Modern Era History of Hip Hop Style ภาคต่อจากจุดเริ่มต้นสู่ยุคเฟื่องฟูของ Rap Style

หลังจากที่เราได้เกริ่นเรื่องปฐมบทของวัฒนธรรม Hip-Hop ช่วงยุคเริ่มต้นไปแล้ว วันนี้เราก็ขอมาต่อในยุค 90-ถึงปัจจุบันที่เรียกกว่า Modern Age หรือเฟื่องฟูจนกลายมาเป็น Main Culture ของโลกเรา

พอเริ่มยุคปี 90 Hip Hop ที่เริ่มกลายมาเป็น Mainstrem Culture จะเห็นได้จากการที่มีแฟชั่นมากมายเริ่มใช้แนวทาง Hip Hop อาทิ  Isaac Mizrahi ที่ได้รับอิทธิพลจากช่างลิฟท์ของเขาที่ใส่โซ่ทองชิ้นใหญ่ Collection ของ Isaac ได้รับอิทธิพลอย่างสูงจากแฟชั่น Hip Hop นางแบบใส่เสื้อรัดรูปสีดำ โซ่ทอง เข็มขัดสีทอง แจ็กเก็ตสีดำกับหมวกเฟอร์ แม้แต่ Chanel ในต้นยุค 1990 มีการโชว์แฟชั่นที่รับอิทธิพลจาก Hip Hop อยู่หลายโชว์ หนึ่งในนั้น นางแบบใส่เสื้อแจ็กเก็ตหนังสีดำ และมีโซ่ทอง อีกชุดใส่ชุดยาวสีดำ มีเครื่องประดับหนัก ๆ อย่างโซ่กุญแจสีเงิน

แต่ที่เห็นได้ชัดอีกอย่างของวัฒนธรรม Hip Hop ในยุค 90s คือเริ่มมีการแบ่งเป็นพรรคพวก หรือ Gangster Style และนี้คือจุดเริ่มต้นที่ลิ้งค์ไปยังวัฒนธรรม Street Culture ที่ฮิตๆ กันในปัจจุบัน แต่ละกลุ่มแก๊งค์จะมีสไตล์แตกต่างกันออกไป

อย่างเช่น Rapper จาก West Coat ก็จะนำเอาสไตล์ Mexican-American มาเป็นแบบอย่าง เช่นรอยสักสีดำ สักสัญลักษณ์แก๊งค์ต่างๆ  โผกผ้า Bandanas กางเกงเอวหลุดก้น แต่มีการผสมพสานด้วยกิริยา สัญลักษณ์ทางมือที่ไปเอามาจากวัยรุ่นแอฟริกัน และกลุ่มที่ขึ้นชื่อ และเป็นตำนานก็คือ NWA ที่ประสบความสำเร็จ และได้รับการตอบรับอย่างกว้างขว้าง พวกเขาเป็นตัวแทนของความขัดแย้งที่แสดงออกผ่านทางบทเพลง และก็โดนแบนไปตามาระเบียบเพราะเนื้อหาเพลงที่รุนแรง และตรงเกินไป เรื่องราวของพวกเขาเป็นตำนานจนถูกสร้างเป็นหนังในชื่อเรื่อง Straight Outta Comton

แก๊งค์ NWA

หรือจะเป็น Gangster อีกสไตล์ที่เป็นพวกคนรวยต่างๆ เขาจะแต่งตัวต่างจากพวก Gangster ข้างถนน พวกนี้จะทำตัวเว่อร์ ขับรถแพง ใช้ของแพง และแต่งตัวตามมาเฟีย อย่างในหนัง Scarface โดยพวกเขาจะใส่สูท เชิรต์ผ้าไหม ที่ต่างออกไป จนคนมักจำกัดว่ามันเป็น “Ghetto Fabulous”

Hip Hop นั้นไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการแต่งตัวอย่างเดียว เมื่อมันได้รับความนิยมอย่างมาก ธุรกิจวงการเพลง Hip Hop ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน มันสามารถทำเงินได้เป็นหลายๆ ล้าน จนมีเรื่องธุรกิจค้ายา และอื่นๆ อีกมากมาย จนเกิดเป็นความขัดแย้ง และต้องแยก Hip Hop ออกเป็นสองฝั่งคือ West กับ East ที่สไตล์การแต่งตัว การ Rap ก็ต่างกันออกไป พวกเขาทั้งสองฝั่งมักจะมีเรื่องบาดหมาง และบานปลายจนถึงฆ่ากันก็มี อย่างเช่น 2PAC ของฝั่ง West ที่ถูกยิงขณะออกจากการชม Mike Tyson ชก ก่อนจะตามด้วย Notorius BIG ที่โดนยิงตายในอีก 6 เดือนต่อมา เรียกว่ามันคือสงครามกลางเมืองแบบย่อมๆ

ฝั่งซ้ายคือ West Coast ที่นำโดย 2PAC ส่วนฝั่งขวาคือ East Coast ที่นำโดย Notorius BIG

ความบาดหมางของทั้งฝั่ง East กับ West ก็ยังคงมีต่อมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขัดผลประโยชน์ต่างๆ หรือจะเป็นแนวดนตรีก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ยุคสมัยนี้ก็และ ที่ทำให้มีศิลปินมากมายเกิดขึ้นอาทิ Arabian Prince, Dr. Dre, Eazy-E, and Ice Cube DJ Yella  MC Ren ที่เป็นสมาชิกดั้งเดิมของกลุ่ม NWA อีกทั้ง Baby Fat , Jay-Z , Snopp Dog , Puff Daddy , MC Hammer

Jay-z

Nas

Dr.Dre

Snoop Dog และกลุ่มของเขา

นอกจากดนตรี ศิลปะแขนงอื่นก็ได้รับการยอมรับมากขึ้นอาทิ Graffiti ถูกพัฒนาจนกลายมาเป็นศิลปะร่วมสมัยที่แพร่กระจายไปทั่วโลก อีกทั้งการเต้นก็แตกแยกออกไปอีกหลายสไตล์แต่จุดเริ่มต้นมันก็มาจากวัฒนธรรม B-Boy หรือจะเป็นการดวล Rap อย่างเช่น Rap Is Now ในบ้านเรา ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น มันไม่ได้ถูกจำกัดว่าเป็นเพียงการละเล่นของเด็กข้างถนนอีกต่อไปแล้ว

แต่กระแสมันก็มีมามีไป มีช่วงที่ Hip Hop แผ่วๆ ไปบ้าง แต่ไม่ใช่หายไปเลย เพราะมันโดนกลบด้วยกระแสอื่นๆ ที่มาแทนที่เป็นพัก แต่แล้ว Eminem ก็เหมือนมาจุดไฟให้ Hip Hop มันระเบิดอีกครั้ง เพราะในประวัติศาสตร์ถึงแม้วัฒนธรรมนี้จะได้กระจายไปทั่วโลกแล้วก็ตาม แต่ในวงในลึกก็ไม่มีใครได้รับการยอมรับมากหนักถ้าเกิดคุณไม่ใช่คนผิวสี แต่ Eminem ได้ทำลายกฎเกรณ์ความเชื่อทุกอย่างที่ว่ามา เพราะเขาเป็นคนขาวแท้ๆ ที่มาผลิกโฉมวงการด้วยสไตล์การ Rap ที่แตกต่าง เป็นเอกลักษณ์เข้าถึงคนหมู่มากได้ง่ายขึ้น ปลุกปั่นกระแส Hip Hop ให้กลับมาอีกครั้ง

Eminem

D12

50 Cent

และจากนั้นแนว Hip Hop ก็วนเวียนมีศิลปินมากมาย เกิดขึ้นแม้มันถูกดัดแปลง วิวัฒนาการไปเรื่อยๆ ตามยุคสมัย Hip Hop มีแนวที่หลากหลายมากขึ้น ศิลปินก็เกิดขึ้นทุกวัน เราจึงได้รู้จักกับ 50 Cent และแก๊งค์ G-Unit ของพวกเขา หรือจะเป็น Kanye West บุคคลที่ทรงอิทธิพลในยุค Modern อีกทั้ง Hip Hop กลายพันธุ์อาทิ Wiz Khalifa , Tyga , Lil Wayne , Big Sean หรือแม้แต่ Drake ที่เปลี่ยนสไตล์ว่า Hip Hop ไม่จำเป็นจะต้องพูดเรื่องความลำบากในวัยเด็ก ยา เหล้า อีกต่อไป แล้วก็ไม่ต้องใส่กางเกงใหญ่ๆ เสื้อ Oversize กางเกงหลุดตูดอีกต่อไปแล้ว เรื่อยมาจนถึง ณ ปัจจุบัน สไตล์ Hip Hop ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนถูกกระจายออกมาเป็นวัฒนธรรม Sub Culture อื่นๆ

และนี้ก็เป็นเรื่องราวทั้งหมดของวัฒนธรรม Hip Hop ที่เราเอามาฝาก จะเห็นได้ว่าการสร้างปรากฎการณ์ให้เกิดขึ้นมาเป็นเรื่องง่ายดาย แต่การสร้าง Culture ต้องใช้เวลานานกว่ามันจะฝังลึกลงไป ถ้าเป็นเมื่อ 30 ปีก่อนมีคนบอกว่า Hip Hop จะเป็น Main Culture ของคนทั่วโลกคงเป็นเรื่องตลก และไม่มีใครเชื่อแน่นอน แต่มันก็ได้พิสูจน์ พร้อมก้าวผ่านช่วงเวลานั้นมาจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์โลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หวังว่าคอนเท้นนี้จะถูกใจชาว UNLOCKMEN สาย Rap ทุกคน

Part 1