เบิกเนตรกับ “5-MeO-DMT” ยาหลอนประสาทที่ LSD ยังชิดซ้าย กับข้อสงสัยว่าใช้รักษาโรคซึมเศร้าได้จริงหรือ?

***บทความนี้ไม่สนับสนุนการเสพยาเสพติดทุกประเภท

หลายคนคงรู้ว่ายาเสพติดทั้งหลายส่งผลให้คนกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ แต่ในทางกลับกันยาเสพติดบางชนิดก็สามารถนำมารักษาอาการซึมเศร้าได้เช่นกัน ยกตัวอย่าง LSD ที่ถือว่าเป็นยาเสพติดประเภทหลอนประสาทที่รุนแรงมาก

แต่วันนี้เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ “5-MeO-DMT” สารหลอนประสาทที่เพิ่งได้รับการศึกษาค้นคว้าใหม่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา และดูเหมือนว่ามันจะเป็นทั้งสารหลอนประสาทที่รุนแรงที่สุด และยังสามารถใช้รักษาอาการทางจิตไม่ว่าจะเป็นความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และบำบัดผู้ติดยาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า LSD ซะอีก

มีการผลสำรวจอ้างว่า ร้อยละ 80 ของผู้ที่ใช้ “5-MeO-DMT” ภาวะอาการป่วยวิตกกังวล และภาวะอาการซึมเศร้าดีขึ้นจริง โดยมักมีคำกล่าวอ้างว่า เมื่อพวกเขาได้รับสารนี้เข้าไปส่วนใหญ่มักจะเจอกับประสบการณ์ลี้ลับบางอย่าง ที่ทำให้คนเหล่านั้นเชื่อมต่อกับตัวตนภายในที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในเชิงบวก โดยนักวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกากำลังทดสอบว่าจะนำมันมาใช้ในการรักษาโรคทางจิตได้หรือไม่

What is 5-MeO-DMT?

“5-MeO-DMT” เป็นสารหลอนประสาทจากธรรมชาติที่รุนแรงสุด ๆ สามารถพบได้ในพืชบางชนิด รวมไปถึงพิษจากคางคกทะเลทรายโซโนรัน หรือที่รู้จักในชื่อคางคกแม่น้ำโคโลราโด (Colorado River toad ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Bufo alvarius) ซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้ว เราก็จะนำมันมาสังเคราะห์ในห้องแล็บอีกทีก่อนนำไปใช้งาน โดยทั่วไปแล้วหลังจากได้รับสาร “5-MeO-DMT” มักจะเจอกับประสบการณ์แปลกใหม่ มีหลายคนที่ได้ทดลองแล้วแชร์ประสบการณ์ว่าพวกเขารู้สึกราวกับได้เบิกเนตร และได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกับเอกภพ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เหนือธรรมชาติ แต่ในทางกลับกันก็อาจจะเกิดผลข้างเคียง อย่างเช่นอาการคลื่นไส้ และสับสนอย่างรุนแรงหลังจากได้รับสารเข้าไปเช่นกัน

Research in Treating Anxiety and Depression

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Alan Davis จากมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต ภาควิชาจิตเวชศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์ ได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับ “5-MeO-DMT” อย่างจริงจังกับประชากรในประเทศสหรัฐอเมริกา ในการศึกษาการสำรวจของผู้ใหญ่ 362 คนพบว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้คนกล่าวว่าภาวะซึมเศร้าหรือความวิตกกังวลของพวกเขาดีขึ้นหลังจากใช้ “5-MeO-DMT”

นอกจากนี้เค้ายังพูดถึงสารหลอนประสาทชนิดใหม่นี้เอาไว้ด้วยว่า “นี่คือยาหลอนประสาทใหม่ที่มาแรงที่สุด” แต่จากการค้นคว้าข้อมูลลึกลงไปกว่านั้นยังพบว่า ถึงแม้ “5-MeO-DMT” จะสามารถหลอนประสาทได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ และน่าจะเป็นที่นิยมในเหล่าวัยรุ่นที่ต้องการประสบการณ์ตื่นเต้นใหม่ ๆ แต่ทว่ามันกลับหายากมาก และคนส่วนใหญ่ที่ใช้ “5-MeO-DMT” ก็ไม่ได้ใช้เพราะความสนุกตามงานปาร์ตี้พักผ่อนหย่อนใจ แต่กลับเป็นการใช้ไปในเรื่องของจิตวิญญาณ การบำบัดฟื้นฟู รวมไปถึงเรื่องของความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีพิธีกรรมอย่างจริงจังที่มีชื่อว่า “Ayahuasca”

5-MeO-DMT Experience

Alan Davis กล่าวว่า คนที่ใช้ “5-MeO-DMT” ส่วนใหญ่มักจะบอกตรงกันว่า พวกเขาได้พบกับประสบการณ์การเชื่อมต่อกับแหล่งความรู้ใหม่ ๆ เข้าใจตัวเองได้ลึกซึ้งลึกลงไปถึงจิตใต้สำนึก สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะช่วยให้ผู้คนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอีกด้วย

โดยงานวิจัยนี้ สอดคล้องกับการใช้สารเสพติดหลอนประสาทชนิดอื่นในการบำบัดโรคซึมเศร้า อย่างเช่น LSD ที่มีฤทธิ์ต้านอาการซึมเศร้า และความวิตกกังวลอย่างมีนัยสำคัญ แต่หนึ่งในข้อเสียของการบำบัดด้วย LSD ก็คือ มันจะส่งผลหลอนประสาทยาวนาน 4-6 ชั่วโมง ยังไม่รวมถึงเวลาเตรียมตัวเข้ารับการรักษานั่นจึงหมายถึงว่าต้องกินเวลายาวนานตลอดทั้งวัน แตกต่างจาก “5-MeO-DMT” ที่จะออกฤทธิ์ในระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 20- 60 นาทีเท่านั้น

ครั้งหนึ่งอดีตนักมวยแชมป์เปี้ยนโลกรุ่น Heavy Weight อย่าง Mike Tyson ก็เคยเล่าถึงประสบการณ์การใช้ “5-MeO-DMT” ครั้งแรกให้ฟังไว้เช่นกัน เขาบอกว่า “5-MeO-DMT” มันสุดยอดมาก มันเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาลหลังจากได้ลองเพียงครั้งเดียว “ผมไปเจอกับยาชนิดนึงที่เขาเรียกมันว่า Toad อะไรประมาณนั้น มันดูเป็นเหมือนยาเสพติดที่ต้องเอาไฟลนแล้วสูดควันมันเข้าไป หลังจากนั้นชีวิตผมไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกเลย”

Mike Tyson ได้เล่าเรื่องนี้เอาไว้ในรายการ Podcast ของ Joe Rogan ที่มียอดผู้เข้าชมเกือบ 10 ล้านคน โดยเขายังเล่าอีกว่า “ผมมองชีวิตต่างไปจากเดิม วิธีคิดและความรู้สึกเวลาที่ผมมองผู้คนก็แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากโดนไอ้ยานี่ไปแค่ทีเดียว ผมเหมือนว่ากำลังจะตาย จากนั้นผมก็เกิดใหม่ ผมนึกคำที่จะมาอธิบายสิ่งเหล่านั้นไม่ออก มันสุดยอดมาก ๆ มันทำให้ผมเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน แต่คุณยังคงเป็นคนที่แข็งแกร่งมากขึ้นในทุกด้าน”

ซึ่งนอกจาก Mike Tyson แล้ว ยังมีผู้คนที่เคยสัมผัสกับ “5-MeO-DMT” อีกหลายคนที่พบกับประสบการณ์แฟลกให่ หลายคนถึงกับเห็นพระเจ้ากันเลยทีเดียว แต่ที่น่าแปลกก็คือทุกคนบอกคล้าย ๆ กันว่า พวกเขารู้สึกเข้าถึงแก่นแท้ของชีวิต เข้าใจการใช้ชีวิต และจักรวาลมากขึ้นอีกด้วย

เชื่อว่าบางคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ “5-MeO-DMT” กันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนเราก็ต้องขอบอกไว้ตรงนี้ก่อนเลยว่า นี่เป็นเพียงเกร็ดข้อมูลความรู้เท่านั้น ไม่ได้สนับสนุนใครให้ไปหามาทดลองใช้เล่นกันแต่อย่างใด เพราะยังไงมันก็ยังคงเป็นพิษ เป็นสารหลอนประสาทขั้นรุนแรง และมีการสนับสนุนให้ใช้ในการรักษาในทางการแพทย์เท่านั้นนะครับ

SOURCE 1  / 2