

World
‘5 SPEECH ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์โลก’เป็นข้อคิดและบทเรียนชั้นดีในการใช้ชีวิตของหนุ่ม ๆ PART II
By: unlockmen January 15, 2019 134690
“Words are more powerful than weapons.”
หนึ่งในวลียอดฮิตที่ทุกคนน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือความจริง ยิ่งถ้าเราลองเปิดบันทึกประวัติศาสตร์โลกดูจะพบว่าในเหตุการณ์สำคัญหลายเหตุการณ์ คำพูดหรือสปีชเพียงไม่กี่นาทีกลับพลิกประวัติศาสตร์จากหน้ามือเป็นหลังมือได้ นอกจากจะส่งผลต่อเรื่องราวในอดีตแล้ว ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนสปีชที่ยิ่งใหญ่นั้นก็ไม่ตกยุค ยังร่วมสมัยและสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตของเราได้เสมอ
ครั้งที่แล้วเราได้นำเสนอสปีชที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์โลกให้ทุกคนได้เรียนรู้ถึงแนวคิดและสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ไปแล้วทั้งหมด 5 สปีช แต่สปีชที่ดีนั้นยังมีอีกมากมาย และเราเล็งเห็นว่ามันน่าจะมีประโยชน์กับผู้อ่านทุกคน เราจึงคัดมาอีก 5 สปีช ให้ทุกคนได้เรียนรู้จากร่องรอยประวัติศาสตร์กันอีกครั้ง ส่วนใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนแรก สามารถย้อนตามไปอ่านได้ที่ ‘5 SPEECH ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์โลก’เป็นข้อคิดและบทเรียนชั้นดีในการใช้ชีวิตของหนุ่ม ๆ
Vox
Martin Luther King Jr. คือหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลที่สุดต่อการเรียกร้องสิทธิให้กับพลเมืองผิวสีในสหรัฐอเมริกา แม้ในช่วงนั้น (ยุค 50-60) จะผ่านพ้นช่วงเลิกทาสมาแล้วนับ 100 ปี สิทธิพลเมืองผิวขาวและผิวสีเท่าเทียมกันในแง่ลายลักษณ์อักษรตามกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัตินั้นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง คนผิวดำยังโดนกีดกันในการเข้าถึงสิ่งต่าง ๆ รวมถึงมีการแบ่งแยกสถานที่สำหรับคนผิวดำอย่างชัดเจน เหล่านี้จึงกระตุ้นให้ Martin Luther King Jr. ต้องออกมาต่อสู้เพื่อให้โลกในฝันของเขาที่ไม่ว่าจะเผ่าพันธุ์ใด ผิวสีใดมีความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง
“วันนี้ฉันมีความฝัน
ฉันมีความฝันว่าวันหนึ่งหุบเขาสูงชันทุกแห่งจะถูกลดระดับกลายเป็นที่ราบเรียบและที่ที่คดเคี้ยวจะถูกทำให้ตรง และเราจะได้เห็นมันด้วยกัน”
ถึงแม้ตัวจะจากไป แต่เมล็ดพันธุ์แห่งเจตนารมณ์ของ Martin Luther King Jr. ได้หยั่งรากลึกลงในผืนดินแล้ว และหวังว่าทุกคนจะนำมันมาปรับใช้ เพื่อให้มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกัน อย่างน้อยก็ในแง่ของสิทธิมนุษยชน
อ่านสปีชเต็ม ๆ ของ Martin Luther King Jr. ได้ ที่นี่
Controversial Topics
ถ้าจะเปรียบใครสักคนเป็นตัวแทนของคำว่า ‘สงคราม’ คงไม่มีใครเหมาะไปกว่า ‘Douglas MacArthur’ เพราะเขาคือนายพลผู้ผ่านสงครามมามากกว่า 3 ครั้ง อุทิศชีวิตทั้งหมดให้กับกองทัพ บางคนอาจจะมองว่าเขาบ้าสงคราม แต่ลูกผู้ชายคนนี้ก็มีเหตุผลของตัวเองอยู่เหมือนกัน
“ทหารคือผู้ที่สวดภาวนาให้สันติภาพเกิดขึ้นเหนือผู้ใด เพราะเขาต้องทนทุกข์ทรมานและมีแผลเป็นจากสงครามที่ลึกที่สุด”
Douglas MacArthur ทราบดีว่าสงครามมีแต่ความสูญเสีย เป็นบทเรียนชีวิตจากชายที่อยู่กับมันมาทั้งชีวิต แต่บางครั้งด้วยหน้าที่ เกียรติยศ และประเทศชาติก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
อ่านสปีชเต็ม ๆ ของ General Douglas MacArthur ได้ ที่นี่
(NASTAR) Center
ภารกิจของยาน Apollo 11 ที่ทำให้ Neil Armstrong, Buzz Aldrin กลายเป็นมนุษย์กลุ่มแรกที่ได้ประทับรอยเท้าบนดวงจันทร์ถือว่าหนึ่งในภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ใช่แค่สำหรับอเมริกา แต่เป็นสำหรับมนุษยชาติทั้งมวล จุดเริ่มต้นทั้งหมดมาจากชายชื่อ John F. Kennedy ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา
เขาตัดสินใจทำให้เรื่องราวที่ดูเหมือนเพ้อฝันนี้กลายเป็นความจริงเนื่องจากในตอนนั้นสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตกำลังทำสงครามเย็นอย่างเข้มเข้น และในปี 1961 สหภาพโซเวียตได้ส่งมนุษย์สู่อวกาศสำเร็จเป็นครั้งแรก ภารกิจครั้งนั้นเป็นเหมือนการเปิดศึก ‘สงครามอวกาศ’ ของ 2 ชาติมหาอำนาจ ซึ่งนำไปสู่ภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในไม่กี่ปีต่อมา
“เราเลือกที่จะไปยังดวงจันทร์ เราเลือกที่จะไปยังดวงจันทร์ในทศวรรษนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่ง่าย เราต้องใช้ทักษะและความสามารถที่ดีที่สุดเพื่อจะทำให้มันเป็นจริง”
ความทะเยอทะยานอย่างไม่หยุดยั้งของ John F. Kennedy คือสิ่งที่หนุ่ม ๆ อย่างเราน่าจะนำมาปรับใช้กับชีวิตได้
อ่านสปีชเต็ม ๆ ของ John F. Kennedy ได้ ที่นี่
The Daily Signal
เป็นเวลากว่าศตวรรษที่การปฏิวัติได้เริ่มก่อตัวขึ้นในรัฐเวอร์จิเนีย Patrick Henry คือหนึ่งในบุคคลที่ร่วมต่อสู้มาโดยตลอด Henry ได้มีส่วนร่วมในการร่างพระราชบัญญัติปี 1764 กระตุ้นให้ผ่านการแก้ไขปัญหาของเวอร์จิเนีย อย่างไรก็ตามความตึงเครียดของการปฏิวัติก็ยังดำเนินต่อไป
ค.ศ. 1775 รัฐแมสซาชูเซตส์ก็เริ่มเตรียมการสำหรับการทำสงคราม Henry เชื่อว่าเวอร์จิเนียควรทำตามความเหมาะสม ดังนั้นในการประชุมที่จัดขึ้นที่โบสถ์เซนต์จอห์นในริชมอนด์ Henry นำเสนอมติเพื่อเตรียมการป้องกันเวอร์จิเนีย เขาพยายามโน้มน้าวให้สภาผู้แทนเห็นด้วย จนเกิดเป็นสปีชในตำนานขึ้นมา
“พระเจ้าผู้เป็นเจ้า! ฉันไม่รู้ว่าคนอื่นจะเป็นยังไง แต่สำหรับฉันมีเพียงอิสรภาพไม่ก็ความตายเท่านั้น!”
ความทรนงในอิสรภาพ ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ คือสิ่งที่เราได้เรียนรู้จาก Patrick Henry ที่ถึงตอนนี้แม้เวลาจะผ่านไปหลายร้อยปี แต่กลุ่มก้อนความคิดเหล่านี้ยังนำมาปรับใช้ได้เสมอ
อ่านสปีชเต็ม ๆ ของ Patrick Henry ได้ ที่นี่
PBS Hawaii
Theodore Roosevelt คือหนึ่งในประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแผ่นดินอเมริกา เขามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า ผลักดันสิ่งต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น รวมถึงนโยบายสนับสนุนการให้ประชาชนมีลูกจำนวนมากเนื่องจากสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นค่อนข้างขาดแคลนแรงงาน
อย่างไรก็ตามเขาก็เป็นห่วงเสมอ เขาอยากให้ชายหนุ่มทุกคนมีคุณธรรม ไม่ถูกรังแกหรือขี้ขลาด และเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงมีพลังวังชา ในสปีชครั้งนี้เขาจึงพูดเตือนเยาวชนทั้งหลายให้ยึดมั่นในเส้นทางที่ถูกต้อง
“เป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องเป็นแบบอย่างที่ถูกต้องแก่ผู้อื่น ฉันขอให้คุณจำไว้ว่าคุณจะไม่สามารถรักษาความเคารพตนเองได้หากคุณไม่รักษาคำพูด เป็นคนพลิกลิ้น มันจะทำให้คุณสูญสิ้นเกียรติ”
วิถีลูกผู้ชายสไตล์ Theodore Roosevelt ที่หนุ่ม ๆ น่าจะนำไปปรับใช้ได้
อ่านสปีชเต็ม ๆ ของ Patrick Henry ได้ ที่นี่
นี่คือทั้ง 5 สปีชจาก 5 บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์โลก เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแนวคิดเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตของเพื่อน ๆ ชาว UNLOCKMEN และแน่นอนว่ายังมีบทเรียนในประวัติศาสตร์อีกมากมาย แล้วเราจะนำมาฝากอีกแน่นอน