DAAT’S WHY: ทำไมสัมมนาเก้าอี้ดนตรีนี้หลายคนเฝ้ารอ พร้อมสรุปข้อมูลดิจิทัลงาน DATT DAY 2018

ในยุคที่ดิจิทัลเป็นใหญ่และเป็นหนึ่งช่องทางที่แทบจะกำหนดได้ว่าแบรนด์จะโตหรือจอด คนทำงานด้านสื่อทุกคนจึงต้องไหวตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง นี่เลยเป็นเหตุผลให้เกิดการรวมตัวกันระหว่างคนโฆษณาเพื่อสร้างพันธมิตรเสนอข้อมูล ช่วยให้วงการสื่อเข้มแข็งในงาน DATT DAY 2018 – Infinite Possibilities  ซึ่งปีนี้จัดขึ้นมาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว

DAAT 101

ผังรายละเอียดงาน แต่ละห้องจะมีหัวข้อให้เลือกลุกไปฟังตามความชอบ สลับห้องไปมาได้ตลอดเวลา

หลายคนสงสัยว่า DAAT คืออะไร แท้จริงแล้วมันคือตัวย่อของ Digital Advertising Asscociation (Thailand)  ทำไมเราต้องไปงาน DATT DAY ในเมื่อข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับดิจิทัลก็อาจจะวนเวียนหรือสามารถเสิร์ชหาได้จาก Device ที่เรามีทั้งมือถือและสมาร์ตโฟน เราขอสรุปจากสิ่งที่เราเข้าไปสัมผัส 3 ข้อ ต่อไปนี้

1. เราจะได้สัมผัสกับบุคคลที่เป็นตัวพ่อตัวแม่ด้านดิจิทัลจากอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ ในงานเดียว แบบตัวเป็น ๆ
2. ข่าวคราวอัปเดตในงานค่อนข้างตรงกับสิ่งที่เราต้องการ เพราะเป็นการสำรวจโดยใช้พื้นฐานข้อมูลจากประเทศไทย ที่สำคัญยังไร้ fake news ด้วย
3. ปิดท้ายงานด้วย After Party ที่จะทำให้สายสัมพันธ์ของคนอยากโตในวงการนี้มีทางไป บางทีเราอาจได้เนื้อคู่ หรือพาร์ตเนอร์ที่ตรงใจไว้ร่วมงานได้

Recap DAAT’s interesting

สำหรับปีนี้มีเรื่องอัปเดตเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางดิจิทัลไว้มากมาย เราขอสรุปแต่ละหมวดที่น่าสนใจไว้ด้านล่าง

SHOW ME THE MONEY: เปิดงานด้วย forecast ค่าโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลในประเทศไทยปีนี้จะเป็นอย่างไร สมาคมฯ ได้แถลงร่วมกับบริษัท กันตาร์ ทีเอ็นเอส (ประเทศไทย) ไว้ว่าจะพุ่งขึ้นถึง 21% จากปีที่แล้ว คำนวณเป็นตัวเลขกลม ๆ ว่าจะปิดไตรมาสสุดท้ายของปีได้ที่ 15,000 บาท แต่มีแย้บว่าอาจจะสูงขึ้นกว่านี้อีก ข้อมูลนี้น่าจะทำให้หลายคนใจชื้นขึ้นว่าอนาคตด้านดิจิทัลที่มีคนเล่นเยอะ ยังมีช่องว่างเหลือเฟือให้เข้าไปโกยได้แน่นอนถ้าคุณเจ๋งจริง

ภาพรวมอันดับอุตสาหกรรมไทยที่อัดฉีดแรงด้านโฆษณาดิจิทัล

ข้อมูลปีนี้ไม่ได้หนีไปจากที่หลายคนคาดการณ์ เพราะเบอร์ต้นที่ใช้เงินเยอะก็ยังอยู่ในประเภทเดิม แต่สลับเล็กน้อยจากปีที่แล้วระหว่างอันดับ 3 กับอันดับ 4 เท่านั้น เนื่องจากปีที่แล้วอุตสาหกรรมธนาคารเร่งพัฒนากันยกใหญ่เลยแซงหน้าขึ้นมา ทั้งนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ 5 อันดับแรก ได้แก่

1. กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์
2. กลุ่มการสื่อสาร
3. กลุ่มประทินผิว
4. กลุ่มธุรกิจธนาคาร
5. กลุ่มผลิตภัณฑ์เดลี่โปรดักส์

9 อันดับแพลตฟอร์มที่นิยมละลายเงินดิจิทัลสูงสุดปี 2018

แม้ตลาดต่างประเทศจะมีข่าวว่าคนเริ่มไม่เล่น Facebook กันแล้วแต่จากการสำรวจข้อมูลในประเทศไทยยังคงติดอันดับแพลตฟอร์มที่มีผู้บริโภคเกินกว่าครึ่งใช้งานอยู่ แถมกำลังสร้างคะแนนเป็นขวัญใจ Marketer ชาวไทยด้วยการเปิด official office และการนำเสนอโปรดักส์ใหม่ที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ม้ามืดน้องใหม่ที่กำลังพุ่งแรงไต่อันดับการเติบโตสูงถึง 200% แม้ตัวเงินจะไม่ก้าวกระโดดขึ้นมาเทียบ 9 อันดับหลักแต่เราก็ไม่สามารถหลับหูหลับตาทำเป็นมองไม่เห็นได้คือ twitter เนื่องจากมีการปรับโปรดักส์เน้นให้สามารถจัดการได้ด้วยตนเองมากขึ้น ทำให้ทำ targeting ได้ค่อนข้างดี ที่สำคัญคือความโดดเด่นของ Trend Twitter ที่เหล่า Marketer หันไปใช้กันมากขึ้น หากต้องการให้แคมเปญที่ทำเป็นกระแส

10 ธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรง ป๋า spend ประจำปี 2018

ความเติบโตของเม็ดเงินที่ลงทุนเพื่อเรียก Reach ทุกวิธีทางจาก 10 ประเภทธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

1. Motorcycles & Bicycles : 179%
2. Real Estate : 124%
3. Office Business Equipment : 118%
4. Clothing & Underwear : 106%
5. Seasoning Products : 98%
6. Skincare Preparation : 74%
7. Travel & Tours : 71%
8. Educational Institutions : 67%
9. Photographic Products : 62%
10. Electrical Products: 59%

The Age of Data & Premium Skills

จากการแยกร่างไปฟังหลายเวที แม้จะมีหัวข้อที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนล้วนพูดถึง Data ทั้งสิ้นในแง่กุญแจสำคัญที่เป็นขุมอำนาจของธุรกิจสายดิจิทัล เพราะ Data ทำให้ผู้เล่นทุกธุรกิจเท่าเทียมและทำให้เจ้าถิ่นของอุตสาหกรรมเดิมต้องหนาว ๆ ร้อน ๆ เพราะมีคู่แข่งใหม่ข้ามสายมาแย่งลูกค้าได้ เช่น คนที่มี data มากอาจยื่นข้อเสนอการกู้สินเชื่อโดยตรงให้กับกลุ่มเป้าหมายได้โดยไม่ต้องผ่านธนาคาร เป็นต้น

เพื่อการแข่งขันที่ได้ศักยภาพ จึงเกิดการควาน Key Person เพื่อจัดการกับ Data ทำให้คนที่มีสกิลเหล่านี้กำลังเนื้อหอมสุด ๆ ถ้าคุณมี นี่ถือเป็นยุคทองที่ใครก็คว้าตัวแน่นอน

1. Mathematic / Statistic เข้าใจสถิติ การจัดเก็บ การค้นหา และตัวชี้วัดที่ควรวัดผล วิเคราะห์ได้
2. Indutrial Understanding เข้าใจธุรกิจและการตลาด เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ให้ตรงกับรูปแบบธุรกิจและตลาด
3. Visualization วิสัยทัศน์ ซึ่งได้จากการวิเคราะห์และหาช่องทางต่อยอด
4. Communication Skill สื่อให้เป็น สื่อให้ดี เพื่อให้คนที่อยู่ในทุกกระบวนการเข้าใจข้อมูลที่มี

Effectiveness Campaign from Effective People

เรื่องการทำแคมเปญให้ได้ผลที่นักการตลาดสงสัยว่าทำแบบไหนดี เริ่มที่ไหนจะได้ผล เราสรุปแก่นจากเหล่ากูรูมาได้ ข้อ ดังนี้

1. บอกโจทย์ให้ชัดเจน มี OKR (Objecttive Key Result) ที่ชัดเจน
2. สามารถแก้ปัญหาทางธุรกิจได้ตรงจุด
3. ยืดหยุ่นแผนการดำเนินการกลางทางได้ ถ้าวัดผลระหว่างทางแล้วพบว่าไม่เห็นผลก็พร้อมปรับแก้ และวางแผนสำรองเสมอเพื่อพาแคมเปญก้าวไปถึงจุดที่ต้องการ

ด้านเงื่อนไขที่หลายคนมักตั้งกฎกันไปเองเรื่องการทำแคมเปญโฆษณาในรูปแบบวิดีโอให้เกิดประสิทธิภาพสูงว่าต้องใช้เวลาสั้นเข้าไว้เพื่อ hook ผู้บริโภคให้ทันก่อนกด skip อาจจะไม่ใช่สูตรสำเร็จของคำตอบ เพราะทุกวันนี้โฆษณาที่ดีหลายตัวสามารถทำหน้าที่แม่เหล็กด้วยตัวของมันเองจนผู้บริโภคติดตามจนจบ

ตัวอย่างของโฆษณาที่ใช้ระยะเวลานานแต่ยังคงความไวรัลไม่มีตก

ไม่ว่ากระแสความเติบโตของเทคโนโลยีหรือ AI จะล้ำหน้าหรือมหัศจรรย์เพียงใด UNLOCKMEN ก็คิดว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะมันจะไม่เข้าพุ่งมาเปลี่ยนแปลงทันทีและต้องใช้เวลาสักระยะเสมอ ดังนั้น สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงจึงเป็นการไม่ปรับตาม อย่ารอจนกว่าจะมีคนเคาะประตูบ้านเราล่ะ ชาว UNLOCKMEN สายดิจิทัล