

CARS
ชวนหาคำตอบว่าทำไมเงิน 1.1 ล้านบาทถึงคุ้มค่าตัวของ NEW MG HS
By: unlockmen August 19, 2020 187581
สำหรับผู้ชายอย่างเราการตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคันเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญและเชื่อว่าแต่ละคนมีเหตุผลในการเลือกซื้อรถที่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไป แต่นอกจากเรื่องของสมรรถนะที่เป็นความต้องการพื้นฐานแล้ว การใช้งานรถยนต์ในปัจจุบันยังมีเรื่องที่เราควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความปลอดภัย ความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีสนับสนุนผู้ขับขี่ที่ทันสมัยและดีไซน์ที่ชวนหลงใหลซึ่งทั้งหมดสามารถมีรวมอยู่ในรถยนต์คันเดียวในราคาที่คุ้มค่าได้
อย่างไรก็ตามถ้าพูดถึงเรื่องความคุ้มค่า คงพลาดไม่ได้ที่ต้องพูดถึง C-SUV รุ่นล่าสุดจากค่ายรถยนต์เอ็มจีอย่าง NEW MG HS ที่วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนมาหาคำตอบไปพร้อมกันว่า ทำไมราคาค่าตัว 1.1 ล้านบาท ถึงเป็นราคาที่สุดแสนจะคุ้มสำหรับค่าตัวของยนตรกรรมคันนี้ มาเจาะลึกลงรายละเอียดความคุ้มค่าของรถคันนี้ไปพร้อมกัน
เริ่มต้นที่มุมมองแรกที่ทุกคนจะสัมผัสได้จากรถยนต์คือ เรื่องของงานดีไซน์ NEW MG HS เป็นเอสยูวีที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยทีมออกแบบเน้นผสานความหรูหราเข้ากับความสปอร์ตและถ่ายทอดออกมาเป็นเส้นสายตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่โค้งมน
ในเวลาเดียวกันรถยนต์คันนี้ยังคงจุดเด่นในงานดีไซน์ของ MG ด้วยกระจังหน้าซึ่งมาพร้อมแนวคิด ‘Stella Magnetic Field ที่ได้แรงบันดาลใจ มาจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้าที่ดึงดูดเข้าหากัน โดยกระจังหน้าและเส้นสายของรถเข้ากันได้อย่างลงตัวกับไฟหน้าแบบ LED Projector ที่พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) และไฟท้ายแบบ Space Light Field
ในส่วนของไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้าและหลังจะแสดงผลไล่ระดับแบบ Sequential ซึ่งช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับเอสยูวีคันนี้ยิ่งขึ้น พร้อมเสริมความดุดันด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว ในรุ่น D และ X และล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น C ถือว่าให้มาแบบจัดเต็มตั้งแต่หัวจรดท้ายคัน
เข้ามาดูที่งานดีไซน์และฟังก์ชันเสริมภายในห้องโดยสารของ NEW MG HS ที่ได้รับการออกแบบมาให้มีความโค้งมนโอบรับสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยตกแต่งด้วยวัสดุภายในที่ให้สัมผัสนุ่ม (Soft Touch) ครอบคลุมบริเวณคอนโซลหน้าและแผงประตูทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
เพิ่มความพรีเมี่ยมด้วยเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าแบบ Bucket Seat ทรงสปอร์ตสีดำสลับแดงที่มีส่วนหุ้มด้วยวัสดุ Alcantara (เฉพาะรุ่น X) โดยเบาะหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 มาพร้อมพนักพิงปรับองศาได้และที่วางแขนขนาดใหญ่ ภายในโดดเด่นด้วยไฟในห้องโดยสารแบบ Interactive Ambient Light ที่มีแสงเปิดต้อนรับทันทีที่เปิดประตู โดยสามารถปรับโทนแสงภายในห้องโดยสารได้มากถึง 64 เฉดสี รวมทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนแบบอัตโนมัติตามโหมดการขับขี่ แต่ที่น่าจะถูกใจหนุ่ม ๆ หลายคนคือหลังคาซันรูฟบานใหญ่ในแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ที่มีขนาด 1.1 ตารางเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางทั้งจุดหมายปลายทางใกล้บ้านรวมถึงการเดินทางระยะไกลท่ามกลางธรรมชาติในโปรแกรมวันหยุดได้เป็นอย่างดี
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นเพราะภายในห้องโดยสารของ NEW MG HS ยังติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่สนับสนุนการขับขี่และโดยสารอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลที่มีมาตรวัดแบบ Interactive Multi – Function Display ขนาด 7 นิ้ว ที่จะแสดงข้อมูลทั้งเรื่องการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง พร้อมหน้าจอหลักแบบ Smart Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว
ขณะเดียวกันห้องโดยสารยังใช้งานระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone โดยมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังพร้อมกุญแจระบบ Smart Key และปุ่ม Push Start โดยพวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชันที่ช่วยให้สั่งงานได้รวดเร็วมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นห้องโดยสารที่ทันสมัยและสะดวกสบายสำหรับทั้งตัวผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกตำแหน่งที่นั่ง
ด้านขุมพลัง NEW MG HS มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนเป็นระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7-Speed ที่ให้พลังสูงสุดถึง 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตัน-เมตรในรอบต่ำเพียง 1,700 รอบต่อนาที
โดยรุ่น X มาพร้อมปุ่มปรับโหมดการขับขี่ที่สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ถึง 4 โหมด คือโหมด Normal สำหรับการขับขี่แบบทั่วไป โหมด Eco เพื่อการประหยัดน้ำมัน โหมด Sport เพื่อเพิ่มความสนุกและคล่องตัวในการขับขี่ ปิดท้ายด้วยโหมด Custom ที่สามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ตามต้องการ พร้อมสนองความต้องการของหนุ่ม ๆ ที่อยากเปลี่ยนอารมณ์การขับให้ทรงพลังมากขึ้นด้วยปุ่ม Super Sport บนพวงมาลัยที่ช่วยเร่งพลังการขับขี่ให้แรงขึ้นได้ด้วยเพียงปลายนิ้วสัมผัส
NEW MG HS ยังมาพร้อมกับระบบช่วงล่างตามแบบ Euro Tuning Suspension ที่ให้ความนุ่มสบายและเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson Strut และช่วงล่างด้านหลังแบบ Multi-link ที่รองรับการขับขี่ในสภาพถนนที่หลากหลาย พร้อมรองรับการเติมน้ำมัน E85 เป็นการเพิ่มทางเลือกด้านพลังงานให้กับผู้ใช้งานทุกคน
อย่างไรก็ตามถ้าพูดถึงความคุ้มค่าของ NEW MG HS ที่แตกต่างและเหนือกว่า C-SUV คันอื่น ๆ คงจะเป็นอะไรไปได้ไม่นอกจากระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถยนต์สามารถสื่อสารกันได้ ผ่านฟังก์ชันอัจฉริยะไม่ว่าจะเป็น Smart Command ระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยที่สามารถควบคุมการโทรออก ควบคุมระบบเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ ระบบเปิด-ปิดหน้าต่างฝั่งคนขับและระบบเปิด-ปิดหลังคาซันรูฟได้ในฟังก์ชันเดียวตอบโจทย์หนุ่ม ๆ ที่ชอบขับรถท่องเที่ยวแบบไม่ต้องวางแผนการเดินทางด้วยการค้นหาจุดที่น่าสนใจ (Point Of Interest) ผ่าน Navigator เพื่อวางแผนการท่องเที่ยวของตัวเองได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังสามารถสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถหรือเลือกสั่งผ่าน MG Mobile Application บนสมาร์ตโฟนได้อีกด้วย
Smart Connect ที่สามารถค้นหาเพลง ค้นหาร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรม รวมถึงอัปเดตข่าวสารในปัจจุบันและแสดงผลการจราจรบนหน้าจอในรถ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดคือ Smart Check ที่สามารถตรวจสอบสถานะ และตรวจเช็ครถได้อย่างง่ายดาย รวมถึงสามารถสั่งการล็อกหรือปลดล็อกประตูรถ ตรวจสอบตำแหน่ง แจ้งเตือนเมื่อพบสิ่งผิดปกติและช่วยค้นหาศูนย์บริการ รวมถึงการบันทึกการดูแลรักษารถตามระยะ ผ่าน MG Mobile Application ซึ่งถือเป็นฟังก์ชันอัจฉริยะที่ช่วยให้เราดูแลรักษารถยนต์ได้สะดวกสบายมากขึ้น
ความคุ้มค่าของเอสยูวีคันนี้ยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะ NEW MG HS ยังจัดระบบความปลอดภัยมาให้แบบครบครันเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ทุกเส้นทาง เริ่มจากโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ที่แข็งแรง พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยเหนือระดับมาตรฐานยุโรป หรือ Advanced Synchronized Protection System มากถึง 25 ระบบ
ประกอบด้วยระบบ Synchronized Protection System ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรกและช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ 14 ระบบ อาทิ ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้รถพลิกคว่ำ ARP (Anti Rolling Program) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) อีก 11 ระบบ ประกอบด้วย
นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังเสริมความปลอดภัยให้อีกขั้นด้วยถุงลมนิรภัย 6 จุด และเพิ่มมุมมองที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วยกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor)
* อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น
ทั้งหมดคือความคุ้มค่าของรถยนต์เอสยูวีอย่าง NEW MG HS ในรุ่น X ที่มีค่าตัวอยู่ที่ราคา 1,119,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน NEW MG HS ยังรถในรุ่น D ที่มีราคา 1,019,000 ล้านบาทและรุ่น C ที่มีราคา 919,000 ซึ่งรถแต่ละรุ่นมีออปชันความคุ้มค่าคุ้มราคาที่แตกต่างกันไป
สำหรับหนุ่ม ๆ ที่สนใจในรถยนต์เอสยูวีอย่าง NEW MG HS สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ mgcars.com หรือไปสัมผัสและทดลองขับรถคันจริงของ NEW MG HS ได้ที่ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เอ็มจีที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ
ถือเป็นรถยนต์อีกคันที่ไม่ควรพลาดโดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ที่อยากเป็นเจ้าของรถยนต์ที่คุ้มราคา เพราะเอสยูวีคันนี้ถือเป็นคำตอบที่ควรได้รับการพิจารณาเป็นตัวเลือกแรกอย่างไม่ต้องสงสัยสำหรับคนที่มองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างครบครันในราคาที่เอื้อมถึง