

CARS
ย้อนตำนาน SUZUKI HAYABUSA SPORT BIKE ที่เร็วที่สุดในโลก กับโมเดลใหม่ในรอบ 13 ปี
By: Chaipohn February 7, 2021 195405
ถ้าให้นึกถึงสินค้าที่สามารถทำตลาดได้นานถึง 22 ปี โดยแทบไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ที่ผมพอจะนึกได้ก็มี ยาคูลท์ แล้วก็ Suzuki Hayabusa
Suzuki Hayabusa คือ Sport Bike ที่แรงจนคนทั้งโลกต้องยอมรับ ตำนานเหยี่ยวอ้วนจากแดนปลาดิบที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 พร้อมตำแหน่ง The World’s Fastest Production Motorcycle ที่ทำความเร็วสูงสุดได้ทะลุ 300km/h ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากสายพานการผลิตแบบเดิม ๆ
ความแรงของ Suzuki Hayabusa นั้นเร็วน่ากลัวจนกระทบการส่งออกไปขายนอกญี่ปุ่น ต่างชาติต้องตกลงกับ Suzuki แบบลับ ๆ ให้จำกัดความเร็วก่อนนำเข้าไปขายเลยทีเดียว และนั่นทำให้ตัวเลข Top Speed ของ Hayabusa ในแต่ละภูมิภาคแตกต่างกันออกไป ระหว่าง 299, 303, 312 km/h
แต่ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขไหน ก็ไม่มีใครทำรถเดิม ๆ จากโรงงานออกมาได้แรงกว่า Suzuki Hayabusa ซึ่งที่ใกล้เคียงที่สุดเกือบกระชากตำแหน่งได้ก็คือ Kawasaki Ninja ZX-12R ขาดไปเพียง 6 km/h เท่านั้น
ด้วยความเจ๋งทั้งหมดของมัน ทำให้ตลอดระยะเวลา 22 ปี มี Suzuki Hayabusa ออกมาแค่ 2 Generation เท่านั้น และวันนี้พึ่งจะมีการเปิดตัว Generation ที่ 3 ออกมา โดยยังคงความเป็นเหยี่ยวดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน
ไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่คนให้ฉายา Suzuki Hayabusa ว่าเหยี่ยว ตั้งแต่วินาทีแรกที่ Hayabusa เปิดตัวออกมาพร้อมสถิติความแรงที่ถูกวัดอย่างเป็นทางการจนได้รับสถิติเร็วที่สุดในโลก โดยทิ้งห่าง Honda CBR1100XX Super Blackbird คู่แข่งอันดับสองเกือบ 10km/h มันจึงถูกตั้งชื่อว่า Hayabusa ภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า เหยี่ยวเพเรกริน (Peregrine falcon) เพราะมันล่าและกิน Blackbird เป็นอาหาร และไม่ใช่แค่แรง แต่ Hayabusa ยังมีจุดเด่นรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ออกแบบเพื่อ aerodynamic ทำให้ควบคุมรถได้ง่าย ออกแบบท่านั่งขี่ให้ผู้ขับสบาย และเสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจเป็นเอกลักษณ์ เปรียบเสมือนความคล่องแคล่วรอบด้านของเหยี่ยวเพเรกรินนั่นเอง
1999 Suzuki Hayabusa มากับเครื่องยนต์ 1,299 cc liquid-cooled inline-4 175 แรงม้า แรงบิด 135 นิวตันเมตร ทำเวลา 0-200 km/h ได้ใน 9 วินาทีนิด ๆ ในดีไซน์ที่อวบอ้วนออกแบบเพื่อดูดอากาศระบายความร้อนให้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ บวกกับทรวดทรงบอดี้ที่ออกแบบตามหลัก aerodynamic โดย Koji Yoshirua ช่วยให้ Hayabusa ทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่าคู่แข่งในยุคนั้น
ด้วยความแรงของ Hayabusa ส่งผลคู่แข่งไม่มีทางเลือกนอกจากพัฒนารถที่เร็วและแรงกว่าเพื่อทำตลาด ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า Sport Bike จะแรงขึ้นทุกปีจนอันตรายเกินไป เกิดเป็นข้อตกลงที่เรียกว่า Gentlemen’s Agreement กับทุกค่าย เพื่อล็อคความเร็วสูงสุดไม่ให้เกิน 300 km/h
เหตุผลที่เเราไม่ค่อยได้เห็นความเปลี่ยนแปลงใน Suzuki Hayabusa เพราะก่อนจะเปิดตัว Generation ที่สอง Suzuki ได้พยายามรวบรวมข้อมูลว่ากลุ่มลูกค้าติดใจอะไรใน Hayabusa มากที่สุด และดีไซน์ก็คือหนึ่งในนั้น ทำให้ Suzuki ไม่อยากจะปรับเปลี่ยนอะไรมากนัก แม้แต่เครื่องยนต์ก็เพียงผ่านการอัพเกรดชิ้นส่วนให้แข็งแกร่ง แต่ก็สามารถเพิ่มความแรงขึ้นเป็น 197 แรงม้า แรงบิด 138 นิวตันเมตรได้
ระหว่างที่ Suzuki พยายามทำการบ้านเพื่อพัฒนา Hayabusa ทางด้านของผู้ออกแบบดั้งเดิมอย่าง Koji Yoshiura ก็บินไปดูบรรดาสิงห์นักบิดในหลายประเทศเพื่อสังเกตการตกแต่งรถ Hayabusa เพื่อนำมาเป็นไอเดีย ซึ่งเกือบทั้งหมดจะเป็นการแต่งเพื่อเพิ่มความแรงและความปลอดภัยมากกว่า Koji จึงกลับมาเน้นสร้างมัดกล้ามให้กับรถโดยอิงจากผลในอุโมงค์ลมที่ดีที่สุดแทนการปรับแต่งสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน
เครื่องยนต์ถูกเพิ่มความจุเป็น 1,340 cc ลดน้ำหนักเครื่องยนต์ด้วยการใช้วัสดุ titanium อัพเกรดระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็น Suzuki Dual Throttle Valve (SDTV) system และใช้ท่อไอเสียสูตร 4-2-1-2 เพื่อความเงียบและลดการปล่อยควันเสียเพื่อให้ผ่านข้อบังคับของ Euro 3 emissions และทิ้งรหัส GSX ออกไป เหลือเพียงชื่อ Suzuki Hayabusa ที่พวกเราเรียกกันติดปาก
ตลอดระยะเวลาทำตลาดที่แสนนานใน Generation ที่ 2 ผ่านมา 13 ปี ก็ถึงเวลาที่ Suzuki ได้เปิดตัว 2021 Hayabusa ออกมาแล้ววันนี้ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่คุ้นตา แต่มีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดค่อนข้างมาก ชุดแฟริ่งภายนอกมีเส้นสายที่เฉียบคมมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะไฟหน้าที่แยก LED ซ้ายขวาประกบท่อ Ram-Air ดูดอากาศที่เรียวคมคายยิ่งขึ้น ส่วนด้านข้างแฟริ่มมีการเพิ่มช่องดักอากาศเพื่อช่วยทรงตัวและระบายความร้อน ดูเป็นเหยี่ยวที่คล่องแคล่ว โดยมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนทั้งที่เห็นและไม่เห็นรวมถึง 550 ชิ้น เพื่อให้ได้ความลู่ลมและสร้างแรงต้านที่ดียิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่ที่เฉียบคมอย่างหาที่ไหนไม่ได้
เครื่องยนต์บล็อกเดิมจาก Generation 2 ความจุ 1,340 cc สี่สูบเรียง ผ่านการปรับจูนให้ใหม่ให้แรงบิดมาไวทันใจมากขึ้น ทั้งปรับองศาจุดระเบิดใหม่ หัวฉีดคู่แบบใหม่ แม้ตัวเลขแรงม้าลดลงเหลือ 187 แรงม้า แต่กลับได้แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 150 นิวตันเมตร ทำความเร็ว 0-100 km/h ได้ในชั่วพริบตา 2 วินาที
อีกสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาในยุคที่เทคโนโลยีทันสมัยก็คือ Suzuki Intelligent Ride System (SIRS) ที่ช่วยให้ขับขี่ได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น โดยมีทั้งระบบ Selectable Power Mode, Traction Control, Engine Brake Control, Bi-Directional Quick Shift System, Anti-Lift Control และมี Launch Control ที่สามารถปรับระดับรอบเครื่องได้ตั้งแต่ 4,000, 6,000 และ 8,000 rpm
แม้จะเปิดตัวรถและสเปคของ 2021 Suzuki Hayabusa ออกมาแล้ว แต่ยังต้องรอดูราคาต่อไปว่าจะเร้าใจแค่ไหนสำหรับเหยี่ยวบ้าพลังคันใหม่นี้