4 เหตุผลที่อาจทำให้คุณไม่อยากดื่มน้ำอัดลม

หลายต่อหลายคน เคยชินกับการไปกินข้าวแล้วจะต้องสั่งน้ำอัดลมมาดื่มให้ชื่นใจ ถ้าคุณไม่ดื่มเยอะจนเกินไปก็ถือว่าโอเค แต่ถ้าคุณชอบดื่มวันละหลายๆขวดแบบขาดไม่ได้ คุณต้องรีบเข้ามาอ่านแล้วล่ะ

ถ้าดื่มน้ำอัดลมวันละหลายๆขวด มากจนเกินไป คุณอาจกำลังเสี่ยงกับ 4 อาการเหล่านี้อยู่

1. สุขภาพฟันย่ำแย่

กรดที่อยู่ในน้ำอัดลมอย่าง Carbonic และ Phosphoric ซึ่งเป็นกรดที่ถูกนำไปใช้ในการทำผงซักฟอก สบู่ หรือแม้กระทั่งปุ๋ย กรดที่มีฤทธิ์แรงขนาดนี้จะส่งผลทำให้ฟันของคุณสึก เพิ่มอาการเสียวฟัน และจะค่อยๆ ทำให้ฟันของคุณผุลงเรื่อยๆ และนี่คงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราถึงนำ coke มาขจัดคราบไขมันก่อนซักผ้าได้ !

2. เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน

องค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้โรคเบาหวานมีอันตรายเทียบเท่าโรคเอดส์ เพราะแต่ละปีมีคนเสียชีวิตจากโรคนี้ถึง 3.2 ล้านคน เหตุเพราะผู้คนบริโภคน้ำตาลมากเกินไป เฉลี่ยถึงวันละ 20 ช้อนชา( coke หนึ่ง กระป๋อง = 8 ช้อนชา fanta หนึ่งกระป๋อง = 11 ช้อนชา!) เกินค่าปกติถึง 3 เท่า เสพติดความหวานกันโดยไม่รู้ตัว แบบนี้ก่อนจะกินอะไรก็คำนวณปริมาณน้ำตาลให้ดีด้วย

3. การเผาผลาญแย่ลง

เหตุเพราะความหวานในน้ำอัดลมที่ไม่ว่าจะมาจากน้ำตาลหรือสารให้ความหวานก็ดีจะทำให้กระบวนการสร้าง Metabolism ช้าลง เมื่อ Metabolism ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ระบบเผาผลาญก็แย่ลงทำให้ไขมันไม่ได้รับการเผาผลาญ ผิดกับน้ำเปล่าที่จะช่วยเพิ่ม Metabolism ให้กับร่างกาย

4. เสี่ยงสมองเสื่อม

ผลการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างพบว่าผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะทำให้สมองเสื่อม โดยพบว่าในคนอเมริกัน 12 คน จะมีคนเป็นโรคเบาหวาน 1 คน และที่สำคัญพบว่าคนไทยกว่า 17 ล้านคนเสพติดเครื่องดื่มรสหวานจัด ระดับน้ำตาลที่สูงขึ้นจะเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะในระบบประสาท จึงทำให้สมองทำงานช้าลงจนเป็นอัลไซเมอร์ได้ในที่สุด

รู้แบบนี้แล้ว ก่อนที่จะสั่งน้ำอัดลมมาดื่ม เราคงจะคิดถึงผลที่จะตามมามากขึ้น แต่ถ้าอยากดื่มจริงๆ อาทิตย์ละกระป๋องคงไม่เป็นไร แต่อย่าดื่มทุกมื้ออาหารจนติดเป็นนิสัยแล้วต้องมานั่งเสียใจภายหลังเพราะสุขภาพที่แย่ลง ป้องกันไว้ก่อนเป็นดีที่สุด