออกมาใช้ให้เต็มที่ โอกาสดี ๆ มันส์ ๆ ยังมีอีกมาก จงเชื่อมั่น แล้ววันหนึ่งมันจะเป็นของคุณ