Tyler The Creator & Cartier Vintage Collection ส่อง 9 เรือนเวลาตัวท็อปของแรปเปอร์ผู้สร้าง

เอาจริงพ่อหนุ่มแรปเปอร์คนนี้น่าจะเปลี่ยนชื่อจาก Tyler The Creator เป็น Tyler The Collector ได้แล้วนะ เพราะนอกจากจะสะสม Retro Classic Cars อย่าง BMW E30 M3 / Roll-Royce Wraith / Lancia Delta เขาก็ยังสะสมนาฬิกาวินเทจตัวแรร์ ตัวหายาก ตัวโคตรแพง โดยเป็นแฟนของแบรนด์ Cartier ตัวยง ในเหล่าของสะสมของไทเลอร์หลาย ๆ เรือนคือตัวที่หาไม่ได้แล้ว บางรุ่นก็ราคาอยู่ที่ตัวเลข 8 หลักกันเลยทีเดียว !

แต่ก็ต้องยอมรับในรสนิยมการเลือกของวินเทจของไทเลอร์จริง ๆ ว่ามันเหมาะสมกับความเป็นไทเลอร์มาก ๆ เขามองนาฬิกาที่ดีไซน์ ประวัติศาสตร์ โดยไม่สนว่านาฬิกาเรือนนั้นจะทำมาเพื่อข้อมือของผู้หญิงหรือผู้ชาย และนี่ก็คือ 9 Vintage Cartier Watch By Tyler The Creator ที่เราเอามาฝากทุกคนกัน 

ประวัติย่อ ๆ แบบรีบ ๆ : Tyler The Creator (Tyler Gregory Okonma) แรปเปอร์หนุ่มอายุ 32 ปี จากแคลิฟอร์เนียร์ เจ้าของรางวัล Grammy Awards ถึง 2 ตัว และเป็นเจ้าของแบรนด์สตรีทแวร์ Golf Wang 

Cartier Crash (1967)

Price : 1,650,000$

ที่สุดแห่งความแรร์ของแบรนด์ Cartier แต่ละรุ่นคือผลิตออกมาน้อยเพราะว่าทำยากมาก คนคิดค้นนาฬิการุ่นนี้คือ Jean-Jacques Cartier ผู้บริหารของแบรนด์ ว่ากันว่าจุดกำเนิดจริง ๆ ของนาฬิกา ‘Crash Style’ มีเรื่องเล่ามาจาก 2 เรื่องที่ต่างกันซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าเรื่องไหนจริง

เรื่องแรกเกิดขึ้นในตอนปี 60s โดยหญิงชราคนหนึ่งเอานาฬิการุ่น Cartier Baignoire Allongée ที่เป็นทรงอ่างน้ำเข้ามาซ่อม เพราะเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนตร์จนนาฬิกาเรือนโปรดนั้นบิดรูปไปไกลจนเรียกได้ว่าช่างเห็นก็เหงื่อตก แต่ท่ามกลางเรื่องแย่ ๆ เรื่องดี ๆ คือนาฬิกาที่ผิดรูปนั้นสวยราวกับว่าเป็นดีไซน์แบบใหม่ของ Cartier และตรงนั้นเองที่สร้างแรงบันดาลใจดีไซน์ตามนาฬิกาของหญิงชราออกมา

เรื่องที่สองเกิดขึ้นจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้คิดค้นนาฬิการุ่นนี้ Jean-Jacques Cartier ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนตร์ (เหมือนกัน) จนนาฬิกาที่เขาใส่ถูกความร้อนบิดเบี้ยวไม่เหมือนเดิม เกิดเป็นแรงบันดาลใจและชื่อของ ‘Crash Style เปลี่ยนโลก      

Cartier Crash เต็มไปด้วยความงามทางศิลปะราวกับถูกปั้นจากมือของศิลปินเหนือจริง Salvador Dalí ซึ่งเพราะความคลายกับนาฬิกาในภาพวาดอย่าง The Persistence of Memory ทำให้นาฬิการุ่นนี้ยิ่งนิยม ส่งต่อแรงบันดาลใจสู่ Salvador Dalí Softwatch ของแบรนด์ Exaequo Watch ก่อนจะมาอยู่บนข้อมือของ Tyler The Creator  ไม่เท่านั้น รุ่นนี้พี่ Ye / Kanye West กับ Jay-Z สองรุ่นใหญ่ของวงการฮิปฮอปก็มีครอบครองเหมือนกัน (ของ Jay-Z เป็น Skeleton ปี 2015 สวยจัด ๆ)

Tank Louis Cartier (1922)

Price: 11,500$

ถ้าคิดว่ารุ่น Crash ตัวก่อนหน้านี้วินเทจแล้ว มาลองดู Tank Louis Cartier ปี 1922 วินเทจกว่าเยอะ !

สำหรับรุ่น Tank เป็นนาฬิกาที่เกิดขึ้นในปี 1917 โดยทางแบรนด์ได้แรงบันดาลใจงานดีไซน์มาจากรถถังรบของฝรั่งเศส Renault FT-17 ที่ใช้แนวรบด้านตะวันตกช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งถ้าใครเคยเล่นเกม Metal Slug (PS1) จะเห็นว่ารถถังมาสคอตของเกมมีหน้าตาคล้ายคันนี้มาก ตามประวัติศาสตร์บอกว่านาฬิการุ่น Cartier Tank เรือนแรกของโลกถูกมอบเป็นของขวัญให้ John Pershing นายพลผู้บังคับบัญชาของกองทัพ American Expeditionary Force เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะในการรบ   

คนที่เล่น Cartier รู้กันว่าความไอคอนิกของนาฬิกาส่วนหนึ่งมาจากการที่ ‘เจ้าหญิงไดอาน่า (Princess Diana)’ เลือกใส่รุ่นนี้ด้วย นาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้วยดีไซน์หน้าปัดตัวเลขโรมันอยู่คู่กับเข็มบอกเวลาสีน้ำเงิน พร้อมตัวเรือนสี Yellow Gold เข้าคู่กัน ทำให้เป็นอีกหนึ่งเรือนเวลาที่ดูเรียบง่ายแต่ดูดี แสดงถึงรสนิยมอันยอดเยี่ยมของผู้สวมใส่

Cartier Petit Cylindre (1950)

Price : 6,500$

ความเจ๋งที่ทำให้เรือนเวลารุ่นนี้ถูกตั้งชื่อว่าทรงกระบอก (Cylinder) เป็นเพราะทางแบรนด์ได้ดีไซน์ตัวนาฬิกาให้เห็นว่าเมื่อมองจากด้านข้างจะเป็นรูปทรงกระบอกเลย ด้วยตัวกระจกที่หน้าปัดจะไม่ได้แบนเหมือนนาฬิกาทั่วไป นับว่าเป็นงานดีไซน์ที่แปลกใหม่ประจำยุคนั้น

Cartier Petit Cylindre เป็นนาฬิกาที่ทำขึ้นสำหรับผู้หญิงในยุค 50s หน้าปัดสีขาวตัวเลขอาราบิคสีดำสุดมินิมอล มีลายเซ็นต์ของ Cartier อยู่ตรง 12 นาฬิกา ใส่แล้วให้ความรู้ของผู้หญิงเก๋ ๆ อย่าง Audrey Hepburn , Marilyn Monroe สวิงในบาร์แจ็ซด้วยเพลงของ Ella Fitzgerald 

Cartier Tank Obus (1929)

Price : 6,240$

อีกรุ่นดังของแบรนด์ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Military Fashion ก็คือไลน์ผลิตของ ‘Tank’ เรือนเวลาจากรถถังทหาร แต่ใน Cartier Tank ก็มีลูกเป็ดแตกแถวอย่างรุ่น Obus ที่ถูกเรียกว่ารูปร่างไม่เหมือนคนอื่นเลย ตรงที่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส (Square) ประวัติของรุ่นนี้ย้อนไปไกลถึงปี 1929 ความพิเศษของนาฬิการุ่นนี้อยู่ตรงงานดีไซน์ในส่วนของ ‘ขานาฬิกา (Lugs)’ ที่มีลักษณะเหมือนลูกกระสุนเล็ก ๆ มีความแปลกตาต่อให้แยกส่วนออกมาเป็นชิ้นเดียวก็รู้ได้เลยว่ามาจาก Obus

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ Cartier Tank Obus เป็นที่นิยม เพราะตัวหน้าปัดที่ค่อนข้างกว้างช่วยให้อ่านค่าเวลาได้ง่าย ตัวเรือนเป็นสี Yellow Gold หรูหรา ขอบหน้าปัดสลักด้วยเลขโรมัน จึงทำให้หน้าปัดพื้นหลังสีขาวมีแค่คำว่า ‘Cartier’ กับ ‘Paris’ เท่านั้น พร้อมกับเดินเวลาด้วยเข็มนาฬิกา Blued Steel épée อันสวยงาม

Tank Must de Cartier (2021)

Price : 3,450$

เรียกว่าสาย Tank ตัวจริง สำหรับรถถังในคอลเลกชั่นของไทเลอร์ตัวนี้ คือเรือนเวลาที่ต่อยอดมาจากบรรพบุรุษ ‘Must de Cartier Tank’ เป็นนาฬิการุ่นแรกของแบรนด์ Cartier ที่ไม่ได้ทำขึ้นจากทอง 18k gold หรือ Platinum

Tank Must de Cartier ได้รับแรงบันดาลใจจากสีโมโนโครมของรุ่น Tank Must ปี 80s ปรับดีไซน์ใหม่เอาโลโก้ double C icon ออก กับคำว่า ‘Must de บนนาฬิกาออก แล้วปรับให้มีความมินิมอลมากขึ้นโดยการเหลือแค่คำว่า Cartier กับ Swiss Made ตัวเล็ก ๆ ข้างล่าง ตัวนาฬิกาทำงานด้วยระบบกลไกควอตซ์ (นาฬิกาที่ทำงานด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่) กระจกแซฟไฟร์ หน้าปัดเคลือบแลคเกอร์ พร้อมสายหนังจระเข้สีเข้ากัน ตัวเรือนเป็น Vermeil Case สวยงาม

Cartier Baignoire (1973)

Price : 6,900$

เรือนเวลาทรงวงรี (Oval) ตัวแรกของแบรนด์ Cartier มีจุดกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1912 โดย Louis Cartier (หลานชายของ Louis-François Cartier) และใช้เวลาพัฒนาเรื่อยมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นนาฬิกาวงรีสมัยใหม่อย่างที่เห็นกันในปัจจุบันตอนปี 1958 และตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า Baignoire (แปลว่า ‘อ่างอาบน้ำ’) ตอนปี 1973 แต่ว่ากันว่าจริง ๆ แล้วทรงวงรีของนาฬิกาไม่ได้หมายถึงอ่างอาบน้ำ แต่คือที่นั่งสำหรับ VIP ในโรงละครโอเปร่าสำหรับคนรวยหรือชนชั้นสูงที่มาชมละคร 

นี่คือเรือนเวลาต้นเรื่องของหญิงชราผู้ให้กำเนิด Cartier Crash ที่เราเล่าไปก่อนหน้านี้ และเป็นอีกครั้งที่ไทเลอร์เลือกใส่นาฬิกาที่ทำขึ้นเพื่อข้อมือของผู้หญิง ดูเหมือนจะเป็นไซส์ที่ถูกใจเขาล่ะ อ้อ ๆ แล้วก็เพื่อนสนิทของแรปเปอร์คนนี้อย่างคุณ Kendall Jenner ก็ใส่นาฬิกาทรง Baignoire ด้วยเหมือนกัน

Santos Dumont Cartier (1904)

Price : 4,200$

นาฬิกาสำหรับนักบินจากปี 1904 ที่ตั้งชื่อตาม Alberto Santos-Dumont นักบินเพื่อนของ Louis Cartier (ช่างนาฬิกาและทายาทรุ่นที่ 3 ของแบรนด์) ผู้ชอบบ่นว่านาฬิกาข้อมือสำหรับใส่ระหว่างขับเครื่องบินฟังก์ชั่นใช้งานจริงไม่ได้เลยว่ะ เพื่อนรักบ่นแบบนี้ เจ้าของแบรนด์นาฬิกาชื่อดังของโลกจึงออกแบบนาฬิกาทรงเลขาคณิตที่รูปทรงได้รับงแรงบันดาลใจจากนาฬิกา Square Pocket แล้วปรับสไตล์ให้มีความ Art Deco บันทึกช่วงเวลางานศิลปะของยุค 1920s – 1930s

น่าจะเป็นนาฬิกาสำหรับผู้ชายไซส์ที่ใหญ่สุดในคอลเลกชั่นของไทเลอร์ (43.5 mm x 31.4 mm) ความสำคัญคือ Santos Dumont Cartier เป็นนาฬิกาข้อมือรุ่นแรก ๆ ของโลกด้วย สวยด้วยหน้าปัดทรงเลขาคณิต ตัวเรือนเป็น Yellow Gold ทอง 18k ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์ แล้วไทเลอร์เลือกใช้สายหนังสีชมพูสุด Color Ful สมกับเจ้าของแบรนด์ Golf Wang สุด ๆ

Cartier Coulissant (1946)

Price : 13,000$

Cartier Coulissant เป็นโมเดลที่เรียกอีกชื่อว่า Baguette มาในไซส์บางมากเป็นเหมือนกับกำไลข้อมือด้วยซ้ำ (18×25 mm) บางครั้งจึงถูกเรียกว่าเป็นเครื่องประดับพอ ๆ กับที่เป็นนาฬิกา ตัวเรือนYellow Gold มีฝาปิดปกคลุมหน้าปัดในรูปแบบของหน้าต่างบานเลื่อน ได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะสไตล์ Art Deco เดินระบบด้วยกลไก LeCoultre Duoplan เป็นนาฬิกาวินเทจที่ประมูลมาในราคาสูงลิ่ว

Cartier Pebble (2022)

Price : 40,800$

ที่สุดแห่งความแรร์ระดับโคตรหายากเพราะทำขึ้นเพียง 150 เรือนทั่วโลกเท่านั้น

Cartier Pebble เรือนเวลาทรงก้อนหิน เป็นรุ่นที่รีดีไซน์ใหม่จากรุ่นต้นกำเนิดปี 1972 เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 50 ปี ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ทำโดย Cartier London และเรียกกันในอีกชื่อนึงว่า Baseball ความโหดก็คือว่ารุ่นวินเทจของตัวนี้ที่เป็นไลน์ผลิตแรกปี 1972 ถูกประมูลซื้อไปสูงถึง 405,000$ คิดเป็นราคาเกือบ 15 ล้านบาท !

การสร้างนาฬิกาปี 2022 เพื่อเคารพแรงบันดาลใจจากดีไซน์เหนือกาลเวลาจากปี 70s นั้น ตัวเรือนใช้ทอง 18K หัวหมุนเข็มนาฬิกาสีน้ำเงินเข้ากันกับสีทองของตัวเรือน พร้อมเข้าคู่ชุดสีกับสายนาฬิกา Peanut Butter ให้อารมณ์ของความวินเทจที่ไม่มีวันตกสมัยเลย

Source

1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9 / 10