All-New Mitsubishi Triton Black Edition 2024 การปฎิวัติความหมายของคำว่าสปอร์ตแห่งรถกระบะ ด้วยสีดำที่ทรงพลังกว่าที่เคยมีมา

โควททรงพลังตลอดกาลแห่งโลกยานยนต์ ที่บอกว่าจะยุคสมัยไหนก็ตาม ‘สีดำ’ (Black) ก็จะเป็นหนึ่งในโทนสีที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกเสมอ ไม่ว่าจะเกิดสีใหม่อีกกี่ร้อยกี่พันสีในโลกใบนี้ก็ตาม 

ต่อยอดจากปี 2023 ที่ Mitsubishi ได้สะเทือนวงการรถกระบะ off-road ด้วย All-New Mitsubishi Triton Double Cab Plus Ultra ที่เหยียบคันเร่งทะลุจินตนาการของสายรถกระบะทุกคน ด้วยรูปลักษณ์ที่ดีไซน์ได้อย่างสวยงาม หรูหรา แข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมมาพร้อมความประหยัดน้ำมันและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตอบโจทย์การใช้งานได้ครบทั้งในเมืองและเส้นทาง off-road 

ความตื่นเต้นยังไม่ทันจางหาย ปี 2024 นี้ Mitsubishi ได้สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจอีกครั้งด้วยดีไซน์ที่ถูกนิยามขึ้นมาใหม่ของ All-New Mitsubishi Triton Black Edition 2024 ที่จะออกมาเปลี่ยนอารมณ์บนถนนด้วยรูปลักษณ์การตกแต่งที่ทรงพลังแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ! กับรถกระบะที่ถูกดีไซน์ให้ใช้งานแบบ Everyday Life พร้อมไปได้ทุกเส้นทางเพื่อให้แฟน Mitsubishi ทุกคนได้แสดงออกถึงความเป็นตัวเองแบบไม่เหมือนใครได้อย่างเต็มภาคภูมิยิ่งขึ้น

All-New Mitsubishi Triton Black Edition 2024  การตกแต่งด้วยโทนสีดำสุดเท่ที่ปรับลุคให้ดุดันกินพื้นที่กว่า 90% บนรถกระบะ Triton คันนี้ สะท้อนความหมายของคำว่า Disrupt รูปโฉมที่ดีอยู่แล้วให้ทะลุกรอบจำกัดได้อย่างสิ้นเชิง และไม่ได้เป็นเพียงคำโปรยสวยหรู แต่เป็นการออก Exterior ใหม่ให้สมกับการเป็น Black Edition ทั่วทั้งคัน !

โดดเด่นกันตั้งแต่หน้ารถด้วยส่วนไดนามิก ชิลด์ และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา รับกับตัวไฟหน้า C-SHAPE ได้อย่างลงตัว เปลี่ยนกระจกมองข้างใหม่เป็นเฉดสีดำเงา ความทรงพลังของสีดำยังถูกใช้ในรายละเอียดที่ลึกซึ้งอย่างบันไดข้างสีไทเทเนียมรมดำ มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา และกันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำเหมือนกัน และที่พลาดไม่ได้คือล้ออัลลอยสีดำใหม่ขนาด 18 นิ้ว เรียกว่าเท่มาจากโรงงาน พร้อมขับแบบไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่ม

ไม่ใช่แค่ชุดพาร์ทรอบคันที่ได้รับการอัพเกรดให้ดีขึ้น ยังมีการปรับโครงสร้างแชสซีส์ Mega Frame พัฒนาใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นมาพร้อมความแข็งแรงที่มากกว่าเดิมพร้อมลดน้ำหนักรถให้เบาลงอีกด้วยเทคโนโลยีแรงดึงดูดสูง High-Tensile Steel ทำงานผสานกับช่วงล่างของรถและระบบกันสะเทือนที่ดีขึ้นกว่าเดิม ความเจ๋งก็คือส่วนของกระบะท้ายที่รองรับการบรรทุกได้มากกว่าเดิม ในขณะที่เราสามารถบังคับรถได้ยอดเยี่ยมขึ้น เป็นการคิดขึ้นเพื่อให้สามารถใช้รถกระบะในเมืองหรือเดินทางไกลที่ต้องมีการบรรทุกสัมภาระจำนวนมากได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย 

ไม่ใช่แค่ดีไซน์จะเท่เพียงภายนอกเท่านั้น ภายในของ All-New Mitsubishi Triton Black Edition 2024 ยังผ่านการคิดเพื่อให้ตอบโจทย์ความสะดวกสบายทั้งท่านั่งและการใช้งานเมื่อต้องขับผ่านการจราจรที่หนาแน่นในเมืองด้วยเช่นกัน จึงทำให้ห้องผู้โดยสารและคนขับมีการอัปเกรดด้วยฟังก์ชันความสะดวกสบายตลอดการเดินทางแบบเต็มพิกัดผ่านแนวทางการออกแบบที่เรียกว่า MITSUBISHI TOUCH โดยการคำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์ของทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร ช่วยแก้ปัญหาภาพจำเก่า ๆ ว่ารถกระบะมักจะนั่งไม่สบายทิ้งไปได้เลย

ในขณะเดียวกันก็ยังเพิ่มความปลอดภัยให้คนขับสามารถควบคุมฟีเจอร์ของรถได้อย่างง่ายดายในระดับเดียวกับรถ SUV ทั้งตำแหน่งการจัดเรียงปุ่ม physical buttons ต่าง ๆ และการพัฒนา UI ให้เข้าถึง application ผ่าน infotainment display จอ LCD ขนาด 9 นิ้วได้ง่ายมากขึ้น ใช้งานเชื่อมต่อกับ Smartphone ได้ทุกระบบจากทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ตำแหน่งและองศาของพวงมาลัยที่จับถนัดมือสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง (Tilt and Telescopic Adjustable) พร้อมสวิตซ์ควบคุมมัลติฟังก์ชัน (Multi-Function Steering Wheel) ควบคุมฟีเจอร์รถได้โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย ไปได้สุดกับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในห้องโดยสารอย่างแท้จริง

จุดเด่นพิเศษที่ All-New Mitsubishi Triton Black Edition 2024 รับ DNA ต่อมาจาก Triton Double Cab Plus Ultra คือเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Diamond Sense ที่ดูแลรถแบบ 360 องศา ซึ่งต้องบอกว่าเป็นฟีเจอร์สำคัญที่ Mitsubishi ใส่มาให้เยอะมาก 

• FORWARD COLLISION MITIGATION SYSTEM (FCM) ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว : ที่จะใช้เรดาร์เข้ามาช่วยประเมินระยะห่างจากรถคันหน้า เตือนพร้อมชะลอความเร็ว และเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกเพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ
• HILL DESCENT CONTROL SYSTEM (HDC) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน : ช่วยเลี้ยงความเร็วของรถให้คงที่ในขณะที่ลงทางลาดชัน
• AUTOMATIC HIGH BEAM (AHB) ระบบควบคุมไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ : ทันทีที่แสงสว่างจากภายนอกไม่พอต่อทัศนวิสัยของรถ ระบบจะปรับเป็นไฟสูงขึ้น และทันทีที่มีรถขับสวนมารถก็จะปรับลงเป็นไฟต่ำทันที
• MULTI AROUND VIEW MONITOR (MAM) กล้องมองภาพรอบคัน : ด้วยกล้องทั้ง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถเพื่อความปลอดภัยต่อทั้งการขับขี่และการเข้าจอด
• BLIND SPOT WARNING with LANE CHANGE ASSIST (BSW with LCA) ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน : เมื่อกำลังมีรถสวนมาทางด้านหลังในระยะ 70 เมตร รถจะส่งสัญญาณไฟเตือนบนกระจกมองข้างให้ผู้ขับขี่ได้ทราบให้ระวังรถในจุดอับสายตาที่มองไม่เห็น
• REAR CROSS TRAFFIC ALERT (RCTA) ระบบเตือนด้านหลัง ขณะถอยออกจากช่องจอด : ในขณะที่เราเข้าเกียร์ถอยหลังและรถตรวจพบว่ามีรถกำลังจะตัดผ่านเข้ามา ระบบจะส่งเสียงเตือน และมีไฟกระพริบตรงกระจกมองข้างทั้ง 2 ด้าน พร้อมแสดงข้อความเตือนบนหน้าจอแสดงผล ตัวช่วยให้การเข้าซองจอดเป็นเรื่องไม่น่ากลัว
• Moving Object Detection (MOD) : ระบบตรวจจับและแจ้งเตือนวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน

รุ่นพิเศษ Black Edition ไม่ได้มีความหมายถึงแค่คำว่าเท่หรือสปอร์ตเท่านั้น แต่ยังมีความหมายถึงความปลอดภัยบนทุกเส้นทางการขับขี่ของทุกชีวิตอีกด้วย

ถึงแม้จะถูกสร้างขึ้นเพื่อซัพพอร์ตกับการขับบนเส้นทางออนโรดมากขึ้น แต่จิตวิญญาณของรถกระบะ Mitsubishi ที่พร้อมลุยนอกเส้นทางออฟโรดก็ยังคงทำได้อย่างดีเยี่ยมไม่แพ้กับรุ่นอื่นเลย

All-New Mitsubishi Triton Black Edition มาพร้อมสีตัวถังให้เลือก 2 สีคือ สีเทา Graphite Gray และสีขาว White Diamond เป็นโมเดลพิเศษแบบ Limited Edition จำนวนจำกัด ราคาเริ่มต้นที่ 1,027,000 บาท

สามารถลองขับรุ่น Limited Edition ได้แล้วที่โชว์รูมทั่วประเทศ นัดหมายเพื่อทดลองขับได้ที่ www.mitsubishi-motors.co.th หรือ Mitsubishi Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดรับสายทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง 

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ทางลิงก์ https://bit.ly/3Wrmwp2