

Life
7 สัญญาณที่บ่งบอกว่า “หุ่นคุณกำลังจะเสียทรง” แบบถลำลึก จนยากจะเยียวยา !!
By: unlockmen February 14, 2017 52920
ถ้าในหนึ่งวันของคุณเต็มไปด้วยภาระกิจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่กินเวลาไป 2 ใน 3 อีกทั้งยังต้องหาเวลาให้กับคนทางบ้าน และไหนจะเพื่อนๆ อีก ดังนั้น เป็นธรรมดาที่คุณจะลืมการออกกำลังกาย และดูแลรูปร่างตัวเองให้เข้ารูปเข้ารอย ซึ่งในบางคนกว่าจะสังเกตเห็นรูปร่างที่เปลี่ยนไปของตัวเองอีกที ก็ทำเอาถอดใจ ถึงจุดปล่อยเลยตามเลยกันไปซะแล้ว และเพื่อไม่ให้ร่างกาย และหุ่นของคุณพังไปยากที่จะกู้คืนกลับมาได้ วันนี้เราจึงนำเอา 7 สัญญาณที่จะบอกว่า หุ่นของคุณเริ่มเข้าสู่ความพินาศเป็นที่เรียบร้อย และควรจะหาเวลาไปออกกำลังกันอย่างเร่งด่วน
1. You can’t do push-ups
การวิดพื้น เป็นหนึ่งในท่าออกกำลังกาย ที่ใช้ในการทดสอบพละกำลังทางกายภาพของคุณได้เป็นอย่างดี เพราะมันต้องใช้กล้ามเนื้อหลายส่วนเช่น หลัง, ไหล่, อก และ แขน ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อมัดหลักๆ สัญญาณที่บ่งบอกว่า ร่างกายคุณเริ่มที่จะเสียศูนย์แล้วก็คือ เมื่อคุณทำการวิดพื้นลงไป คุณไม่สามารถดันตัวเองกลับขึ้นมาในท่าเตรียมพร้อมได้ นั่นแสดงให้เห็นว่า กล้ามเนื้อของคุณไม่แข็งแรงพอ และเริ่มที่จะรับน้ำหนักร่างกายของคุณไม่ได้แล้ว เรียกว่า พละกำลัง และน้ำหนักไม่สัมพันธ์กันนั่นเอง
2. It takes a long time for your heart rate to slow down
เมื่อร่างกายของคุณกำลังฟิต การออกกำลังกายจะทำให้หัวใจของคุณเต้นเร็วขึ้น เพื่อปั๊มออกซิเจนซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น ให้ไหลเวียนไปทุกๆ ส่วนของร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจของคนที่มีความฟิต จะอยู่ที่ 140 -190 ครั้ง ต่อนาที ขึ้นอยู่กับอายุ และหัวใจคุณจะเต้นช้าลงประมาณ 20 ครั้ง ต่อนาที โดยใช้เวลาสั้นๆ เท่านั้น สำหรับตอนที่คุณเลิกออกกำลังกาย หรือเริ่มใช้ชีวิตตามปกติ แต่ถ้าหากคุณไม่ฟิต และมีรูปร่างที่เป็นภาระต่อหัวใจของคุณล่ะก็ มันจะใช้เวลานานขึ้น กว่าที่หัวใจคุณจะกลับมาเต้นช้าลง ในระดับปกติ นั่นแสดงให้เห็นถึงความไม่ฟิตอย่างแรง และต้องรีบลดหุ่นให้กลับเข้าที่เข้าทางโดยด่วน
3. You have a large waist circumference
จริงๆ แล้ว เราทุกคนควรตรวจวัดรอบเอวอยู่เสมอ เพื่อที่จะให้แน่ใจได้ว่า คุณไม่ได้กำลังแบกไขมันไปไหนมาไหน ให้เปลืองพลังงาน และยังมีผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของตัวเองอยู่ รอบเอวในทีนี้ ไม่เกี่ยวกับน้ำหนักในตาชั่ง เพราะคุณอาจจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ จากการออกกำลังกาย ซึ่งทำให้มีมวลกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น โดยหลักสังเกตง่ายด้วยการวัดรอบเอวว่า หุ่นคุณกำลังขยายตัวเกินงามแล้วรึยังก็คือ ผู้ชายให้ดูว่า รอบเอว ไม่ควรจะใหญ่เกิน 40 นิ้ว และผู้หญิงให้ดูว่า รอบเอวมีขนาดไม่เกิน 35 นิ้ว ถ้าหากเกินล่ะก็ คุณอยู่ในระดับที่อ้วนระยะสุดท้ายแล้ว
4. You’re winded after walking up a staircase
หากคุณไม่รู้สึกว่าตัวเองอ้วน แต่คุณเริ่มที่จะมีอาการเหนื่อยหอบทุกครั้ง ที่ต้องเดินขึ้นบันได นั่นก็เป็นอีกสัญญาณนึงที่ร่างกายได้บอกให้คุณรู้ว่า รูปร่าง และความแข็งแรงของหัวใจคุณ อาจจะกำลังมีปัญหา ปัญหาการเหนื่อยหอบจะหายไปได้ ถ้าคุณเริ่มที่จะออกกำลังกายทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที ด้วยการ Cardio ก็ช่วยทำให้คุณสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกิน และช่วยให้หัวใจคุณแข็งแรงขึ้นได้อีกด้วย
5. You’re craving sugar
การออกกำลังกายอาจจะทำให้คุณรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น นั่นถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าหากคุณไม่ออกกำลังกาย แต่กลับรู้สึกมีความอยากอาหาร ทั้งๆ ที่อยู่เฉยๆ โดยเฉพาะขนมนมเนย ของหวาน แสดงว่าคุณมีแนวโน้มที่จะมีรูปร่างผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็นสูงเลยทีเดียวเชียว ดังนั้นถ้าคุณรู้สึกว่าการกินคือ ชีวิต และความสุข อีกทั้งไม่มีทางที่จะลด หรือเลิกกินขนมได้อย่างแน่นอน ทางออกก็คือ คุณต้องออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย เพื่อความสมดุลที่ถูกต้อง ระหว่างสิ่งที่กินเข้าไป กับการเผาผลาญที่ร่างกายจะนำมันออก
6. You’re always tired
หากคุณคิดว่า คนที่ออกกำลังกายทุกคน จะต้องเหนื่อย และอ่อนล้าระหว่างวัน คุณคิดผิดแล้ว เพราะคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ร่างกายจะได้รับปริมาณออกซิเจนอย่างเพียงพอ อีกทั้งยังทำให้รู้สึกสดชื่นหลังจากที่ได้เสียเหงื่อจากการเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกไปด้วย แต่สำหรับคนที่ไม่ออกกำลังกาย และมีรูปร่างที่ใหญ่โตเกินความเหมาะสม คนเหล่านี้ต่างหาก ที่มักจะรู้สึกเหนื่อย และอ่อนเพลียระหว่างวันอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นหากมีสัญญาณแห่งความเหนื่อยล้านี้เกิดขึ้นกับคุณ แสดงว่าคุณต้องเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจังได้แล้ว
7. You have a high resting heart rate
นอกจากหัวใจเต้นเร็วจากการออกกำลังกาย และลดความเร็วลงได้ยากแล้ว อีกสัญญาณนึงที่บ่งบอกว่า รูปร่างของคุณกำลังก้าวออกนอกเส้นทางที่ถูกต้องไปแล้วก็คือ หัวใจเต้นเร็วตลอดเวลา สำหรับผู้ใหญ่ ถ้าหากร่างกายไม่ได้รับการออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ หัวใจควรเต้นอยู่ที่ 100 ครั้ง แต่ถ้าฟิตๆ หน่อย หรือเป็นคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หัวใจอาจจะมีอัตราการเต้นยืนพื้นอยู่ที่ 120 ครั้ง ต่อนาที โดยที่ไม่รู้สึกเหนื่อยแต่อย่างใด ถ้าหากคุณมีอัตราการเต้นหัวใจที่สูงอยู่เสมอ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย อีกทั้งยังรู้สึกเหนื่อยล้า เดินก็รู้สึกเหมือนกับไปวิ่งมา พอวิ่งยิ่งเหนื่อยแทบขาดใจแล้วล่ะก็ คุณควรที่จะควบคุมน้ำหนัก และเริ่มหันมา Cardio อย่างจริงจังได้แล้ว
หากใครเริ่มมี 7 สัญญาณ ที่เราได้เขียนไว้เข้ามาเยือนบ้างแล้ว นั่นอาจจะเป็นเหมือนการเตือนคุณว่า คุณอาจจะกำลังสูญเสียรูปร่างที่อยู่ในระดับมาตรฐานไป ลองหาเวลาลุกขึ้นมาออกกำลัง ดูเแลเรื่องอาหาร ให้มากกว่าเดิม ไม่เช่นนั้น คุณอาจจะตกใจเมื่อส่องกระจกอีกทีเห็นตัวเองมาไกล จนหมดกำลังใจจะกลับไปฟิตหุ่มเฟิร์มก็เป็นได้