

Life
FIGHT OR FLEE : วิธีเอาตัวรอดเมื่อเผชิญกับความกลัว ด้วยสัญชาตญาณดิบจากข้างในแบบแมน ๆ
By: unlockmen April 30, 2018 103055
ชีวิตที่ราบเรียบไร้อุปสรรคคงเป็นชีวิตในอุดมคติที่ใคร ๆ ต่างก็อยากมี แต่เพราะชีวิตจริงเราไม่สามารถมีชีวิตแบบนั้นได้ เรามีทั้งอุปสรรค ทั้งความกล้า ความกลัว สารพัดความรู้สึกที่เราต้องงัดออกมาสู้เมื่อต้องเผชิญกับความกลัวที่มีต่ออุปสรรคของชีวิตหรือความกลัวอะไรก็ตามที่เข้ามากระทบกับความรู้สึกของเรา UNLOCKMEN จะพามาชำแหละความกลัวและแนะแนวทางว่าจะสู้หรือจะหนีตามสไตล์ของแต่ละคน
เมื่อคุณรู้สึกกลัวขึ้นมา ต่อมทอนซิลของคุณจะตอบสนองกับอาการกลัว และการตัดสินใจว่าจะสู้หรือจะหนี มันจะส่งสัญญาณไปที่ต่อม hypothalamus ที่ตอบสนองกับข้อมูลที่เรารับมาจากสมอง มันทำงานร่วมกับระบบประสาท มันเลยทำให้เรารู้สึกกลัวเวลาเราตกอยู่ในอันตราย
เรามักจะตอบสนองสัญญาณของความกลัวในสองรูปแบบคือ “สู้หรือถอย” เมื่อคุณถือไพ่เหนือกว่า คุณตัดสินใจได้แบบทันที แทบไม่ต้องหยุดคิดด้วยซ้ำ สมองจะบอกให้คุณอยู่ต่อและสู้กับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า
เมื่อร่างกายตกอยู่ในอันตราย สมองจะสั่งให้คุณหนีโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ การหนีไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป เพราะมันคือการรักษาชีวิตของเราโดยสัญชาตญาณ คนที่เลือกหนีเขามักจะยอมแพ้ได้ง่ายตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของปัญหา และข้ามไปแก้ปัญหาอื่น ๆ แทน (เพราะรู้ว่าอันนี้ตัวเองแก้ไม่ได้) เหมือนคนที่วิ่งหนีปัญหายาก ๆ เพราะคิดว่าตัวเองจะจัดการกับมันไม่ได้
เราอาจจะกลัวจนอยากจะหนีกับสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ หรือบอกตัวเองว่าไม่สามารถข้ามผ่านเรื่องราวยาก ๆ เหล่านั้นได้ เมื่อคิดแบบนี้ความเฟลนอนรอเราอยู่ข้างหน้าแน่นอน เพราะเมื่อคุณไม่เชื่อว่าตัวเองสามารถทำได้ คุณก็ไม่อยากสู้ ไม่รู้จะเอาพลังที่ไหนมาผลักดันศักยภาพตัวเองให้ออกมาเต็มที่
คุณอาจมีแรงกระตุ้นให้วิ่งหนีบางสิ่งเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากอย่างที่บอกไปข้างต้น แต่เราสามารถเปลี่ยนความคิดตัวเองได้ ถ้าหากต้องเผชิญกับเรื่องยาก ๆ อีกในครั้งต่อไป ลองบอกตัวเองให้สู้ ปลุกตัวเองด้วยพลังบวกแทนที่ความคิดลบ ๆจากข้างในว่าตัวเองทำไม่ได้
แม้ว่าความคิดแง่บวกมันจะไม่ได้เป็นจริง 100% แต่มันก็มีพลังมากพอที่จะประคับประคองให้คุณข้ามผ่านเรื่องราวยาก ๆ ไปได้ คนที่เลือกจะสู้มักเห็นหนทางของการรอดได้มากกว่า และเมื่อคุณโฟกัสกับทางรอดของคุณแล้วมันจะยิ่งช่วยกระตุ้นให้คุณดิ้นรนไปในทางนั้นมากขึ้น สิ่งนั้นคือ “ความหวัง” นั่นเอง
ลองจินตนาการว่าชีวิตคุณเหมือนในเกมดูสิ เชื่อว่าตัวเองจะผ่านมันมาได้เหมือนตอนที่ตัวเองจับจอยด้วยความมุ่งมั่น ให้ชีวิตเหมือนกับการเล่นเกม เกมมันสนุกใช่มั้ยแม้มันจะยากขึ้นเรื่อย ๆ ? ชีวิตของเราก็เหมือนกัน เมื่อเจออะไรที่ Challenge ตัวเองมากขึ้นเหมือนเกมที่ไต่เลเวลขึ้นสูงเรื่อย ๆ แม้มันจะยากขึ้นแต่เราก็สนุกไปกับเกมได้ ลองคิดแบบนั้นกับชีวิตบ้างสิ ยากขึ้นก็เพราะเราเดินมาไกลแล้วยังไงล่ะ ลองสนุกกับความยากของชีวิตให้เหมือนที่เราสนุกกับเกมดู
เกมที่ดีคือเกมที่มีหลายเลเวลให้เราได้ฝ่าฟัน และมีสารพัดตัวร้ายให้เราต่อสู้ และทุกครั้งมันก็จะยากขึ้นเรื่อย ๆ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือมันจะทำให้เราเป็นผู้เล่นที่เก่งขึ้นเช่นกัน
เหมือนกับการเล่นเกมนั่นแหละ เมื่อจบตาหนึ่งเราสามารถรีรันดูกลยุทธของตัวเองในเกมที่ผ่านมาได้ ประเมินตัวเองว่าจัดการกับปัญหายังไง และคุณจะรู้ว่าตัวเองเก่งขึ้นเมื่อหันไปมองปัญหาที่เคยรู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยที่คุณผ่านมาได้แล้ว
อุปสรรคในชีวิตเป็นอีกสิ่งที่เราทุกคนต้องเจอ สู้ไหวบ้างไม่ไหวบ้าง แต่เราก็ต้องข้ามมันไปได้ในสักวัน เพราะไม่งั้นชีวิตของเราก็จะหยุดอยู่กับที่เพียงเพราะความกลัวที่ทำให้เราไม่สามารถก้าวต่อไปได้ อย่าให้ความกลัวที่เป็นเพียงความรู้สึกชั่วคราว มาทำให้เราต้องหยุดทำอะไรสักอย่างจนพลาดโอกาสดี ๆ หนทางดี ๆ ที่รอเราอยู่เมื่อผ่านมันไปได้