

Business
ทำงานเก่ง ทำไมไม่ได้เป็นหัวหน้า? เฉลยปัญหาโลกแตกที่ทำให้คุณไม่โตจากสิ่งที่ทำ แม้จะโปรแค่ไหนก็ตาม
By: unlockmen January 10, 2019 134218
ทำมากี่ปีดีดักก็ยังอยู่ที่เดิม หัวหน้าที่ดีแต่สั่งให้เราทำโน่นทำนี่เอาเข้าจริงก็ไม่เห็นว่าจะเจ๋งกว่าเราสักอย่าง กูนี่แหละมดงานหาเงินเข้าบริษัท นี่เป็นเรื่องที่คุยกันเสมอนอกฤดูโปรโมตตำแหน่งและยิ่งใกล้ช่วงโบนัส เรื่องนี้ยิ่งเดือดระอุขึ้นกว่าเดิม
เพื่อไขปัญหาโลกแตกให้กระจ่างว่าทำไมเราทำดีไม่ได้ดี หรือบอสจะตาบอดมองไม่เห็นความสามารถของเราถึงไม่ได้เลื่อนขั้นให้ แต่ดันไปเลือกคนอื่นแทน UNLOCKMEN ได้รวบรวมข้อมูลคลายสงสัยมาแบ่งปันแล้ว ลองดูว่านอกจากการเป็นเจ้าพ่อเทพด้านสกิลการทำงานแล้ว คุณสมบัติเหล่านี้คุณขาดมันอยู่ไหม เพราะถ้าคุณเป็นคนแบบเดียวคำอธิบายด้านล่าง นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้านายไม่เลื่อนให้คุณเป็นหัวหน้ากับเขาสักที
เรื่องง่าย ๆ ที่ไม่ง่ายเอาเสียเลยคือคุณไม่ค่อยมีลมหายใจแบบเดียวกับองค์กรเท่าไหร่ ใส่ใจแต่งานที่ตัวเองทำมากเกินไป ทำให้ต่อให้ผลงานโคตรเด่นแค่ไหนก็ไม่มีวันโตได้มากกว่าเดิม เพราะเจ้านายคิดว่าถ้าเขาโปรโมตคุณขึ้นมา เมล็ดพันธ์ุต่าง ๆ ในองค์กรคงไม่ได้ดอกผลในทางเดียวกันแน่ ๆ เนื่องจากคุณดันไม่เข้าใจวิธีคิดขององค์กร กำไร การวางแผน เป้าหมาย สภาพแวดล้อมที่มีอยู่สักนิด
ลองคิดสภาพว่าถ้าองค์กรเป็นคนหนึ่งคน คุณคือ Head ของบริษัท เราให้คุณเป็นส่วนหัวที่กระจายหน้าที่ไปส่วนอื่น แต่คุณดันทำผลงานโดดเด่นเฉพาะของตัวเองเท่านั้น หัวก็จะโตเอา ๆ แต่ตัวด้านล่างลีบเพราะการเติบโตไม่กระจายไปส่วนอื่นเลย มันก็ไม่ต่างจากการทำให้องค์กรเป็นโปลิโอ ขาลีบก็เดินไปไม่ได้ แขนลีบก็หยิบจับอะไรไม่ได้อยู่ดี สู้เขาเอาคนที่ไม่ต้องเก่งเท่าคุณแต่ทำให้องค์กรเติบโตมาทำ ยังไงมันก็ดีกว่าเห็น ๆ
ส่วนใหญ่คุณเห็นใช่ไหมว่าผู้นำดีแต่พูด ทว่าทำไม่เก่งเท่าที่คิด เหตุผลเพราะมันคือคุณสมบัติที่ต้องมี คนที่เป็นหัวหน้าจำเป็นต้องมีสกิลพูดให้เก่งกว่าหรือเทียบเท่ากับการทำงาน เพราะเขาคือคนที่ต้องประสานงานและสั่งการให้คนอื่นทำตาม ดังนั้น 2 สิ่งที่ต้องทำจากการเปิดปากของเขา ได้แก่
คุณเคยได้ยินการเปรียบเทียบที่ว่า คนนี้เป็นคนเก่ง แต่สอนไม่เก่งบ้างไหม นี่คืออีกเหตุผลสำคัญของการเลือกคนขึ้นมาเป็นผู้นำ ผู้นำที่ดีไม่เพียงแค่ความเก่งเท่านั้นที่ต้องมี แต่ควรถ่ายทอดสิ่งดี ๆ ให้ลูกน้องได้ องค์กรเขาเลยเลือกคนที่สามารถกระจายความเก่งในมือสู่คนอื่นได้ดีเพราะมันแปลว่าในระยะยาวทุกคนจะเก่งขึ้น แต่ถ้าได้คนที่หวงความเก่ง หรือสอนไม่เก่งมา การพัฒนาคนก็อาจหยุดชะงักอยู่แค่นั้น
สูตรการขยายองค์กรเกิดขึ้นจากสองทาง
ถ้าคนไม่เพิ่มก็ต้องเพิ่มความสามารถของคนที่มีอยู่เท่านั้น
หัวหน้าที่ยิ้ม หัวเราะ และให้อภัยเก่ง ไม่ได้แปลว่าเขาไม่ทุกข์ร้อนหรือฉลาดน้อยกว่า แต่เขารู้จักวางตัวเองให้เหมาะสม หากคุณพลาดแล้วเขายังพาคุณไปเลี้ยงข้าวแทนที่จะด่าทั้งที่ตัวเขาเองก็ต้องขึ้นเขียงเรื่อง Kpi เหมือนกัน ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของความเข้าใจและการซื้อใจกันที่ใช้เหตุผลเหนืออารมณ์ทั้งสิ้น
เพราะโลกใบนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แต่การจี้ตำหนิจุดเล็กน้อยเพียงเพราะคุณเก่งกว่า มันจะทำให้เขารู้สึกหมดอาลัยตายอยากแทน แถมกังวลที่จะเสนออะไรเพิ่มด้วย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คนเพอร์เฟกต์หรือคนเก่งส่วนมากมักตายน้ำตื้นทั้งจากการจับผิด รวมถึงความสะดวกใจแก้ไขงานที่พลาดให้ถูกใจตัวเองมากกว่าคอมเมนต์และรอแก้ไข จนกลายเป็นการดึงงานมาทำเพียงลำพัง ไม่กระจายงาน ผลสุดท้ายคุณภาพงานที่ถือก็ลดลงโดยไม่จำเป็นจากงานที่กองล้นมือ
ความเก่งสำคัญกับงาน แต่หัวหน้าสำคัญที่การยอมรับ ถ้าคุณคือคนเก่งที่คนทั่วไปไม่ยอมรับ ไม่อยากทำงานด้วย มันก็ไม่ต่างจากการทำงานลำพัง ดังนั้น คาแร็กเตอร์ของการเป็นหัวหน้าและลักษณะนิสัยที่เอื้อต่อการทำงานเป็นทีมจึงเป็นคำตอบสำคัญของการเลื่อนขั้นนอกจากความเก่งกาจ
คนทำงานเก่งบางคนรับฟังไม่เก่งอย่างที่คิด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเก่งที่มีบดบังและตัดสินว่าสิ่งนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่คำว่า “ดีที่สุด” ในยุคนี้มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เกิดการทำงานแบบ startup ขึ้น ดังนั้น คนที่ได้รับเลือกส่วนมากมักเป็นคนที่อินเนอร์เรื่องการฟังเสียงคนอื่นอย่างมีเหตุผลมากกว่าคนเก่งที่ไม่พร้อมฟังใคร
หากเทียบคนเก่งเป็นเพชร หัวหน้าไม่ต่างจากนักเจียระไนที่ทำให้ก้อนดินส่องประกายและฝังให้กลายเป็นเครื่องประดับสวยงาม แม้เขาจะไร้ประกายในตัวเอง ก็ทำให้ร้านจิลเวลรี่ขายได้และมีกำไร นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้วันนี้นักเจียระไนเพชรมีน้อยกว่าจำนวนของเพชรหลายเท่าตัว
เช่นเดียวกับความเก่ง เพราะความเก่งมันฝึกกันได้ แต่ความเป็นผู้นำคือคุณสมบัติที่พูดง่ายแต่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้อย่างแท้จริง