

Business
เตรียมความพร้อม! เข้าสู้ยุคการต่อสู้ด้านธุรกิจบนโลกดิจิตอล
By: Lady P. April 3, 2016 29944
จับตาดูโลกยุคปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีก้าวมาไกลมาก สังเกตได้จากวัยเด็กที่เคยคิดว่าอยากมีโทรศัพท์ที่มองเห็นหน้ากัน เดี๋ยวนี้เราก็สามารถออนไลน์ติดต่อคุยกันแบบ Real time เห็นหน้ากันข้ามประเทศ จากที่เคยอยากมีนาฬิกาที่รับโทรศัพท์ อ่านอีเมล ฟังเพลงได้ สมัยนี้เราก็มี Smartwatch มากมายหลายยี่ห้อที่ตอบโจทย์
โลกดิจิทัลนั้นหมุนเร็วมาก ส่งผลต่อพฤติกรรมความเป็นอยู่ การใช้ชีวิต การจับจ่ายใช้สอย หรือการต่อสู้ทางธุรกิจที่มุ่งสู่ยุคดิจิทัลก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากกระแส START UP มาสู่ FINTECH ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างหนาหู ทำให้ผู้ประกอบการมากมายทั้งมือใหม่ มือเก่า ต้องเริ่มหันมาหากลยุทธ์ต่อสู้ในโลกยุคดิจิทัลมากขึ้น พูดถึง START UP และ FINTECH เผื่อใครยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร
START UP คือ ธุรกิจที่มีการวางแผนเพื่อการก้าวกระโดด อาจมีการเริ่มจากคนไม่กี่คน ซึ่งจะเน้นเป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน หรือเป็นธุรกิจที่มองเห็นโอกาสความเป็นไปได้อย่างที่ไม่มีใครเคยเห็น อย่าง START UP ระดับโลกที่มีชื่อเสียงที่เราคุ้นกันดีก็อย่าง Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง FACEBOOK, UBER , Elon Musk ผู้ก่อตั้ง Paypal, Tesla Motors และ SpaceX
ส่วน Start Up ในไทยที่มีชื่อเสียง เช่น WONGNAI เว็บไซต์ที่เริ่มต้นจากแนะนำที่กิน จนพัฒนาเป็นแอปพลิเคชั่นที่ค้นหาร้านอาหารใกล้ตัวเราได้อย่างรวดเร็ว
OOKBEE ธุรกิจที่เป็นตัวกลางระหว่างสำนักพิมพ์ และ ลูกค้าร้านหนังสือ
ส่วน FINTECH ที่เป็นกระแสแรงมากในช่วงปีนี้ คือการผสมผสานระหว่าง Finance และ Technology ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยี เพื่อช่วยให้การตลาดเงิน หรือการบริการที่เกี่ยวข้องกับการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น แอปพลิเคชั่นที่ช่วยทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่าง StockRadars ที่ช่วยให้รับรู้ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นได้เร็วขึ้น
หรือจะเป็น CROWDFUNDING ตัวกลางจัดสรรเงินทุนให้การเงินมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมมากขึ้น และตัวอย่างที่ทำให้เข้าใจ Crowdfunding ได้ดี ก็เช่น Kickstarter ที่ช่วยให้คนที่มีไอเดียเจ๋งๆ ได้มีเงินทุนสร้างสินค้า โดยระดมทุนผ่านการขายสินค้าล่วงหน้าให้กับผู้บริโภค
เมื่อเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค และเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อการทำธุรกิจมากขึ้น เราในฐานะคนทำธุรกิจ หรือคนที่กำลังคิดวางแผนการทำธุรกิจต้องตื่นตัว และเตรียมการเพื่อรับมือความก้าวหน้าของเทคโนโลยีใหม่ๆ และความต้องการที่ไม่หยุดยั้งของผู้บริโภค ดังนั้นเราต้องพยายามพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการอยู่เสมอ
“ไอเดียต้องบรรเจิดตอบโจทย์”
แน่นอนว่า ในยุคที่ผู้บริโภคเป็นใหญ่ มีความรู้ในการหาข้อมูลมากขึ้น สินค้า หรือบริการต้องมีความแปลกใหม่ มีจุดเด่นน่าสนใจที่คู่แข่งยากจะเลียนแบบได้
“เข้าถึงการแก้ปัญหาผู้บริโภคได้”
สินค้า หรือการบริการต้องตอบโจทย์และแก้ปัญหาของกลุ่มผู้บริโภคได้ ยกตัวอย่าง UBER ที่ค่อนข้างตอบโจทย์คนเมืองเป็นอย่างดี กับบางคนที่มีประสบการณ์ที่โดนแท๊กซี่ไม่รับบริการอยู่บ่อยๆ การมี UBER นั้น เป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุด
“เทคโนโลยีที่ยากต่อการเลียนแบบ”
COMPETITIVE ADVANTAGE เป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งเรามีจุดเด่นที่ยากต่อการเลียนแบบมากเท่าใด มันจะเป็นจุดแข็งที่ใครก็ตามต้องหันมาซื้อสินค้า หรือบริการของเรา ที่สำคัญคือ ต้องเป็นเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์และช่วยแก้ปัญหาต่างๆได้จริง
“มีคอนเทนต์ที่น่าสนใจ”
ในยุคที่คนสนใจข่าวสารดิจิทัลมากยิ่งขึ้น การเล่าเรื่องที่น่าสนใจ คอนเทนต์ที่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคเป็นสิ่งที่สำคัญ อาจเริ่มจากการทำคอนเทนต์ที่สามารถให้ข้อมูลง่ายๆ จนถึงข้อมูลเชิงลึกแก้ผู้บริโภคในทางที่เข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย เช่น การถ่ายทำเป็นแบบวิดีโอ หรือมีการรีวิวสินค้าจากผู้ใจจริงมาบอกต่อข้อมูล
“เข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย”
สิ่งที่สำคัญมาก นอกจากเรามีสินค้าหรือบริการที่ดีแล้ว เราต้องสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องแม่นยำ ดังนั้นกลยุทธ์ในการเลือกช่องทางการใช้สื่อเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องศึกษาเป็นอย่างดี
มาถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเข้าสู่การแข่งขันทางธุรกิจคือ คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อม กล้าที่จะเริ่มเรียนรู้ส่ิงใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา และอย่าลืมว่าการปรับตัวเข้าสู่โลกธุรกิจดิจิทัลยุคใหม่ คือ การเปิดใจ และกล้าลงมือทำเดี๋ยวนี้