

Business
ต้นทุนไม่ใช่ปัญหา! 5 บุคคล สร้างแรงบันดาลใจ จนประสบความสำเร็จได้ด้วย 2 มือ
By: unlockmen September 2, 2016 41651
เราเชื่อว่าทุกคนล้วนแล้วแต่มีความฝันที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตกันทั้งนั้น บางคนอาจจะฝันใหญ่ บางคนอาจฝันเล็ก แตกต่างกันไป แต่อุปสรรคที่ทำให้หลายๆ คนต้องละทิ้งความฝันไปนั่นก็คือ “ความกลัว” และ “ไม่กล้า” ที่จะเริ่มลงมือทำมัน จะว่าไปแล้วคงจะไม่มีอะไรน่าเสียดายมากไปกว่า เมื่อกาลเวลาผ่านไปจนถึงวันนึงที่คุณมานั่งนึกย้อนกลับมา พร้อมทั้งบอกกับตัวเองว่า “รู้อย่างนี้ ทำตั้งแต่ตอนนั้นก็คงจะดี”
วันนี้เราจึงได้นำ 5 บุคคลที่เปรียบเสมือน Hero และสามารถเป็นแรงบันดาลในการเริ่มต้นทำอะไรจาก 0 จนประสบความสำเร็จ โดยที่ทั้ง 5 ท่านนี้ ได้ประสบความสำเร็จในด้านที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ ธุรกิจ, กีฬา, มีเดีย และในวงการวิทยาศาสตร์ จนพวกเค้าได้กลายเป็นบุคคลที่มีอิทธิพล และมีชื่อเสียงในระดับโลกส่งผลถึงปัจจุบัน ส่วนจะมีใครบ้างนั้นมาดูกันเลย
Colonel Sanders- creator of Kentucky Fried Chicken (KFC)
หลายคนอาจจะไม่ได้คิดถึงชื่อของเค้า มากเท่ากับรสชาติของไก่ที่เค้าทำ แต่แน่นอนว่าไม่มีใครที่ไม่เคยเห็นใบหน้าของเค้าอย่างแน่นอน และนั่นคือ หลักฐานที่บอกว่า Colonel Sanders เป็นหนึ่งใน Commercial Icon ที่คนรู้จักมากที่สุดในโลกเป็นอันดับ 1 แต่ทว่าก่อนที่เค้าจะมีชื่อเสียงได้นั้น พันเอก Colonel Sanders เป็นเพียงทหารที่เกษียณอายุไปแล้ว นอกจากนั้นเค้ายังกำลังตกอยู่ในช่วงถังแตกอีกด้วย พันเอก Colonel Sanders มีแค่ร้านอาหารเล็กๆ และสูตรไก่ทอดที่เค้าคิดขึ้นเองเท่านั้น แต่สิ่งเดียวที่ทำให้เค้าแตกต่างจากคนอื่นๆ ก็คือ เขามีความปรารถนา และความฝันที่แรงกล้า
เขามีความฝันว่าจะมีร้านขายไก่ทอดที่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อร่อย!! ในช่วงปี 60 พันเอก Colonel Sanders พยายามที่จะ Promote ไก่ทอดสูตรพิเศษของเค้าอย่างหนัก ด้วยการขับรถไปทั่วอเมริกา เขาเคาะประตูบ้านทุกหลังเพื่อให้ชิมไก่ทอดของเขา และต้องทนนอนหลับอยู่ในรถที่คับแคบ เขาถูกปฎิเสธไก่ทอดถึง 1,009 ครั้ง จนในที่สุด เมื่อเขานำไก่ทอดสูตรพิเศษนี้ไปให้ใครกิน ก็ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อร่อย ใช่เลย!! และเมื่อนั้นเอง ธุรกิจที่ทำเงินได้ปีละหลายล้านดอลล่าของเขาก็เริ่มต้นขึ้น
Howard Schultz -CEO of Starbucks
นาย Howard Schultz เกิดในครอบครัวที่ยากจนมาก และอาศัยอยู่ในละแวกที่ไม่ค่อยน่าพิศมัยอย่าง Brooklyn เขาเติบโตขึ้นมา และได้เรียนหนังสือก็เพราะเขาได้ทุนจากการเล่นกีฬา หลังจากที่เขาเป็นนักกีฬาเพื่อแลกทุนเรียนจนจบมหาวิทยาลัยแล้ว เขาก็ได้ไปสมัครเป็นพนักงานขายเครื่องซีร็อกซ์ และขยับไปเป็นพนักงานขายเครื่องชงกาแฟยี่ห้อ Hammarplast ตามลำดับ
จนวันนึงเขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ และนั่นทำให้เขาได้ติดต่อกับผู้จำหน่ายเมล็ดกาแฟเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นเขาจึงลงทุนเปิดร้านกาแฟเล็กๆ ของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า Starbucks จากร้านเล็กๆ แต่ใส่ใจในรสชาติ และรู้ลึกรู้จริงในศาสตร์แห่งการชงกาแฟ ทำให้ Starbucks มีชื่อเสียงมากขึ้น ขยายสาขาไปมากขึ้น จนในทุกวันนี้ แบรนด์ Starbucks ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก และกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีอิทธิพลมากที่สุด อีกทั้งยังมีเฟรนไชน์มากที่สุดในโลกแบรนด์นึงอีกด้วย
Michael Jordan
เมื่อเขายังเป็นเด็ก มักถูกคนอื่นล้อว่าเป็น “ไอ้โง่” อยู่เสมอ เพราะเขาเป็นเด็กที่ชอบเล่นบาสเกตบอลเป็นชีวิตจิตใจ และหวังว่าวันนึงจะได้กลายเป็นนักกีฬาอาชีพ ซึ่งทุกคนต่างเห็นว่าความสูงของ Micheal Jordan นั้น เป็นอุปสรรคสำคัญซึ่งจะทำให้เขาไปไม่ถึงฝันอย่างแน่นอน
คุณเชื่อหรือไม่ว่า Micheal Jordan เป็นคนที่พบกับความพ่ายแพ้มาอย่างนับไม่ถ้วน เขาถูกปฎิเสธในการเข้าชมรมบาสในช่วงมัธยมต้นอย่างไร้เยื่อใย แต่ด้วยใจที่ยังคงมุ่งมั่นฝึกซ้อมทำให้เขาได้เข้าชมรมบาสเกตบอลจนได้ในช่วงมัธยมปลาย เพราะตัวของเขาสูงขึ้น
Micheal Jordan ถูกดราฟตัวเข้า NBA ในฐานะดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุด แต่เขาก็ต้องโดนเสียงวิจารณ์ตามมาอย่างหนัก หลังจากที่ลงเล่นในลีคอาชีพครั้งแรกในชีวิต เกี่ยวกับการกระโดด และการชู้ตของเขาว่า “มันไม่ดีพอ” สำหรับลีคอาชีพ และจากเสียงวิจารณ์เหล่านั้น Micheal Jordan ใช้เวลาตลอดช่วงปิดฤดูการเพื่อฝึกการกระโดดวันละหลายร้อยครั้ง และซ้อมชู้ตในแต่ละวันนับพับลูก และนี่คือผลที่ทำให้ Micheal Jordan ยังคงเป็นผู้เล่นบาสเกตบอลที่เก่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Oprah Winfrey
Oprah Winfrey เธอคือหนึ่งในผู้หญิงผิวดำชาวอเมริกันที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก เธอผ่านเรื่องเลวร้ายชนิดที่ผู้หญิงหลายคนเกินจะรับไหวมาด้วยตัวเองเพียงลำพัง เธอถูกทารุณกรรมทางเพศตอน 9 ขวบ จากลูกพี่ลูกน้อง, พ่อ, ลุง และเพื่อนชาย ของเธอ หลังจากนั้นเมื่อเธออายุได้ 13 ปี เธอก็ตัดสินใจหนีออกจากบ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันเลวร้าย แต่เมื่อเธอหลุดพ้นมาจากที่บ้านของเธอ เธอก็พบว่าตัวเธอเองกำลังตั้งครรภ์ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุได้เพียง 14 ปี เท่านั้น และเธอก็สูญเสียลูกชายของเธอไปหลังจากคลอดออกมาเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น
หลังจากการสูญเสียครั้งนั้น มันทำให้ชีวิตเธอพังยับเยิน เธอติดยาเสพติดอย่างหนัก ถึง 20 ปี แต่หลังจากที่เธอตั้งสติได้ เธอได้สัญญากับตัวเองว่า หลังจากนี้เธอจะเริ่มต้นเป็นคนใหม่ มีชีวิตใหม่ และเธอก็ลงมือทำมัน ปัจจุบันนี้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ และกลายเป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนนึงของโลก นอกจากนี้ Oprah Winfrey ยังมีชื่อติดอยู่ในรายชื่อของคนที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 32 อีกด้วย มันอาจจะฟังดูน่าเหลือเชื่อ แต่นี่คือความจริงซึ่งเป็นผลจากความกล้าที่จะเริ่มต้นใหม่ของเธอ
Thomas Edison
ความล้มเหลวกว่า 10,000 ครั้ง ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงจะล้มเลิกไปแล้วตั้งแต่ครั้งที่ 10 จึงทำให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า คนอย่าง Thomas Edison ไม่เคยยอมแพ้ และทำงานหนักกว่าเราหลายร้อยเท่านัก จุดเริ่มต้นของเขานั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเช่นกัน ช่วงเวลาที่เขาศึกษาอยู่ในโรงเรียนนั้น เขามีปัญหากับวิธีการสอนแบบดั้งเดิม รวมไปถึงอาจารย์ผู้สอนด้วย ถึงขั้นที่ว่าอาจารย์ของเขาเคยบอกว่า “เธอโง่เกินไป ที่จะเรียนรู้” แต่ตัวเขาเองกลับคิดว่าเขาสามารถทำความเข้าใจด้วยตัวเองได้ ถึงแม้จะมีอุปสรรคมากมายเข้ามาในชีวิต Thomas Edison ก็ไม่เคยหยุดไล่ตามความฝัน จนวันนึงเขาก็ทำให้ทุกคนในโลกรู้ว่า เขาไม่ใช่คนโง่อย่างที่อาจารย์เขาเคยว่าเอาไว้ ชื่อของเขา และสิ่งที่เขาได้ทำอย่างการประดิษฐ์หลอดไฟ และการริเริ่มผลักดันให้มีการใช้กระแสไฟฟ้าโดยทั่วไปในครัวเรือน คืออีกก้าวกระโดษสำคัญของมนุษยชาติเลยก็ว่าได้
เห็นหรือยังว่าเคล็ดลับสู่ความสำหรับของพวกเขานั้น ไม่ได้รอพึ่งโชคชะตา หรือความโชคดี แต่พวกเค้าเลือกที่จะกล้าเริ่มลงมือทำ ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคจากคนรอบข้าง จากทุนทรัพย์ หรือจากอะไรก็ตาม นี่คือ สิ่งที่คนที่จะประสบความสำเร็จมีอยู่ในตัวเอง และมีจุดเริ่มต้นที่ไม่ได้วิเศษมากไปกว่าคุณเลย แถมในบางคนอาจจะอยู่จุดที่ต่ำกว่าคุณด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น ถ้าเขาทำได้ คุณก็ทำได้เช่นกัน