ถ่ายทอด DNA ความเที่ยงตรงระดับวินาทีจาก Aviator Watch สู่ “Hamilton Khaki Chrono Worldtimer”

By: NTman March 7, 2017

นาฬิกาถือเป็นอีก Item คู่กาย ที่บรรดาหนุ่ม ๆ อย่างเราแทบจะขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะวันทำงาน หรือวันพักผ่อน หากมีเหตุให้ต้องออกจากบ้าน แล้วบังเอิญลืมสวมนาฬิกาเรือนเก่งอาจถึงขั้นสูญเสียความมั่นใจไปตลอดทั้งวันเลยก็ว่าได้ แต่ถึงแม้ว่านาฬิกาจะอยู่ในหมวดหมู่ของ Item สำคัญคู่กายของใครหลายต่อหลายคน แต่เราเชื่อว่าหากไม่ใช่นักสะสม หรือเป็น Guru ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนาฬิกาตัวยง อาจไม่เคยรู้มาก่อนว่านาฬิกาข้อมือที่สวมใส่กันอยู่ทุกวันนี้ สามารถจำแนกแยกย่อยเป็นประเภทต่างๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

Dress Watch

นาฬิกาข้อมือเน้นความเรียบหรู เหมาะสำหรับใส่หล่อ ๆ ออกงาน หน้าปัดมักจะถูกออกแบบโดยเน้นสีพื้นในโทนดำ ขาว หรือเทา ในส่วนของสายนาฬิกาก็ยังคงเน้นไปที่ความเรียบเช่นเดียวกัน โดยจะมีทั้งสายหนัง และ สายโลหะขัดเงา สำหรับความหนาของตัวเรือน ส่วนใหญ่จะมีความหนาไม่เกิน 10 มม. เพื่อให้สามารถแทรกตัวเข้าไปใต้แขนเสื้อเชิ้ตได้

Sport Watch

เป็นนาฬิกาที่เหมาะสำหรับหนุ่ม ๆ สายลุยด้วยกลไกภายในที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับกิจกรรมสุด Extreme ความสามารถในการกันน้ำส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 100 เมตรตามมาตรฐาน พร้อมฟังก์ชันเสริมจำพวกการจับเวลา จับความเร็ว สำหรับเรื่องราวของดีไซน์จะมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบบเรียบเท่ หรือจะเน้นความฉูดฉาด ก็มีให้เลือกหลากหลายแนว

Diver Watch

เพราะโดยพื้นฐานของมนุษย์ มักจะมีความสงสัยในสิ่งต่างๆ จนนำไปสู่การค้นคว้า และค้นพบสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่พื้นที่ก้นมหาสมุทรอันดำมืดยังเป็นอีกจุดหนึ่งในโลก ที่มนุษย์ยังไม่สามารถลงไปพิชิตเพื่อไขความลับได้อย่างสมบูรณ์แบบ และระหว่างที่การสำรวจยังคงดำเนินต่อไป อุปกรณ์บอกเวลาอย่างนาฬิกา จึงต้องมีการพัฒนาให้สามารถใช้งานได้สมบุกสมบันกว่าที่เคย ด้วยความสามารถในการกันน้ำตั้งแต่ระดับ 100 เมตร ไปจนถึง 11,000 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่มนุษย์ลงไปได้ลึกที่สุด ณ ปัจจุบัน

Aviator Watch

นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาข้อมืออีกประเภทที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการบอกเวลาที่เที่ยงตรงแม่นยำ แม้ในระดับวินาที นั่นก็คือนาฬิกาสำหรับนักบิน หรือ Aviator Watch และเหตุผลที่นักบินจำเป็นต้องใช้นาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาได้แม่นยำสุด ๆ เราต้องขอเท้าความย้อนไปตั้งแต่ช่วงสมัยสงครามโลก ซึ่งเป็นช่วงที่ Aviator Watch ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อใช้งานในกองทัพ ซึ่งในยุคนั้นเทคโนโลยีทางการทหารยังไม่ได้ล้ำสมัยเหมือนปัจจุบัน การสื่อสารเรื่องกลยุทธการรบไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตำแหน่งเป้าหมาย, ช่วงเวลาที่จะลงมือตามแผนปฏิบัติการ ฯลฯ ผ่านทางวิทยุถือเป็นความสุ่มเสี่ยงในการที่จะถูกข้าศึกดักฟังจนเป็นเหตุให้แผนการรั่วไหล

ดังนั้นทุกครั้งก่อนที่เหล่าเหยี่ยวเวหาจะบินออกไปปฏิบัติภารกิจ จะต้องมีการตั้งเวลานาฬิกาของทุกคนในฝูงบินให้ตรงกันโดยต้องใช้ความละเอียดของหน่วยเวลาในระดับวินาทีกันเลยทีเดียว ทั้งนี้เพื่อให้การคำนวณเส้นทางบินไปยังพื้นที่เป้าหมาย และเวลาในการลงมือปฏิบัติการของเหล่าฝูงบินนั้นไม่คลาดเคลื่อน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวินาทีที่ผ่านไปบนเครื่องบินรบนั้นเป็นวินาทีชีเป็นชี้ตายของตัวนักบินเอง หรือแม้กระทั่งสามารถเป็นวินาทีที่ชี้ผลแพ้ชนะในสงครามได้เลย

Hamilton first began “timing the skies” in 1919

เรียกได้ว่านาฬิกาประเภท Aviator Watch นั้นเดินทางผ่านหน้าประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยสงครามโลก และถึงแม้ว่าในปัจจุบันนาฬิกาอาจไม่ใช่อุปกรณ์หลักในการบอกเวลาสำหรับนักบิน แต่ด้วยเอกลักษณ์ในเรื่องของการบอกเวลาที่เที่ยงตรงแม่นยำ รวมถึงเรื่องราวความเป็นมาที่จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานความเก๋าของประดิษฐกรรมที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นมา ทำให้ในปัจจุบัน Aviator Watch ยังคงได้รับความนิยมจากทั้งนักบินตัวจริง และหนุ่มๆ ผู้หลงใหลในอากาศยาน ซึ่งแบรนด์ Hamilton แบรนด์นาฬิกาสไตล์อเมริกัน สัญชาติสวิส ถือเป็นแบรนด์นาฬิกาที่เริ่มมีบทบาทในการเป็นเรือนเวลาแห่งวงการการบิน ตั้งแต่ปี 1919 ด้วยการได้รับเลือกให้เป็นนาฬิกาที่ใช้งานอย่างเป็นทางการของเที่ยวบินไปรษณีย์สหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในความสำเร็จของเที่ยวบินปฐมฤกษ์ในเส้นทางการบินเชื่อมระหว่างสองชายฝั่งของสหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นการเปิดศักราชการบินพาณิชย์สมัยใหม่ในยุคนั้น

Official Timekeeper of the Red Bull Air Race World Championship

สืบเนื่องมาจนปัจจุบันนาฬิกา Hamilton ยังคงได้รับความไว้วางใจถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานของหลายฝูงบินชั้นนำทั่วโลก อาทิ ฝูงบินขับไล่ 123 ของเกาหลีใต้, ฝูงบิน Patrulla Aspa จากสเปน, ฝูงบินลาดตระเวนที่ 40 ของสหรัฐฯ, ฝูงบินผาดแผลง Apache และ F-16 จากเนเธอร์แลนด์

ล่าสุด Hamilton ยังได้ยกระดับมาตรฐานของนาฬิกาสำหรับการบินให้เหนือชั้นขึ้นไปอีก กับบทบาทของผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการในการแข่งขัน “Red Bull Air Race World Championship 2017” การแข่งขันกีฬาทางอากาศซึ่งเป็นมิติใหม่ของวงการ Motor Sport ด้วยการแข่งขันที่ต้องผสานความเป็นหนึ่งเดียวของ ทักษะ ความเร็ว และ ความแม่นยำ ในการควบคุมเครื่องบินลัดเลาะไปตามเครื่องกีดขวาง โดยใน Tournament ของปี 2017 นี้ ได้มี 14 นักแข่งมืออาชีพเข้าร่วมชิงตำแหน่งจ้าวเวหา

ซึ่งหนึ่งในมือระดับพระกาฬเหล่านั้น มีชื่อของ Nicolas Ivanoff นักบินผาดแผลงชั้นแนวหน้าทั้งในเวทียุโรป และเวทีโลก เจ้าของฉายา “จ้าวเวหาลมกรดชาวคอร์ซิกา” (Quick Corsican) Brand Ambassador ของ Hamilton ผู้บังคับเครื่องบินลวดลาย Hamilton ขึ้นผจญความเร้าใจบนท้องฟ้านับตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา รวมอยู่ด้วย

และในความสัมพันธ์ตลอด 12 ปี (2005 – 2017) ระหว่าง Hamilton และ Nicolas Ivanoff ไม่ได้หยุดไว้แค่การเป็น Brand Ambassador เพียงเท่านั้น ด้วยความหลงใหลในเสน่ห์ของโลกแห่งการบินแบบเข้าเส้น ทำให้ความชำนาญของ Nicolas ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนท้องฟ้า แต่ยังถูกถ่ายทอดออกมาผ่านการเข้าร่วมทีมออกแบบและพัฒนา นาฬิกา Hamilton โดยอาศัยความเข้าใจในการบินอย่างถ่องแท้ ตกผลึกออกมาเป็นความสามารถต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับนักบิน ซึ่งผสานเอาไว้ในนาฬิกา Hamilton คอลเลคชั่นต่างๆ ที่เขาร่วมออกแบบ จนมาถึงรุ่นล่าสุดอย่าง Hamilton Khaki Chrono Worldtimer

The ability to tell the time accurately across the world

Hamilton Khaki Chrono Worldtimer ยังคงตอบโจทย์ความต้องการอุปกรณ์บอกเวลาที่มีความเที่ยงตรงสูง ของเหล่านักบิน และหนุ่มๆ ผู้รักการเดินทางท่องโลก กับความสามารถในการบอกเวลาทั้ง 24 เขตเวลามาตรฐานทั่วโลกได้อย่างแม่นยำ ถือเป็น Item ข้างกายที่ช่วยให้เราสามารถวางแผนตารางนัดหมายข้ามประเทศได้แบบไม่มีผิดพลาด

สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นนักบินที่ซีเรียสกับหน่วยเวลาถึงขนาดนั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าตามปกติเรามักจะมองหน้าปัดนาฬิกาเพื่อเช็คหน่วยนาที บ่อยครั้งกว่าการเช็คหน่วยชั่วโมง Hamilton Khaki Chrono Worldtimer จึงถูกออกแบบมาให้สามารถเช็คเวลาได้ง่ายในพริบตา ซึ่งคุณสมบัติที่ง่ายต่อการเช็คเวลาแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องใช้ความเร็วสูงถือเป็นความสามารถที่มีความสำคัญสำหรับนาฬิกานักบิน ปุ่มกดที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกา มีหน้าที่สลับการทำงานของฟังก์ชัน Chronograph และ Worldtime ได้อย่างรวดเร็ว และในส่วนของขอบวงแหวนรอบหน้าปัดจะสามารถปรับหมุนได้ 2 ทิศทาง ช่วยให้เราหมุนเพื่อปรับเทียบเขตเวลาทั้ง 24 เขตได้อย่างสะดวก (เมื่ออยู่ในโหมด Worldtime) นอกจากนี้เมื่อกดปุ่มที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกาสั้น ๆ 1 ครั้ง ก็จะสามารถแสดงเวลาสากลเชิงพิกัด (UTC) ให้เรารู้ได้อีกด้วย

Hamilton Khaki Chrono Worldtimer เป็นนาฬิกาที่สะท้อนแรงบันดาลใจจากโลกแห่งการบิน ส่งผ่านมาตั้งแต่กลไกภายใน ด้วยระบบกลไก Chrono Quatz H-41e ซึ่ง Hamilton ได้พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ ให้มีความล้ำหน้าด้วยฟังก์ชันการปรับเวลาแบบ Daylight saving time อันซับซ้อน ให้สามารถปรับเวลาออมแสงได้โดยอัตโนมัติ พร้อมด้วยการออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สะท้อนตัวตนแห่งกีฬาบินผาดแผลงบนหน้าปัด กับการเลือกใช้หลักนาทีสีเหลืองบนหน้าปัด และแถบสีเหลือง-ดำในช่องแสดงโหมดการใช้งาน ซึ่งเป็นการออกแบบที่อยู่ภายใต้พื้นฐานของความสวยงาม และไม่ได้มองข้ามประโยชน์ในการใช้งานจริง

 รายละเอียดทางด้านเทคนิค : Hamilton Khaki Chrono Worldtimer

ขนาดตัวเรือน : เส้นผ่านศูนย์กลาง 45 มิลลิเมตร
วัสดุตัวเรือน : สแตนเลสสตีล
หน้าปัด : สีดำ
เข็มนาฬิกา : วัสดุเป็นนิเกิลเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova สีขาว
สายนาฬิกา : สายยางสีดำ / สายโลหะ
กลไก : กลไก Quatz H-41e
ฟังก์ชันบอกเวลารอบโลก (Worldtimer)
ฟังก์ชันปรับเวลาออมแสง (DST) อัตโนมัติ
ฟังก์ชันบอกเวลาสากลเชิงพิกัด (UTC)
เข็มนาทีกลางหน้าปัดสำหรับจับเวลา
หน้าต่างแสดงวันที่
กระจก : แซฟไฟร์พร้อมเคลือบสารกันสะท้อนทั้ง 2 ด้าน
คุณสมบัติการกันน้ำ : 10 บาร์ (100 เมตร)