

Guide
Must-Visit : 10 Road Trips เปิดเส้นทางลุยสุดประทับใจ ไกลสุดสายตาที่ “อินเดีย”
By: unlockmen July 19, 2017 69819
พูดถึงอินเดีย อย่างแรกที่ทุกคนนึกถึงคืออะไรกันครับ? คงนึกถึงแค่เมืองที่มีแม่น้ำคงคาไหลผ่าน และเป็นเมืองที่มีประชากรเยอะเป็นลำดับ 2 ของโลก ทุกอย่างต้องดูแน่น ๆ อึดอัดไปหมด เชื่อว่ามีหลายคนคิดแบบนี้ ภาพของอินเดียในหัวจึงไม่ได้สวยงามน่าไปเยือนสักเท่าไหร่
แนะนำว่าสลัดความคิดนี้ออกไปจากหัวก่อนครับ เพราะเราจะบอกว่านั่นเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ส่วนเดียวของคำว่า “อินเดีย”
UNLOCKMEN จะพาไปปลดปล่อยความน่าตื่นเต้น ฉีกทุกเส้นทางเดินเอื่อย ๆ ในเมืองหลวง กับการแนะนำ 10 การเดินทางแปลกตาที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและเรามั่นใจว่านี่จะเป็นเส้นทางการเดินทาง ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในอินเดียแน่นอน เมื่อเตรียมพร้อมก็แบกเป้ ไปลุยได้เลย!
จุดเริ่มต้นแรกกับเส้นทางการเดินทางฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียอย่าง Guwahati ถึง Tawang จะต้องใช้เวลาเดินทางถึง 14-15 ชั่วโมงกับระยะทางประมาณ 509 กิโลเมตร
เนื่องจากเส้นทางนี้ค่อนข้างมีความขรุขระเป็นอุปสรรคในการเดินทาง แต่รับรองเลยว่าคุ้มค่าสุด ๆ กับทุกทิศทางในการเดินทางที่มีวิวฉากใหญ่ ๆ ปกคุลมด้วยหิมะและบางส่วนตัดกับหญ้าเขียวชอุ่ม แน่นอนว่าตลอดเส้นทางเรายังสามาถแวะพักที่ Dirang ใน West Kameng เพื่อซึมซับวัฒนธรรมชาวพุทธที่วัด Kalchakra และ Ngingmapa หรือจะหยุดที่ Tezpur สำรวจสถานที่ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของที่นี้ก็เจ๋งไม่น้อย
เวลาที่ดีที่สุดในการเดินทาง : มีนาคม – ตุลาคม
เส้นทางที่เราชอบที่สุดและคิดว่าคนไทยหลาย ๆ คนอาจคุ้นตาอยู่แล้ว ตลอดเส้นทางนี้ภูเขาจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ ในแต่ละหุบเขาจะมีความสูงชันแตกต่างกันที่ดูสวยงามและลงตัว
ตลอดเส้นทางนี้จะทำให้คุณไม่มีเบื่อแน่นอน ระยะทางระหว่าง Manali – Leh คือ 478 กิโลเมตร มีสถานที่ท่องเที่ยวระหว่างทางที่น่าแวะไปมากมาย และแนะนำว่าควรใช้เวลาอยู่ที่นีjสองวันเป็นอย่างน้อย เนื่องจากบริเวณนี้อยู่เหนือระดับความสูง 4,000 เมตร ควรจะพักผ่อนและใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับระดับความสูง
เวลาที่ดีที่สุดในการเดินทาง: มิถุนายน – กันยายน
Mumbai ยังคงเป็นอีกที่ที่น่าสนใจไม่เปลี่ยน เพิ่มเติมคือเส้นทางไป Goa ที่เราอยากแนะนำให้ลองไปสัมผัสกันสักครั้ง เส้นทางนี้ Pune-Kolhapur ผ่าน NH4 สามารถเดินทางไปได้ต่อเนื่อง ยาวนานถึง10 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 590 กิโลเมตร มีถนนทั้งสิ้น 4 เลนที่ค่อนข้างปลอดภัย
และเมื่อเพลินเพลิดไปเรื่อย ๆ เส้นทางจะมุ่งเข้าสู่เส้น Chiplun-Ratnagiri ผ่าน NH66 ซึ่งมีระยะทางประมาณ 577 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางอีกประมาณ 12 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยวเส้นโค้งแคบ แต่จะมีความสวยงามตลอดทาง ผ่านนาข้าว ทะเลและสวนมะพร้าวมากมาย ตลอดสองข้างทางจะมีร้านค้าจับจ่ายของชาวบ้านในราคาไม่แพงอีกด้วย
เวลาที่ดีที่สุดที่จะไป: กันยายน – มีนาคม
จุดหมายเริ่มต้นจากเมือง Visakhapatnam ถึง ARAKU VALLEY อยู่ห่างออกไปแค่เพียง 114 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น
ตลอดเส้นทางจะมีลมพัดผ่านเย็น ๆ อยู่เสมอ และจะผ่านถนนรอยหยัก ตลอดหุบเขาเขียวชอุ่มพร้อมเนินเขาเงียบสงบ แบบที่คุณจะไม่เชื่อเลยว่านี่คืออินเดีย และยังสามารถมองเห็นอ่าวเบงกอล, น้ำตกบนเนินเขาและอีกมากมาย แนะนำว่าถ้าอยู่อยู่ในโซนหุบเขา Araku แล้ว ควรแวะชม Borra Caves และ Tatipudi Reservoir ด้วยเช่นกัน
เวลาที่ดีที่สุดในการเดินทาง: ตุลาคม – มีนาคม
เส้นทางจาก Chennai ไป Pondicherry มีชื่อเรียกว่า ‘Paris of the East’ ด้วยระยะทางเพียงแค่ 155 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 3-4 ชั่วโมง ตัดผ่านถนน East Coast ที่มองเห็นผิวน้ำทะเลสะท้อนกับดวงอาทิตย์ดูสวยเป็นประกายตลอดเวลา
ตลอดเส้นทางมีสถานที่ที่ให้แวะเวียนไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Mahabalipuram อุทยานมรดกโลกของยูเนสโก หรือ Marakkanam ทะเลเกลือขนาดใหญ่ ไปจนถึง Mudaliarkuppam บ้านเรือที่เต็มไปด้วยกิจกรรมทางน้ำ เรียกว่าเส้นนี้เหมาะกับการหยิบกล้องถ่ายภาพได้ตลอดการเดินทางจริง ๆ
เวลาที่ดีที่สุดในการเดินทาง: ตุลาคม – กุมภาพันธ์
เส้นทางเงียบ ๆ แต่เบาสบายและไร่ชาเขียวขจีอันเลื่องลือของอินเดียก็อยู่ที่นี่ เส้นทางระหว่างเทือกเขาใหญ่ตั้งตระหง่านและทิวทัศน์สุดเจ๋งรอบด้านที่หาดูไม่ได้ที่อื่น ถนนสายนี้ Darjeeling และ Pelling อยู่ห่างกันเพียง 72 กิโลเมตร แต่เราแนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางเอาไ้วอย่างต่ำประมาณ 4 ชั่วโมง
ไม่ใช่เพราะว่าเส้นทางลำบากหรือมีอุปสรรครออยู่มากมายนะครับ แต่เป็นเพราะควรจะหยุดแวะไร่สวนชา จิบชาให้สดชื่น เพิ่มพลังกันสักหน่อย เนื่องด้วยชาของที่นี้อยู่ในหมวดว่าต้องลองสักครั้งให้จงได้!
เวลาที่ดีที่สุดในการเดินทาง: มีนาคม – มิถุนายน, กันยายน – ธันวาคม
ใครที่ชอบการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ รับรองว่าเส้นทางนี้จะทำให้คุณหลงรักไม่ยาก Shimla อยู่ห่างจาก Manali ประมาณ 247 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง
และความน่าสนใจของเส้นทางนี้คือวิวทิวทัศน์ภูเขาลูกใหญ่และหุบเขาลึกที่ตัดกันตลอดทาง ดูสวยงาม ทรงพลัง ไม่ว่าจะมองจากด้านใดก็ตามและยังเป็นที่ที่ถ่ายรูปไปได้เรื่อย ๆ ในหลากหลายมุม นอกจากนี้คนที่รักการขับขี่รถชิว ๆ ก็คงชอบไม่แพ้กัน เพราะเส้นทางนี้จะราบยาวและใช้เวลาเดินทางนานแบบไม่เบื่อ
เวลาที่ดีที่สุดในการเดินทาง: นอกฤดูมรสุม (กลางเดือนกันยายน – กลางเดือนกรกฎาคม)
การเดินทางจาก Ahmedabad สู่ดินแดนแห่ง White Salt Desert (Kutch) ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง ตลอดระยะทาง 400 กิโลเมตร นอกจากวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่น่าสนใจแล้ว
เรื่องของอาหาร ศิลปวัฒนธรรมก็เป็นสิ่งที่น่าค้นหาของที่นี้ ตลอดทางจะมีถนนที่ค่อนข้างดี วิ่งไปได้เรื่อย ๆ เมื่อออกพ้นจากเมืองไปจะพบกับทะเลทรายขนาดใหญ่ที่ตั้งของสัตว์มากมายหลายชนิด นอกจากจะช่วยให้ถ่ายรูปดูแปลกตาแล้ว บรรยากาศก็น่าดึงดูดเหมือนในหนังยังไงยังงั้น
เวลาที่ดีที่สุดในการเดินทาง: ตุลาคม – มีนาคม
เส้นทางจาก Mumbai วิ่งตรงสู่ Mount-Abu จะต้องวิ่งตัดผ่านตัวเมืองดูวิถีชีวิตของคนอินเดียไปเรื่อย ๆ ก่อนมุ่งเข้าสู่เนินเขาระยะทางประมาณ 765 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางยาวนานถึง 12 ชั่วโมง
ตลอดเส้นทางที่เรากล่าวถึงก่อนหน้านี้จะเน้นไปทางความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ แต่เส้นทางที่เรากำลังพูดถึงนี้จะไปทางการสัมผัส การใช้ชีวิตของผู้คนกับวัฒนธรรม และความเป็นอยู่ของคนอินเดียเป็นหลัก ใครที่ชอบแนว LIFE เราเชื่อว่าจะหลงรักการเดินทางเส้นทางนี้อย่างแน่นอน
เวลาที่ดีที่สุดในการเดินทาง: กรกฎาคม – ตุลาคม
ไม่พูดถึงคงไม่ได้สำหรับ The Golden Triangle ของอินเดีย หรือบ้านเราเรียกกันว่าสามเหลี่ยมทองคำนั่นแหละ เส้นทางนี้จะเป็นการรวบรวมเมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทั้งสามแห่ง ได้แก่ DELHI-AGRA-JAIPUR
ซึ่งสามเมืองนี้ วิ่งผ่านเส้นทาง Yamanu Expressway และ NH8 ใช้ระยะทางตัดผ่านทั้งหมดประมาณ 440 กิโลเมตรและใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง เราแนะนำเลยว่าควรอยู่สักประมาณ 2-3 วัน เพราะมีสถานที่มากมายที่ควรแวะไปแทบจะทุกเมือง อย่าง มัสยิดจามา, ทัชมาฮาล, ป้อมอักกรา ไม่นับรวมร้านค้าท้องถิ่นอีกเพียบที่ให้เลือกชื้อสินค้า รับรองเลยว่าตลอดทางเส้นนี้ จะทำให้เราพูดได้เต็มปากเต็มคำว่ามาถึงอินเดียแล้ว
เวลาที่ดีที่สุดที่จะไป: สิงหาคม – มีนาคม
10 เส้นทางการเดินทางของอินเดีย เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ เท่านั้นของประเทศนี้ ซึ่งเราก็ไม่แนะนำให้เร่งรีบบีบเวลาเดินทางในแต่ละเส้นเลยครับ ควรเต็มปล่อยใจท่องเที่ยวให้เต็มอิ่ม ลองแพลนทริปแวะนู่น ชมนี่ระหว่างทางดูเรื่อย ๆ จะดีกว่า เพราะแต่ละเส้นทางล้วนแต่มีเสน่ห์ในแบบของมันเอง เชื่อว่าอินเดียยังมีอะไรให้เราไปค้นหาอีกเพียบ ใครเคยไปที่ไหนมาแล้วเด็ด อยากแนะนำบอกต่อ ก็บอกกันมาได้นะครับ