DESIGN

ชีวิตแบบ BE ANYTHING ELSE ของ‘แบงค์-ปรีดากร’แห่ง RAMS กับ ELSE จาก SANSIRI บ้านที่ทำให้ความเงียบสงบใจกลางเมืองไม่ใช่แค่ความฝัน

By: GEESUCH May 20, 2024

เมื่อพูดถึงโจทย์ของคนที่กําลังมองหาบ้านเดี่ยวใจกลางเมืองที่ดีสักแห่งนั้น ดูจะเป็นความต้องการในฝันที่ในความเป็นจริงดูจะขัดแย้งกันไปหมด “อยากได้ทําเลดีใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า และไม่ห่างไกลจากทางด่วน” แต่ขอให้เป็น “พื้นที่เงียบสงบ” ที่สามารถพักผ่อนจากความวุ่นวายในเมืองด้วยได้มั้ย ?

แสนสิริเก็บคําถามสําคัญนี้ไว้ในใจกับตัวเอง และเปลี่ยนให้เป็นความจริงในครึ่งแรกของปี 2024 พร้อมโอบรับเหล่าลูกบ้านผู้มีความต้องการในข้างต้นแบบทุกเช็คลิสต์ด้วยการเปิดตัวโครงการ ELSE หนึ่งใน 4 แบรนด์ใหม่ของแสนสิริ มาพร้อมคอนเซปต์ “BE ANYTHING ELSE” ให้คุณได้เป็นทุกสิ่งที่อยากเป็น ในพื้นที่บนทําเลซัพพอร์ตทุกความเป็นส่วนตัว เพื่อให้ทุกคนได้เป็นตัวของตัวเอง

ว่ากันด้วยแนวคิดของโครงการ ELSE เป็นโครงการที่ปรับมุมมองเปลี่ยนวิธีคิดให้บ้านเดี่ยวกลางเมืองสามารถมาพร้อมกับความเป็นส่วนตัวแบบเงียบสงบได้ ซึ่งแตกต่างจากอสังหาโครงการบ้านเดี่ยวที่แสนสิริเคยมีมาอย่างสิ้นเชิง ด้วยความเอ็กซ์คลูซีฟไพรเวทที่มีเพียง 2-7 ยูนิตต่อทําเล ด้วยราคาเพียง 29-59 ล้านบาท

UNLOCKMEN ชวนทุกคน Walk In เปิดประตูสู่ ELSE ที่อยู่อาศัยในฝันของชาว Urban Men ทุกคน ผ่านการพูดคุย กับ ‘แบงค์ – ปรีดากร เมธเกรียงชัย’ Designer & Co-Founder ของ RAMS ตัวแทนของคนเมืองที่มีไลฟ์สไตล์ต้องออกจากบ้านตลอดเวลา แต่ก็ต้องการบ้านที่ทุกครั้งเมื่อกลับไปสามารถสวิทซ์สู่คําว่า Home ได้พักผ่อนแบบเงียบสงบไม่วุ่นวาย และเป็นตัวเองได้แบบเต็มที่


ก่อนที่จะได้คุยกับคุณแบงค์ในวันนี้ เรามีภาพจำถึงความเป็นสุภาพบุรุษที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันประณีตในการดูแลตัวเองของผู้ชายคนนี้มาโดยตลอด ซึ่งภาพนั้นถูกแสดงออกผ่านร้านตัดสูทในซอยสุขุมวิท 53 ที่ใช้ชื่อว่า RAMS ทันทีที่ถามถึงความเป็นตัวตนออกไป คำตอบไม่ผิดจากที่คาดนัก ความ Detailing และ Craftsmanship ต่อการลงมือทำในสิ่งที่หลงใหลคือคีย์เวิร์ดสำคัญในชีวิตของคุณแบงค์ และ 2 คำที่ว่าก็เป็นส่วนที่ทำให้เขาตัดสินใจเปิด RAMS ลงมาดูแลเนื้องาน Designer & Styling ด้วยตัวเอง งานที่ความคิดสร้างสรรค์ต้องอยู่บนพื้นฐานของการทำให้ผู้ชายทุกคนที่เดินออกไปมีเสน่ห์มากยิ่งกว่าตอนเดินเข้ามาโดยที่เป็นตัวของตัวเอง

“จริง ๆ การที่ได้ใช้เวลา Communication กับผู้คนที่ RAMS ก็เป็นอีกหนึ่งความสุขด้วยเหมือนกันครับ ความต้องการของลูกค้าจะมาพร้อมไอเดียและความคิดใหม่ ๆ ให้เราใช้พัฒนางานของตัวเองได้ตลอด” 

ความสงสัยเกิดขึ้นทันที “แล้วถ้าหากตัดคําว่า RAMS ออกไปจากบทบาทหน้าที่ของผู้ชายชื่อแบงค์ ปรีดากรล่ะ หน้าตาของ Life Style ของผู้ชายคนนี้จะเป็นแบบไหน ?” คําตอบของคุณแบงค์ทําให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้นมากว่าทําไมช่วงเวลาที่เรียกว่า Me Time หรือการพักผ่อนในแบบที่ตัวเองเลือกถึงสําคัญต่อทุกคน

เพราะว่างานส่วนหนึ่งของ RAMS ทำให้ต้องเจอผู้คนมากมาย ต้องมีการสร้าง Conversation อยู่ตลอดเวลา ทั้งในเรื่องของการ Consult เองก็ดี หรือการ Fitting ชุดสูทเองก็ตาม ผมชอบการใช้เวลาของตัวเองไปกับสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าเราได้พักผ่อนจริง ๆ เพื่อที่จะหา Inspiration ใหม่ ๆ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ผมลงรายละเอียดมาแล้วว่า Activity เหล่านี้ตอบโจทย์กับความเป็นเรานะ ไม่ว่าจะเพื่อพักผ่อนหรือการช่วยพัฒนาชีวิตในด้านทำงานของเราก็ตาม Life Style ของผมในบางครั้งจึงเป็นการเลือกขับรถออกไปเที่ยวเขาใหญ่บ้าง เพราะธรรมชาติทำให้เรารู้สึกสงบ คิดอะไรต่าง ๆ ได้ดี มีการออกกำลังกายเพื่อให้พร้อมทำสิ่งใหม่ได้เต็มที่ตลอด อ่อ ๆ สำคัญเลยคือแบงค์ปรีดากรเป็นคนชอบทานอาหารอร่อยครับ (หัวเราะ) 

พอเลิกงานเราก็เลยอยากให้เวลากับคนรัก ได้ใช้เวลาพิเศษบนโต๊ะอาหารด้วยกัน สำหรับผมพื้นที่ Dinner Space ของบ้านเลยสำคัญมาก เพราะเป็นมุมที่ผมจะแลกเปลี่ยนบทสนทนาและความรู้สึกมากมายต่อคนที่เรารักอยู่ตลอด แล้วก็ใช้เวลาเล่นกับน้องหมาด้วย ที่สำคัญก็คือให้ตัวเองโดยใช้เวลาอยู่ที่บ้านให้มากที่สุด เพื่อที่เราจะได้อยู่กับตัวเอง และทบทวนตัวเองถึงสิ่งที่เจอมาในตลอด 1 วัน อย่างเช่นว่า วันนี้มีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นบ้าง บทเรียนข้อไหนที่เราควรรับเอามาปรับแก้ไข ช่วงเวลาที่เราได้เลือกใช้ไปกับความเงียบสงบนั้น จะสามารถเติมเต็มการใช้ชีวิตในส่วนอื่น ๆ ให้เป็นไปอย่างที่ต้องการและมีความสุขด้วยเหมือนกัน ดังนั้นการพิถีพิถันในการเลือกพื้นที่ หรือที่อยู่อาศัยที่ผมจะเข้าไปใช้ชีวิตจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมให้ความสำคัญและผมเชื่อว่ายังสะท้อนความเป็นคนที่ใส่ใจในเรื่อง Craftmanship ของผมในชีวิตส่วนตัวด้วยเช่นกันครับ


ก่อนที่จะเปิดร้านสูท RAMS จนทุกคนรู้จักอย่างทุกวันนี้คุณแบงค์เป็นคนทํางานอีกหนึ่งคนที่มี Work Life Timeline น่าสนใจมาก ๆ ตรงที่เปิดโอกาสให้ตัวเองเลือกทุกงานโดยการยึดว่างานเหล่านั้นมี Job Description ที่ตอบโจทย์กับแพชชั่นของตัวเอง 100% จริง ๆ ซึ่งสิ่งนี้ก็ยังคงสะท้อนตัวตนความพิถีพิถันในการเลือกสิ่งที่ดีสุดของ ‘แบงค์-ปรีดากร เมธเกรียงชัย’ และร้านสูท RAMS ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ชายไทยได้ดูดีโดยที่เป็นตัวเองได้เป็นอย่างดี

ผมโชคดีตรงที่ตัวเองได้ทำตามแพชชั่นทุกครั้งในงานที่อยากทำ ตั้งแต่การเลือกทำงานเอเจนซี่โฆษณา Saatchi & Saatchi และ McCann เพราะว่าอยากเห็น Process จากสายเรียนตอนมหาวิทยาลัยของตัวเอง พอทำไปสักพัก ก็รู้สึกว่าอยากเห็นภาพในมุมของลูกค้าบ้าง ก็ได้โอกาสเข้าไปทำงานที่ Grey Hound Cafe เป็นทั้ง Marketing / Pr / Crm / Csr จากนั้นก็ขยับไปอยู่ใน SANSIRI เป็น Corporate Marketing ดูภาพรวมแบรนด์ดิ้ง ซึ่งข้อดีของการได้ทำงานที่เป็นตัวของเราจริง ๆ คือเราจะผลักดันให้ตัวเองต้องรู้ในภาพรวมทั้งหมด และเห็นรายละเอียดในทุกเนื้องานแบบรอบด้าน

หลังจากทุกงานที่ผ่านมา ผมก็ใช้แพชชั่น 100% ทำอย่างเดียวกันกับในตอนที่ทำ RAMS งานที่ต้อง Doing By Learning ออกนอกกรอบตลอดเวลาเพื่อตอบโจทย์เนื้องานที่ไม่เหมือนกันเลย ตั้งแต่การทำ Accessories เล็ก ๆ อย่าง Lapel Pin / Pocket Square หรือ Gentlemen Suit ผมจะบินไปต่างประเทศเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรม ศึกษา Material นำมาต่อยอดกับงานของ RAMS เสมอ มันยากนะครับ แต่ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้แล้วหน้าตาของแพชชั่นของผมมันคือการที่ตัวเองอยากเห็น Final แล้วงานนั้นมันได้เข้าไปมีผลกับชีวิตของคน ๆ หนึ่งให้ดีขึ้น

ก่อนที่เราจะได้ถามอะไรต่อไป คุณแบงค์เล่าให้ฟังต่อว่าจริง ๆ แล้วสูทของ RAMS เองก็ไม่ได้ต่างไปจากความเป็นบ้านสักหลังหนึ่งเลย เพราะต้องตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชั่นการใช้งาน ดีไซน์เพื่อคน ๆ นั้นโดยเฉพาะ และการนํามาซึ่งชีวิตที่ดีกว่าในระยะยาว

ผมสามารถพูดได้ว่าความ Detailing และ Craftsmanship ของทั้ง RAMS ร้านสูทแบบ Bespoke กับ ELSE ไม่ต่างกันเลย ตัวโครงการ Decorate Good Life โดยการจําลองว่าผู้อยู่อาศัยจะมีชีวิตที่ดีที่สุดได้อย่างไรท่ามกลางเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย โดยที่ยังสามารถ BE ANYTHING ELSE ได้เลือกสิ่งต้องการกับตัวเองจริง ๆ ความประณีตของแบรนด์ก็ได้ถูกออกแบบผ่านทุกจุดของบ้านทุกหลัง

สิ่งที่เป็น Insight Idea ซึ่งน่าประทับใจมาก ๆ ของ ELSE คือพอเป็นบ้านเดี่ยวเพื่ออยู่อาศัยของสมาชิกจำนวนไม่เยอะมาก ทางโครงการจึงวางแปลนตัวบ้านมี 2 ชั้น เพื่อที่ผู้อยู่อาศัยจะได้สามารถขยับไปใช้ Life Activity ส่วนต่าง ๆ ของบ้านได้อย่างเต็มที่ในแบบที่ตัวเองอยากเป็น ไม่ว่าจะอยากมีเวลาส่วนตัวกับตัวเอง หรืออยากมีเวลาส่วนตัวกับครอบครัว และเพื่อน ที่นี่ก็ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด มาพร้อมที่จอดรถได้ถึง 3-6 คัน ที่สำคัญคือมี EV Charger ให้พร้อมรองรับอนาคตที่กำลังจะมาถึง

ตัวโครงการยังใส่ใจ Exterior & Interior Design ที่ไม่ว่าจะเจเนอเรชั่นไหนก็ต้องการบ้านที่ไม่ว่าผ่านไปอีกกี่ปีก็ยังคงร่วมสมัย อย่าง LUXURY MODERN CLASSIC อีกหนึ่งข้อดีมาก ๆ โดยส่วนตัวของผมเองคือ นอกจากเรื่องงานตกแต่ง ทั้งฟังก์ชั่นในเรื่องของการอยู่อาศัย และดีไซน์ที่สวยงามในความรู้สึกแล้ว การได้อยู่กับธรรมชาติในพื้นที่แบบ Green Living Design Home Universal Design & Sustainability ของ ELSE จาก SANSIRI ก็ช่วยฮีลใจในวันที่เราต้องการพื้นที่สีเขียวอย่างมากเลยครับ


หลังจากที่คุยกันถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัว และมุมมองในการทํางานแล้ว สิ่งสุดท้ายที่ UNLOCKMEN อยากรู้ก็คือเรื่องของ ‘บ้าน’ อีกหนึ่งสถานที่ที่แสดงชีวิตด้านการพักผ่อนของแบงค์ปรีดากรได้ดีที่สุด จะต้องตอบโจทย์ชีวิตอย่างไรบ้าง หลังจากที่เขาได้เกริ่นถึง ELSE จาก SANSIRI โครงการบ้านเดี่ยวที่ตัวเองกําลังสนใจที่สุดในตอนนี้ให้เราฟังไป

ข้อดีของ ELSE คือโครงการมีจำนวนยูนิตบ้านที่ 3-7 หลัง จึงมีความเป็นส่วนตัวที่ค่อนข้างสูงเป็นพิเศษ ทั้งด้านการตกแต่งที่เลือกเป็น Modern Classic Design ก็ค่อนข้างตอบโจทย์รสนิยมของคนรุ่นใหม่ที่ชอบความร่วมสมัยเหนือกาลเวลาอย่างผม และด้วยความที่ผมเป็น Urban Men ที่ใช้ไลฟ์สไตล์แฮงเอาต์ในย่านทองหล่อหรือสุขุมวิทซึ่งเป็นส่วนเมืองของกรุงเทพอยู่แล้ว ก็จะต้องการมุมที่เป็นของตัวเองมาก ๆ เพราะยิ่งเราออกไปแฮงเอาต์มากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งอยากมี Private Luxury Space ของตัวเองมากเท่านั้น เพื่อให้เวลาที่กลับมาบ้านแล้วเรารู้สึกว่านี่ล่ะคือพื้นที่ซึ่งสามารถ Enjoy Life ทำให้การใช้ชีวิตที่บ้านมันสมบูรณ์

สิ่งเหล่านี้ล่ะคือดีไซน์แบบ EXCLUSIVE LIVING RESIDENCES ของ ELSE ที่ตอบโจทย์ของการซื้อบ้าน ที่มีความหมายถึงการอยู่แบบระยะยาว เป็นการเลือกบ้านที่สามารถตอบไลฟ์สไตล์ของผมได้อย่างลงตัว ทั้งฟังก์ชั่นในการอยู่อาศัยและการตอบโจทย์ความเป็นตัวตน

อีกสิ่งที่ ELSE ตอบโจทย์กับผมมาก ๆ คือการที่ตั้งอยู่บน PRIME LOCATION ซึ่งเป็นหัวใจหลักสำคัญของแบรนด์ ELSE ด้วยทำเลที่ดีที่สุดจากทั้ง 5 โครงการ ELSE RAMINDRA 34 / ELSE KRUNGTHEP KREETHA / ELSE RAMA 9 / ELSE BEARING 32 ที่เป็นบ้านเดี่ยว LUXURY MODERN CLASSIC และ ELSE SUKHONTHASAWAT 26 ที่เป็น MODERN LUXURY HOME OFFICE ทุกทำเลอยู่ใจกลางเมืองซึ่งเชื่อมต่อกับการทุกใช้ชีวิตให้สะดวกสบายอีกระดับ ในแบบที่บางทีถ้าเราอยากกลับบ้านเร็ว ๆ บ้านอยู่ในเมืองมันก็ทั้งสะดวกแล้วมันก็ง่าย ไม่ต้องขับรถไกล หรือถ้าจะออกไปนอกเมืองก็มีทางด่วน แล้วถ้าวันไหนไม่ใช้รถ การที่ ELSE อยู่ติดกับรถไฟฟ้านั้นเหมาะเลยครับ แถมยังแวดล้อมด้วยห้างสรรพสินค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เป็นโลเคชั่นที่ใครก็ต่างใฝ่ฝันที่สุดแล้ว

 

ความพิเศษของ ELSE อยู่ตรงที่เขาสามารถทำความเข้าใจลูกค้า หรือความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างละเอียดมาก ๆ ก่อนจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกบ้านทุกคน และเมื่อเข้าไปอยู่แล้ว ก็ต้อนรับและดูแลลูกบ้านอย่างดี ด้วย SANSIRI FAMILY WELCOME มอบสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะส่วนลดหรือข้อเสนอจากแบรนด์ไลฟ์สไตล์ไฮเอนด์ให้ลูกบ้านอย่างผมและคนอื่นได้ใช้ชีวิตแบบ BE ANYTHING ELSE โดยการเป็นตัวเองที่สนุกมากขึ้นครับ


สัมผัสความพิเศษแบบ Exclusive Luxury ได้ทั้ง 5 ทำเลทองของ ELSE จาก SANSIRI ลงทะเบียนดูบ้านตัวจริงได้ทางเว็บไซต์ของแสนสิริได้แล้ววันนี้ http://siri.ly/FCXUp74 แล้วปักหมุด GPS เข้าสู่บ้านในฝันของคุณ ตามโลเคชั่นข้างล่างนี้ได้เลย

สามารถดูโครงการ ELSE จาก SANSIRI ทั้ง 5 PRIME LOCATIONS :

– ELSE Ramindra 34 http://siri.ly/WcUPOJ5
– ELSE Sukhonthasawat 26 http://siri.ly/HSISPK5
– ELSE Bearing 32 http://siri.ly/61gdt45
– ELSE Krungthep Kreetha http://siri.ly/zK80FW5
– ELSE Rama 9 http://siri.ly/RpyCV65

#ELSE #BEANYTHINGELSE #SANSIRI40YEARS #SANSIRI #YOUAREMADEFORLIFE

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line