

Entertainment
2019 OSCARS PREDICTIONS: ภาพยนตร์เรื่องไหนจะชนะใจกรรมการและคว้ารางวัลเกียรติยศ ‘BEST PICTURE’ ไปครอง
By: unlockmen January 31, 2019 136391
ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับงานประกาศรางวัลภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Academy Awards ครั้งที่ 91 หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ ‘ออสการ์’ เช่นเดียวกับซีรีส์ 2019 Oscars Predictions ของเราที่ก็ดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายแล้ว หลังจากที่ 3 ตอนก่อนหน้านี้เราได้ทำนายผลรางวัลสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม, และผู้กำกับยอดเยี่ยมกันไปแล้ว คราวนี้ถึงคราวของรางวัลยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง ‘ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม’ กันบ้าง
ครั้งนี้ออสการ์ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงออกมาเพียง 8 เรื่องเท่านั้น ไม่ครบโควต้า 10 เรื่อง ซึ่งก็ถือว่าสอดคล้องกับคุณภาพภาพยนตร์ในปีที่ผ่านมา ที่ต้องยอมรับว่าโดยภาพรวมถือว่าต่ำกว่าปีก่อน ๆ อย่างไรก็ตามแต่ละเรื่องต่างก็มีข้อดีและเสน่ห์เป็นของตัวเอง เอาเป็นว่าไปอ่านบทวิเคราะห์และการทำนายของเรากันเลยดีกว่า
Rolling Stone
Vice คือภาพยนตร์ที่สร้างจากชีวิตจริงของ Dick Cheney อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในยุคประธานาธิบดี George W. Bush กับเรื่องราวการใช้กึ๋นและเล่ห์เหลี่ยมในสนามการเมืองที่คลุ้งไปด้วยกลิ่นเหม็นของผลประโยชน์
ผลงานกำกับของ Adam McKay ผู้กำกับที่เรามักจะพูดเสมอว่าเขามีเทคนิคการเล่าเรื่องแพรวพราว สามารถนำเสนอเรื่องราวที่ดูเคร่งเครียดให้ออกมามีสีสันฉูดฉาดน่าติดตาม อย่างที่เราเคยเห็นใน The Big Short ผลงานเรื่องก่อนของเขา แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้าเทียบกับ The Big Short Vice ถือว่าดูด้อยกว่าพอสมควร เพราะเครดิตครึ่งหนึ่งที่ทำให้ Vice กลายเป็นหนังที่ดีนั้นต้องยกให้การแปลงโฉมและการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Christian Bale ในบท Dick Cheney
อย่างไรก็ตามวิธีการเล่าเรื่องของ Adam McKay ผสานพลังกับการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Christian Bale ทำให้ Vice คือภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาด
Rolling Stone
เป็นภาพยนตร์ที่มีประเด็นให้พูดถึงมากมายเลยทีเดียวสำหรับ Bohemian Rhapsody ภาพยนตร์ชีวประวัติความเป็นมาของวง Queen หนึ่งในวงดนตรีร็อกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นการทำเงินของมัน ที่ในตอนแรกคงไม่มีใครคาดคิดว่าภาพยนตร์ที่ดูค่อนข้างเฉพาะกลุ่มเรื่องนี้จะทำเงินไปกว่า 800 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียง 52 ล้านเหรียญ
ประเด็นต่อมาคือการล่วงละเมิดทางเพศของผู้กำกับ Bryan Singer ซึ่งส่งผลให้เขาโดนปลดกลางอากาศ และแทบไม่ได้รับการพูดถึงในช่วงเดินสายโปรโมต ถือว่าเป็นจุดด่างพร้อยสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ว่าได้
สุดท้าย ประเด็นสำคัญที่สุดคือการคว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยมของ Bohemian Rhapsody ที่โดนครหาพอสมควร เพราะนักวิจารณ์หลายคนให้ความเห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ดีเลิศขนาดนั้น มันอาจจะดูสนุก มีฉาก Live Aid อันน่าจดจำ การแสดงของ Rami Malek ในบท Freddie Mercury ก็ยอดเยี่ยม แต่องค์ประกอบโดยรวมต่าง ๆ ยังมีข้อบกพร่องอยู่สมควร
แต่ใครจะรู้ ความแมสนี้อาจจะโดนใจคณะกรรมการออสการ์ก็เป็นได้
WPTS Radio
ในตอนแรก รางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจำกัดรายชื่อผู้เข้าชิงอยู่ที่ 5 เรื่องเท่านั้น ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นไม่เกิน 10 เรื่องในปี 2010 นอกจากเหตุผลด้านการตลาดแล้ว อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคือการพลาดเข้าชิงของ The Dark Knight ภาพยนตร์แบทแมนฝีมือการกำกับของ Christopher Nolan
ไม่มีใครปฏิเสธว่านี่คือภาพยนตร์ระดับตำนานขึ้นหิ้ง แต่คณะกรรมการในปีนั้นกลับมองว่ามันเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ ไม่คู่ควรแก่การเข้าชิง หลังจากโดนโจมตีอย่างหนัก ในปีต่อมาออสการ์จึงตัดสินใจเพิ่มพื้นที่ผู้เข้าชิงเป็นไม่เกิน 10 เรื่อง เพื่อโอกาสสำหรับภาพยนตร์สายแมสแต่มีคุณภาพ
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นก็ยังไม่มีภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เข้าชิงสาขานี้เลย จนกระทั่งในปีนี้ Black Panther จาก Marvel Studio ทำสำเร็จ เป็นเหมือนการเปิดศักราชใหม่ให้กับภาพยนตร์แนวนี้อย่างแท้จริง
ถึงแม้จะไปไม่ถึงฝัน แต่การเป็นภาพยนตร์ทำเงินตลอดกาลอันดับ 9 พร้อมเข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เท่านี้ก็น่าจะทำให้ Marvel Studio ยิ้มไม่หุบแล้ว
SlashFilm
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่คือผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของ Bradley Cooper พระเอกซูเปอร์สตาร์แห่งฮอลลีวูด อาจจะเพราะเขาอยู่ในวงการมานาน ร่วมงานกับผู้กำกับชั้นนำมาแล้วนับไม่ถ้วน ซึมซับทักษะการกำกับมาอย่างเต็มที่ หรือจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ต้องยอมรับว่า A Star Is Born คือภาพยนตร์ชั้นเยี่ยม ดูสนุก ลึกซึ้งกินใจ ดึงอารมณ์ร่วมของผู้ชมออกมาได้อย่างเต็มที่
Bradley เล่าเรื่องได้อย่างนุ่มนวล อาจจะราบเรียบ แต่ก็ไม่น่าเบื่อ เมื่อรวมกับฝีมือการแสดงของเขากับ Lady Gaga ที่เข้าถึงบทบาทจนผู้ชมอย่างเราแทบจะลืมไปเลยว่า 2 คนในจอคือซูเปอร์สตาร์ระดับโลก และเพลงประกอบที่เพราะจนขนลุกน้ำตาซึม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ A Star Is Born จะมีชื่อเข้าชิงในสาขานี้
Film Daily
ถือว่าเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่น่าสนใจสำหรับ Blackkklansman ภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวการแฝงตัวเข้าไปในกลุ่ม Ku Klux Klan ขบวนการชาตินิยมผิวขาวสุดโต่งเพื่อสืบหาความจริงของตำรวจผิวสีคนหนึ่งในช่วงยุค 70 โดยสร้างมาจากเหตุการณ์จริง ผลงานการกำกับของ Spike Lee ผู้กำกับระดับปูชนียบุคคลของฮอลลีวูด ที่มีส่วนในการขับเคลื่อนเพื่อคนผิวสีโดยใช้ภาพยนตร์เป็นสื่อกลางมาอย่างยาวนาน
แม้ว่า Blackkklansman จะเป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องการแบ่งแยกสีผิว ซึ่งค่อนข้างดู Cliche โดยเฉพาะกับรางวัลออสการ์เพราะที่ผ่านมามีภาพยนตร์ที่นำเสนอประเด็นนี้มาแล้วมากมายหลายเรื่อง แต่ Spike Lee กลับเล่าเรื่องออกมาได้อย่างสนุกสนาน ไม่ซ้ำซากจำเจ
สำหรับเรา Blackkklansman คือภาพยนตร์อาชญากรรมน้ำดีที่นำเสนอประเด็นเรื่องสีผิวออกมาได้อย่างมีชั้นเชิง และอยากให้ทุกคนได้ดู
Time Magazine
ออกตัวก่อนว่าเราเป็นแฟนตัวยงของ Yorgos Lanthimos ผู้กำกับชาวกรีซคนนี้ เพราะสิ่งที่เขานำเสนอออกมาใน ‘The Lobster’ ผลงานชิ้นก่อนหน้ายังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ แต่ยอมรับตรง ๆ ว่าตอนแรกที่เราเห็นโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง The Favourite เราค่อนข้างรู้สึกผิดหวังและไม่มีความอยากดูเท่าไรนัก เพราะหน้าหนังมันชวนให้คิดว่านี่คือภาพยนตร์ที่นำเสนอชีวิตของเหล่าขุนนางตามขนบ และคิดว่ามันต้องน่าเบื่อแน่นอน
เมื่อเราเปิดใจดู พบว่าเราเข้าใจผิดถนัด เพราะถึงแม้ว่า The Favourite จะเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของราชินีผู้อ่อนแอกับสาวใช้ในยุคศตวรรษที่ 18 แต่ Yorgos กลับเล่าออกมาในแง่มุมที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน เพิ่มสีสันให้กับเรื่องราวที่ดูเหมือนจะน่าเบื่อให้ออกมาสนุกได้อย่างไม่น่าเชื่อ รู้ตัวอีกทีเราก็ตกหลุมรักภาพยนตร์เรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
Studio Daily
นับตั้งแต่ปี 2006 ที่ Little Miss Sunshine เข้าฉาย จากนั้นก็ไม่มีหนัง Road Movie ที่เรารู้สึกชอบอีกเลยจนกระทั่งเราได้ดู Green Book
ถึงหน้าหนังจะดูธรรมดาทั่วไป แต่เราเชื่อว่า Green Book คือภาพยนตร์ Road Movie ที่ใครได้ดูก็ต้องตกหลุมรัก เพราะตลอด 130 นาที หนังเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่ม 2 คนที่แตกต่างกันทั้งผิวสี ทัศนคติ และแนวคิดออกมาได้อย่างกลมกล่อม ถึงจะไม่หวือหวา แต่ก็ไม่น่าเบื่อ เพราะตลอด 2 ข้างทางของการเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ผู้กำกับ Peter Farrelly ยิงมุกออกมาอย่างไม่หยุดยั้งจนเราคิดในใจว่า ‘นี่มันหนังตลกนี่หว่า’
Green Book คือภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องสีผิวออกมาได้อย่างไม่ฟูมฟาย และเหมือนจะสอนคนดูอย่างเราไปพร้อม ๆ กับ 2 ตัวละครในเรื่องว่า ‘ชีวิตมันก็อย่างนี้แหละ’
การันตีด้วยรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมสาขาหนังเพลงหรือตลกจาก Golden Globes นี่คือ Road Movie สไตล์แมน ๆ ที่จะทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นหัวใจ
Netflix
‘นี่คือเต็งหนึ่งที่จะคว้ารางวัล Best Picture ในปีนี้ และเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดที่ Netflix เคยสร้างมา’
Roma ภาพยนตร์ขาว-ดำ ผลงานของ Alfonso Cuaron ผู้กำกับมากฝีมือชาวเม็กซิกันที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีผ่านผลงานในอดีตของเขาอย่าง Gravity ซึ่งถึงแม้คราวนี้เขาจะไม่ได้เล่นท่ายากเหมือนในหนังโดดเดี่ยวท่ามกลางอวกาศ แต่ความเรียบง่ายของ Roma นี่แหละคือไม้เด็ดพิชิตใจคนดูเลยก็ว่าได้ เพราะทุกอย่างในเรื่องดู ‘จริง’ ไปเสียหมด หนังเล่าเรื่องของคนธรรมดา ในบรรยากาศธรรมดา ทำให้คนดูอย่างเราที่ก็เป็นคนธรรมดาเช่นเดียวกันอินไปกับมันอย่างง่ายดาย
เราไม่รู้จะเขียนถึง Roma ในแง่มุมไหน เพราะทุกอย่างในหนังมันดีงามไปหมด ไม่ว่าจะเป็นงานภาพที่ถึงแม้จะเลือกใช้สีขาวดำ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความหม่นหมองที่ตราตรึงใจ การเขียนบทและวิธีการเล่าเรื่องที่กินใจคนได้อยู่หมัด ราวกับ Alfonso Cuaron ได้ใส่ชีวิตตัวเองลงไปในภาพยนตร์เรื่องนี้
สำหรับเรา Roma คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่เข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบ เป็นภาพยนตร์ที่ยังไงก็ต้องดูให้ได้ในชีวิตนี้
ถึงแม้จะมีตรา Netflix ที่ออสการ์เกลียดเข้าไส้ประทับหราอยู่บนโปสเตอร์ แต่ก็ยากจะปฏิเสธว่า Roma คือภาพยนตร์ที่คู่ควรกับรางวัล Best Picture ในปีนี้ที่สุด ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดภาพยนตร์ขาว-ดำหนึ่งเดียวเรื่องนี้น่าจะเข้าเส้นชัยขึ้นรับรางวัลไปแบบสบาย ๆ แต่ถ้าจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เราคิดว่าแจ็คผู้ฆ่ายักษ์คือ Green Book และคงเป็นไปได้ยากที่ตุ๊กตาทองอันทรงเกียรติจะหลุดไปจาก 2 เรื่องนี้
อย่างไรก็ตามเราก็แค่วิเคราะห์และคาดเดาด้วยปัจจัยต่าง ๆ ที่มี เอาเป็นว่ารอลุ้นในวันประกาศผล 24 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ดีกว่า น่าจะเป็นวันที่น่าตื่นเต้นไม่ใช่น้อย และสุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามซีรีส์ 2019 Oscars Predictions มาจนถึงบรรทัดนี้ ไว้เจอกันใหม่เมื่อโลกภาพยนตร์มีเรื่องราวน่าสนใจ