

Life
ผู้เชี่ยวชาญเผย!! การทำ ‘EMDR’ สามารถทำให้คนเราเลือก ‘ลบ’ ความทรงจำที่ไม่ต้องการได้ง่ายๆ เหมือนกับการเลือก File แล้ว Delete!!
By: unlockmen December 4, 2017 84639
ชีวิตคนเรามีเรื่องราวทั้งดี และร้ายเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และในบางครั้งความทรงจำแย่ ๆ เหล่านั้นดูเหมือนว่า จะไม่เคยเลือนหายไป มีผู้คนมากมายที่ติดอยู่กับภาพความทรงจำเลวร้ายที่คอยหลอกหลอนจนกลายเป็นคนอมทุกข์ หาความสุขจากการใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งอาการที่ว่านี้ นอกจากจะเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัยแล้ว ผลกระทบของมันจะเกิดขึ้นยาวนานแค่ไหนก็ไม่มีใครรู้อีกด้วย
ดังนั้น ถ้าหากคุณลองมองสังเกตคนใกล้ตัว หรือแม้แต่ตัวคุณเองดี ๆ ว่า คุณเคยไหม? ที่คุณกำลังแฮปปี้กับชีวิต และสิ่งรอบข้างอยู่ดีๆ แต่พอมีเรื่องอะไรบางอย่างจากอดีตแวบเข้ามาปุ๊บ ความสุขที่เคยมีอยู่ตรงหน้าก็พังลงแบบต่อหน้าต่อตาทันที ถ้าหากคุณมีอาการแบบนี้ล่ะก็วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูวิธีจัดการกับมันกัน ในปัจจุบันมีคนจำนวนมากที่ต้องทุกข์ทรมานจากความทรงจำที่เลวร้ายมากขึ้นอีกด้วย
หลายคนพยายามจะลืมบางสิ่งที่เกิดขึ้นมากแค่ไหนก็ตาม สมองของเราบางคนจะไม่ได้เจอเรื่องราวเลวร้ายอะไรมากมายที่ทำให้ถึงขนาดจิตคลั่ง แต่เราเชื่อว่า ในหนึ่งชีวิตที่เราใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน อย่างน้อยทุกคนจะต้องมีความทรงจำบางอย่างไม่อยากจะรับรู้มันอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งคนทั่วไปอาจจะคิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้
และในที่สุดดูเหมือนว่า การที่คนเราจะลบความทรงจำที่ไม่ต้องการออกไปให้เหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นนั้น จะไม่ใช่เรื่องที่ไม่สามารถทำได้ อีกทั้งยังสามารถทำได้มาตั้งนานแล้วอีกด้วย นั่นก็คือ การลบความทรงจำที่เลวร้ายที่เรียกว่า Eye Movement Desensitization and Reprocessing หรือ EMDR ที่นักบำบัด และนักจิตวิทยาเพิ่งออกมายืนยันเมื่อไม่นานมานี้ว่า ลบได้จริง ลืมได้จริง ไม่ต้องทนอยู่กับความจริงอันแสนเจ็บปวด ที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นกับชีวิตอีกต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วน EMDR ที่ว่านี้เป็นยังไง? เผื่อมีใครคนไหนสนใจอยากลบความทรงจำ เรามีรายละเอียดของ EMDR ที่ว่านี้ มาให้อ่านกันด้วย
ในปี 1987 นักจิตวิทยา Dr. Francine Shapiro ได้เกิดข้อสงสัย และตั้งข้อสังเกตขึ้นว่า การเคลื่อนไหวของดวงตาของคนเรานั้น มันมีอะไรที่ล้ำลึกซ่อนเอาไว้ ซึ่งไม่ได้ช่วยแค่เรื่องของการมองเห็นเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้ความคิดแง่ลบบางอย่าง มีอิทธิพลลดลง หรือไม่อาจส่งผลรบกวนต่อสภาพอารมณ์คนเราได้ ดังนั้น มันจึงหมายความว่า การเคลื่อนไหวของดวงตาคนเรา สามารถลบความทรงจำที่ไม่ดีให้หายออกไปจากหัวได้ แต่มันก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขบางประการ
Dr. Shapiro ได้ทำการศึกษาโดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์หาเหตุผลของเรื่องนี้เช่นกันในปี 1989 ซึ่งผลการค้นคว้าในครั้งนี้ถือว่า ประสบความสำเร็จ เมื่อเธอสามารถใช้หลักการการเคลื่อนไหวของดวงตา หรือ EMDR ที่ขณะนั้นอยู่ในช่วยการศึกษาค้นคว้า ช่วยลบความทรงจำที่ไม่ดีของเหยื่อรายหนึ่งที่เคยถูกทารุณกรรมทางเพศในวัยเด็กได้สำเร็จ
ตั้งแต่นั้นมา EMDR ก็ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยการร่วมมือกับนักบำบัด รวมไปถึงนักวิจัยทั่วโลกจนทุกวันนี้ EMDR ได้กลายเป็นวิธีการบำบัดรักษาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล แถมยังมีการแตกแขนงวิธีการรักษาออกไปมากมายหลายแบบอีกด้วย
ผลงานการวิจัยตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ระบุว่า EMDR ถูกค้นคว้า และทำออกมาเป็นหลักสูตรการรักษาปัญหาของคนที่มีความทรงจำสุดเลวร้าย เช่น การโดนทารุณกรรมทางเพศ การถูกข่มขืน หรืออะไรก็ตามที่เลวร้ายฝังใจไม่สามารถลืมได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม EMDR ยังสามารถช่วยในการรักษาอาการอื่น ๆ ได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น อาการตื่นตระหนก, อาการเศร้าโศกที่ซับซ้อน, อาการสับสนทางความคิด, การกลัวความเจ็บปวด, ความวิตกกังวล และยังช่วยลดความเครียด, ลดอากาศการเสพติดต่าง ๆ และอีกมากมายเลยทีเดียว
หากใครที่รู้สึกว่า ตัวเองมีประสบการความทรงจำที่เลวร้าย และอยากที่จะลืมมันไปจากสมองด้วยการใช้วิธีการ EMDR นี้ล่ะก็ ก่อนอื่นลองมาทำความเข้าใจกับหลักความคิดของมันก่อนดีกว่า
โดยเริ่มจาก ทำความเข้าใจก่อนว่า อารมณ์ ความรู้สึก และพฤติกรรมในด้านลบของคนเรานั้น มักเกิดจากการพบเจอกับประสบการเลวร้ายในเรื่องนั้น ๆ มาในอดีต ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วคนที่มีประสบการเลวร้ายในอดีต จะมักจะถูกผลักดัน และมีแนวโน้มให้กลายเป็นคนที่มีสภาวะทางอารมณ์ความรู้สึก พฤติกรรม และการแสดงออกไปในทางที่ไม่ถูกต้อง
EMDR จะช่วยทำให้คนเหล่านั้น กลับมามีความคิด มุมมอง และอารมณ์ปกติได้ และดำเนินชีวิตได้โดยปราศจากปมในใจ แตกต่างจากคนที่ไม่สามารถลืมความทรงจำที่เลวร้ายได้ ที่ส่วนใหญ่มักจะมีปัญหาในการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น ๆ ในสังคม เนื่องเจอกลัวว่า จะเจอกับเหตุการนั้นอีกครั้ง ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย และจิตใจของตัวเองโดยตรงอีกด้วย
แน่นอนว่า หลักการ EMDR สามารถรักษา และลบความทรงจำที่เลวร้ายของทุกคนได้ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้ภายใน 5-10 นาทีเช่นกัน ซึ่งถ้าจะให้ดีนั้น ควรจะให้ผู้เชี่ยวชาญอย่างเช่น หมอ หรือนักบำบัดที่มีความรู้ความสามารถด้าน EMDR มาเป็นผู้ทำการบำบัดรักษาจะดีที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นใครบนโลก และไม่จำเป็นต้องเป็นนักจิตวิทยาก็รู้ดีว่า เมื่อคนเราเกิดอารมณ์โกรธ เศร้า แค้น เจ็บปวด ความสามารถในการควบคุมสมองของเรานั้น แทบจะไม่หลงเหลืออยู่เลย เราไม่สามารถประมวลผลอย่างมีสมาธิได้ ขั้นตอนกระบวนความคิดได้ตามปกติ แต่ถ้าเป็นในเรื่องของความทรงจำ สมองของเรากลับทำงานได้ยอดเยี่ยม และยังแม่นยำสุด ๆ ในเวลาที่เราต้องเจอกับสิ่งเลวร้าย
นั่นก็เพราะว่า สมองของเรามีกลไกที่จะบันทึกความอันตรายเอาไว้แบบละเอียดสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็น กลิ่น, รูป, รส, บรรยากาศ ของความทรงจำที่เลวร้าย เพื่อจะได้จดจำ และระมัดระวังตัวทันทีเหมือนกับเป็นบทเรียนที่คอยเตือนเราว่า นั่นคือ ความไม่ปลอดภัยที่
หากใครสงสัยว่า ไอ้การทำ EMDR นี้ มันจะได้ผลสักเท่าไหร่ หรือมีโอกาสสำเร็จมากแค่ไหนที่จะทำให้คนคนหนึ่งสามารถลืมเรื่องเลวร้ายไปจากหัวได้แบบหมดจด ว่ากันว่า การทำ EMDR นั้น มีอัตราความสำเร็จในการลบความจำอันเลวร้ายสูงมาก นอกจากนี้ มีคนที่ต้องการลืมเรื่องราวในอดีตมากมาย ที่เคยทดลองใช้วิธีการหลายต่อหลายอย่างแต่ไม่สามารถลืมเรื่องเหล่านั้นได้ ได้ทดลองใช้วิธีการ EMDR และผลปรากฎว่า พวกเขาสามารถลบความทรงจำเหล่านั้นออกไปจากหัวได้จริง ๆ