

Entertainment
GARAGE MUSIC: บอกเล่าชีวิตผ่านบทเพลงไปกับ “STOIC” ชีวิต ตัวตน และดนตรี
By: unlockmen August 21, 2018 117853
หลายคนใช้เสียงเพลงเป็นสื่อบันเทิง ให้ความเพลิดเพลินไปกับเนื้อร้อง ทำนองที่ผ่อนคลาย หรือหนักหน่วง เร้าใจ ที่เราเลือกมาแล้วใน Playlist หลายคนใช้เป็นหนทางหลีกหนีไปสู่อีกโลกหนึ่งทุกครั้งที่กดปุ่ม Play ไปสู่โลกที่เราไม่ต้องคิดอะไร ไม่ว่าเราจะเลือกใช้มันเป็นอะไรก็ตาม พวกเขา “STOIC” เลือกที่จะใช้เสียงเพลงบอกเล่าเรื่องราวที่พวกเขาเจอมาในชีวิตในรูปแบบที่สื่อถึงตัวตนของพวกเขาที่สุด ใช้เพลงสื่อสารกับคนฟังอย่างเรา ๆ ให้รับรู้ถึงความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเนื้อเพลงและทุกตัวโน้ตที่พวกเขาตั้งใจเรียบเรียงขึ้นมา
สำหรับคอเพลงอินดี้อาจจะคุ้นเคยกับเพลงของพวกเขาอย่าง เพลง “วิวรณ์” และเพลงล่าสุดอย่างเพลง “วัฎจักร” ที่เพิ่งปล่อย Official MV ไปเมื่อหลายวันก่อน UNLOCKMEN มีโอกาสได้พูดคุยกับวง STOIC ถึงเรื่องราวของวงและผลงานที่ใคร ๆ ต่างก็รู้สึกถึง Touching กับทุกเพลงของพวกเขา โดยวง STOIC ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน คือ แพ็ค (กีต้าร์-ร้องนำ), หนึ่ง (กีต้าร์), ยู (เบส), เปรียว (กลอง), ฟลุ๊ค (เชลโล) ซึ่งตอนนี้ทางวงยังไม่อยู่ในสังกัดของค่ายไหน
แพ็ค : ประมาณสองปีที่แล้วครับ ผมเล่นกีต้าร์คนเดียว ตามร้านนี่แหละครับ มีคนแนะนำพี่หนึ่งว่าน่าจะเล่นเข้าขากัน เลยเล่นกลางคืนมาด้วยกัน แต่ละคนก็แนะนำกันมาก็มาเจอกัน
นานมั้ยกว่าจะรวมเป็นวง
หนึ่ง : ตอนแรกเราเล่นสามคนก่อน แพ็ค หนึ่ง เปรียว ไม่กี่เดือนยูก็เข้ามา ฟลุ๊คมาทีหลังสุด ระยะเวลาจากเล่นสามคนมาจนครบวงก็ 6-7 เดือนได้
ที่มาของชื่อ STOIC
แพ็ค : เราคิดหลายชื่อเหมือนกัน รู้สึกว่าคำว่า “STOIC” มันเป็นปรัชญา เป็นชื่อของปรัชญากลุ่มนึง ชื่อนี้สื่อถึงความเชื่อของผมอย่างนึง คือเชื่อว่ามีผู้สร้างแค่คนเดียว สมัยก่อนเนี่ยจะนับถือรูปเคารพของเทพเจ้าเยอะแยะมาก แต่ STOIC จะเชื่อว่ามีผู้สร้างแค่คนเดียว ชื่อดูเหมาะกับความเป็นเราด้วย
ยู : ในพจนานุกรมที่ผมไปเปิดมา มันมีความหมายอีกความหมายนึง ที่มันแปลว่า “อดทน” ด้วย แต่ไปถามฝรั่งไม่มีใครรู้นะว่ามีความหมายนี้ (หัวเราะ) ช่วงที่เราได้รวมตัวกันนั้นเนี่ย เป็นช่วงที่เราต้องอดทนกันมาก ช่วงที่ดาวน์ มีความยากลำบากในชีวิต มันก็เลยอินความหมายนี้ด้วย
หนึ่ง : เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนแย่พอดี จากความรัก ที่บ้าน ครอบครัว การเงิน มันมีเพลงนึงที่ทำให้เชื่อมโยงทุกคนเข้าด้วยกัน คือเพลงวัฎจักร ทุกคนมีความรู้สึกอะไรบางอย่างกับเพลงนี้ มัน Touching ทุกคนในตอนนั้น
แพ็ค : ผมเขียนเพลงไม่ได้มา 7 ปี พอกลับมาเขียนเลยได้เพลงวัฎจักรนี้ขึ้นมา พอพี่หนึ่งได้ฟังก็ชอบ ส่งเพลงนี้ให้ทุกคนฟังทุกคนก็ชอบ อย่างเปรียวนี่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เขียนเพลงนี้ ตั้งแต่ไม่มีเงิน ลำบากด้วยกันมา
ยู : จริง ๆ เราไม่เหมือนกันเลย เรียกว่า 5 สีเลยก็ได้ครับ แต่สิ่งที่ Co เราไว้ด้วยกันคงเป็นดนตรีแหละครับ 5 คนยังชอบดนตรีเหมือนกันบ้างไม่เหมือนกันบ้าง แต่พอมารวมกันแล้วมันเป็นเหมือนสีใหม่
แพ็ค : เรียกว่ามีความเหมือนกันในความไม่เหมือนกัน
ฟลุ๊ค : ผมว่าเราคุยกันด้วยดนตรีด้วย เวลาอยู่เฉยๆเราคุยกันเรื่องดนตรีได้แบบไม่หยุดเลย คุยได้เรื่อย ๆ เหมือนจับเด็กเนิร์ด 5 คนมาคุยกันเลย
ถ้าบอกว่าไม่เหมือนกันเลยสักคนแบบนี้ จริง ๆ แล้วแต่ละคนชอบฟังเพลงแนวไหนกันบ้าง ?
ยู : อิเล็กทรอนิกส์บ้าง เสียงสังเคราะห์บ้าง หรือบางทีก็แหวกไปพวกเสียงจริงมาก ๆ เลยก็มี
หนึ่ง : เยอะมากครับไม่รู้จะตอบยังไงดี แต่ถ้าช่วงนี้ก็ต้อง Folk ครับ
แพ็ค : คล้ายพี่หนึ่งครับ ส่วนใหญ่ก็ฟัง Folk บ้าง Classic ก็มีพวกเพลงบรรเลง Score หนังพวกนี้ครับ
เปรียว : ช่วงนี้จะฟังอิเล็กทรอนิกส์ครับ Classic บ้าง เพราะปกติไม่ได้ฟังเท่าไหร่ แต่พอมาเจอพวกพี่ ๆ เขาก็ได้เปิดโลกสำหรับเพลง Classic หรือไม่ก็เพลงพื้นบ้านมาก ๆ
ฟลุ๊ค : อินตอนนี้ก็เพลง Lounge ฝรั่งเศสครับ หรือพวก Drink Spot 1930 ที่นักร้องร้องแบบเพราะฉิบหายเลย
ฟลุ๊ค : ปล่อยเพลงไปแล้วหนึ่งเพลงชื่อวิวรณ์ครับ และอีกเพลงที่เพิ่งปล่อยเลยก็วัฎจักร
ยู : ที่ผ่านมามีไปเล่น Festival บ้าง Wonderfruit, Tiger Jams, Cat Expo แต่ส่วนใหญ่อย่างวงเรา เขาจะตั้งใจฟังจริง ๆ Festival ที่ให้เราไปเล่นจะเป็นพวกเน้นเพลงจริง ๆ ถ้าเล่นตามที่ Entertain ผู้คนยังไม่มี อยากรู้เหมือนกันครับว่าจะเป็นยังไง
หากตั้งใจฟังกันจริง ๆ แล้วเนื้อเพลงของ STOIC ค่อนข้าง Deep ทั้งสองเพลง ถือว่าเป็นจุดเด่นของวงมั้ย ?
ตอนเขียนไม่ได้คิดเลยว่าจะเป็นจุดเด่น มันคือชีวิตของเราที่พอเราเจออะไรมา
เราก็เอามาเขียนเป็นเพลง เหมือนการได้พูดกับตัวเอง คนอื่น เพื่อน ผ่านดนตรี– แพ็ค STOIC –
หนึ่ง : บางคนอาจจะมีมุมมองจากคนอื่น แต่งเพลงจากคนอื่น แต่เราแต่งเพื่อตัวเอง ออกมาจากข้างใน เรื่องราวที่ผ่านมา เราก็ระบายออกมา
ยู : เนื้อเพลงของพี่แพ็คเนี่ย บางคำ จากประสบการณ์ที่ผมทำเพลงมาไม่คิดว่ามันจะอยู่ในเพลงได้ บางคำพูดเนี่ย แต่ถ้าเขาอยากจะสื่อออกมา เราก็ไม่แคร์ว่าคนจะชอบเยอะมั้ย จะได้วิวเยอะมั้ย คนจะเข้าใจมั้ย แต่ถ้าเราอยากพูดอะไร เราก็อยากพูด
ผมเชื่อว่าไม่ว่าเพลงจะเป็นประเภทไหนจะส่วนตัว จะฟังยากขนาดไหน
เราไม่ใช่คนตัดสินว่าอันไหนดีที่สุด คนฟังจะเป็นคนตัดสิน– แพ็ค STOIC –
เพลงในอัลบั้มต่อไปจะเป็นเพลงใน Mood & Tone นี้อีกมั้ย ?
แพ็ค : พูดยากครับ เพราะเราไม่รู้ว่าต่อไปชีวิตเราจะเจออะไรอีกบ้าง แล้วจะถ่ายทอดเพลงออกมาเป็นแบบนี้อีกมั้ย
หนึ่ง : ที่เราปล่อยมาคือสองเพลง แต่ที่มีอยู่คือหกเจ็ดเพลง
ฟลุ๊ค : ช่วงเพลงแรก ๆ เรายังเกรงใจกันอยู่ว่าเอาแค่นี้พอนะ เท่านี้นะ แต่พอเพลงหลัง ๆ เริ่มไม่เกรงใจกันแล้ว คนนู้นจะเอาอย่างนู้น คนนี้จะเอาอย่างนี้ เอาตามใจตัวเองไปหมด (หัวเราะ)
เคยสังเกตมั้ยว่ากลุ่มคนฟังของเราส่วนใหญ่เป็นกลุ่มไหน ?
หนึ่ง : ไม่ค่อยมีนักเรียนมัธยม (หัวเราะ) เห็นน้อยมาก สองเปอร์เซ็นต์
เปรียว : ส่วนมากมหาลัยขึ้นไป เด็กอาร์ต ๆ
แพ็ค : ส่วนใหญจะเจอพวกซึมเศร้า เครียด คนที่ชีวิตกำลังอยู่ในช่วงเข้มข้น
ที่จริงเราไม่ได้อยากทำเพลงที่ให้เขาฟังแล้วดาวน์ แล้วเศร้า แต่ที่ผมรู้สึกคือ เพลงเศร้าเนี่ย
มันทำให้คนที่เศร้ารู้สึกว่าเขายังมีเพื่อน เขาไม่โดดเดี่ยว เวลาเราเศร้าเราไม่เห็นใคร รู้สึกว่าชีวิตมันแย่จัง
เพลงเศร้าของเราก็ไม่อยากให้เขารู้สึกแบบนั้น เราอยากให้รู้สึกว่าอย่างน้อยก็มีเรานะที่ไปแตะจุดที่มันเจ็บปวดตรงนั้นได้– ยู STOIC –
เปรียว : เศร้าเนี่ยมันไม่ได้อยู่ที่ตัวเพลงขนาดนั้น อยู่ที่คนฟังเองด้วย อันนี้ก็สำคัญ
ลอง Define แนวเพลงของ STOIC ได้มั้ยว่าเป็นแนวไหน ?
หนึ่ง : ทุกเพลงแพ็คจะเริ่มจาก Folk ก่อน แพ็คจะแต่งทุกเพลง
แพ็ค : ผมจะเกริ่นคำนำขึ้นมาก่อน แล้วผมก็ต้องมาปรึกษาวงว่าจะเอายังไงต่อ แก่นมันก็คือ Folk แต่มันก็ผสมหลายอย่าง Rock, Grunge อยู่ในนั้นด้วย
แล้วเคยมีคนอื่นบอกมั้ยว่าเราเป็นอะไร ?
แพ็ค : ก็เคยครับ มีคนบอกว่าเป็น Post Rock หรือเปล่านะ
หนึ่ง : ส่วนมากจะโดนถามมากกว่าครับว่าที่เราเล่นคือแนวไหน เยอะที่สุด แนวเพลงที่เกิดขึ้นทุกวันนี้คือคนไปบอกว่านี่คือแนวนั้นแนวนี้ แต่ถ้าให้บอกว่าตัวเองเป็นแนวนั้นแนวนี้
แพ็ค : จริง ๆ เราบอกว่าอะไรคือแนวไหนเพื่อทำจำกัดความ เพื่อสื่อสารอย่างนั้นมากกว่า พอเราอยู่กับมันเราก็พูดยากอะว่าที่เราเป็นมันคืออะไร เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเราคืออะไรเหมือนกัน
ยู : ผมว่ามันดีด้วยที่เราไม่บัญญัติอะไรไว้ เพราะถ้าเราบัญญัติอะไรไว้เกิดวันนึงเราเปลี่ยนแนว เกิดอยากทำ Jazz ทั้งอัลบั้ม เกิดไม่อยากมีเนื้อร้องแล้วอย่างนี้
เราพยายามทำดนตรีให้เป็นธรรมชาติที่สุด ตอนนี้เรารู้สึกยังไงเราก็ทำไปแบบนั้น
– เปรียว STOIC –
พอเพลงของวงมักจะเริ่มต้นมาจาก Folk ลองบอกเสน่ห์ของ Folk ให้ฟังหน่อย
แพ็ค : มันเรียบง่าย มัน Minimal ในความเรียบง่ายนั้นมันผ่านกระบวนการคิดเยอะมาก มันแสดงออกถึงวิถีชีวิตของเราว่า เราโตมายังไง รับอะไรมาบ้าง มันมีเสน่ห์ในตัวเอง อธิบายยากเหมือนกัน
ลองเล่าถึง MV ที่ Deep ไม่แพ้เพลงกันบ้าง ว่าจริง ๆ แล้วมันสื่ออะไรถึงคนดู ?
ยู : วัฎจักรเนี่ย คนสร้างเรื่องนี้ขึ้นมาคือพี่นวล ปกติ MV เราจะช่วยกันคิด ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เราคิดกันเกือบเดือนว่าจะเอายังไง พอนัดเจอพี่นวล เขาเปิด Pilot ให้ดู ทั้งเดือนที่ทำมามันหายไปเลย เราเลยตัดสินใจเอาของพี่นวลเลย (หัวเราะ)
หนึ่ง : จากการตีความของพี่นวลเนี่ย เพลงนี้มันเป็นเพลงช้า เขาอยากให้เพลงนี้มีเรื่องราวที่พาให้คนดูไปพร้อมกัน เพลงมันค่อนข้างจะยาวเกือบ 7 นาที
แพ็ค : เราบอกเล่าเรื่องราวที่อยู่ข้างใน สิ่งที่เกิดขึ้น ว่าชีวิตมันเป็นแบบนี้นะ พอมีการจากกัน มันพูดถึงการจากไป แต่ละคนน่าจะเคยเจอเรื่องราวแบบนี้ เราเชื่อว่าเขาก็ยังอยู่ เขาไม่เคยจากเราไปจริง ๆ
ส่วนเพลงวิวรณ์ ผมสื่อถึงผู้ชายคนนึงที่เหมือนกับล้มละลาย เสียใจกับชีวิต ภาพเนี่ยมันจะเป็นภาพในอดีต เป็นเรื่องที่อยู่ข้างในของเรา ใส่ Symbolic ในภาพ เพลงนี้จริง ๆ พูดถึงพระเจ้าด้วยซ้ำ วิวรณ์ แปลว่าเปิดเผย เรื่องราวในอนาคตที่ฉันจะรอ รอพระเยซูกลับมา ประมาณนั้น
ในอนาคตข้างหน้ายังอยากมีส่วนร่วมในการทำ MV เองต่อไปมั้ย ?
แพ็ค : ก็ต้องมีครับ จริง ๆ มีไอเดียสำหรับเพลงหน้าไปแล้วด้วย
ยู : ด้วยความที่เราเป็นวงอินดี้ เราค่อนข้างเอาแต่ใจ (หัวเราะ) จริง ๆ เราอยากทำเองให้หมดเลยด้วยซ้ำ
UNLOCK YOUR PASSION
ยู : ผมเพิ่งไปดูคอนเสิร์ตที่ดีมาก ๆ มา เลยได้ไอเดียว่าอยากทำโชว์ให้มันดี เรื่อง ไฟ ซาวด์ ตอนนี้เรื่อง Live Session มันเป็นอะไรที่จริงมาก ๆ ตอนเนี้ยเราเห็นอะไรที่มันไม่จริงเยอะมาก อยากให้คนดูได้รับประสบการณ์ที่มันต้องได้จากตรงนั้น หาจากที่อื่นไม่ได้แล้ว
หนึ่ง : ตอนนี้อยากให้อัลบั้มเสร็จก่อน เราเพิ่งอัดไปสองเพลง เรายังไม่มีค่าย ยังต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง
อัลบั้มครับ อยากทำอัลบั้มสองแล้ว เลยต้องทำอัลบั้มหนึ่งให้เสร็จก่อน
– ฟลุ๊ค STOIC –
เวลากว่าสี่ชั่วโมงที่ได้พูดคุยกับพวกเขาและฟังพวกเขาเล่นดนตรี เราไม่สงสัยเลยว่าทำไมเพลงของวงนี้ถึงออกมาแบบประณีต และละเมียดละไมขนาดนี้ แถมไม่สงสัยถึงที่มาในความสวยงามของทุกคำในเนื้อเพลงอีกต่อไป เพราะทุกคนต่างมีความละเอียด ซับซ้อน และความสามารถที่จะถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างสวยงามในรูปแบบของเพลงจาก STOIC ที่เราได้ฟังกันนั่นเอง
หลังจากนี้ที่ได้ฟังเพลงไม่ว่าเพลงใดก็ตาม ลองใช้เวลากับมัน ค้นหาความหมายที่อาจซ่อนอยู่เบื้องหลัง เลือกสักเพลงที่มีความหมายกับเราเอามาก ๆ สัมผัสความสวยงามของทั้งดนตรีและชีวิตของเรา ดื่มด่ำมันก่อนที่กาลเวลาจะไม่เอื้ออำนวยให้เราเห็นภาพความสวยงามของช่วงเวลานั้นอีกต่อไป