ยังคงเป็นกระแสที่ Hype ไม่เลิก สำหรับซีรีส์ที่จุดกระแสมากมายในระดับที่คนทั้งโลกต้องดู สำหรับ Squid Game ซีรีส์สุดฮิตสัญชาติเกาหลี ที่พาให้ Netflix กลับไปขึ้นแท่นสตรีมมิ่งอันดับ 1 ของโลกไปได้อย่างขาดลอย พร้อมทั้งแจ้งเกิดนักแสดงและทีมงานทุกคน สร้างเม็ดเงินให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลี จนกลายเป็น Soft Power ที่ยิ่งใหญ่ รวมไปถึงการสร้าง Pop Culture ที่ Hype ทั้งแฟชั่นชุดวอร์มสีเขียวติดเบอร์ รองเท้า Vans สีขาว ไปจนถึงชุดยูนิฟอร์มของผู้คุมในซีรีส์ที่กระหึ่มงานเทศกาลฮาโลวีนทั่วโลกแน่ๆ แม้ว่าซีรีส์จะปล่อยใน Netflix มานานพอสมควรแล้ว แต่กระแสยังไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วเลย เหล้าเก่าในขวดใหม่ ใส่ประเด็นสังคมเข้มข้น Squid Game ซีรีส์สุดฮิตระดับ Mega Trend ที่ทำให้ Korean Wave หรือ Hallyu กลับมาเป็นกระแสทั่วโลกอีกครั้ง หลังจาก Parasite ทำให้วงการหนังเป็นที่พูดถึงในฐานะหนังภาษาต่างประเทศ 100% เรื่องแรกที่สามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ BTS สามารถนำ K-Pop
สายลับที่โลกรู้จักกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุค 60s จาก Sean Connery สู่ Daniel Craig เรามาทำความรู้จักผู้ที่โลดแล่นบนจอในบทสายรับรหัส 007 เจาะจุดเด่นกันว่า Bond แต่ละคนมีเสน่ห์และความเท่ที่แตกต่างกันตรงไหน ก่อนจะสั่งลาและต้อนรับ Bond คนใหม่หลัง No Time to Die Sean Connery: Bond คนแรก ต้นแบบของสายลับ 007 เริ่มต้นที่ James Bond คนแรก และเป็นคนสำคัญที่ทำให้ภาพลักษณ์ของสายลับ 007 นั้นเป็นที่จดจำของคนดูจนถึงทุกวันนี้ แต่สำหรับ Sean Connery ก้าวแรกที่เขาได้รับบทบาทนี้ กลับไม่เป็นที่ปลื้มใจของนักเขียนผู้ให้กำเนิดนิยายสายลับเจ้าเสน่ห์อย่าง Ian Fleming เท่าไหร่นัก เพราะเดิมที Sean คือนักเพาะกายสมัครเล่นที่ภาพลักษณ์นั้นแตกต่างจากที่ Ian ได้จินตนาการเอาไว้ในนิยาย ในหัวของ Ian นั้นยึดติดกับภาพ James Bond คือชายสะโอดสะองเจ้าเสน่ห์ที่พร้อมดึงดูดเพศตรงข้าม แต่โปรดิวเซอร์ Albert R.
จากสาวเนิร์ดขวางโลก ที่แจ้งเกิดในหนังอินดี้ Scarlett Johansson เป็นที่จดจำมากมายในฐานะนักแสดงสาวที่สร้างความน่าทึ่งผ่านบทบาทอันหลากหลาย ทั้งบทดราม่า ไปจนถึงหนังแอ๊คชั่นไซไฟ เรามาทำความรู้จักตัวตนของเธอ ผ่าน 10 หนังน่าจดจำ ที่คุณจะหลงรักเธอมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม “Ghost World” (2001) “ตัวละครใน ‘Ghost World’ นั้นยอดเยี่ยมและหายากในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ที่หนังวัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่มีความลึกของตัวละคร” Scarlett Johansson เข้าสู่วงการภาพยนตร์มาตั้งแต่ปี 1994 จากหนังเรื่องแรก North ในตอนนั้นเธออายุเพียงแค่ 9 ขวบเท่านั้น หลังจากนั้นก็ได้รับแต่บทตัวประกอบที่ไม่ได้ฉายแววอะไรมากมายนัก แถมหนังที่เธอเล่นก็ไม่ได้โด่งดังอะไร (หนึ่งในนั้นคือหนัง Home Alone 3 ที่คุณภาพเลวร้ายมาก) ผ่านไปหลายปี ก่อนที่เธอจะกลายเป็นนักแสดงที่ถูกลืมเลือนไป โชคก็เข้าข้างให้เธอได้เล่นหนังอินดี้ที่สร้างจาก Underground Comic เรื่องดัง เรื่องราวของ 2 เพื่อนซี้นอกคอกขวางโลก ที่หนึ่งในนั้นกำลังจะสานสัมพันธ์กับชายแก่คราวพ่อเพื่อกลั่นแกล้ง แต่เมื่อได้รู้ความข่มขื่นของชายวัยกลางคน มุมมองชีวิตก็ค่อยๆเปลี่ยนไป แม้ว่า Scarlett จะรับเพียงบทสมทบที่ไม่หวือหวา แถมหนังเรื่องนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนักเมื่อออกฉาย แต่มันก็ค่อย ๆ สะสมแฟนหนังเดนตายจนกลายเป็นหนังคัลท์แห่งยุคไปในทันที
ใครที่ชื่นชอบการดูหนังสยองขวัญได้เวลาเปิด Netflix แล้ว เพราะเดือนนี้ทาง Netflix ได้ต้อนรับเทศกาลฮัลโลวีนโดยการขนสารพัดหนังและซีรีส์ชวนขนลุกมาให้เราดูกันอย่างจุใจ ซึ่งเรามีหนังและซีรีส์ทั้งหมด 10 เรื่องที่อยากแนะนำให้ไปดูกัน สำหรับใครที่ใจกล้าก็ควรดูให้ครบทุกเรื่องไปเลย There’s Someone Inside Your House หนังเรืองนี้เป็นหนังแนวเชือดสับที่สร้างโดยโปรดิวเซอร์ซีรีส์และภาพยนตร์เขย่าขวัญชื่อดังอย่าง Stranger Things และ The Conjuring ซึ่งเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักเรียนมัธยมในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของรัฐเนแบรสกา เมื่อใกล้ถึงวันจบการศึกษาที่ทุกคนรอคอย ‘มาคานี่’ เด็กสาวชั้นม. 6 ก็พบกับเหตุการณ์ไม่คิดไม่ฝัน เมื่อเพื่อนร่วมชั้นของเธอถูกฆาตกรสุดโหดไล่ล่า ฆาตกรคนนี้จะใส่หน้ากากที่เป็นใบหน้าของเหยื่อทุกครั้งที่ออกล่า และเปิดโปงความลับดำมืดของเหยื่อให้ทุกคนรับรู้ มาคานี่และผองเพื่อนต้อหาตัวฆาตกรให้เจอก่อนจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป สามารถรับชมได้แล้วตั้งแต่วันนี้ No One Gets Out Alive หนังที่เล่าเรื่องราวชวนขนลุกของบ้านที่มีวิญญาณหลอน ผ่าน ‘แอมบาร์’ สาวเม็กซิโกที่ลักลอบเข้ามาในอเมริกา เพื่อตามหาความฝันแบบอเมริกันชน ด้วยเงินติดตัวเพียงเล็กน้อย เธอจึงจำใจเช่าห้องพักซอมซ่อแห่งหนึ่งในคลีฟแลนด์ ซึ่งที่บ้านหลังนั้นเอง พอถึงเวลากลางคืนเธอก็ต้องพบกับเหตุการณ์ชวนขนหัวลุก ไม่ว่าจะเป็น ได้ยินเสียงสะอื้นของผู้เช่าห้องคนอื่น ฝันร้ายสุดสะพรึง และเสียงประหลาดที่ดังจากห้องใต้ดิน ทำให้เธอนอนไม่หลับ
ในค่ำคืนดึกสงัด ขณะที่คนอื่นกำลังหลับไหล และบางคู่กำลังระเริงรักอันเร่าร้อนบนเตียงนอน เสียงแห่งความน่าสงสัยด้านนอกปลุกให้ทั้ง Derek และ Danny พี่น้องต้องหยุดภารกิจทุกอย่าง เพื่อออกมาพบแก๊งทรชนผิวดำที่กำลังจะขโมยรถของเขา Derek พี่ชายที่อยู่ในขุดกางเกงบ็อกเซอร์สีขาวเพียงตัวเดียว กับท่อนบนอันเปลือยเปล่าเผยให้เห็นรอยสักสัญลักษณ์สวัสดิกะตรงอกข้างซ้าย เขามาพร้อมปืนพกคู่ใจ จัดการยิงโจรผู้เคราะห์ร้ายจนหมดแม็ก และ 1 ใน 3 นอนหายใจรวยรินอยู่หน้าบ้าน Derek สั่งให้ชายผิวดำคนนั้นเอาปากแนบกับฟุตบาท ชายผู้นั้นยอมทำตามแต่โดยดี แต่ในเสี้ยววินาทีต่อมา Derek ได้จัดการกระทืบหน้าอย่างไม่ยั้ง ชายผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นตายคาที Derek ถูกตำรวจจับกุมทันที สีหน้าของเขาไม่ได้รู้สึกรู้สาถึงความผิดที่เขาได้ก่อเอาไว้ ตรงกันข้ามเขากลับสะใจที่ได้ส่งพวกไอ้มืดตายอย่างสาสมใจ นี่คือซีนหนึ่งในหนัง American History X ที่เล่าเรื่องเพียงไม่กี่นาที แต่กลับสร้างความช็อคให้กับผู้ชมที่ได้ชมหนังเรื่องนี้อย่างจัง ฉากๆนี้ได้รับการกล่าวถึงในวงกว้างในฐานะหนังที่เล่าเรื่องราวของ “นีโอ-นาซี” ได้อย่างทรงพลัง ขณะเดียวกันก็อธิบายความเกลียดชังของคนๆหนึ่งที่มีต่อการเหยียดสีผิวได้เป็นอย่างดี แต่ภายใต้ความรุนแรงนี้ มีหลายสิ่งที่พลิกผัน ที่นำไปสู่เรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพี่น้องคู่นี้ไปตลอดกาล เรามาทำความรู้จักกับวายร้ายในคราบนีโอ-นาซี ที่ความรุนแรงได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาจากขาวเป็นดำ จนทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในวายร้ายที่ใช้ความเกลียดชังทำลายทุกอย่างให้พินาศในพริบตา…Derek Vinyard American History X รายงานหัวข้อเลือด 3 ปีต่อมา…Danny น้องชายของ Derek
เพราะกีฬาบาสเก็ตบอล ไม่เพียงต้องใช้พละกำลัง หรือทีมเวิร์คในการช่วงชิงลูกบาสจากคู่แข่งเท่านั้น ท่วงลีลาในการเลี้ยงลูกหรือยัดห่วงก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะเป็นตัวชี้วัดความเป็นสตาร์ในสนามได้มากน้อยแค่ไหน จึงไม่แปลกที่วงการหนังจะคว้าเหล่าซุเปอร์สตาร์นักยัดห่วงเหล่านั้นมาโลดแล่นบนจอเงิน ซึ่งก็มีทั้งแจ้งเกิดในวงการ และแจ้งดับในวงการเช่นกัน UNLOCKMEN จึงรวบรวมเหล่านักกีฬายัดห่วงที่โลดแล่นบนจอเงิน เพื่อต้อนรับการมาของหนังภาคต่อในตำนาน Space Jam: A New Legacy มาดูกันว่าใครปังใครแป๊กในวงการหนังกันบ้าง Michael Jordan – Space Jam (1996) เริ่มต้นด้วยนักบาสระดับคลาสสิค ดาวเด่นแห่งทีม Chicago Bulls ที่โดดเด้งในยุค 80s-90s ที่นอกจากผลักดันให้กีฬาบาสเก็ตบอล กลายเป็นกีฬาสุดฮิปส์ที่ใครต่อใครอยากจะมีลีลาการยัดห่วงให้เท่เท่ากับ Jordan แล้ว ในด้านวงการบันเทิง Michael Jordan ก็คว้าทุกโอกาสที่พุ่งเข้ามาหา ตั้งแต่การเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ตั้งแต่รองเท้ากีฬา ไปยันน้ำอัดลมชื่อดัง จนมีรุ่นรองเท้าเป็นของตัวเอง ไปจนถึงการเป็นนักร้อง มีเหรอที่วงการหนังจะไม่คว้าเขามาแสดง แถมหนังยังพิเศษด้วยการจับเขาต้องเล่นร่วมกับตัวการ์ตูนอีกด้วย และ Space Jam คือบทบันทึกถึงความโด่งดังที่อยู่ในช่วงเวลาที่พีคสุดของ Jordan เรื่องราวของนักบาสมืออาชีพที่ทะลุมิติไปช่วยเพื่อนตัวการ์ตูนแข่งกีฬายัดห่วงกับมนุษย์ต่างดาวนี้ ฉายความเป็นสตาร์ของตัว Jordan ได้อย่างลงตัว แม้ว่าหนังจะคราคร่ำไปด้วยคาแรคเตอร์สุดวายป่วงจาก Looney
วันนี้แม้แต่ Wong Kar Wai ยังเตรียมเปิดตัวผลงาน NFT ชิ้นแรก Unseen Footage จากภาพยนตร์สุดเหงา “In The Mood For Love” ซึ่งยังไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน การประมูล Unseen Footage ของ “In The Mood For Love – Day One” ความยาวประมาณ 91 วินาที เนื้อหาทั้งหมดเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ถูกบันทึกในวันแรกของการถ่ายทำภาพยนตร์ Classic Romantic Drama ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในเทศกาล Cannes Film Festival ปี 2000 เป็นภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้ผู้กำกับสุดอาร์ทคนนี้มากที่สุดเรื่องนึง และถูกโหวตโดยคนดูว่าเป็นหนังที่ดีที่สุดอันดับที่ 2 ของ Wong Kar Wai การประมูลครั้งนี้เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่าง Wong Kar Wai และ Sotheby’s ในการนำ
ทุกวันนี้การตลาดเป็นเรื่องสำคัญ แม้กระทั่งตัวอย่างหนังความยาวเพียง 2 นาทีกว่า ๆ ก็ต้องสร้างจุดขายและความน่าสนใจ เพื่อดึงดูดคนดูให้ตีตั๋วให้มากที่สุด และที่ฮือฮาอยู่ในขณะนี้ก็คือตัวอย่างแรกของหนังซุเปอร์ฮีโร่ที่หลายคนรอคอยอย่าง Spider-Man: No Way Home นอกจากความสนุกที่เข้มข้นขึ้นแล้ว ยังเป็นการรวม Easter Egg ที่แค่ในหนังตัวอย่างยังมีมากมายให้แฟนหนัง Spider-Man ได้ตื่นเต้นกับสัญลักษณ์และตัวละครลับต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ แต่ก่อนที่จะเฉลยว่ามีอะไรบ้าง มาลองชมตัวอย่างนี้ก่อน แล้วมาดูกันว่า คุณจะเห็นเหมือนที่เรารวบรวมกันมาให้ได้ชมหรือเปล่า การแสดงความเคารพต่อ Steve Ditko เพียงแค่ฉากเปิดฉากแรกใน Trailer เราก็ได้เห็นการคารวะ Steve Ditko กันเลย หลายคนอาจจะสงสัยว่า Steve Ditko คือใคร Ditko คือศิลปินที่ร่วมกันคิดค้นคาแรคเตอร์ Spider-Man ร่วมกัน Stan Lee นอกจากนั้นยังครีเอทคาแรคเตอร์ Doctor Strange ร่วมกันอีกด้วย โดยมีคนตาดีเห็นลายกราฟิตี้ที่พ้นคำว่า “DITKO” อยู่บนหลังคาที่ Peter Parker และ
นักแสดงสาวยุคใหม่ ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นบทสาวแสบที่แจ้งเกิดของเธอ / มือปราบซอมบี้สุดห้าว / สาวผู้ไขว่คว้าหาฝัน หรือเป็นหวานใจของไอ้แมงมุม Emma Stone ล้วนผ่านบทบาทมาแล้วอย่างโชกโชน ด้วยอายุอานามเพียง 32 ปี ล่าสุดเรากำลังจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องใหม่ กับการรับบทบาทนางวายร้ายอันลือลั่นแห่งโลกการ์ตูนดิสนีย์ ในหนังชื่อ “Cruella” ที่จะฉายใน Disney+HotStar เรามาย้อนดูบทบาทเจ๋ง ๆ ที่ผ่านมาของเธอเพื่อต้อนรับหนังใหมไปพร้อม ๆ กัน Zombieland (2009) as Wichita หนทางแจ้งเกิดของนักแสดงสาวนั้นมีมากมาย อาจจะเป็นหนังรักรอมคอมดี ๆ สักเรื่อง แต่บทบาทที่ทำให้เราได้รู้จัก Emma Stone อย่างเป็นทางการ กลับเป็นหนังซอมบี้สุดห้าวและเก๋าเกรียน ที่อุดมไปด้วยเลือดและการระเบิดสมองเรื่องนี้ Emma รับบทเป็น Wichita พี่สาวที่กระเตงน้องสาว ใช้เสน่ห์ และความเจ้าเล่ห์ของผู้หญิง ร่วมเดินทางไปกับ Jesse Eisenberg และ Woody Harrelson ออกเดินทางเพื่อเอาตัวรอดในยุคซอมบี้ครองเมือง การได้ทำความรู้จักกับสาวตาโต แต่พิษสงเหลือร้าย
หากเราจะเปรียบตำรวจเป็นสีใดสีหนึ่ง สี ๆ นั้นย่อมไม่ต่างกับสีขาวบริสุทธิ์ เพราะโดยหน้าที่และภาพลักษณ์นั้นของตำรวจที่ตั้งตัวอยู่ในฟากฝั่งแห่งความยุติธรรม เป็นที่พึ่งพาของประชาชน อยู่ตรงข้ามกับเหล่าอาชญากรผู้ร้ายอย่างสิ้นเชิง แต่มีหนังเรื่องหนึ่ง ที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจอย่างเผ็ดร้อน สะท้อนความตกต่ำถึงขีดสุดของอาชญากรในคราบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้อย่างเข้มข้น จนตัวละครตัวนี้กลายเป็นหนึ่งในตัวร้ายบนโลกภาพยนตร์ที่เหี้ยมโหด ชั่วร้าย ใช้ช่องว่างทางกฏหมายในมือเปลี่ยนดำให้เป็นขาวอย่างเลือดเย็น บวกกับการแสดงที่เข้าถึงอารมณ์จนคว้ารางวัลใหญ่ไปครอบครองมาแล้ว มาทำความรู้จักกับวายร้ายที่รักคนล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสุดเท่และโคตรโหด agent Alonzo Harris แห่งหนัง Training Day (2001) หนังอาชญากรรมคลาสสิคที่หยิบเอาโลกสุดดาร์คของเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาเปิดเผยให้พวกเราได้เห็น บทบาทที่ส่งให้ Denzel Washington คว้ารางวัลออสการ์ไปครอง สะท้อนให้เห็นว่าตำรวจสีเทาเข้มจนดำสนิทนั้นโฉดและโหดเหี้ยมแค่ไหน หนึ่งวันแห่งการฝึกฝน เปลี่ยนจากคนให้กลายเป็นปีศาจ เสียงนาฬิกายามเช้าปลุกให้ตำรวจหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรงอย่าง Jake Hoyt (นำแสดงโดย Ethan Hawke) ออกปฏิบัติการในฐานะตำรวจปราบปรามยาเสพติด วันนี้เป็นวันแรกที่เขาได้พบกับตำรวจรุ่นพี่อย่าง Alonzo Harris (นำแสดงโดย Denzel Washington) สายสืบตัวเก๋ามากประสบการณ์ ที่แววตาและท่าทางดูน่ากลัวตั้งแต่แรกเห็น แค่วันแรก เขาก็พา Jake ไปพบกับโลกแห่งความเป็นจริงของการเป็นตำรวจ อำนาจที่สามารถเปลี่ยนผิดเป็นชอบ กฎหมายสามารถเปลี่ยนดำให้เป็นขาว พร้อมจะหยิบยื่นความตายให้ใครสักคนได้ด้วยจำนวนเงินที่มากพอ เพียงแค่
“A Man Went Looking for America and Couldn’t Find It Anywhere” คำโปรยบนโปสเตอร์หนัง Easy Rider ที่มีพล็อตแสนเบาบาง เพียงแค่ 2 นักบิดที่เพิ่งขายโคเคนได้เงินมาจำนวนหนึ่ง ออกเดินทางจากลอสแองเจลิสไปยังนิวออร์ลีนส์ถึงฟลอริดา เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายกับในช่วงสงครามเวียดนามที่คุกกรุ่น แต่พล็อตเบาบางนี้กลับทำกำไรมหาศาล และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการหนังอเมริกัน จนกลายเป็นตำนานหน้าสำคัญแห่งยุคสมัย และเป็นจุดเริ่มของหนัง American Indie มาย้อนทำความรู้จักหัวขบวนแห่งการขบถครั้งยิ่งใหญ่บนแผ่นฟิล์ม ที่คลอเคล้าไปด้วยบรรยากาศฮิปปี้ ความเมามาย และหมุดหมายแห่งอิสระเสรีที่เปลี่ยนสังคมไปตลอดกาล ขบถแห่งการต่อต้านวัฒนธรรม “Easy Rider” คือหนังที่สร้างขึ้นในปี 1969 ปีที่เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายในสังคมอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นการเหยียบดวงจันทร์ครั้งแรกของยาน Apollo 11 ไปจนถึง เหตุการณ์ Woodstock เทศกาลทางดนตรีแห่งสันติภาพที่มีคนร่วมงานเกิน 500,000 คน จนนำไปสู่การชุมนุมประท้วงที่วอชิงตันดี.ซี.ในจำนวนคนที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และปฏิเสธไม่ได้ว่าในปีเดียวกันนี้ “Easy Rider” ก็เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญไม่แพ้กัน หนังนำแสดงโดย Peter Fonda รับบท “Wyatt”
หากเอ่ยถึงวาระที่ย่างเข้า 25 ปี แฟน UNLOCKMEN ก็คงคิดถึงวัยเบญจเพสอันแสนร้อนรุ่ม วัยที่เพิ่งผ่านพ้นความเป็นวัยรุ่นเพื่อก้าวสู่วัยผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว ย้อนกลับไปเมื่อ 25 ปีก่อน ในตอนนั้นวงการภาพยนตร์ก็เต็มไปด้วยสีสันของหนังหลากแนว ไม่ว่าจะเป็นจุดสูงสุดของหนัง Blockbuster ที่ทำเงินถล่มทลาย รวมไปถึงหนังอินดี้สีสันจัดจ้านมากมายที่กลายมาเป็นจุดพลิกผันครั้งสำคัญของวงการ เรามาย้อนความทรงจำของหนังช่วงกลางยุค 90s มาดูกันว่าจุดเริ่มต้นเหล่านี้ ได้ส่งผลอะไรต่อวงการหนังในปัจจุบันกันบ้าง Independence Day ภาพของมหานครไม่ว่าจะเป็นทำเนียบขาว หรือแลนด์มาร์คต่าง ๆ ถูกจานบินลึกลับจากนอกโลกถล่มจนราบเป็นหน้ากลอง ในยุคปัจจุบันอาจจะดูเป็นภาพที่แสนจะชาชินและธรรมดา แต่ทว่าเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ภาพเหล่านั้นต่างเป็นภาพที่ชวนตื่นตาสำหรับผู้ชมที่ได้ชมกันในโรงภาพยนตร์ สำหรับหนังไซไฟโลกถล่มแผ่นดินทลายในหนัง Independence Day หรือ ID4 หนังแนวโลกวิบัติผสมผสานกับการครองโลกของเหล่าเอเลี่ยน กลายเป็นโปรแกรมเด็ดของหนังยักษ์ต้อนรับซัมเมอร์ที่ทุกคนต้องดู ผู้กำกับ Roland Emmerich ที่เพิ่งผ่านงานหนังไซไฟลึกลับอย่าง Stargate สานต่อเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว ที่มาจู่โจมโลกใบนี้ได้อย่างทรงพลัง บวกกับพลังดาราที่มากันล้นจอ ตั้งแต่ Will Smith ที่เพิ่งแจ้งเกิดจาก Bad Boys มาขับยานต่อสู้กับเหล่าเอเลี่ยนได้สุดกวน หรือสุนทรพจน์อันทรงพลังของ Bill Pullman