

Life
ไขความลับ!! “15 ภาษากาย” กับความหมายต่างๆ ที่คุณควรจะรู้
By: unlockmen June 15, 2016 35814
ร่างกายของเราทุกคนมีท่าทาง และการแสดงออกที่สามารถแปลความหมายให้เป็นภาษาที่เข้าใจได้ โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเปล่งเสียงออกมาจากปากเลยด้วยซ้ำในบางที และภาษากาย หรือ Body Language หรือ ภาษากาย ของแต่ละบุคคลที่มีความแตกต่างกันออกไปโดยคนส่วนใหญ่ที่มีความฉลาดทางอารมณ์ หรือ EQ อยู่ในระดับสูงกว่า 90% ส่วนมากมักจะแสดงออกทางภาษากายออกมามากกว่า และชัดเจนจนคุณสามารถสังเกตุได้ ซึ่งมันก็อาจจะเป็นทั้งข้อดี และข้อเสียที่ความจะระมัดระวังการแสดงออกให้มากขึ้น วันนี้เราจะมาดูกันว่า การแสดงออกแบบภาษากายแบบไหน มีความหมายว่าอะไร เผื่อใครจะนำมันไปใช้สังเกตคนได้จากภายนอก โดยที่ยังไม่ต้องเปิดปากคุยเลยแม้แต่นิดเดียว
1.นั่งทำตัวเปื่อยๆ ทำตัวห่อเหี่ยว และ เฉยชา
การแสดงออกที่เฉยชาถึงแม้ว่าเจ้านายคุณจะสั่งคุณให้ทำอะไรก็ตาม แต่คุณยังคนนั่งเฉย หรือค่อยทำตามคำสั่งอย่างช้าๆ นั่นหมายความประมาณว่า “ไม่เห็นจะเข้าใจเลย ทำไมจะต้องทำตามสิ่งที่คนคนนี้มาคอยสั่งเราด้วย” คนทั่วๆ ไปอาจจะมองว่าที่เค้าไม่ทำตามนั้น มันมาจากความขี้เกียจ แต่จริงๆ แล้วมันมีมากกว่านั้น เพราะแท้จริงในหัวสมองของเค้ากำลังต่อต้าน และไม่ต้องการให้ใครมาเป็นใหญ่ หรือควบคุมตัวเค้าได้ต่างหาก
2.ผายมือออก หรือ หงายฝ่ามือ
ถ้าหากคุณอยากรู้ว่าตัวคุณเอง หรือใครสักคนมีความเป็นผู้นำมากน้อยขนาดไหน ให้คุณลองสังเกตุดูที่มือตัวเอง หรือบุคคลต้องสงสัยในระหว่างการสนทนาดูว่า ตัวคุณเองมีลักษณะชอบกางแขนออกขณะพูดคุยหรือไม่ รวมไปถึงลักษณะการหงายฝ่ามือให้คู่สนทนาเห็นอยู่ตลอด นั่นเป็นการแสดงออกว่า คุณมีความมั่นใจ มีความเป็นผู้นำ อีกทั้งยังมีความหมายว่าคุณไม่มีอะไรปิดบังซ่อนเร้นคู่สนทนาคุณอยู่นั่นเอง
3.มองดูนาฬิกา
ถ้าหากคุณกำลังคุยอยู่กับใครสักคนหนึ่ง แต่เค้ากลับคอยก้มมองนาฬิกาขณะที่กำลังอยู่ท่ามกลางการสนทนาอยู่ตลอดเวลา มันสามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า คนคนนั้นเริ่มไม่ได้ให้ความสนใจกับบทสนทนาที่อยู่ตรงหน้าอีกต่อไปแล้ว การแสดงออกในลักษณะนี้ยังดูเป็นการเสียมารยาทอยู่หน่อยๆ แต่นั่นก็ทำให้เราได้รู้ว่า เค้าคงมีอะไรที่สำคัญกว่ารอเค้าอยู่ มากกว่าแค่การสนทนาในครั้งนี้
4.หันตัวออกจากคนที่กำลังสนทนาด้วย
การแสดงออกลักษณะนี้บ่งบอกได้ว่า ผู้ที่แสดงออกกำลังรู้สึกอึดอัด ไม่สนใจ และไม่เชื่อในสิ่งที่คนคนนั้นกำลังพูด ในทางกลับกันถ้าหากคนคนนั้นหันหชชลลน้าเข้าหาคู่สนทนา อีกทั้งยังเอียงคอเล็กน้อยในบางครั้ง นั่นหมายความว่าเค้ากำลัง Focus และคิดตามในสิ่งที่บุคคลนั้นกำลังพูดอยู่นั่นเอง
5.การกอดอก หรือ นั่งไขว่ห้าง
การแสดงออกโดยการกอดอก หรือนั่งไขว่ห้าง แสดงให้เห็นว่าบุคคลนั้น กำลังปกปิด และไม่รับฟังอะไรทั้งสิ้นในสิ่งที่เค้ากำลังได้ยินอยู่ ถึงแม้ว่าเค้าอาจจะมีใบหน้ายิ้มแย้ม หรือพงกหัวตามไปด้วยก็ตาม แต่คำพูดเหล่านั้นจะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปในทันที แต่ก็มีข้อยกเว้นในบางกรณีเช่นกัน เนื่องจากการกอดอก และการนั่งไขว่ห้างเป็นท่างท่าที่สบายที่สุดท่านึง คนเราจงมักจะทำกันอยู่บ่อยๆ โดยที่แท้จริงแล้วพวกเค้าไม่ได้กำลังปิดบังอะไรคุณ แต่ถ้าคุณรู้ความหมายของการแสดงออกแบบนี้แล้ว ควรหลีกเลี่ยงมันถ้าหากมีการเจรจาธุรกิจที่สำคัญๆ จะดีกว่า
6.การแสดงออกที่ไม่สอดคล้องกัน ระหว่างสีหน้า บทสนทนา และท่าทาง
การแสดงออกที่ย้อนแย้งแบบนี้ แสดงให้เห็นได้ว่าคุณเสแสร้งแกล้งทำอะไรบางอย่างอยู่ ยกตัวอย่างเช่น คุณกำลังโดนตำหนิ หรือโดนปฎิเสธข้อเสนออะไรบางอย่าง แต่คุณกลับยิ้มหวาน หรือหัวเราะออกมาซะอย่างนั้น ซึ่งนั่นไม่ใช่อาการที่แท้จริงของคนที่กำลังรู้สึกผิด หรือผิดหวังอยู่ แต่นั่นเป็นการแสร้งทำเป็นไม่เกิดอะไร ไม่ใส่ใจ และยังอาจทำให้อีกฝั่งรู้สึกว่าคุณกำลังมองว่าสิ่งที่เค้าพูดเป็นเรื่องไร้สาระ
7.พยักหน้าไปด้วยขณะที่กำลังพูด
การพยักหน้านอกจากจะแสดงออกถึงความเข้าใจเมื่อคุณเป็นผู้ฟังได้แล้ว ยังสามารถบอกความหมายอีกด้านนึงได้ด้วยเช่นกัน ถ้าหากคุณพยักหน้าขณะที่คุณเป็นฝ่ายพูดอยู่ ความหมายของมันก็คือ คุณกำลังต้องการที่จะโน้มน้าวให้คู่สนทนาเห็นด้วย หรือเข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังพูด หรือคุณกำลังที่ขายฝัน และพูดในสิ่งที่ตนเองทำไม่ได้แต่อยากให้อีกฝ่ายนั่งเชื่อใจคุณนั่นเอง
8.การเกาศีรษะ หรือ ขยี้ผม
นี่เป็นสัญญาณการแสดงออกที่เห็นได้บ่อยที่สุด และชัดเจนที่สุดสัญญาณนึงเลยก็ว่าได้ การแสดงออกแบบนี้บ่งบอกได้ว่า คนคนนั้นกำลังประหม่า กังวล ฟุ้งซ่าน อาจจะกลัวส่งงานไม่ทัน คิดไม่ออก ฉะนั้นถ้าหากคุณเจอกับคนที่กำลังแสดงท่าทีแบบนี้อยู่ขอให้รู้ไว้เลยว่า คุณจะเร่งเค้าแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์นอกซะจากไปเพิ่มความกดดันให้เค้ามากขึ้นไปอีก ในทางกลับกันคุณอาจจะช่วยพูดให้เค้าใจเย็นลงจะดีกว่า
9.หลีกเลี่ยงการสบตา
นี่คืออาการของคนที่กำลังปิดบังอะไรบางอย่าง รวมถึงเค้ากำลังขาดความมั่นใจอย่างรุนแรงอยู่ในขณะนั้น รวมไปถึงการมองต่ำลงไปที่พื้น หรือด้านล่าง นั่นก็เป็นอีกหนึ่งอาการประหม่าเช่นเดียวกัน
10.การสบตาที่รุนแรง
ต่อจากข้อที่แล้ว การสบตาตรงๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะหมายความตรงกันข้ามกันการหลบตา และหมายความว่าคุณเป็นคนที่มีความมั่นใจ เพราะถ้าหากคุณจ้องตาใครด้วยสายตาที่แข็งกร้าว และดูดุดัน รุนแรง นั้นมันคือการแสดงออกว่าคุณกำลังความไม่พอใจ โมโห และข้องใจในการกระทำ และคำพูดของคนคนนั้นอยู่ จนอยากจะท้าไฝว้ให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลยทีเดียว
11.กลิ้งตาไปมา สายตาล่อกแล่ก
นี่คือการแสดงออกที่ไม่น่าเชื่อถือที่สุด หากคุณต้องการจะต้องการให้คำพูดของคุณมีน้ำหนัก และน่าเชื่อถือ เพราะการกลิ้งตาไปมา และสายตาที่ล่อกแล่ก มันแสดงให้เห็นถึงความคิดที่ซับซ้อน และไม่บริสุทธิ์ใจ แต่ในบางคนสายการกลิ้งตาไปมาก็ติดเป็นนิสัยโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ก็มีเช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้าคุณสามารถฝึกควบคุมสายตาของคุณได้ มันจะช่วยคุณในการเจรจาธุรกิจได้มาเลยทีเดียว
12.หน้าบึ้ง หรือ แสดงออกชัดเจนว่าไม่มีความสุข
การแสดงออกลักษณะนี้นอกจากจะแสดงออกถึงความไม่พอใจ ไม่สบายใจของตัวคุณเองแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างคุณอีกด้วย เป็นเรื่องของปกติมนุษย์มากๆ ถ้าเกิดว่าเราอยู่กับใครแล้วเรารู้สึก อึดอัด หรือรู้สึกไม่สบายเราก็จะพยายามตีตัวออกห่างจากคนคนนั้น การกระทำนี้จึงเป็นอีกนัยนึงที่บ่งบอกได้ว่าคนที่กำลังแสดงอาการดังกล่าว อาจจะอยากขับไล่คนที่อยู่รอบข้างให้ไปไกลๆ ก็เป็นได้เช่นกัน
13.Shakehands แบบเบาๆ และ ไม่มั่นใจ
การ Shakehands แบบอ่อนแอนี้ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณเป็นผู้ที่ที่ขาดอำนาจ และความเชื่อมั่น อีกทั้งยังรู้สึกว่าเป็นรองต่อผู้ที่อยู่ต่อหน้าคุณ แต่การ Shakehands ที่รุนแรง และแน่นเกินไปจนเหมือนการบีบของอีกฝ่าย ก็เป็นผลร้ายกับคุณได้เช่นกัน เพราะนั่นคือการกระทำที่ก้าว้ราว และเป็นการท้าทายอีกฝ่ายอย่างชัดเจนอีกด้วย
14.การกำหมัด
มันมีความหมายเช่นเดียวกับ การกอดอก หรือนั่งไขว่ห้าง ซึ่งหมายถึงว่าคุณกำลังปกปิดอะไรบางอย่างเพื่อไม่ต้องการให้ใครมาเข้าถึงตัวคุณมากจนเกินไป นอกจากนี้ยังสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกของที่โต้แย้ง และไม่เห็นด้วย รวมไปถึงการพยายามที่จะปกป้องอะไรบางอย่าง ซึ่งอาจจะทำให้คุณดูเป็นคนแข็งทื่อเกินไปได้ง่ายๆ
15.การเข้าใกล้คู่สนทนาจนเกินไป
การที่เดินไปอยู่ใกล้คู่สนทนาเกินไปเป็นการแสดงออกว่าคุณไม่ได้ให้ความเคารพกับบุคคลนั้น ซึ่งในกรณีอาจจะไม่เป็นปัญหาถ้าหากคู่สนทนาของคุณคือ เพื่อนสนิท หรือคนที่รู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดเป็นการเจรจาธุรกิจ หรือเป็นการพบปะกันครั้งแรก การเข้าหาที่ใกล้ชิดเกินไปนี้ จะสร้างความอึดอัด และสร้างความน่ารำคาญเป็นอย่างมากเลยทีเดียว