ผ่านไปแล้วกับ “An ORIS Afternoon-The Kermit Orchestra Experience” งานฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของแบรนด์เรือนเวลาจากสวิส ORIS กับคอลเล็กชั่นไฮไลต์แห่งปี ProPilot X Kermit Edition ซึ่งเป็นการคอลแลบระหว่าง ORIS X Disney’s The Muppets Kermit the Frog เพื่อเป็นการยินดีให้กับวันแห่งการครบรอบ 100 ปี ของ Disney ผ่านตัวละครสุดไอคอนิกเจ้ากับสีเขียวแห่ง Sesame Street จาก The Muppets Show ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ดังมากในยุค 1970s งานในครั้งนี้ถูกเนรมิตรความงดงามผ่าน ORIS X Trocadero Time สร้างช่วงเวลาน่าจดจำให้กับเหล่า ORIS Friends & Family ในคอนเซปต์ “Find Your MeTime” ที่อยากให้ทุกคนใช้เวลาสั้น ๆ ในหนึ่งวันเพื่อความสุขของตัวเองกัน และแน่นอนว่า
เป็นที่รู้กันดีสำหรับคนใส่แว่นตา ไม่ว่าจะใส่แว่นกันแดดเฉพาะในบางสถานการณ์ หรือเป็นคนที่ต้องสวมแว่นสายตาตลอดเวลาอยู่แล้ว พวกเราไม่สามารถพกแว่น 1 ตัว เปิดประตูออกจากบ้านเพื่อใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน ก็ Pain Point ที่บังคับให้เปลี่ยนแว่นมีเต็มไปหมด ทั้งแสงแดดอันร้อนแรงเมื่ออยู่กลางแจ้ง ไหนจะแสงสีฟ้าในยุคของ Social Media ที่เราต้องป้องกันตัวเองให้ดีอีกต่างหาก Oakley X Transitions การจับมือกันระหว่างแบรนด์แว่นตา Sport Performance Optics เบอร์ต้น ที่ได้รับความไว้วางใจทั้งในฟังก์ชั่นของการสวมใส่เล่นกีฬา และความสไตล์ลิ่งตั้งแต่ปี 1975 กับเลนส์จากฝรั่งเศสที่เป็นไพโอเนียในเรื่องของการจัดการกับแสงมากกว่า 30 ปี จนทั้งโลกยกให้เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษในด้านของ Photochromic Lens (เลนส์เปลี่ยนสี) จะเข้ามาแก้ไข pain point ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ ให้ชาว Active Lifestyle สายแอคทิวิตี้หลากหลายรูปแบบ ให้มีแว่นตาตัว (เดียว) จบ พร้อมออกไปใช้ชีวิตติดกิจกรรมได้อย่างสนุก สบาย และสะใจยิ่งกว่าที่เคย ! จะบอกว่า Oakley กับ Transitions เขาไม่ได้แค่จับมือกันเฉย ๆ
ถ้าลองหลับตาลงนึกถึงแบรนด์กระเป๋าที่ทั้งตอบโจทย์การใช้งานในการเป็น Everyday Bag เหมาะกับกิจกรรม Outdoor Activity โดดเด่นด้วยความเป็นแฟชั่น ด้วยโจทย์นี้เราอาจจะนึกถึงแบรนด์ที่เป็น Work Wear จากฝั่งยุโรปกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ ! รู้รึเปล่าว่าฝั่งญี่ปุ่นเองมีตัวตึงของสายนี้ที่ก่อตั้งแบรนด์มาตั้งแต่ปี 2013 เป็นแบรนด์สุดไฮป์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กิจกรรมนอกบ้านของคนญี่ปุ่นมาโดยเสมอ แบรนด์นั้นมีชื่อว่า MAKAVELIC บทความนี้ UNLOCKMEN พาทุกคนไปรู้จักเรื่องราวของแบรนด์จากโตเกียวที่มีจุดหมายในการเป็นกระเป๋าเบอร์หนึ่งซึ่งตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ชีวิตในทุกรูปแบบของผู้คน MAKAVELIC From Tokyo To The World “MAKAVELIC จะพัฒนาตัวเองไปพร้อมกับการเติบโตของมนุษย์ ” นั่นคือคำโปรยบน Official Website ของ MAKAVELIC ที่ใช้นิยามความเป็นตัวเอง ประโยคสั้น ๆ ที่เรายกมามีคำอธิบายเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ซึ่งมีใจความประมาณว่าพวกเขาต้องการเป็นกระเป๋าที่ต้องการอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน ทั้งในวันดี ๆ ที่กำลังเดินเล่นอยู่ในเมืองใหญ่ หรือวันที่ทุกคนตัดสินใจวางแผนออกไปโรดทริปกับเพื่อน ๆ บนจุดหมายที่ไกลแสนไกล … ทำความรู้จัก MAKAVELIC ให้มากขึ้น ต้นกำเนิดของแบรนด์เกิดขึ้นในปี 2013 ในกรุงโตเกียว โดยตั้งเป้าเลยว่าจะเป็น Japanese Backpack
ต้องบอกว่าการฉลองครบรอบ 55 ปีของแบรนด์ Seiko นั้น มีไฮไลต์อยู่ตรงจุดที่แบรนด์จะพาทุกคนไป Nostalgia ให้รู้สึกถึงความสำเร็จอันงดงามในอดีตของ Seiko ด้วยเรือนเวลาคู่ไหนกันนะ ? และ Seiko 5 Sports “Retro Color” Special Edition เองก็ไม่ต่างกัน เตรียมตัวซึมซับความรู้สึกเรโทร (Retro) ที่มีความหมายตามพจนานุกรมของ Seiko ว่า ‘สไตล์’ ที่มีเรื่องราวและกลิ่นอายจากยุค 60s-80s อย่างเต็มเปี่ยม ผ่านงานดีไซน์ และประวัติศาสตร์ของแบรนด์ เป็นที่รู้กันว่าหลังจากนาฬิกาคอลเลกชั่นแรกสุดของ Seiko 5 Sports ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1969 เราก็เข้าสู่ยุคทองของซีรีส์ที่ว่าโดยทันที และในปี 1969 นั่นเอง ก็มีรุ่นจักพรรดิ์ตัวท็อปมากถึง 3 รุ่นที่ผู้ใส่ไม่เคยลืมเลย Seiko 5 Sport 5126-8130 (Rally Diver) / Seiko 5 Sport 6119-6050
ลองนึกภาพตามนะครับ เมื่อเครื่องยนตร์ของ Motor Sport จับมือกับ Gaming Laptop ตัวแรงที่สุดของวงการ อะไรจะเกิดขึ้น .. เรากำลังพูดถึงการร่วมมือระหว่าง Mercedes-AMG กับ MSI ร่วมกันสร้าง Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V ภายใต้คอนเซปต์ “Luxury Gaming Experience” ด้วยการวาง Hardware ที่ดีที่สุดในทุกจุด พร้อมกับดีไซน์ด้วยความหรูหราอย่างที่ไม่มีใครทำได้มาก่อน ! เราจะไม่เสียเวลาเกริ่นนำมากกว่านี้ UNLOCKMEN ขอพาทุกคนไปรื้อเครื่องยนตร์ของ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V พร้อมกัน สำหรับสายเกมเมอร์ตัวแรงทุกคนขอให้อดใจรออีกนิด ก่อนที่จะไปดูสเปกของ Stealth 16 Mercedes-AMG Motorsport A13V เราอยากให้ทุกคนรู้ก่อนว่านี่คือการร่วมมือระหว่าง 2 แบรนด์ที่อยู่คนละเส้นทาง แต่เชื่อในสิ่งเดียวกันอย่างลึกซึ้ง และมีเรื่องราวร่วมกันมายาวนาน ย้อนกลับไปในช่วงเวลาก่อนที่โลกระบาด COVID19 จะแทรกซึมเข้ามาในชีวิตของทุกคน MSI (Micro-Star
เอาจริง ๆ บทความนี้เหมือนว่าไม่ต้องมี intro เลยก็ได้นะ ทุกคนที่เข้ามาอ่านน่าจะเห็นชื่อบทความกันแล้ว กับคำว่า Three Man Down ที่หมายถึงวงดนตรีของเด็กหนุ่ม 4 คน กิต-กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์ (ร้องนำ) / ตูน-พีรพล เอี่ยมจำรัส (กีตาร์) / เต-เตธนันท์ วงศ์ปรีชาโชค (กลอง) / เส็ง-วิศรุต ปฐมศิริไพศาล (คีย์บอร์ด) ไม่ต้องการคำอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก เพราะไม่มีใครไม่รู้จักเพลงอย่าง ถ้าเธอรักฉันจริง / ฝนตกไหม / ฝันถึงแฟนเก่า / น้อง / ข้างกัน / ไม่อยากให้เธอไม่สบาย และอีกหลาย ๆ เพลงทั้งจากอัลบั้มแรก This City Won’t Be Lonely Anymore ปี 2021 และอัลบั้ม 28 ปี
ปี 2021 เราได้สัมภาษณ์กับ Temporarywest กลุ่มเพื่อน 10 คนที่รวมตัวกันทำงาน Street Art เพื่อพัฒนาชุมชนในโปรเจกต์ Art Town ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เวลาผ่านมาจนถึงปี 2023 เราได้รับคำเชิญจากกลุ่ม T-West ให้ไปนิทรรศกาลศิลปะชื่อ The Lost Wall Exhibition ที่รันโดยกลุ่มผ่านคอนเซปต์ Host เทคหนึ่งสัปดาห์จัดงานในธีมของตัวเอง ในตึกที่มีชื่อว่า Red.cose (ระหว่างที่เขียนอยู่นี้งานได้จบลงไปแล้วเมื่อวันที่ 12/08/2023 ที่ผ่านมา) ‘เฟม-พีรพัฒน์ อื้อพรรณรังษี’ หรือ Aka. Y? เฮดของกลุ่ม T-West เป็นเพื่อนกับผมสมัยทำงานอยู่ที่บริษัทปาร์ตี้ชื่อ Dudesweet ด้วยกันเมื่อนานมาแล้ว ด้วยความที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี เราจึงขอมันสัมภาษณ์ทำ Artist Room เพื่อคุยถึงมุมมองที่มันมีต่อวงการ Graffiti ความฝันในการพาเพื่อน ๆ เป็น Street Crew ระดับโลก และความหลงใหลใน Street Art
ถ้าให้นึกถึงของดีฝั่งธนแบบไว ๆ คุณจะคิดถึงอะไร ? ให้เวลาคิด 15 วิ … หมดเวลา ! และไม่ว่าคำตอบของคุณจะเป็นอะไร แต่ของเรามันคือ P.Sherman The Enjoyable Ground ร้านแฮงเอาต์ของเรากับแก๊งเพื่อน ที่สามารถเริ่มต้นเจอกันตั้งแต่เช้า และปิดวันนั่งจิบเบา ๆ (รึเปล่า) ได้เลย ! บทความที่ชาว UNLOCKMEN กำลังได้อ่านอยู่นี้ ถูกเขียนขึ้นในช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวันศุกร์ โดย Content Creator ใส่แว่นคนหนึ่งที่ก็กำลังปั่นงานอยู่ในร้านโปรดที่เป็นหัวใจหลักของคอนเทนต์นี้อยู่ นั่นแสดงให้เห็นว่าร้านนี้เหมาะกับการนั่งทำงานด้วยเหมือนกัน และเป็นอะไรได้อีกหลายอย่าง ที่เราจะขอป้ายยาทุกคนในบรรทัดถัดไปกันเลย จาก ‘โรงงานเย็บผ้า’ สู่พื้นที่แห่งความหลากหลายของวัยมันส์ ร้าน P.Sherman The Enjoyable Ground ซ่อนตัวอยู่ในย่านอรุณอมรินทร์ ระบุชัด ๆ เลยคือซอยอรุณอมรินทร์ 39 ในอดีตที่นานมากแล้ว กว่า 10 ปีก่อน ตึกแห่งนี้เคยเป็นโรงงานเย็บผ้ามาก่อน ซึ่งเอาจริง
เมื่อพูดถึงช่วงกลางของยุค 2000s ช่วงเวลาที่ซีนดนตรีอันเดอร์กราวด์ Emo / Screamo / Metal เบ่งบานในไทย มันเป็นไปไม่ได้เลยถ้าหากคุณถามผู้คนที่ทันใช้ชีวิตอยู่ในตอนนั้น แล้วไม่มีใครพูดชื่อ Sweet Mullet ออกมา และการไม่พูดถึงเพลงตอบ / หลับข้ามวัน / เพลงของคนโง่ ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ ตั้งแต่ที่อัลบั้มแรก Light Heavyweight (2007) ของ Sweet Mullet ปล่อยออกมา เวลาก็เลยผ่านมาเกินกว่า 10 ปีแล้ว มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ผ่านการสร้างความทรงจำต่อวงและแฟนคลับ จนมาถึงปี 2023 คงไม่มีเรื่องไหนสำคัญต่อแฟนคลับและวงเองได้เท่ากับการที่พวกเขาตัดสินใจว่าจะประกาศยุบวงผ่านการหายไปเงียบ ๆ อีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโชคดีหรือว่าอะไรก็ตาม การที่เราได้นั่งคุยกับพวกเขาเพื่อเขียนเป็นบทความนี้อยู่ นั่นแสดงว่ามันไม่เกิดขึ้นจริง และพวกเขาไม่ได้หายไป หนำซ้ำเรายังสามารถใช้คำว่า “Sweet Mullet กลับมาแล้ว” ได้อีกด้วย เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับการกลับมาของ Sweet Mullet เท่าที่เด็กซึ่งโตในยุค
เข้าสู่ปีที่ 40 แล้วสำหรับ G-SHOCK แบรนด์นาฬิกาจากญี่ปุ่น ที่ไม่ว่าใครหยิบขึ้นมาใส่บนข้อมือก็จะถูกตีตราด้วยความเท่และแข็งแกร่งทันที แต่จิตวิญญาณของสิ่งนี้สำหรับ G-SHOCK มันไม่ใช่แค่การออกแบบภายนอกเท่านั้น แต่รวมไปถึงกลไกภายในด้วยที่ทำให้ DNA ของแบรนด์เดินทางผ่านกาลเวลาอย่างยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน และเรือนเวลาซีรีส์ล่าสุด CLEAR REMIX ได้จับนาฬิการุ่นยอดนิยมของ G-SHOCK มาดีไซน์ให้เป็น skeleton เป็นครั้งแรก Skeleton หน้าปัดแบบมองเห็นกลไกด้านใน นำเสนอมุมมองที่โดดเด่นของการจัดวางส่วนประกอบต่าง ๆ มีการใช้วัสดุแบบมองผ่านได้สำหรับหน้าปัด ตัวบอกเวลา และวงแหวนบนหน้าปัด การออกแบบให้การมองเห็นที่ชัดเจนของการขึ้นรูปหน้าปัดที่โดดเด่น ไปจนถึงรูปแบบของส่วนประกอบแต่ละชิ้นในตัวเรือน การพิมพ์สีดำที่ด้านล่างของหน้าปัดช่วยป้องกันการทะลุผ่านของแสงจากภายนอก ซึ่งอาจทำให้เกิดการทำงานผิดปกติ และช่วยเสริมหน้าปัดดูสวยงามน่าประทับใจ See-Through Design คือคอนเซ็ปต์ของงานดีไซน์รุ่นนี้ ความโปร่งใสราวกับคริสตัลตั้งแต่หน้าปัดไปจนถึงสายนาฬิกา มาพร้อมกับการเลือกใช้วัสดุที่พิเศษยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ทั้งการเลือกใช้เรซินเสริมใยแก้วแบบใสจนมองทะลุผ่านได้บนตัวเรือน ซึ่งเป็นวัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศได้ดีเยี่ยม ส่วนประกอบหลักที่ประกอบกันเป็นโครงสร้างป้องกันการกระแทกได้เป็นอย่างดี และดีไซน์แบบโปร่งใสก็ยังสามารถถูกจับไปแมทช์กับลุคไหนก็ดูแพงไปหมด แสดงออกถึงความโมเดิร์นที่หมุนทันโลกตลอดเวลาของแบรนด์ ต้องบอกว่า G-SHOCK Clear Remix นั้นเป็นเรือนเวลาที่เล่าภาพของการเดินทางอันยาวนานของ G-SHOCK โดยการเคารพต้นกำเนิดของตัวเอง ผ่านแนวคิดในการสร้างสรรที่เรียกว่า Philosophy Reborn ซึ่งแตกออกเป็น 2 คำหลัก