

Style
‘A Guide to Levi’s Numbers’ เลขท้าย 3 ตัว กับความหมายและทรงกางเกงใต้รหัสที่ควรรู้
By: unlockmen June 20, 2017 64889
ถ้าพูดถึง “Levi Strauss & Co.” บางคนอาจจะไม่มั่นใจนักว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่ถ้าหากเอ่ยชื่อ “Levi’s” ใคร ๆ ก็รู้ได้ทันที่ว่า หมายถึง ผู้ผลิตกางเกงยีนส์ที่มีคุณภาพสูงที่สุดรายหนึ่งของโลก แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่า? เดิมที “Levi Strauss & Co.” ไม่เคยอยู่ในแวดวงธุรกิจอุตสาหกรรมเสื้อผ้ามาก่อน?
“Levi Strauss & Co.” ตอนแรกเป็นเพียงแค่ร้านขายของชำธรรมดา ๆ แม้ว่า พวกเค้าจะมีผ้ายีนส์ขาย ให้กับลูกค้าที่เข้ามาในร้านด้วยก็ตาม แต่ก็ไม่เคยมีความคิดที่จะผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปเลยแม้น้อย จนกระทั่งในปี 1870 ได้มีลูกค้ารายหนึ่ง ยื่นข้อเสนอให้กับ Levi Strauss ด้วยตัวเอง มันเป็นข้อเสนอร่วมหุ้นก่อตั้งธุรกิจผลิตกางเกงยีนส์ ที่มีคุณภาพสูงและเป็นที่ยอมไปทั่วโลก
Levi Strauss ยอมรับข้อเสนอนั้น และในปี 1890 กางเกงยีนส์ Levi’s ตัวแรกที่ผลิตขึ้นซึ่งก็คือ Levi’s 501 Jeans จึงออกเผยโฉยต่อสาธรณะชนเป็นครั้งแรก
มันไม่ได้กลายเป็นเพียงแค่กระแสแฟชั่นที่มาแรงเท่านั้น แต่มันกลายเป็น Iconic และเป็นกางเกงยีนส์ในตำนาน ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตัวนึงของโลกเลยทีเดียว
Levi’s 501 เปรียบเสมือน รหัสเรือธงของแบรนด์ Levi’s ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่พวกเค้าเคยผลิตมา หลายคนสงสัยมาตลอดเกี่ยวกับรหัสต่าง ๆ ที่ทาง Levi’s ตั้งขึ้น อย่างเช่น รหัสเลข 3 ตัว ว่าจริง ๆ แล้ว มันมีความหมายหรืออะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า วันนี้เรามีคู่มือและคำอธิบายเกี่ยวกับความหมายในตัวเลข ของ Levi’s มาให้ชาว UNLOCKMEN ได้ชมกัน
กางเกงยีนส์ที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นจุดเริ่มต้นของ Levi’s ตัวนี้ ใช้รหัส 501 ได้รับการออกแบบ และเต็มเย็บเสร็จสมบูรณ์ออกมาในปี ค.ศ. 1890 เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชาย ที่ใช้ชีวิตอย่างสมบุกสมบัน ทำงานงาน และต้องการเสื้อผ้าที่คงทนต้องทุกสภาพแวดล้อมในการทำงานได้เป็นอย่างดี
Cut : Straight Leg Classic Fit
Leg Opening : 16”/17”
Best For : Average Joes and working men
502 ถือเป็น รหัสที่ถูกออกแบบมาให้ตอบสนองผู้ที่ชื่นชอบความใส่สบายของ 501 แต่ก็ยังคงชอบรูปทรงการตัดเย็บที่ค่อนข้างจะพอดี ไม่หลวมจนเกินไปของ 505 มันถูกออกแบบให้การตัดเย็บในช่วงต้นขา กว้างกว่า 501 และ 505 แต่มีปลายขาที่เรียวและพอดีกับผู้สวมใส่มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ใส่ 502 ดูมีรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย แต่ทันสมัย ไม่เหมือนกับ 501 ที่จะออกแนว Classic
Cut : Straight Leg Slim Fit
Leg Opening : 14.5”
Best For : The casual kid and the modern worker
สำหรับ Levi’s 504 ถึงแม้ว่ารหัสจะลงท้ายด้วย 4 ซึ่งมาก่อน 5 แต่ตามประวัติศาสตร์แล้ว Levi’s 505 นั้น กลับถูกผลิตขึ้นก่อน
สำหรับ 504 นั้น เรียกได้ว่าเป็นการเลียนแบบ 505 มาเกือบทั้งหมดในเรื่องรูปทรง แค่ 504 จะถูกตัดเย็บให้มีปลายที่เล็ก และพอดีมากขึ้นเพื่อความทันสมัยในยุคที่ คนหันมานิสัยใส่ยีนส์พอดีตัว นอกจากนี้ยังมีอีกข้อแตกต่างนึงที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุดก็ คือ 504 จะเป็นกางเกงยีนส์เอวต่ำ แต่สำหรับ 505 นั้น จะเป้นกางเกงยีนส์เอวสูงแบบดั้งเดิม
Cut : Straight Leg Slim Fit
Leg Opening : 16.25”
Best For : The Modern Classic Rocker
อีกหนึ่งรหัสที่จะว่าเป็นตำนาน ก็น่าจะได้เช่นเดียวกัน สำหรับ 505 ซึ่งเป็นหนึ่งในรหัสที่ขายดีที่สุดใน Levi’s Family เช่นกัน
505 เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1967 ท่ามกลางกระแสการปฏิวัติทางวัฒนธรรมภายในประเทศสหรัฐอเมริกา และในที่อื่น ๆ จนกระทั่ง ในปี 1971 กางเกงยีนส์ Levi’s ที่เดิมทีเป็นเพียงแค่เสื้อผ้าสำหรับคนทำงานใช้แรง ได้ถูกยกระดับขึ้นไปให้กลายเป็นวัฒนธรรมแฟชั่นที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้
เมื่อวง Rolling Stones ใส่ Levi’s 505 บนปกอัลบั้ม Sticky Fingers ทำให้มันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แทบผลิตไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้าเลยทีเดียว
Cut : Straight Leg Loose Fit
Leg Opening : 16.5”
Best For : The Mick Jagger in us all
นอกจากเป็นกางเกงยีนส์ในช่วงยุค Modern ของ Levi’s แล้ว 510 ยังเป็นกางเกงยีนส์ที่เหมาะสำหรับ คนที่มีรูปร่างค่อนข้างผอม ถึงผอมมาก และเป็นกางเกงยีนส์ Levi’s ที่มีทรงรัดติ้วที่สุด นักดนตรี และนักกีฬาหลายต่อหลายคน หลงรักในความ Skinny ของมันเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากทำให้ดูโดดเด่นมีสไตล์ แตกต่างจากคนทั่วไปอีกด้วย หลังจากเปิดตัวออกมาเพียงไม่กี่ปี 510 ก็กลายเป็นอีกหนึ่งรหัส ที่ผู้คนต่างพูดถึงกันมาก อย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
Cut : Skinny Leg Slim Fit
Leg Opening : 13” Opening
Best For : Skateboarders and rock and rollers
นอกจาก 510 ก็ยังมี 511 อีกตัวหนึ่ง ที่เป็นการออกแบบของ Levi’s ในยุคปัจจุบัน มันเป็นกางเกงทรง Skinny สำหรับคนที่ชื่นชอบและอยากจะแต่งตัวให้รัดติ้วอย่างที่ Rockstar เค้าใส่กัน แต่ทว่าจะไปใส่ 510 ขาอันมหึมาก็ไม่สามารถจะยัดลงไปในขากางเกงได้ 511 จึงเป็นเหมือนทางออก ที่ทาง Levi’s คิดค้นมากให้เป็นอย่างดี เพราะถึงแม้ว่า 511 จะเป็นกางเกงยีนส์ทรง Slim Fit เช่นเดียวกับ 510 แต่ช่วงขานั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าพอสมควร ทำให้รู้สึกกระชับ แต่ไม่อึดอัด นอกจากนี้ มันยังถูกออกแบบมาให้ใส่กับ เสื้อยืด, Hoodies และ Blazers ได้อย่างลงตัวเป็นอย่างยิ่ง
Cut : Tapered Leg Slim Fit
Leg Opening : 14.5”
Best For : Fashion-forward men unwilling to sacrifice comfort
ถ้าหากทั้ง 2 รหัสอย่าง 510 และ 511 ยังรัดติ้วไม่ถึงใจ 512 คือ คำตอบของคนที่ชอบกางเกงยีนส์ชนิดแนบเนื้อราวกับ ใส่กางเกงแอโรบิกเลยทีเดียว Levi’s 512 นั้น ถูกออกแบบมาให้เล็กลีบตั้งแต่ช่วงต้นขา ยาวไปจนถึงปลายขา ดังนั้นมันจึงอาจจะหาผู้สวมใส่แล้วรู้สึกดีได้ยากสักหน่อยแต่ 512 ก็ยังคงต้องถูกผลิตขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ไม่สนใจความสบาย แต่อยากจะได้กางเกงยีนส์ดี ๆ ที่รัดติ้วที่สุดในชีวิตเท่าที่จะหาได้นั่นเอง
Cut : Tapered Leg Slim Fit
Leg Opening: 12”
Best For: The man who likes it skinny, but not uncomfortable
เรียกได้ว่าเป็นตัวตายตัวแทนของ 511 ก็ว่าได้ สำหรับรหัส 513 ที่ Levi’s ตั้งใจผลิตขึ้น มันเป็นกางเกงเอวต่ำ ที่มีรูปทรงการตัดเย็บแบบกลาง ๆ ใส่ค่อนข้างไปทางสบาย ช่วงต้นขาเพรียวบาง แต่ยังคงรู้สึกได้ถึงแฟชั่นที่ทันสมัย มันจะดูดีขึ้นเป็นอย่างยิ่ง เมื่อใส่คู่กับร้องเท้า Converse Chucks Taylor และเสื้อยืด ทำให้ผู้ชายที่ชอบการแต่งตัวแบบเรียบง่าย แต่ยังคงพอมีเสน่ห์ในแบบเซอร์ ๆ หลงเหลือไว้ให้คนได้เชยชม
Cut : Straight Leg Slim Fit
Leg Opening : 15.75”
Best For : Younger professionals
สำหรับผู้ชายไม่มีก้น และต้นขาเล็กลีบ Levi’s 514 จะช่วยให้บุคลิกภาพของพวกเค้าดีขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ มันยังคงเป็นกางเกงยีนส์รูปทรงทันสมัย ตัดเย็บ และออกแบบมาให้ใส่ในสไตล์เอวต่ำ ด้วยขาที่มีขนาด 16.5 นิ้ว จะช่วยให้คนที่ช่วงล่างดูเล็ก หรือผอมจนเกินไป ดูมีน้ำมีนวลขึ้น และช่วยปกปิดปัญหาที่หลาย ๆ คนเจอนี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
Cut : Straight Leg Regular Fit
Leg Opening : 16.5″
Best For : The Renaissance Man
Levi’s 517 เป็นกางเกงยีนส์ทรง Boot Cut ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ของใครก็ตามที่ต้องการ ความคลาสสิกในแบบฉบับของ อเมริกันแท้ ๆ แต่เมื่อสวมใส่ ก็ยังคงรูปสึกได้ถึง ความทันสมัยในบางมุมมอง ถึงแม้ว่าอาจจะรู้สึกว่า ในช่วงขาบางส่วนจะมีความแคบสักเล็กน้อย แต่มันก็ดูเท่ และได้ความขลังมาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าเช่นกัน
Cut : Boot Cut Slim Fit
Leg Opening : 18.25”
Best For : The Cattle Rancher
หลายคนมองว่า Levi’s 541 เป็นรหัสที่ไม่น่าสนใจเอาซะเลย โดยเฉพาะคอยีนส์ Levi’s ตัวจริงเสียจริง ด้วยความบางของผ้า และรูปทรงขาตรงแด่ว มันจึงดูเหมือนกับกางเกงกีฬาอยู่ไม่น้อย แต่นั่นแหละคือความตั้งใจของ Levi’s ที่คุณสามารถสังเกตได้จาก ชื่อต่อท้ายรหัสก็น่าจะรู้ ดังนั้น เปิดใจกว้าง หากใครที่กำลังมองหากางเกงยีนส์ใส่สบาย ๆ ที่มีเนื้อผ้าบาง ๆ รหัส 541 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าลองไม่น้อยเลยทีเดียว
Cut : Straight Leg Athletic Fit
Leg Opening : 15.75”
Best For : The Man Who Appreciates Comfort and Leg Day
ความสบายจากกางเกงยีนส์ Levi’s มีอยู่จริง แต่มันจะอยู่ในรหัส 550 โดยเฉพาะ สำหรับ Levi’s 550 ตัวนี้ เป็นกางเกงยีนส์ทรง Relaxed Fit ซึ่งมีการออกแบบ และยืนยันเอาไว้ว่า คุณจะรู้สึกสบายที่สุดเท่าที่กางเกงยีนส์ดี ๆ ตัวนึงจะมอบให้ได้ ด้วยความหลวมกำลังดี ทั้งในช่วงต้นขา และไล่ระดับความเรียวลงเล็กน้อยไปที่ช่วงปลายขา ทำให้นอกจากความสบายในการสวมใส่แล้ว ยังรู้ทำให้ผู้ใส่ดูสไตล์ที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
Cut : Tapered Leg Relaxed Fit
Leg Opening : 16.5”
Best For : Average Joes
ถ้าคุณเป็นคนชอบใส่กางเกงเอวต่ำ ใส่โล่งโปร่งสบาย แต่ยังต้องการความทันสมัยในแบบที่ 550 ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้ Levi’s 559 คือคำตอบที่คุณกำลังตามหา ด้วยรูปทรงการตัดเย็บที่ไม่อิงกับความคลาสสิก ปลายขาเปิดกว้างถึง 18 นิ้ว ทำให้มันเป็นกางเกงยีนส์ที่ใส่สบาย เรียกได้ว่า ตั้งเอวลงไปจรดปลายเท้าอย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว
Cut : Straight Leg Relaxed Fit
Leg Opening : 18”
Best For : The Astute Man Who Appreciates Style, But Cares About Comfort
อีกหนึ่งรหัส ในตระกูลใส่สบายของ Levi’s นั่นก้คือ Levi’s 560 มันเป็นรุ่นที่ถูกออกแบบตัดเย็บให้คนที่ชอบสวมใส่ยีนส์แบบหลวม ๆ แต่มีลูกเล่นซ่อนอยู่ นั่นเพราะว่า ตั้งแต่ช่วงหัวเข่าไล่ลงไปจนถึงปลายเท้า เหลือเพียงแค่ 16 นิ้ว เท่านั้น มันจะเป็นกางเกงยีนส์ที่ใส่ง่าย และยังคงดูดีมีสไตล์ไม่ดูรุ่มร่ามมากจนเกินไป
Cut : Tapered Leg Loose Fit
Leg Opening : 16”
Best For : Men who just want to be comfortable
Low, Loose และ Baggy เป็น 3 คำที่อธิบายความเป็น Levi’s 569 ได้ดีที่สุด รหัส 569 ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่ชอบใส่กางเกงยีนส์แบบหลวม ๆ หลุด ๆ โดยเฉพาะหากใครนึกไม่ออก อาจจะนึกถึงภาพกางเกงของเด็กสเก็ตอะไรทำนองนั้น ด้วยขาที่เปิดกว้างถึง 18.5 นิ้ว รูปทรงตรงยาวได้สัดส่วน ทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ชอบ Levi’s 569 ทั้ง ๆ ที่มันดูแล้ว ไม่ค่อยจะมีความเป็น Levi’s อยู่ในตัวมากนัก
Cut : Straight Leg Loose Fit
Leg Opening : 18.5”
Best For : Uhh… People Who Think JNCOs are a Tad Aggressive
ทั้งหมดก็เป็นรหัสเลขท้าย 3 ตัว ของแบรนด์กางเกงยีนส์ชื่อก้องโลกอย่าง Levi’s ที่เราได้นำเอามาให้ทุกท่านได้ชมกันในวันนี้
จริง ๆ แล้วรหัสแต่ละรหัส จะมีความเกี่ยวข้องต่อ ๆ กันมาเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงที่ถูกปรับเปลี่ยน หรือพัฒนาเพิ่มเติม ดังนั้นหากใครจำรหัส และข้อมูลคร่าว ๆ ได้ว่า 501 เป็นยังไง 505 มีขาทรงไหน 560 เป็นเอวอะไร เพียงแค่นั้น คุณก็จะเลือกซื้อกางเกงยีนส์ Levi’s ได้อย่างเชี่ยวชาญมากขึ้นแล้ว หลายคนซื้อ Levi’s มาแล้วนำไป ตัดขาแก้ทรง โดยไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว Levi’s ก็มีทรงที่คุณกำลังมองหาอยู่ ผลิตไว้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ หวังว่าปัญหากับการเลือกซื้อยีนส์ โดยเฉพาะ Levi’s สำหรับผู้ชายทุกคน คงจะดีขึ้นอย่างแน่นอน