

Girls
CONVERSATION WITH ติวเตอร์สาว “เรียนเหอะ อยากสอน” ต้นเหตุชายไทยอยากเรียนภาษาอังกฤษ
By: unlockmen December 13, 2016 48639
ภาษาอังกฤษกับคนไทยเป็นเหมือนของแสลง ถึงขนาดมีการเปรียบเทียบว่าถ้าใครเจอฝรั่งทัก เป็นต้องเดินหนี ซึ่งความจริงแล้วพวกเราไม่ได้มีมนุษยสัมพันธ์ที่ไม่ดีหรอก แต่เป็นเรื่องของการสื่อสาร อาจจะอายไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษโต้ตอบกลับไปเสียมากกว่า
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก เพราะภาษาอังกฤษเปรียบได้ดั่งภาษาที่สองของคนไทย เราร่ำเรียนกันมาตั้งแต่เล็ก แต่ก็ยังพูดภาษาอังกฤษกันไม่คล่องเสียที ซึ่งปัญหาหลักอาจจะเป็นเพราะเรามักจะกลัวพูดผิด แถมยังคิดว่าภาษาอังกฤษไม่ได้พูดทุกวัน ไม่จำเป็นต้องใช้มันในชีวิตประจำวัน ก็เลยไม่ได้ใส่ใจให้กับการเรียนภาษาอังกฤษมากนัก แต่ถ้ามีแรงจูงใจสวย ๆ งาม ๆให้อยากเรียนล่ะ? อันนี้ก็ไม่แน่
แต่แล้วก็เหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เมื่อ A Girl We Love ในรอบนี้ UNLOCKMEN ขอนำเสนอแรงจูงใจ ที่น่าจะทำให้ทุกคนหันมาสนใจการฝึกฝนภาษาอังกฤษให้แข็งแรงได้ นั่นคือ Facebook Page “เรียนเหอะ อยากสอน” เพจสอนภาษาอังกฤษสไตล์ติวเตอร์ ที่จะมาให้ความรู้เรื่องในภาษาอังกฤษแบบเข้าใจง่าย ไม่ต้องท่องจำ ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากบนโลกออนไลน์ ( โดยเฉพาะหนุ่มๆ )
มี คุณ อาย ทิตยา เฮงนุกูล เป็นเจ้าของเพจ ดูแลทุกอย่างด้วยตัวเอง เราจึงได้นัดพูดคุยกับเธอ เพื่อจะนำเสนอความคิด และแรงบันดาลใจ รวมถึงมุมมองเกี่ยวกับภาษาอังกฤษของเธอ ที่พอคุณอ่านจบแล้ว เรารับรองว่าจะต้องอยากหันมาเรียนภาษาอังกฤษอย่างแน่นอน
ช่วยแนะนำตัวเองหน่อยครับ?
ชื่ออายนะค่ะ เพิ่งเรียนจบมาได้ปีกว่าๆแล้วค่ะ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะอักษรศาสตร์ ตอนนี้ก็ทำงานประจำเป็น AE อยู่ค่ะ
ทำงานประจำแบบนี้ ทำไมถึงมาทำเพจ แล้วจุดเริ่มต้นมาจากตรงไหน?
อายเป็นคนชอบสอนอยู่แล้ว สมัยเรียนก็มีสอนเพื่อนบ้าง ส่วนจุดเริ่มต้นที่ทำเพจคือ ตอนนั้นเพื่อน ๆ จะไปสอบ TOEIC กัน มีเพื่อนหลายกลุ่ม อยากให้อายไปติวให้ แต่เราไม่สามารถนำทุกกลุ่มมารวมกันแล้วสอนได้ อายก็เลยอัดวีดิโอเพื่อให้เขาดูกัน ซึ่งจริงๆ วีดิโอตัวแรกที่อัดมาคือให้เพื่อนดูเท่านั้นเอง แต่เพื่อนกลับบอกว่าทำได้ดีมากเลย เราก็เลยลองอัพลง facebook ดู
คือคุณอาย อยากเป็นครูหรือเปล่า?
คือจะพูดว่าอายชอบสอนมากกว่า ไม่ได้อยากทำอาชีพครูเป็นหลัก อายชอบวิธีการสอน หลักการสอน และชอบภาษาอังกฤษ เลยทำเพจนี้
แล้วมีไอดอลที่เป็นแรงบันดาลใจให้มาสอนบ้างไหม?
เริ่มแรกสุดเลยไอดอลของอายคือ อายมาทราบว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ท่านเรียนอักษรศาสตร์จุฬา ตอนอายเรียนอยู่ ม.3 อาย ก็เลยอยากจะเข้าอักษรศาสตร์จุฬาตั้งแต่ตอนนั้น ส่วนไอดอลของการสอนจริงๆ คือ พี่แนน enconcept เพราะอายเรียนที่ enconcept มารู้สึกประทับใจ ทำให้อยากมาสอนบ้าง
ทำไมถึงเลือกมาสอนภาษาอังกฤษ?
อายคิดว่าภาษาอังกฤษสำคัญ เป็นภาษาที่ใช้กันทั่วโลก หนังสือดี ๆ แหล่งความรู้ ข้อมูลมากมาย ก็ล้วนเป็นภาษาอังกฤษแทบทั้งหมด ดังนั้นภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องไกลตัวของทุกคนเลย แต่โดยส่วนตัว อายหลงใหลในภาษาอังกฤษ เพราะมันสวยงาม และไพเราะ
คิดว่าภาษาอังกฤษมันสำคัญกับชีวิตประจำวันของคนไทยมากไหม?
ในชีวิตประจำวันอาจจะดูเหมือนไม่สำคัญขนาดนั้น แต่ในชีวิตการทำงาน หรือต้องค้นคว้าข้อมูลหาความรู้เพิ่มเติม อายว่ามันสำคัญนะ อายคิดว่าถ้าเรามีความรู้ภาษาอังกฤษ มันจะนำเราไปสู่ความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มเติมได้อีกเยอะเลย
รู้สึกยังไงที่เปิดเพจแล้วมีผู้ชายให้สนใจกับภาษาอังกฤษเยอะมากขึ้น?
ก็ดีนะค่ะ ถ้าเขาตั้งใจอยากจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษจริง ๆ คืออายก็รู้ว่าบางคนเม้นแบบสนุก ๆ มาแซวเล่น แต่อายว่าลึก ๆ แล้วต้องมีอีกหลายคนแหละที่ดูแล้วอยากจะได้ความรู้ บางอย่างเป็นเรื่องที่เราเคยเรียนมานานแล้ว แต่อาจจะลืมไป อายก็มาสรุปสั้น ๆ ให้อีกที จะได้จำกันง่ายขึ้น
สรุปแล้วสำหรับภาษาอังกฤษนี่ ทำไมต้องทำให้ Grammar มันจุกจิก?
คือแกรมม่าถ้าพูดตรง ๆ เปรียบเทียบมันก็คือไวยกรณ์ของไทย โอเค ถ้าเราพูดเป็นคำ ๆ ไป มันก็พอจะสื่อสารได้บ้าง แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าเราจะใช้ภาษาอังกฤษให้ได้ผลเต็มที่ มันเป็นพื้นฐานที่สำคัญ อายขอยกตัวอย่างสมมุติเรื่อง Tense ว่ามันสำคัญอย่างไร ถ้าเราพูดภาษาอังกฤษโดยที่ไม่เข้าใจเรื่อง Tense ความหมายอาจจะเปลี่ยนไปเลยก็ได้
อย่างเช่นถ้าเราถาม “คุณอยู่เมืองไทยมานานแค่ไหน” ถ้าเราไม่มี Tense ฝรั่งก็จะไม่เข้าใจเลยว่า เราหมายถึงที่ผ่านมาหรือว่าจะอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน มันถึงสำคัญ และอายพยายามจะเน้นย้ำเรื่องนี้ในเพจอยู่ตลอดเวลา
อะไรที่เป็นปัญหาที่คนไทยไม่กล้าพูด ไม่กล้าสื่อสารภาษาอังกฤษทั้งที่เรียนมากันตั้งแต่เด็ก?
อายว่าอยู่ที่ทัศนคติของแต่ละคนเลย อย่างตอนเด็ก ๆ บางคนพูดชัดหน่อยก็จะโดนหาว่ากระแดะ มันก็เลยทำให้เด็กไทยพูดสำเนียงแบบไทย ๆ หรือบางคนถึงขั้นไม่กล้าสื่อสารเลย
อายอยากจะบอกอะไรกับคนที่กำลังอ่าน UNLOCKMEN อยู่ จะได้เปลี่ยนทัศนคติ?
ภาษาอังกฤษคือการสื่อสาร มันก็คือภาษานึงที่ต้องกล้าพูดออกไป ไม่อยากให้คิดว่าการพูดภาษาอังกฤษให้ชัดเจนมันคือการกระแดะ อยากให้คิดว่าเหมือนคนไทยเวลาพูดภาษาไทยก็พูดให้มันชัดๆ ไปเลย ซึ่งอายเองก็ยังมีปัญหานี้อยู่พูดไทยไม่ค่อยชัด (ล้อเล่นนะ)
ถ้าอย่างนั้น คุณอาย พอจะแนะนำวิธีการ หรือเทคนิคในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มเติมหน่อยได้ไหม?
คืออายต้องบอกว่าตัวอายเองฟังภาษาอังกฤษไม่ออกเลยตอนอยู่ปี 1 แต่เทคนิคที่อายใช้ คืออายชอบดูซีรี่ย์ที่เป็นซีรี่ย์ฝรั่ง ดูครั้งแรกร้องไห้เลย ไม่ได้ซึ้งหรืออินนะ แต่เพราะอายฟังไม่ออก แล้วเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ ฟังออก จากนั้นอายใช้วิธีการฟังทีละประโยคแล้วอายก็กด Pause ไว้ จากนั้นก็จดว่าเขาพูดว่าอะไร ถ้าฟังไม่ออกก็ย้อนกลับไปตั้งใจฟังใหม่ว่าเขาพูดว่าอะไร ฟังเป็นฉาก ๆ เลย จนกว่าจะจำได้ว่าฉากนั้นตัวละครเขาพูดว่าอะไรบ้าง อายใช้ความถึกตรงนี้แหละ คืออาจเพราะว่าอายไม่รู้เองว่าเขาหา subtitle ภาษาอังกฤษจากไหน ทำให้ต้องใช้วิธีนี้
แต่ถ้าเกิดใครหา subtitle ภาษาอังกฤษมาได้ ก็เอาไปฝังในซีรี่ย์ หรือว่าดูซีรี่ย์ที่เป็น subtitle ภาษาอังกฤษก็ไม่ต้องเสียเวลาจด แต่ที่เน้นๆคือถ้าอยากพูดต้องฝึกพูด ถ้าอยากอ่านก็ต้องฝึกอ่าน อยากเขียนได้ฝึกเขียน อยากฟังได้ฝึกการฟัง หลักๆ ก็มีอยู่แค่นี้
มาถึงเรื่องไลฟ์สไตล์บ้าง คุณอายคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงสไตล์ไหน?
อายว่าอายเป็นผู้หญิงทำงาน working women จันทร์ – ศุกร์ อายก็ทำงานประจำนะ เสาร์ – อาทิตย์ ส่วนใหญ่อายก็ไปถ่ายแบบ เลยแทบไม่มีเวลาว่างเลยตอนนี้
เดี๋ยวนี้เวลาออกไปข้างนอก มีคนเข้ามาทักไหม ประมาณว่าสอนภาษาอังกฤษให้หน่อย?
Inbox ใน facebook ก็มีนะค่ะ ส่วนออกไปข้างนอกก็ยังไม่มี คืออายก็ไม่ถึงกับว่าออกไปข้างนอกแล้วมีคนรู้จักคนจำได้ ก็มีแชร์ ๆ กันใน facebook แต่ออกไปข้างนอกก็ยังไม่มีค่ะ
ขอถามเรื่องสเปคผู้ชายบ้าง ระหว่างผู้ชายที่หน้าตาดีมาก แต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย กับ ผู้ชายที่หน้าตาธรรมดาแต่พูดภาษาอังกฤษได้แบบ native แบบไหนดูมีเสน่ห์มากกว่ากัน?
อายมองคนละมุมอ่ะ ถ้าจะมองมุมคนนี้เก่งภาษาอังกฤษจังเลย ก็จะออกแนวชื่นชมมากกว่า แต่ถ้าให้มองที่สเป็คของอาย ก็ไม่ได้มองที่ความสามารถด้านภาษาเลยอะค่ะ อายคิดว่าภาษาอังกฤษมันไม่ได้โยงไปทางด้านว่าชอบหรือไม่ชอบได้ มันเป็นความถนัดของคนๆ นั้นเองมากกว่า
ในอนาคตมีอะไรที่คิดอยากจะทำแล้วยังไม่ได้ทำอีกไหม?
ตอนนี้คือยังไม่มีค่ะ คืออายเป็นคนที่คิดอะไรแล้วลงมือทำทันที เลยไม่ได้วางแพลนอะไรไว้ล่วงหน้าขนาดนั้น เราก็แค่ตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ณ ขณะนั้น แต่ถ้าถามถึงความฝัน อายอยากจะซื้อบ้านแล้วเปิดเป็นสตูดิโอถ่ายภาพ เพราะว่าอายมีอีกงานหนึ่งเป็นนางแบบ ถ่ายแบบอยู่แล้ว อายคลุกคลีอยู่กับตรงนี้ ก็เลยอยากทำถ้ามีโอกาส
สุดท้ายนี้ คุณอายมีหลักการใช้ชีวิตยังไงบ้าง?
หลักในการใช้ชีวิตของอาย ก็คือให้เราทำอะไรก็ได้ที่รัก และมีความสุข มันจะไม่รู้สึกว่าเหนื่อยเลยที่ได้ลงมือทำ อย่างอายทำงานประจำ กลับบ้านมาอัดวีดิโอสอนภาษาอังกฤษ ก็มีคนมาถามว่าถ่ายเอง ตัดต่อเองทุกอย่างเลย ไม่เหนื่อยเหรอ มันไม่เหนื่อยเพราะอายสนุกกับมัน เลยไม่รู้สึกว่ามันเป็นงาน หรือภาระ ทุกอย่างที่อายทำก็ด้วยความชอบแทบทั้งสิ้น นี่แหละค่ะหลักการใช้ชีวิตของอาย
หลังจากได้รู้จักตนตัว พร้อมแนวคิดจากเจ้าของเพจสาวสวยแล้ว เห็นหรือยังว่าภาษาอังกฤษนั้นง่ายนิดเดียว (ที่เหลือยากหมด) คุณสามารถเรียนรู้ได้รอบตัว ไม่จำเป็นต้องอาย หรือกลัวที่จะผิด การจะผิดบ้างไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ภาษาอังกฤษต้องการ ความมั่นใจในการสื่อสารออกไป ถ้าไม่พูด เขียน การสื่อสารก็ไม่เกิดขึ้น ดังนั้นถ้าใครรู้สึกสนใจภาษาอังกฤษขึ้นมาบ้างแล้ว สามารถไปติดตามเพจ “เรียนเหอะ อยากสอน” ของคุณอายได้ รับรองว่าเป็นอีกช่องทางที่ดีในการพัฒนาศักยภาพด้านภาษาอังกฤษของคุณให้ดียิ่งขึ้น
ขอขอบคุณเสื้อผ้าจาก Topshop Thailand