OUTLAW ICONS – KOENIG TESTAROSSA: A RED REBELLION BORN IN MUNICH

Testarossa คือ Ferrari ที่นิยามยุค 1980s ด้วยเสียงเครื่อง Flat-12, ช่องดักลมข้างตัวถังที่กลายเป็นสัญลักษณ์ และความมั่นใจแบบชายในสูท Classic Italian มันมีทุกอย่างที่ซูเปอร์คาร์ในฝันควรมี แต่สำหรับ Willy König แค่นี้มันยังแรงไม่พอ

Willy König เป็นอดีตนักแข่งและนักธุรกิจชาวเยอรมันที่มีความหลงใหลในความเร็ว เขาเคยคว้าแชมป์ German GT Championship และรถคันแรกที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาลก็คือ Ferrari 365 GT4 BB เมื่อขากลับรู้สึกว่ามัน “ช้าเกินไป” และ “ขาดความดิบ” แบบที่เขาเคยสัมผัสจากสนามแข่ง Willy จึงเริ่มโมดิฟายรถคันนี้ด้วยตัวเอง ผลงานที่ยอดเยี่ยมกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดสำนัก Koenig Specials GmbH ในปี 1977 ที่มิวนิก ประเทศเยอรมนี ด้วยแนวคิดที่ว่า “ถ้ารถจากโรงงานยังไม่พอ… เราจะสร้างมันขึ้นใหม่เอง”

Koenig Specials เริ่มสร้างชื่อจากการโมดิฟาย Ferrari Berlinetta Boxer ด้วยวิธีการที่ตรงกันข้ามกับคำว่า “สุภาพ” พวกเขาไม่สนใจว่าแบรนด์จะคิดอย่างไร สนแค่ว่าลูกค้าต้องการรถที่เร็ว แรง และโดดเด่นที่สุดในถนน

เมื่อ Testarossa เปิดตัว มันกลายเป็นผืนผ้าใบสีแดงที่พร้อมให้ Koenig วาดความคลั่งเข้าไป Koenig Testarossa Competition Evolution II คือเวอร์ชันที่หลุดจากกรอบโรงงานโดยสิ้นเชิง รถถูกเสริมบอดี้ใหม่หมดทั้งคัน ตัวถังกว้างขึ้นด้วยโป่งล้อทรง Group C ช่องดักลมขยายใหญ่แบบไม่มีใครกล้าทำ ไฟหน้าป๊อปอัพถูกถอดออกและแทนที่ด้วยไฟฝังเรียบ ฝาครอบเครื่องเป็นพลาสติกใสโชว์เครื่องยนต์เต็มตา และด้านหลังมีปีกยกสูงเหมือนรถแข่ง Le Mans ใส่ทะเบียน วิ่งจริง

หัวใจของมันคือเครื่องยนต์ F113A Flat-12 ขนาด 4.9 ลิตร ที่ถูกติดตั้งชุด KCE 1000 Turbotronic จาก Koenig Specials เพิ่มเทอร์โบ KKK คู่ อินเตอร์คูลเลอร์ด้านข้าง และระบบไอเสียออกกลางแบบ custom ทั้งหมดนี้ถูกควบคุมด้วยกล่อง ECU จาก MoTeC ที่สามารถปรับแรงดันบูสต์จากแดชบอร์ดได้ทันที ตัวเลขที่ Koenig เคลมคือ 1,000 แรงม้า แม้จะไม่มีการทดสอบอย่างเป็นทางการ แต่แค่เสียงหวีดของเทอร์โบกับแรงจีที่กดคุณติดเบาะก็เพียงพอจะบอกว่านี่ไม่ใช่ Testarossa แบบที่โรงงานผลิต

ภายในรถย้อมด้วยสีแดงทั้งคัน เบาะ bucket ปรับไฟฟ้าหุ้มหนังแดงสั่งทำพิเศษจาก Koenig เข็มขัด Schroth แบบ 4 จุดให้กลิ่นอายรถแข่งแท้ ๆ พวงมาลัย MOMO อยู่หน้าคันเกียร์ dogleg แบบ 5-speed ที่เชื่อมต่อกับเฟืองท้าย limited-slip ด้านหลัง มาตรวัดทั้งหมดเปลี่ยนใหม่เป็นของ Koenig โดยมีจอ MoTeC C125 ฝังอยู่บนคอนโซลเพื่อแสดงค่าทั้งหมดแบบดิจิทัล

Testarossa คันนี้คือรถที่ถูกเปลี่ยนจากเครื่องจักรสปอร์ตแห่งยุค 80s ให้กลายเป็นไอคอนข้างถนนของพวก underground elites รถคันนี้ถูกส่งจากเยอรมนีไปญี่ปุ่น ก่อนจะเดินทางข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมาสู่สหรัฐฯในปี 2023 พร้อมเลขไมล์เพียง 17,000 กม. และเอกสารรับรองความสมบูรณ์เต็มรูปแบบ ไม่มีร่องรอยชนหรือดัดแปลงที่ไม่ได้รับการรับรอง

แม้ Ferrari จะไม่เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ Koenig อย่างเป็นทางการ แต่ความจริงคือ Koenig Specials ไม่เคยได้รับการยอมรับจากโรงงาน พวกเขาไม่ใช่ tuner ที่ Ferrari ร่วมงานด้วย และชื่อ Koenig ไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการของแบรนด์จาก Maranello เลยแม้แต่บรรทัดเดียว แต่ในหมู่นักสะสม นักแข่ง และนักโมฯ ตัวจริง รถอย่าง Koenig Testarossa กลับถูกยกย่องว่า “ทำในสิ่งที่ Ferrari ไม่กล้าทำ” และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของความบ้าบิ่นก่อนยุคที่รถทุกคันต้องผ่านระบบความปลอดภัยและกฎข้อบังคับระดับโลก