

Entertainment
CONVERSATION WITH “LOMOSONIC” เส้นทางดนตรีและ ATTITUDE เท่ ๆ ของร็อกบ้าดีเดือด
By: unlockmen July 3, 2018 111968
ถ้าถามถึงวงที่เล่นสดได้ถึงใจคอเพลงชาวไทยกันที่สุด ชื่อของ LOMOSONIC ต้องติดอันดับอย่างแน่นอน ใครที่เคยดูวงนี้เล่นสด หรือ Live Session ของพวกเขาจะรู้เลยว่าทำไมวงนี้ถึงขึ้นชื่อเรื่องการแสดงสด ในทุกคำปลุกใจ ทุกถ้อยคำที่ยกให้แฟนเพลงเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของการก้าวเดินในวงการนี้ นั่นคือจุดสำคัญที่ทำให้แฟนเพลงรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับวง ไม่ใช่แค่กลุ่มคนที่ติดตามผลงานเพลงเท่านั้น UNLOCKMEN จะพามาพูดคุยกับเบื้องหลังความตั้งใจของวง และมุมมองจากนักดนตรีที่มีต่อแฟน ๆ
เรามาถึงในงาน “SANAMLUANG MUSIC WEDDING PARTY” ที่เราได้เจอศิลปินอินดี้มากหน้าหลายตาที่ทยอยเข้ามาในงานเรื่อย ๆ ระหว่างนี้ เราได้นั่งพูดคุยกับ LOMOSONIC ด้วยความเป็นกันเอง ซึ่งสองชั่วโมงที่ผ่านไปกับการพูดคุย ผ่านไปด้วยความเพลิดเพลิน เสียงหัวเราะ กับ Attitude จากพวกเขาที่ชวนให้เรากระตุกคิดอะไรบางอย่าง
อัพเดตหน่อยว่าช่วงนี้ทางวงทำอะไรกันอยู่บ้าง ?
บอย : “ปล่อยซิงเกิ้ลล่าสุดครับที่ Featuring กับพี่ป๊อด โมเดิร์นด็อก เพลง “หากโลกนี้ไม่มีความรัก” โฟกัสไปที่ทัวร์ซะส่วนใหญ่ หลังจากนี้ก็มีทัวร์ต่างประเทศอีกครับ โปรเจ็กต์ร่วมกับ GMM Grammy และสนามหลวงมิวสิกในชื่อ Hub Of Indies ครับ คือเรายินดีต้อนรับน้อง ๆ เพื่อน ๆ ศิลปินอินดี้ทุกรูปแบบ ไม่จำกัดแนวเพลง มาทำงานกับพวกเราครับ”
สำหรับอัลบั้ม Anti-Gravity ดูจะมีกลิ่นอายของ Electronic Music ทำไมวงถึงสนใจดนตรีที่จะทำแนวนี้ ?
ออตโต้ : “จริง ๆ เราเริ่มต้นด้วยอย่างนั้นมานะ ”
บอย : “พื้นฐานการทำงานของวง จากชุดแรกมาชุดสอง มันมีการ Twist อะไรหลายๆอย่าง ชุดสองมาชุดสาม เราเริ่มรู้สึกว่าเราควรหา Material ใหม่ ๆ จริง ๆ ไม่ได้โฟกัสว่าต้อง Electronic Music เราพยายามทำให้มันมีพัฒนาการ ถ้าเราย่ำอยู่กับที่เหมือนกับเราออกอัลบั้มซ้ำ เปลี่ยนเนื้อทำนอง โครงสร้างเหมือนเดิม สุดท้ายคนที่เบื่อคือเราเอง”
“ถ้าเราไม่ชอบงานตัวเอง แต่มันยังอยู่กับเราไง อยู่ไปจนลูกบวช จนตาย อยู่กับสิ่งที่เราไม่ชอบ” – บอย LOMOSONIC
อัลบั้ม Anti-Gravity กระแสตอบรับจากแฟน ๆ มีบ่นเรื่องแนวเพลงที่เปลี่ยนไปบ้างมั้ย ?
ทุกคน : “เป็นปกติครับ”
ออตโต้ : “บ่นครับ ทำเหมือนเดิมก็บ่น”
บอย : “มีแบบ ทำไมไม่ทำเหมือนชุดแรกอะพี่ ? เราก็ไปว่าอะไรเขาไม่ได้ครับ ความชอบคนมันเป็นอย่างนั้น ”
“บ่นเป็นปกติครับ แต่ถ้าจะให้มาบอกให้เรารู้สึกว่าเราต้องทำงานแบบไหน เราก็ต้องเข้าใจว่าคนที่เข้ามาวิจารณ์เราบนอินเตอร์เน็ตมันมีอยู่แล้ว เขามีสิทธิ์จะพูด เราก็มีสิทธิ์ที่จะทำงานเหมือนกัน” – ออตโต้ LOMOSONIC
พอโดนบ่นอย่างนี้แล้ว หากมีอัลบั้มชุดใหม่ยังอยากเปลี่ยนแนวเพลงไปเรื่อย ๆ มั้ย ?
ออตโต้ : “คิดว่าคงต้องเปลี่ยน แต่ Core Idea ของสิ่งที่เราทำมา ผมว่าด้วยความที่เราทำงานเองเกือบทั้งหมด ยังไงก็จะออกมาจากพวกเราทั้งหมด ยังไงก็มีลายเซ็นของพวกเราที่อยู่ในนั้นอยู่แล้ว”
บอย “ออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่นักดนตรีที่เก่ง แต่ตอนที่เราออกอัลบั้มสี่ เราจะเก่งกว่าอัลบั้มสาม ถ้าเทียบกับคนอื่นอาจยังไม่เก่งแหละ แต่มันจะดีขึ้น เวลาผ่านไป เวลาวงเด็ก ๆ ออกมา จะรู้สึกว่าเด็กเดี๋ยวนี้มันเก่งจัง ณ เวลานี้มึงเก่งมาก แต่ถ้าไม่พัฒนาตัวเอง สักวันจะโดนเด็กตบเอา มึงต้องพัฒนาตัวเอง มี Input หลัง ๆ เราเริ่มปล่อย ต่างคนต่างไปหาแรงบันดาลใจ ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา พอได้อะไรกลับมาแล้วมันมีประโยชน์นะ”
“คนเคยว่าเราพูดเยอะบนเวที เราก็คิดนะ ลองไม่พูดดู สุดท้าย Period of time ตอนนั้น มันเข็นยังไงก็ไม่ขึ้น คนก็ไม่เข้าใจไง คนที่มาด่าไม่เคยมาดูหรอก” – บอย LOMOSONIC
ตั้งแต่ทำวงมา คิดว่าอัลบั้มไหนที่ยากที่สุด ?
บอย : “อัลบั้มแรกครับ”
ออตโต้ : “อัลบั้มแรกครับ”
ปิติ : “ผมว่าอัลบั้มสี่ครับ เป็นครั้งแรกที่เรามีส่วนร่วมเยอะมาก ตั้งแต่ช่วง Demo จน Production การเปลี่ยนแปลง ย้ายค่าย มันมีหลายปัจจัยมาก”
ยังอยากทำ MV เองอยู่มั้ย ?
ออตโต้ : “พูดยาก เพราะคนทำไม่อยู่ (หัวเราะ)”
บอย : “ชิ้นงานเนี่ย มันออกมาจากพวกเรา ถ้าเรามี Messege ที่แน่นหนามากพอ ก็คงออกมาเป็นเราอยู่ดี คงไม่ปล่อยให้คนอื่นทำจนออกมา เราดูแล้วไม่ชอบ”
ทำไมสินค้าของวง Lomosonic ถึงขายดีมากมีวิธีมองตลาดแฟนเพลงอย่างไร ถึงผลิตสินค้าออกมาได้น่าเก็บเเละถูกใจแฟนเพลงขนาดนี้ ?
ออตโต้ : “ป้อมเป็นคนจีนครับ เลยขายของเก่ง (หัวเราะ)”
บอย : “วงดนตรีวงนึงควรเริ่มมาจากเพลงครับ แต่ด้วยบริบทตอนนี้พฤติกรรมของผู้บริโภค Generation ที่ขับเคลื่อนมันไม่เหมือนสมัยเราแล้ว อะไรที่เท่แล้วติดตัวเขา เป็นเราก็ซื้อ มีเสื้อใส่ไม่มีเพลงไม่เป็นไร มันไม่ใช่ความผิดของเขาอีกที่ชอบซื้อเสื้อมากกว่าซีดี”
ปิติ : “ด้วยความที่เราเป็นนักศึกษาสถาปัตย์ฯอยู่แล้ว เราชื่นชอบ Art เราชื่นชอบ Design เราก็จะมี Core มีภาพในหัว หรือ Designer คนไหนที่เหมาะกับวง เราก็เลือก มันทำให้แบรนด์เรามีคาแร็กเตอร์ของมัน แฟนคลับคงได้กลิ่นอายของมัน เหมือนนามบัตรแหละครับ มีชื่อเรา มันจับต้องได้ แล้วเพลงจะทำหน้าที่ของมันเอง”
เคล็ดลับที่ทำให้ LOMOSONIC เป็นขวัญใจทั้งวัยทำงานและวัยรุ่น
บอย : “ผมตอบได้ทันทีเลย เพราะชุดแรกคนยังเรียนอยู่ไง พอตอนนี้คนเรียนจบ ทำงานกันแล้ว (หัวเราะ)”
มีแผนจะทำ Side Project หรือ Featuring กับศิลปินอื่นบ้างมั้ย ?
บอย : “นอกจากพี่ป๊อด ก็ยังดูอยู่ครับ มีใครที่ยอมมาทำกับเราบ้าง (หัวเราะ) ถ้ามีแล้วสนุกแน่นอนครับ”
ออตโต้ : “ฝากผ่าน UNLOCKMEN ด้วยนะครับ (หัวเราะ)”
สิ่งที่ทุกคนในวงมีร่วมกันและทำให้มันกลายเป็นความเหนียวแน่นของวง ?
ปิติ : “ความเปิดกว้างในหลายแนวเพลง สามารถผสมกันได้”
บอย : “แต่ละคนไม่เหมือนกันเลย แต่อะไรที่ทำให้งานดีที่สุดเราก็ทำครับ อาจจะเป็นเพราะเราโตขึ้นหรือเปล่า มันเลยไม่รู้สึกว่ามีผิดมีถูก มันมีแค่ชอบกับไม่ชอบ”
“คงไม่มีงานไหนแล้วล่ะที่จะให้ความเป็นวัยรุ่นให้เราได้ขนาดนี้ จ้างเราให้เราไปเป็นตัวเองต่อหน้าคนอื่น จ้างให้เราไปด่าคน วันไหนไม่ด่าไม่ชอบอีก (หัวเราะ)” – บอย LOMOSONIC
อยากฟังความยากง่ายของอาชีพนักดนตรีจากนักดนตรีมืออาชีพว่ามีอะไรบ้าง ?
บอย : “ข้อดี สนุก ไม่เบื่อที่จะทำงาน เป็นตัวเองสุด ๆ ไปเลย แต่ความยากคือสิ่งล่อตาล่อใจมันเยอะ โลกที่เราเจอมันเห็นอะไรหลายอย่าง พี่ป้อมเคยพูดว่า อาชีพนี้ทำให้เราเป็นคนดีขึ้นด้วยนะ อายุ 23 อะ ตอนนั้นมันพุ่งพล่านเหลือเกิน เราเคยกันคนออกจากพื้นที่ของเรา ถ้ามาดูแล้วไม่ชอบ ประตูอยู่ตรงนู้น มึงออกไปเลย แต่สิ่งที่ยากกว่าคือคนที่ไม่ชอบแล้วทำให้เขาชอบ”
ปิติ : “เรามีโอกาสได้ทำงานศิลปะหลาย ๆ Media ทุกอย่างมันเป็นศิลปะหมดเลย สภาพแวดล้อมของเรามันค่อนข้าง Creative ข้อเสียคือมันมีความเสี่ยงที่จะตัน หรือความเสี่ยงอื่น ๆ อย่างเดือนนี้ถึงปีหน้า อาจจะไม่มีงานก็ได้”
ออตโต้ : “เราได้ออกไปเจออะไรเยอะ ๆ คนปกติจะหาวันไปเที่ยวใช่มั้ย ? แต่เราเหมือนได้ออกไปเที่ยวในทุกวันที่เราทำงาน”
ปิติ : “ข้อเสียอีกอย่างคือ แต่ก่อนดนตรีมันคือความบันเทิง แต่ตอนนี้มันคืองานแล้ว เราเสียแหล่งบันเทิงของเราไปอย่างนึง พอเราฟังเพลงเราจะเริ่มมองมันเป็นโครงสร้าง เป็นส่วนประกอบไป”
ถ้าไม่ได้เป็นนักดนตรี เคยคิดไว้มั้ยว่าจะเป็นอะไร หรือสิ่งที่อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำ ?
ออตโต้ : “คงเป็นสถาปนิกครับ อาจจะอินทีเรีย ถ้าไม่เป็นแม่คงด่า ค่าเทอมแพง (หัวเราะ)”
บอย : “อยากมีสวนของตัวเองครับ ไม่ได้บอกว่ามันจะไม่เป็นธุรกิจ ทุกอย่างมันเป็นธุรกิจหมด แม้แต่สิ่งที่เราทำตอนนี้ เราทุกคนต่างทำงานประจำครับ แค่เวลาไม่ตรงกัน”
ปิติ : “ผมสนใจพวกสายพานการผลิต มีคนประจำที่ ทำอะไรเป็น Routine เรามีงานที่แน่นอน มีเวลาพักที่แน่นอน ผมคิดถึงเหมือนกันนะ”
“มีบางคนชอบพูดว่าพวกมึงทำงานแค่ชั่วโมงเดียว ก่อนหน้านั้นผมทำอะไรก็ได้หรอ ผมตื่นสิบโมง ผมเล่นเที่ยงคืน ผมเมาได้หรอ ผมต้องดูแลตัวเองทั้งวันนะ” – ออตโต้ LOMOSONIC
น่าเสียดายที่ครั้งนี้ขาด ป้อม มือกีต้าร์ของวงไปเนื่องจากปัญหาสุขภาพเล็กน้อย แต่ทุกคำตอบที่ได้จากพวกเขา ทำให้เรายิ้มออกได้แทบจะในทุกคำถาม เราสัมผัสได้ถึงความเป็นตัวของตัวเอง ความเข้าใจต่อชีวิต ต่อตัวเอง และคนอื่น ที่ทำให้พวกเขาเป็นที่รักของแฟน ๆ อย่างไม่มีข้อกังขา