หากผู้ชายจะเลือกดูซีรี่ส์สักเรื่องหนึ่งซีรี่ส์แนวสืบสวนสอบสวนต้องเป็นหนึ่งในตัวเลือกลำดับแรกที่เราไปค้นหา เนื่องด้วยพล็อตเรื่องที่สุดแสนจะคลาสสิกอย่าง “ตำรวจไล่จับผู้ร้าย” ฉากสืบสวนสอบสวนให้ชวนคิดชวนสงสัยไปสิบตลบแล้ว ยังมีฉากบู๊แอ็คชั่นมันส์ ๆ ตื่นเต้นเร้าใจ ที่บรรดาหนุ่ม ๆ อย่างพวกเราชอบฝังใจอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว ดังนั้นสุดสัปดาห์นี้หากชาว UNLOCKMEN ยังไม่มีโปรแกรมจะเดินทางไปไหน เราจะขอมาแนะนำซีรี่ส์สืบสวนสอบสวนยอดฮิตที่ถ้าได้ดูแล้วจะต้องออกลุกไม่ขึ้นก้นติดหนึบลากยาวกันข้ามคืนอย่างแน่นอน CSI: Crime Scene Investigation เป็นซีรีย์คลาสสิคที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดีกับ CSI หรือ Crime Scene Investigation ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับทีมนักนิติเวชวิทยาที่ตั้งอยู่ในเมือง ลาส เวกัส รัฐเนวาดา คอยสืบสวนคดีอาชญากรรมและฆาตกรรมต่าง ๆ ที่ดูปกติแต่ไม่ปกติ โดยเหตุผลที่เลือกเมืองนี้นอกจาเหตุผลทางการแสดงแล้ว แตห้องทดลองอาชญากรรมของกรมตำรวจเมือง ลาส เวกัส ยังได้ชื่อว่ามีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมเป็นที่สองในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย เป็นรองก็แต่ห้องทดลองของสำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา – FBI ในเมือง ควอนทิโค รัฐเวอร์จิเนียเท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากซีรีย์เรื่องนี้จะขออ้างอิงถึงกรม CSI เมือง ลาส เวกัสเป็นที่ดำเนินเรื่อง ด้วยความนิยมที่มีอย่างมากทั้งในและนอกสหรัฐอเมริกา ทำให้มีจำนวนซีซั่นมากถึง 15 ซีซั่น ตามด้วยภาคแยกจากเมืองต่าง ๆ อีก 3
ภาพยนตร์ตลกล้อเลียน หรือหนังแนว spoof หรือ parody ถือเป็นศิลปะในการเรียกเสียงหัวเราะอย่างแท้จริง ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการดัดแปลงเรื่องดั้งเดิมที่นำมาอ้างอิงและแซวซะเสีย กว่าจะคิดมุกระดับมหาชนออกมาได้ก็ต้องเข้าใจอารมณ์ขันของมนุษย์ด้วยกันเป็นอย่างดี ทีมงาน UNLOCKMEN เห็นว่าการเสพหนังตลกล้อเลียนนั้นมีคุณค่ามากกว่าการเรียกเสียงหัวเราะเพื่อผ่อนคลาย แต่ยังมอบวิธีคิดให้เรานำไปประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดไอเดียในการทำงานและการใช้ชีวิตในสังคมให้สนุก นี่คือ 5 หนังล้อเลียนชั้นดีที่จะนำความบันเทิงขั้นเจ็บกล้ามท้องและบริหารสมองของคุณให้คิดนอกกรอบได้คมขึ้น Walk Hard – The Dewey Cox Story (2007) Walk Hard คือหนังล้อเลียนที่ตลกร้ายสุด ๆ ล้อเลียนเสียดสีวงการดนตรีโลกด้วยการเล่าเรื่องแบบอัตชีวประวัติของตัวละครที่มีชื่อว่า Dewey Cox (แสดงโดย John C. Reily) ที่ผ่านเส้นทางด้านดนตรีอย่างโชกโชน หนังอัตชีวประวัติที่ถูกเรื่องนี้นำไปเป็นต้นแบบแห่งการล้อเลียนก็คือ Walk the Line และ Ray ที่แสบสุด ๆ ก็คือการแซวศิลปินระดับตำนานหลายท่านอย่าง John Lennon และวง The Beatles, Ray Charls และ Johnny Cash เราแนะนำให้ดูจริง
หนังและซีรี่ส์แนว Gangster ยังคงเป็นอะไรที่อมตะและขายได้เสมอในทุกยุค เหตุผลง่าย ๆ เพราะมันรวมทุกอย่างที่ผู้ชายโคตรชอบไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคาแรคเตอร์ที่เท่ ดราม่าพวกพ้อง ใช้ชีวิตโลดโผน บวกกับออปชั่นสุดคูล ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า ปืน รถ และสารพัดสิ่งที่ผู้ชายต้องมี แบบนี้แล้วไม่แปลกใจเลยที่ความเป็น Gangster จะถูกอกถูกใจคนดูอยู่เสมอ วันนี้ UNLOCKMEN มาแนะนำซีรี่ส์ Gangster ที่บางเรื่องอาจยังไม่เคยดู แม้จะไม่อยู่ในกระแส แต่รับประกันความระห่ำของเนื้อเรื่อง รับรองว่าดูเพลินจนลืมดูนาฬิกาแน่นอน Animal Kingdom เรื่องนี้ Underrated ในไทยมาก ๆ อาจไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่ โดยเป็นเรื่องราวของ Jay หนุ่มน้อยวัยเพียง 17 ปี ที่สูญเสียแม่ไปเพราะเสพยาเกินขนาด จับพลัดจับผลูมาอยู่กับยายและน้าอีกสามคน ซึ่งเจ้าหนูไม่ได้รู้มาก่อนเลยว่าครอบครัวนี้คือมาเฟียและรันวงการสีเทาแบบไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น Jay จึงต้องเอาตัวเองเข้าไปในวังวน Animal Kingdom ที่ทุกคนต้องไต่ขึ้นไปให้ถึงข้างบน ไม่เช่นนั้นก็จะโดนเขี่ยทิ้งแบบ no mercy แบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก แม้จะขึ้นชื่อว่าครอบครัว แต่ก็ไม่มีใครยอมใครทั้งนั้น เพราะต่างคนต่างต้องการอำนาจเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ความมันอยู่ตรงที่แต่ละคนไม่มีใครไว้ใจใคร
ถือเป็นข่าวดีสำหรับคนที่ชื่นชอบความมันส์แบบยิงล้างยิงผลาญสไตล์ John Wick
สุดสัปดาห์นี้ใครที่ยังไม่มีโปรแกรมจะเดินทางไปไหน ทีมงาน UNLOCKMEN ก็มีซีรีส์ดี ๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศมาแนะนำให้ทุกท่านได้เก็บไว้พิจารณาเป็นสต๊อกลิสต์สำหรับรับชมเวลาว่าง ๆ ซีรีส์ที่เรากำลังจะนำเสนอในวันนี้คือ Good Doctor ซึ่งหลายคนอาจจะคงเคยได้ยินชื่อนี้มาบ้าง หากคุณมีแฟนสาวที่เป็นแฟนคลับของซีรีส์เกาหลี เพราะ Good Doctor ที่เรากำลังพูดถึงคือเวอร์ชั่นรีเมคที่สตูดิโอ ABC ได้ซื้อลิขสิทธิ์จากทางช่อง KBS ไปทำใหม่ เดิมที Good Doctor เป็นเรี่องราวเกี่ยวกับตัวละครที่ต้องการจะก้าวขึ้นมาแพทย์เฉพาะทาง แต่ดันมีปัญหาเป็นโรคออทิสติกในกลุ่ม Savant Syndrome หรือ คนจำพวกออทิสติกอัจฉริยะ ซึ่งจะมีความบกพร่องทางพัฒนาการ แต่มีพรสววรค์ด้านอื่นที่เป็นเลิศแทน โดย Good Doctor เวอร์ชั่นเกาหลีถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากกวาดทั้งรางวัล และเรตติ้งถล่มทลายในประเทศเกาหลีใต้ จนร้อนไปถึงทางฝั่งสตูดิโอ ABC จัดการขอไปทำในเวอร์ชั่นตะวันตก แต่โปรเจคต์นี้ก็ถูกพับเงียบหายไปกว่า 3 ปีกว่า จนหลายคนคงคิดว่าคงจะล้มเลิกแผนการสร้างไปแล้วหรืออย่างไรกระทั่งในปีที่ผ่านมา (2017) ทางช่อง ABC ก็ได้นำออกมาสร้างจนเสร็จสมบูรณ์ครึ่งซีซั่นแรกเป็นที่เรียบร้อย สำหรับเนื้อหาของ Good Doctor เวอร์ชั่น USA ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงเรื่องเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมของตะวันตก โดยเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของ Shaun Murphy
…ไม่แม้กระทั่งในโลกที่ท้าทายความตายของอัลเทอร์ด คาร์บอน (Altered Carbon) โลกที่สามารถสรรหาความเป็นอมตะได้ และร่างกายมนุษย์นั้นถูกเมินค่า เสมือนเพียงรองเท้าหนึ่งคู่ที่สามารถทิ้งได้เมื่อหมดอายุการใช้งาน สร้างจากนวนิยายนัวร์ไซเบอร์พังก์คลาสสิคโดย ริชชาร์ด เค มอร์แกน, Altered Carbon คือเรื่องราวที่เต็มไปด้วยกลอุบายและเล่ห์เหลี่ยมของ การฆาตกรรม ความรัก เซ็กส์ และการหักหลัง ซึ่งเกิดขึ้นในโลกอนาคตอีก 300 ปีข้างหน้า สังคมถูกเปลี่ยนโดยเทคโนโลยีใหม่ ๆ จิตใต้สำนึกสามารถเปลี่ยนให้อยู่ในรูปดิจิทัล ร่างกายมนุษย์สามารถสลับสับเปลี่ยนได้ ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุดอีกต่อไป Takeshi Kovacs นายทหารที่รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของกลุ่มทหารชั้นยอดเยี่ยมที่พ่ายแพ้ในเหตุการณ์จลาจลต่อต้านการจัดระเบียบโลกใหม่ จิตวิญญาณและความคิดของเขาถูกกักขังไว้ “ในน้ำแข็ง” ยาวนานนับศตวรรษจนกระทั่ง ลอเรนซ์ แบนครอฟต์ ชายที่ร่ำรวยอย่างมาก และมีอายุยืนยาว ยื่นข้อเสนอให้ชีวิตใหม่แก่โคแวกส์อีกครั้ง แต่ในการแลกเปลี่ยนครั้งนี้โคแวกส์ต้องค้นหาคำตอบการฆาตกรรมของแบนครอฟต์ด้วย Altered Carbon จากผู้สร้างและอำนวยการผลิต เลตา คาโลกริดิส อัลเทอร์ด คาร์บอน นำแสดงโดย โจแอล คินนาแมน (Joel Kinnaman) เจมส์ เพียวฟอย (James Purefoy) มาร์ธา
บรรยากาศวันเด็กมาถึงพร้อมความสดใส และการจัดงานมากมายเพื่อให้อนาคตของชาติได้ใช้วันของพวกเขาให้มันส์เต็มที่ แต่ในฐานะที่ผู้ชายอย่างเราผ่านพ้นวัยเด็กมาแสนนานจนไม่รู้จะออกไปเผชิญหน้ากับรถติดและผู้คนพลุกพล่านไปทำไม UNLOCKMEN ก็ภูมิใจนำเสนอบรรยากาศวันเด็กแบบผู้ชาย ๆ ด้วยหนังเด็กผี เด็กปีศาจ 5 เรื่องที่ดูไปแล้วรับรองว่าคุณอาจจะทำใจรักเด็กได้ยากขึ้น 10 ระดับ Joshua: บริสุทธิ์ซ่อนอำมหิต ความขนลุกของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่อยากจะลุกขึ้นมาทำลายครอบครัวตัวเองให้ค่อย ๆ พังลงไปต่อหน้า!? แค่พล็อตเรื่องก็ชวนขนลุกและคิดในใจว่าเด็กมันคิดได้ยังไงแล้ว และนี่คือเรื่องราวของโจชัวเด็กชายวัย 9 ขวบ ที่หน้าตาและความใสซื่อของความเป็นเด็กล่อลวงตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องได้อยู่หมัด แต่สำหรับสายตาคนนอกที่นั่งชมอยู่นั้นบอกได้เลยว่าผู้ชายอย่างเราต้องมีขนลุกขนพองและอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเรามีลูกชายอย่างนี้บ้างจะเป็นเช่นไร? Children Of The Corn: เด็กนรกทุ่งสังหาร แค่รู้ว่านี่คือภาพยนตร์ที่สร้างมาจากหนังสือที่ถูกแต่งขึ้นโดย Stephen King เจ้าพ่อเรื่องสยองขวัญสั่นประสาทก็พอจะเดาได้แล้วว่าเรื่องราวจะชวนให้ประสาทสั่น ตัวสั่นกันขนาดไหน เรื่องราวว่าด้วยหนุ่มสาวที่หลงเข้ามายังเมืองที่มีแต่เด็ก ๆ อาศัยอยู่ แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้ใหญ่ไม่ได้หายไปแบบธรรมดาสามัญ แต่ผู้ใหญ่ทั้งเมืองถูกเด็กพวกนี้สังหาร! เหมาะกับวันที่เด็ฏวิ่งพลุกพล่าน รับรองว่าดูไป เห็นเด็กไป เราก็แอบหลอนตัวเองไปสุด ๆ The Omen: อาถรรพณ์กำเนิดซาตานล้างโลก แม้ผู้ชายอย่างเราจะไม่ได้อินกับการมีลูกของตัวเองได้มากเท่าที่สาว ๆ อิน แต่หากเราพูดถึงเด็กผู้ชายวัย 5 ขวบ เราก็คงอดจินตนาการถึงเด็กชายวัยกำลังซนสุดแสบคนหนึ่งที่เราก็อดอยากเล่นด้วยไม่ได้
การที่ได้ใช้เวลาว่างในวันหยุด หรือเวลาพักผ่อนหลังเลิกงาน คนเราต่างก็มีวิธีผ่อนคลาย และเพิ่มความสุขให้กับตัวเองแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับเราแล้ว การได้นั่งโซฟาสบาย ๆ เปิดแอร์เย็น ๆ แล้วหาหนัง หรือ Documentary ดี ๆ สักเรื่องมาดูพร้อมทั้งจิบเบียร์ไปด้วยนั้น คืออะไรที่สุขกายสบายใจสุด ๆ กันเลยทีเดียว แต่จะว่าไปหนังดี ๆ ส่วนใหญ่พวกเราก็มักจะซื้อตั๋วไปชมกันในโรงกัน จะเหลือก็แต่เรื่องที่เราไปดูไม่ทัน หรือติดธุระไม่ว่าง หนังดี ๆ เหล่านั้น ถึงจะถูกเราไปซื้อแผ่นมาตามเก็บดูที่บ้าน เมื่อมันเป็นแบบนี้ หนังดี ๆ ที่หลงเหลือให้คุณได้ใช้เวลาดูมันที่บ้านของคุณเองนั้น จึงมีไม่มากนัก และจะให้เอาหนังที่เคยดูไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ มาดูซ้ำ ก็คงจะไม่ใช่เรื่องอยู่ดี ดังนั้น บางคนที่แม้อาจจะมีเวลา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะใช้เวลาไปกับการดูหนังเรื่องไหนดี ซึ่งเราเองก็เคยประสบปัญหาเหล่านี้เหมือนกัน จนในที่สุดเราก็เจอทางสว่างที่จะทำให้คุณได้นั่งรบชมสิ่งดี ๆ แถมยังมีประโยชน์ไม่แพ้การดูหนังอีกด้วย นั่นก็คือ การหา Documentary มาดูแทน ซึ่งพวก Documentary เหล่านี้ จริง ๆ แล้ว มันก็เป็นหนังประเภทหนึ่งเช่นกัน
หนังจิตวิทยาระทึกขวัญเป็นหนังอีกประเภทที่ผู้คนต่างหลงใหล ด้วยการดำเนินเรื่องที่ชวนตื่นเต้นจนนั่งไม่ติด แล้วยังไม่วายแทรกสอดการปะทะกันทางจิตวิทยาที่โคตรบ้าคลั่งมาให้ ก็ยิ่งทำให้หนังประเภทนี้ได้รับความนิยมอยู่ตลอด แต่ถ้าจิตไม่แข็งพอ หลังดูหนังแต่ละเรื่องจบก็อาจจะต้องจมจ่อมอยู่กับประเด็น อารมณ์ ความหวาดระแวงที่หนังพากันยัดเยียดให้อีกเป็นวัน ๆ ดังนั้นเพื่อทดสอบจิตใจสุดแข็งแกร่งของผู้ชายอย่างคุณ เราท้าให้ดูหนังจิตวิทยาระทึกขวัญ 7 เรื่องนี้ แล้วมาดูกันว่าเรื่องไหนจะทำให้คุณร้อน ๆ หนาว ๆ ได้มากที่สุดกันแน่? Side Effects (2013) นี่คือหนังจิตวิทยาที่ว่าด้วยหญิงสาวผู้เป็นโรควิตกจริตขั้นรุนแรง แล้วพบว่ายากที่ใช้รักษาอาการตัวเอง พาเธอเข้าไปอยู่ในจุดที่ต้องเผชิญกับเรื่องไม่คาดคิดมาก่อน ความโดดเด่นของ Side Effects คือการสร้างปมและคาแรคเตอร์ของตัวละครขึ้นมาให้มีความซ่อนเงื่อนคาดเดาไม่ได้ แถมยังเอาข้อมูลทางการแพทย์มาช่วยล่อลวงให้ผู้ชมอย่างเราจมลงไปในความซับซ้อนของตัวเรื่อง ที่ต่อให้มั่นใจว่าตัวเองจิตแข็งที่สุดก็ไม่อาจควานหาแรงจูงใจของตัวละครแต่ละตัวได้เลย Get Out (2017) นี่คือหนังหมาดใหม่ของปี 2017 ที่ผ่านมา บางคนอาจรู้สึกว่าเป็นหนังเกรดบีที่ไม่ลงทุนอะไรมาก จะน่าสนใจแค่ไหนกันเชียว? แต่ UNLOCKMEN ขอท้าคุณเลยว่านี่คือโคตรหนังที่หยิบจับเอาประเด็นอย่างการเหยียดสีผิวมาใช้ทบกับความน่าหวาดหวั่นของความเป็นมนุษย์ได้หลอนเต็มขั้น จนดูไปอดคิดไปไม่ได้ว่าถ้าตัวเองถูกถีบให้จมลงไปในสถานการณ์แบบนั้นเราจะดิ้นรนพาตัวเองพุ่งหลุดออกมาได้อย่างไร หนังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ระทึกขวัญ ลุ้นจนเราท้าให้ผู้ชายอย่างคุณควรดูสักครั้งในชีวิต Split (2016) แค่พล็อตเรื่องการถูกลักพาตัวไปของเด็กสาว 3 คนโดยชายผู้มี 23 ตัวตนในร่างเดียวก็กระตุ้นความหลอนระคนตื่นเต้นจนหัวใจเต้นตุบตับแล้ว อารมณ์ลุ้นระทึกตลอดเรื่อง บวกบรรยากาศชวนหายใจไม่ทั่วท้องจะยิ่งพาผู้ชายอย่างเราจมลงไปในสถานการณ์ที่แทบจะอยากทะลุจอเข้าไปช่วย จิตวิทยาและความชาญฉลาดของผู้ล่าและผู้ถูกล่าก็เชือดเฉือนกันจนเราท้าให้คุณลุ้นไปกับการล่าไปพร้อม
เริ่มต้นปีใหม่มาได้ไม่นาน คอหนังทั้งหลายคงถูกยั่วยวนด้วย trailer น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ที่เรียงคิวรอเข้าฉายในปี 2018 นี้ สำหรับคนที่กำลังวางแผนชวนสาวไปออกเดท หรืออยากพาแฟนไประลึกความหวานเหมือนตอนสมัยจีบกันใหม่ ๆ ในปีนี้อยู่ UNLOCKMEN ได้ทำการเลือกสรรเฉพาะหนังภาคต่อฟอร์มยักษ์แห่งปี ที่แววดี ดูเพลินทั้ง 4 เรื่องมาไว้ตรงนี้แล้ว เหมาะมากถ้าใช้สร้างโอกาสงาม ๆ ชวนสาวมานั่งย้อนดูภาคเก่า ๆ ที่บ้านเราให้ชื่นใจ ก่อนจะจูงมือกันไปดูต่อภาคใหม่ในโรงหนัง ใครชอบแนวไหน ตัดสินใจเลือกชมกันตามความชอบได้เลย Insidious : The Last Key เดินทางมาสู่ภาคที่ 4 สำหรับ Insidious หนังสยองขวัญที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องราวและปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ โดยภาคนี้จะนำเรากลับมาที่บ้านของ Dr. Elise Rainier คนเห็นผีผู้สามารถสื่อสารกับวิญญาณได้จริง ไม่เพ้อเหมือน ‘จิว ริตสัมผัส’ แน่นอน และจะต้องเผชิญหน้ากับปีศาจที่มีนิ้วมือเป็นกุญแจ ใช้ไขเปิดประตูแห่งความตายอันน่ากลัว ซึ่งนอกจากความน่ากลัวของผี และปีศาจในเรื่องแล้ว ในภาคนี้ก็แฝงด้วยเรื่องราวความน่ากลัวของมนุษย์ซ่อนไว้ด้วยเช่นกัน ลองมาดูกันว่าคนหรือผีจะน่ากลัวกว่ากัน สำหรับภาคนี้จะลุ้นระทึก และกดดันมากกว่าภาคก่อนแค่ไหน คงต้องไปหาคำตอบพร้อมความขนลุกเอง ดีไม่ดีคุณอาจจะโดนสวมกอด หรือเข้าซบจากผู้หญิงขี้กลัวข้าง
คืนแรกของปีใหม่ใครยังไม่มีแพลนอะไรเราขอชวนมาดูหนังในบ้านกันดีกว่า ไม่ต้องออกไปเจอผู้คนที่แน่นขนัดข้างนอกให้เหนื่อยด้วย ในวันส่งท้ายปีเก่าแบบนี้ใครยังไม่รู้จะทำอะไรเราขอชวนมานั่งดูหนังข้ามปีกัน จะดูคนเดียวก็ได้ ดูกับเพื่อน ดูกับแฟน หรือดูกับครอบครัวก็ดี เราจัดเพลย์ลิสต์สำหรับคนที่คุณดูด้วยมาให้แล้ว หยิบป๊อบคอร์น คว้าผ้าห่ม แล้วเปิด Netflix ยาวกันไปเลย! ดูคนเดียว Oh my Ghost! อะไรจะไปฟินเท่ากับการดูซีรีส์เกาหลีสุดโรแมนติกเพียงลำพังแล้วปล่อยใจให้อยู่ในโลกแห่งจินตนาการจริงมั้ย? Oh My Ghost ตอบโจทย์นั้นที่สุด นาบงซอน (พัคโบยอง) เป็นสาวขี้อายที่มองเห็นและสื่อสารกับผีได้ เธอทำงานเป็นลูกมือในร้านอาหารของเชฟคังซอนอู (โจจองซอก) และแอบรักเชฟอยู่ด้วย แต่วันหนึ่งบงซอนโดนวิญญาณของผีสาวยังซิงอย่างชินซุนแอ (คิมซึลกี) เข้าสิง ซึ่งซุนแอก็เล็งตัวเชฟซอนอูให้เป็นผู้ปลดปล่อยความซิงของเธออยู่ ความสับสนอลหม่านระหว่างคนกับผีจึงเริ่มต้นขึ้น บอกเลยว่าเรื่องนี้ฉากฟินเยอะมาก ดูคนเดียวแล้วมโนให้สุดไปเลย Black Mirror ถ้าอยากมาแนวดาร์กๆ หาเรื่องขบคิดรับปีใหม่ Black Mirror คือเรื่องที่ใช่ แต่ละตอนจะพูดถึงผลกระทบของเทคโนโลยีในโลกอนาคตที่ถูกสมมติขึ้น มีหลากหลายอารมณ์ต่างกันไป ลุ้นนิดๆ ระทึกหน่อยๆ โรแมนติกเล็กน้อย พอให้ได้กระตุ้นหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิตกันบ้าง และตอนนี้ซีซั่น 4 ซึ่งเป็นซีซั่นล่าสุดก็มาแล้วด้วย แนะนำให้ดูมาราธอนกันตั้งแต่ซีซั่นแรกยาวไปเลย Black
ภาพยนตร์ไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมเท่านั้น แต่เรื่องราวและตัวละครที่ถูกถ่ายทอดออกมาก็ให้ประโยชน์แก่ผู้ชมเช่นกัน รวมทั้งทิ้งข้อคิดให้เอากลับไปลองวิเคราะห์และนำไปปรับใช้ในชีวิตจริงๆ อีกด้วย วันนี้ Netflix ขอเสนอตัวละคร 5 ตัวอันโด่งดังจากฝีมือการแสดงของวิล สมิธ (Will Smith) ที่นอกจากจะทำให้ตัวละครเหล่านั้นมีชีวิตชีวาน่าติดตามแล้ว ยังให้บทเรียนชีวิตที่น่าสนใจอีกด้วย ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา – คริส การ์ดเนอร์ จาก ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้ (The Pursuit of Happyness) คริส การ์ดเนอร์ นักธุรกิจร้อยล้านที่เป็นต้นแบบของการต่อสู้กับความยากลำบาก คริสในวัย 27 ปี ประสบความล้มเหลวกับธุรกิจส่วนตัว ทำให้เขาและลูกชายสูญเสียบ้าน และต้องอาศัยหลับนอนตามที่ต่างๆ ทั้งบนถนนและในสวนสาธารณะ อย่างไรก็ตามความอดทนและไม่ยอมแพ้ ทำให้คริสประสบความสำเร็จทั้งด้านธุรกิจและในฐานะหัวหน้าครอบครัว ภาพยนตร์ยิ้มไว้ก่อน พ่อสอนไว้สร้างจากเรื่องจริงของคริส การ์ดเนอร์เอง และส่งให้วิล สมิธ เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมอีกด้วย ใครๆ ก็สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ – ดร. โรเบิร์ต เนวิลล์ จาก ข้าคือตำนานพิฆาตมหากาฬ (I am Legend) หลังจากที่ไวรัสคริปปินแพร่กระจายและคร่าชีวิตคนจำนวนมาก